ได้เจอกับเฉินผิงอัน หลี่ฝูฉวีประหลาดใจเป็นทบทวี เฉินผิงอันถามถึงเรื่องการฝึกตนของเจิงเย่ หลี่ฝูฉวีย่อมตอบทุกอย่างที่นางรู้
ทั้งสองฝ่ายจึงถือโอกาสพูดคุยไปถึงเกาเหมี่ยน ที่แท้หลังจากที่หลี่ฝูฉวีเข้าร่วมงานพิธีที่ภูเขาลั่วพั่วก็ยังได้รับตำแหน่งเป็นผู้ถวายงานของพรรคหมัดเทพไร้เทียมทาน ไม่ได้เป็นแค่เค่อชิง
เกาเหมี่ยนปลดประจำการจากตำแหน่งประมุขพรรคแล้ว เจ้าประมุขพรรคผู้เฒ่าเกาที่เคยขอบเขตถดถอยจากขอบเขตหยกดิบถึงสองครั้งผู้นี้ ก่อนหน้านั้นตอนอยู่ที่สนามรบใกล้กับลำน้ำใหญ่ก็เกือบจะถูกปีศาจใหญ่ตนหนึ่งสะบั้นสะพานแห่งความเป็นอมตะ ขอบเขตจึงถดถอยอีกครั้ง ได้แต่รักษาขอบเขตโอสถทองไว้อย่างถูไถ ชีวิตนี้คงไม่อาจอวดเก่งกับคนอื่นได้อีกแล้ว
ผลคือครั้งแรกที่หลี่ฝูฉวีเข้าร่วมการประชุมในศาลบรรพจารย์ของที่พรรคก็ได้เห็นภาพที่คนสองกลุ่มเท้าเอวพ่นน้ำลายแตกฟองใส่กัน คนสองกลุ่มทะเลาะโต้เถียงกันอยู่ตรงนั้น ไม่ได้ทะเลาะกันเรื่องที่ว่าสรุปแล้วควรจะเปลี่ยนชื่อของภูเขาหรือไม่ แต่ทะเลาะกันเรื่องที่ว่าชื่อใหม่ชื่อใดดียิ่งกว่า เพราะถึงอย่างไรก็เป็นพรรคของผู้ฝึกตนที่ถูกต้องชอบธรรม แต่ดันตั้งชื่อพรรคได้ย่ำแย่ซึ่งเป็นชื่อที่แม้แต่พรรคในยุทธภพก็ไม่มีทางตั้งแบบนี้
ในอดีตหากไม่เป็นเพราะเห็นแก่ที่กระดูกของเจ้าประมุขผู้เฒ่ายังแข็งแรงดีอยู่ ตีก็ตีไม่ชนะ ด่าก็ยิ่งด่าไม่ทัน ไม่อย่างนั้นก็คงยกเรื่องนี้เข้าวาระการประชุมไปนานแล้ว
อยู่ในสำนักเจินจิ้ง ไหนเลยจะได้เห็นภาพเหตุการณ์เช่นนี้ เจ้าสำนักสามรุ่น เจียงซ่างเจิน เหวยอิ๋ง หลิวเหล่าเฉิง ต่างก็สยบฝูงชนได้เป็นอย่างดี
สำนักเจินจิ้งก็ถือว่าร้ายกาจแล้ว ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ถึงได้มีเจ้าสำนักถึงสามคน
แรกเริ่มหลี่ฝูฉวียังกังวลอยู่มาก เจ้าประมุขผู้เฒ่าเก่าจะผิดหวังเพราะเรื่องนี้ เป็นดั่งวีรบุรุษที่หายใจลำบากหรือไม่ ผลคือไม่มีเรื่องอะไรแบบนี้เลย ตอนนั้นที่หลี่ฝูฉวีได้เจอกับเกาเหมี่ยน ผู้เฒ่าปลื้มปิติอารมณ์ดีอย่างมาก ที่แท้เทพธิดาซูเจี้ยแห่งภูเขาตะวันเที่ยงก็ถูกรับเข้ามาอยู่ในทำเนียบลูกศิษย์ผู้สืบทอดของศาลบรรพจารย์อีกครั้งหนึ่งแล้ว
สวินยวนที่มีฉายาว่าทวนหนึ่งฉื่อ เกาเหมี่ยนที่มีฉายาว่าหนุ่มน้อยหน้าหยก วรยุทธขอบเขตสิบ รวมไปถึงเปิงเลอะเจินจวินที่เป็นดั่งมังกรเทพเห็นหัวไม่เห็นหาง เศรษฐีบ้านนอกพวกนี้ต่างก็เป็นลูกค้ารายใหญ่ที่ขึ้นชื่อในวงการของบุปผาในคันฉ่องจันทราในสายน้ำบนภูเขา บอกว่าพวกเขาแบกค้ำท้องฟ้าครึ่งหนึ่งของบุปผาในคันฉ่องจันทราในสายน้ำในหนึ่งทวีปเอาไว้ แผ่นดินครึ่งหนึ่งก็เป็นพวกเขาที่ร่วมแรงกันต่อสู้ยึดครองมาก ไม่รู้ว่าเทพธิดากี่มากน้อยที่เคยได้รับทองพันชั่งจากพวกเขาเหล่านี้
นอกจากนี้ยังมีพี่น้องไม่ทราบชื่อที่ใช้ฉายาว่าปลาขาวน้อยในลูกคลื่นคนหนึ่ง จ่ายเงินไม่มาก แต่ทุกครั้งจะต้องช่วยให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี ใช้เงินเกล็ดหิมะหลายเหรียญ ตะเบ็งเสียงดังลั่น ช่วยให้พวกเทพธิดาทั้งหลายที่กิจการซบเซาสร้างบรรยากาศที่เรียกได้ว่ากองทัพนับพันหมื่นล้วนต้องหมอบคลานอยู่ใต้กระโปรงสีทับทิม
หลี่ฝูฉวีเอ่ยถาม “ครั้งนี้เจ้าขุนเขาเฉินมาเยือนเกาะกงหลิ่ว ไม่ไปพบเจ้าสำนักหลิวหรือเจ้าเกาะหลิวหรือ?”
