เพียงไม่นานคนชุดเขียวก็หวนกลับมาที่ริมลำคลองเที่ยวโป ยังคงถือถ้วยขาวไว้ในมือ เพียงแต่ว่าในถ้วยมีน้ำเพิ่มมา
โต้วแยนผิดหวังอย่างมาก ฟ้าร้องดังแต่ฝนตกเบางั้นหรือ?
ถ้วยขาวใหญ่เพียงเท่านี้ ต่อให้ร่ายเวทตระกูลเซียน แต่จะยังบรรจุน้ำได้สักเท่าไรกัน? ยังไม่มากเท่ากระแสน้ำในลำคลองเที่ยวโปสายหนึ่งเลยด้วยซ้ำกระมัง? ทิ้งใกล้ไปแสวงหาสิ่งที่อยู่ห่างไกล ต้องการอะไรกันแน่?
เพียงแต่ว่าเฉินเหวินเชี่ยนกลับมีสีหน้าเครียดขรึม ถามว่า “เฉาเซียนซือไปยืมน้ำมาจากลำน้ำใหญ่หรือ?”
เฉินผิงอันส่ายหน้า “ไปไกลกว่านั้นเล็กน้อย เปลี่ยนสถานที่ที่ไปเอาน้ำมา”
เฉินเหวินเชี่ยนซักต่อ “น้ำมหาสมุทรรึ?!”
เฉินผิงอันพยักหน้า “อาจารย์เฉินโปรดวางใจ แม้ว่าจะเป็นน้ำที่อยู่ใกล้กับทางเข้ามหาสมุทร แต่ผู้เยาว์ได้ขจัดความขุ่นมัวเอามาแต่น้ำใส ตอนนี้อาจจะยังใสได้ไม่เท่าน้ำของลำคลอง แต่ในอนาคตหากให้เวลาอีกเล็กน้อย ระดับขั้นของโชคชะตาน้ำต้องไม่แย่เกินไปอย่างแน่นอน น้ำถ้วยนี้มีปริมาณที่ใช้ได้ มากพอจะประคับประคองหนองบึงใหญ่หรือทะเลสาบที่กว้างสามร้อยลี้แห่งหนึ่งเลยทีเดียว”
เฉินเหวินเชี่ยนจนคำพูด
นี่เรียกว่า ‘ใช้ได้’?
เล่าลือกันว่าเซียนเหรินบรรพกาล ในชายแขนเสื้อมีมหาสมุทรบูรพา!
โต้วแยนเบิกตากว้าง ยืดคอยาวมองมายังน้ำในถ้วย คนหนุ่มคงไม่ได้คุยโวโดยไม่ต้องร่างคำพูดหรอกกระมัง?
เฉินผิงอันส่งถ้วยขาวที่บรรจุน้ำจนเต็มให้กับเฉินเหวินเชี่ยน ยิ้มเอ่ยว่า “อาจารย์เฉินได้รู้จักกับอาจารย์ผู้เฒ่าชุยก็คือการคบค้าสมาคมกันของวิญญูชนที่สะอาดเจือจางเหมือนน้ำเปล่า”
เฉินเหวินเชี่ยนก็ไม่ใช่คนที่คร่ำครึอะไร รับถ้วยน้ำใบนั้นมาอย่างเปิดเผย
รอกระทั่งเฉินเหวินเชี่ยนรับถ้วยน้ำที่ไม่หนักไปแล้ว เฉินผิงอันก็มองประเมินไปยังขุนเขาสายน้ำรอบด้าน สองนิ้วประกบติดกัน ไม่จำเป็นต้องใช้กระดาษยันต์ก็วาดเส้นโค้งต่างอักขระ วาดวงกลมหนึ่งวง กำหนดขอบเขตก่อน จากนั้นก็พลิกฝ่ามือ เพียงชั่วพริบตานั้นขุนเขาสายน้ำพลันสั่นสะเทือน ห่างไปหลายลี้ด้านข้างลำคลองเที่ยวโป