เฉินผิงอันส่ายหน้า “ครั้งนี้ช่างเถิด”
อันที่จริงตอนที่เจียงซ่างเจินรับหน้าที่เป็นเจ้าสำนักเจินจิ้ง นอกจากการกระทำที่ใช้เรื่องส่วนตัวมาเบียดบังส่วนรวมครั้งนั้นแล้ว ยังเคยเรียกหลิวเหล่าเฉิงผู้ถวายงานอันดับหนึ่งให้มาหา คนทั้งสองเดินไปบนทางสายเล็กริมทะเลสาบของเกาะกงหลิ่ว เจียงซ่างเจินเด็ดกิ่งหลิวมาหนึ่งกิ่ง หัวเราะร่าเอ่ยกับหลิวเหล่าเฉิงสองประโยคว่า
‘เจ้าคิดว่าการฝ่าทะลุคอขวดขอบเขตหยกดิบ เลื่อนเป็นเซียนเหริน จะต้องสังหารนางกับมือตัวเอง นี่เป็นการฝึกตนของตัวเจ้าเอง ข้าไม่บังคับกะเกณฑ์’
‘แต่หากเจ้าคิดจะทำให้นางตาย ข้าก็จะต้องทำให้เจ้าตายก่อนแน่นอน นี่คือเรื่องในบ้านของข้าเจียงซ่างเจินเองแล้ว เจ้าเองก็มาบังคับกะเกณฑ์ไม่ได้เหมือนกัน’
หลิวเหล่าเฉิงไม่กล้าไม่เก็บมาใส่ใจ
คงเป็นเพราะสวรรค์ไม่ไร้หนทางให้คนเดิน กลับกลายเป็นว่าทำให้หลิวเหล่าเฉิงที่จำต้องบุกเบิกหาเส้นทางใหม่เลื่อนขั้นเป็นขอบเขตเซียนเหรินได้สำเร็จ เปลี่ยนจากผู้ถวายงานอันดับหนึ่งมารับหน้าที่เป็นเจ้าสำนักคนที่สามต่อจากเซียนกระบี่สองคนในประวัติศาสตร์ของสำนักเจินจิ้งอย่างเจียงซ่างเจินและเหวยอิ๋ง
เฉินผิงอันไปเยือนเกาะชิงเสียมารอบหนึ่ง แต่ไม่ได้ไปหาหลิวจื้อเม่า เขาไปที่จวนจูเสียนแห่งนั้น
ผีหญิงหงซูของเกาะชิงเสีย ตัวตนที่แท้จริงของนางเมื่อชาติก่อนคือผู้ฝึกตนหญิงหวงฮั่นแห่งเกาะกงหลิ่ว ยิ่งเป็นคู่บำเพ็ญเพียรของหลิวเหล่าเฉิง
เมื่อหลายปีก่อนนางลาออกจากตำแหน่งในจวนเหิงโป กลับมาทำหน้าที่เป็นคนเฝ้าประตูของจวนจูเสียนอีกครั้ง
เพราะนางไม่เชี่ยวชาญเรื่องการรับมือกับการปัดแข้งปัดขากันระหว่างสตรีทั้งหลาย นางมิอาจควบคุมสาวใช้สิบกว่าคนที่แต่ละคนต่างก็มีความคิดจิตใจต่างกันไปพวกนั้นได้จริงๆ จึงลาออกจากหน้าที่ที่เป็นงานสบายแล้วยังหาได้เงินได้เยอะ กลับมาที่จวนจูเสียน มาเป็นคนเฝ้าประตูให้กับนายท่านผู้เฒ่าหม่า หากเจอกับคนที่เป็นแขกมาเยี่ยมเยือนก็จะเขย่ากระพรวนที่อยู่ข้างห้องคนเฝ้าประตู
ทำงานอยู่ที่จวนเหิงโปมานานหลายปี สะสมเงินเกล็ดหิมะมาได้มากมาย ทุกครั้งที่หงซูอารมณ์ไม่ดีก็จะจ่ายเงินหนึ่งเหรียญ แปลงโฉมจากหญิงแก่หน้าตาอัปลักษณ์ชวนขนลุก กลับมาเป็นหญิงสาวอีกครั้ง ทำให้หน้าตาของตนไม่น่าชิงชังถึงเพียงนั้น