จุดที่เชื่อมต่อกับสันเขาเตี๋ยอวิ๋น อาณาเขตสามร้อยลี้พลันยุบถล่มลง ทว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลายกลับถูกคนชุดเขียวสะบัดชายแขนเสื้อ พวกมันก็เหมือนขี่เมฆทะยานหมอก ถูกพัดให้ไปหล่นร่วงอยู่บนชายฝั่งของลำคลองเที่ยวโปตอนบน จากนั้นก็กำมือหลวมๆ ขยำรากดินฐานภูเขาที่ยุบถล่มให้เป็นก้อนดินขนาดเท่าเมล็ดงา ถูกเฉินผิงอันกุมไว้ในมือ จากนั้นใช้นิ้ววาดยันต์ เลียนแบบลู่เฉินตอนที่อยู่นครเซียนจานซึ่งใช้หนึ่งคนหนึ่งยันต์ แยกกันวาดยันต์อักษรน้ำไว้ด้านใต้หลุมใหญ่และวาดยันต์อักษรภูเขาลงในก้อนดินที่อยู่ในมือ ในอนาคตทะเลสาบใหญ่จะสร้างสถานการณ์ขุนเขาสายน้ำแอบอิงร่วมกับสันเขาเตี๋ยอวิ๋น
ช่างสมกับเป็นฝีมือของเทพเซียน
พ่อปู่ลำคลองคนหนึ่ง เทพภูเขาคนหนึ่ง เผชิญหน้ากับวิชาย้ายภูเขาเคลื่อนสายน้ำประเภทนี้ เพราะไม่เคยพบเห็นไม่เคยได้ยินมาก่อน จึงเป็นเหตุให้ร่างทองสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขุนเขาสายน้ำของทั้งสองสั่นสะเทือน จิตวิญญาณก็แกว่งไกวอย่างห้ามไม่ได้
เฉาเซียนซืออะไรกัน ต้องเรียกว่าเฉาเซียนเหริน เฉาเซียนจวินถึงจะเหมาะกว่ากระมัง
เฉินผิงอันยื่นดินก้อนกลมขนาดจิ๋วเท่าเมล็ดซิ่งให้กับโต้วแยน ยิ้มเอ่ยว่า “พี่ใหญ่โต้ว พบเจอกันโดยบังเอิญ แค่พบหน้าก็เหมือนรู้จักกันมานาน วันหน้าค่อยมาขอเหล้าจากพี่ใหญ่ดื่ม ยันต์อักษรภูเขานี้สามารถวางไว้ตรงรากภูเขาในอาณาเขตได้ วันหน้าเมื่อปราณแห่งดินก่อกำเนิดก็จะมีประโยชน์ต่อโชคชะตาภูเขาของสันเขาเตี๋ยอวิ๋นอยู่บ้าง ส่วนจุดเชื่อมต่อระหว่างสันเขาเตี๋ยอวิ๋นกับน้ำของทะเลสาบก็ยิ่งไม่จำเป็นต้องกังวลว่าน้ำและภูเขาจะขัดแย้งกันเอง เพราะมีแต่จะมั่นคงทั้งสองฝ่าย”
โต้วแยนรับดินประหลาดที่บอกว่าเป็น ‘ยันต์อักษรภูเขา’ ลูกนั้นมา เขาถึงกับเซไปก้าวหนึ่ง เกือบจะถือไว้ไม่อยู่ ใบหน้าแก่ๆ ของท่านเทพภูเขาแดงก่ำ
โต้วแยนเหลือบตามองพ่อปู่ลำคลองเฉินที่ถือถ้วยได้อย่างผ่อนคลาย น่าประหลาดนัก ทำไมถึงมีแต่ตนที่ต้องขายหน้า?
เฉินผิงอันกล่าว “รอสักครู่ ข้ายังต้องเขียนจดหมายขึ้นมาหนึ่งฉบับ รบกวนให้พี่ใหญ่โต้วนำไปมอบต่อให้กับฉางชุนโหวแห่งลำน้ำใหญ่ ข้ากับเทพวารีแม่น้ำเถี่ยฝูในอดีตผู้นี้ถือว่าเป็นคนบ้านเดียวกันครึ่งตัว ความเคลื่อนไหวของที่นี่วันนี้ ไม่แน่ว่าฉางชุนโหวอาจสามารถช่วยข้าอธิบายให้ทางเมืองหลวงสำรองและกรมโยธาอธิบายฟังได้บ้าง”
ระหว่างที่พูดเฉินผิงอันก็บิดข้อมือหยิบกระดาษและพู่กันออกมาจากชายแขนเสื้อ กระดาษลอยอยู่กลางอากาศ ไอน้ำลอยอบอวล กลายเป็นตราผนึกขุนเขาสายน้ำที่ลี้ลับมหัศจรรย์ เฉินผิงอันเขียนจดหมายลับฉบับหนึ่งเสร็จอย่างรวดเร็ว จดหมายนี้เขียนให้เทพวารีหยางฮวาหรือฉางชุนโหวแห่งลำน้ำใหญ่ที่มารับหน้าที่เสริมตำแหน่งที่ขาด เนื้อหาในจดหมายล้วนใช้ถ้อยคำที่เกรงใจมีมารยาท อธิบายคร่าวๆ ถึงสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงในอาณาเขตลำคลองเที่ยวโปวันนี้ ประโยคสุดท้ายถึงเป็นกุญแจสำคัญ ก็หนีไม่พ้นหวังว่าในอนาคตภายใต้เงื่อนไขที่ไม่ผิดต่อกฎระเบียบ ฉางชุนโหวจะช่วยดูแลโต้วแยนเทพภูเขาสันเขาเตี๋ยอวิ๋นมากหน่อย
ก็เหมือนกับซานจวินแห่งมหาบรรพตทุกท่านในเก้าทวีปของไพศาลที่จะต้องดูแลแม่น้ำลำคลองมากมายในเขตการปกครอง ถ้าอย่างนั้นกงโหวแห่งลำน้ำใหญ่ที่สถานะสูงศักดิ์ ในเขตการปกครองก็ย่อมมีเทือกเขามากมายอยู่เช่นกัน
สุดท้ายเฉินผิงอันหยิบตราประทับส่วนตัวออกมา อักษรของตราประทับคือคำว่า ‘เฉินสืออี’
หยิบตราประทับขึ้นมา เป่าลมใส่ตัวอักษรสามตัวตรงก้นตราประทับเบาๆ แล้วประทับลงไปตรงช่วงท้ายของจดหมาย
นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินผิงอันใช้ตราประทับซึ่งเก็บรักษามาอย่างดีหลายปีชิ้นนี้ประทับลงบนจดหมายอย่างเป็นทางการ
วันหน้าบนจดหมายที่ส่งต่อระหว่างภูเขาลั่วพั่วกับภูเขาลูกอื่น ขอแค่เป็นลายมือของเฉินผิงอันเจ้าขุนเขา หากไม่ลงตราประทับเป็นคำว่า ‘เฉินผิงอันแห่งภูเขาลั่วพั่ว’ ก็ต้องใช้ตราประทับ ‘เฉินสืออี’ ชิ้นนี้
นี่ต่างหากถึงจะเป็นมารยาทบนภูเขาที่ถูกต้องชอบธรรม
เฉินผิงอันสอดจดหมายใส่ซอง มอบให้กับโต้วแยน สุดท้ายกุมหมัดยิ้มเอ่ยกับคนทั้งสองว่า “อาจารย์เฉิน พี่ใหญ่โต้ว ผู้เยาว์ยังต้องเร่งเดินทางต่อ จึงต้องขอลากันแต่เพียงเท่านี้ ขุนเขาสูงใหญ่สายน้ำไหลยาว ไว้พบกันใหม่วันหน้า”
เฉินเหวินเชี่ยนและโต้วแยนต่างก็คารวะกลับคืน
โต้วแยนทอดถอนใจอย่างปลงอนิจจัง “เหวินเชี่ยน ครั้งนี้ข้าได้พึ่งใบบุญเจ้าแล้ว โชควาสนาใหญ่เทียมฟ้า นึกจะมาก็มา”
สมกับเป็นฝีมือของเทพเซียน ขยับมือง่ายๆ ก็สร้างร่องรอยแห่งเซียนที่น่าเหลือเชื่อนี้ขึ้นมา
เฉินเหวินเชี่ยนแค่ยกยิ้มไม่เอ่ยอะไร
โต้วแยนพลันถามว่า “เอ๊ะ? เฉินเหวินเชี่ยน เจ้าจำหน้าตาของเฉาเซียนซือคนนั้นได้อย่างชัดเจนหรือไม่?”
เฉินเหวินเชี่ยนขมวดคิ้วน้อยๆ ส่ายหน้าเอ่ยว่า “จำได้ไม่ค่อยชัดจริงๆ เสียด้วย”
โต้วแยนเอ่ยอย่างปลงอนิจจัง “นี่มันเรื่องอะไรกัน เซียนเหรินบนยอดเขาทำอะไรไม่สามารถใช้หลักการทั่วไปมาประเมินได้จริงๆ”
เฉินเหวินเชี่ยนกล่าวเสียงเบา “ไม่มีอะไรที่ยากจะเข้าใจ ก็หนีไม้พ้นวิญญูชนที่ทำความดีไม่หวังสิ่งตอบแทน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!