ผลคือถูกนายท่านหม่าด่าว่าสตรีล้างผลาญ
หม่าหย่วนจื้อผู้ฝึกตนผีที่มีชาติกำเนิดมาจากคนแบกข้าว ทุกวันนี้ยังคงเป็นผู้ถวายงานอันดับสองของเกาะชิงเสีย ติดตามเป็นลูกน้องของหลิวจื้อเม่า เมื่อสกัดคงคาเจินจวินได้เลื่อนขั้นสูง เขาก็เป็นเหมือนหมาและไก่ที่พลอยได้ขึ้นสวรรค์ไปด้วย เมื่อได้สถานะทำเนียบวงศ์ตระกูลมาจากสำนักเจินจิ้ง อันที่จริงก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว ทุกปีแค่รอรับเงินเดือนมาเปล่าๆ ก็พอ
คนแบกข้าวที่เป็นนักการหนึ่งในอาชีพมากมายผู้นี้ สถานะเรียกได้ว่าต่ำต้อยอย่างถึงที่สุด แต่กลับมีจิตใจที่ประณีติละเอียดอ่อน ผู้ฝึกตนผีตั้งชื่อจวนบนเกาะชิงเสียของตัวเองว่า ‘จูเสียน’ มาจากประโยค ‘สายพิณบรรเลงก้องดังเป็นจังหวะอันงดงาม’ (จ้งรุ่นเสี่ยงจูเสียน) ที่มาจากกลอนหายากบทหนึ่งของแคว้นบ้านเกิด คำว่าก้องดัง (เสี่ยง) พ้องเสียงกับคำว่า ‘คิด’ (เสี่ยง) และหลิวจ้งรุ่นเจ้าของเกาะจูไชเก่าก็คือองค์หญิงใหญ่ของแคว้นบ้านเกิดเขาพอดี
น่าเสียดายที่หลิวจ้งรุ่นองค์หญิงใหญ่ที่เขาคิดถึงคำนึงหามาโดยตลอดได้พาพวกสตรีทั้งหลายย้ายออกไปจากทะเลสาบซูเจี่ยน ไปลงหลักปักฐานอยู่ในภูเขาต่างบ้านต่างเมืองที่มีชื่อว่าภูเขาหลังอ๋าวนานแล้ว
หลายปีที่ผ่านมานี้ผู้ฝึกตนผีด่านักบัญชีคนหนึ่งไปไม่น้อย
ด้านหนึ่งก็พูดว่าไม่มีความคิดอะไรแม้แต่น้อย พูดจาหนักแน่นน่าเชื่อถือว่าตัวเองไม่มีความคิดที่ไม่เป็นการควร ไม่คิดจะไปข้องแวะกับองค์หญิงใหญ่อย่างแน่นอน
แต่ด้านหนึ่งกลับแอบหลอกองค์หญิงใหญ่ไปอยู่บ้านเกิดของเขา ภูเขาหลังอ๋าว มารดามันเถอะ ภูเขาหลังอ๋าว ปลาอ๋าว ลื่นไถลจับไม่อยู่ หลัง ผู้ฝึกตนผีเพียงแค่คิดถึงแผ่นหลังที่ผิวขาวนุ่มนวลขององค์หญิงใหญ่ก็…อยากจะร้องไห้แล้ว
จะว่าไปแล้วองค์หญิงใหญ่เป็นสตรีที่หาได้ยากถึงเพียงนั้น เฉินผิงอันก็เป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่ง หากเขาจะคิดเพ้อฝัน มีความคิดไม่ดีกับนางก็เป็นเรื่องปกติ
เพียงแต่ไม่รู้ว่ามีพันภูเขาหมื่นสายน้ำกั้นขวาง หลายปีมานี้องค์หญิงใหญ่ไม่ได้พบเจอตนจะคิดถึงจนเป็นโรคทางใจ ผ่ายผอมซูบเซียวจนเอวเล็กยิ่งบางลงอีกหรือไม่?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!