เฉินผิงอันยืนอยู่บนเส้นใยแมงมุมที่เชื่อมโยงระหว่างดวงจันทร์สองดวง ถอยหลังไปหนึ่งก้าว ทิ้งร่างดิ่งเป็นเส้นตรง ไล่ตามปีศาจใหญ่บรรพกาลที่เป็นฝ่ายถอยออกจากสนามรบตนนั้นไป
ขณะเดียวกันก็ยื่นมือไปกระตุกใยแมงมุมที่เจ้าของทิ้งไว้เอามาใส่ไว้ในชายแขนเสื้อ ถึงอย่างไรก็มีลู่เฉินอยู่ด้วย ย่อมไม่มีภัยแฝงอะไรให้ต้องกังวล
เฉินผิงอันเหลือบมองไปทางประตูใหญ่ อีกฝั่งหนึ่งที่ประตูบานนี้กางกั้นก็คือใต้หล้ามืดสลัวแล้ว กลิ่นอายแห่งมรรคาที่เปี่ยมล้น ภาพบรรยากาศนับพันหมื่นคล้ายกับได้ทยอยกันมารวมตัวเป็นนักพรตบนยอดเขากลุ่มใหญ่
ป๋ายเจ๋อกับหลี่เซิ่ง สหายรักหมื่นปีที่เคยรบเคียงบ่าเคียงไหล่ ถูกชะตากันอย่างถึงที่สุดคู่นี้ กลายเป็นว่าหมื่นปีให้หลัง เมื่อต่างคนต่างต้องลงมือ กลับไม่มีใครออมมือไว้ไมตรี เพื่อดวงจันทร์ที่กำลังจะถูกย้ายออกไปจากใต้หล้าเปลี่ยวร้างดวงนั้น คนหนึ่งขัดขวางการร่วมมือกันลากดวงจันทร์ของผู้ฝึกกระบี่สี่คน คนหนึ่งสกัดการขัดขวางของป๋ายเจ๋อ ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันจนชะตาฟ้าปั่นป่วนรุนแรง
เมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อนคนทั้งสองต่างก็เป็นผู้ฝึกตนใหญ่ขอบเขตสิบสี่แล้ว อีกทั้งเนื่องจากมหามรรคาในใจของแต่ละคน พวกเขาจึงเป็นฝ่ายล้มเลิกความคิดที่จะเลื่อนเป็นขอบเขตสิบห้า
หนึ่งกายธรรมชุดขาวที่มีกลิ่นอายความเก่าแก่ยิ่งใหญ่ อีกหนึ่งกายธรรมชุดลัทธิขงจื๊อ ปราณเที่ยงธรรมไพศาล
เส้นด้ายแนวตั้งแนวนอนทุกเส้นบนชุดลัทธิขงจื๊อของหลี่เซิ่งก็คือ ‘กฎเกณฑ์’ ข้อหนึ่งของใต้หล้าไพศาล
และหากมองอย่างละเอียด ‘กายธรรมของป๋ายเจ๋อ’ นั้นก็เกิดจากการรวมตัวกันของชื่อจริงเผ่าปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วนเช่นกัน
นี่จึงเป็นเหตุให้ทุกครั้งที่กายธรรมของสองฝ่ายแตกสลายจึงกลายเป็นฟ้าพลิกแผ่นดินตลบ เป็นการช่วงชิงบนมหามรรคาตามความหมายที่แท้จริง
กว่าลู่เฉินจะคว้าโอกาสที่หายวับไปในเสี้ยววินาทีได้ไม่ใช่เรื่องง่าย เขารีบหยิบตำราเต๋าหนึ่งหน้าออกมาจากชายแขนเสื้อ ปากท่องคาถาพึมพำ จากนั้นก็โยนยันต์ที่มีไอม่วงล้อมวนซึ่งตัวเองเป็นผู้สร้างออกไป อาศัยประตูบานใหญ่ที่เชื่อมโยงสองใต้หล้าไปยังป๋ายอวี้จิง ไปบอกข่าวดีแก่ศิษย์พี่ ให้เขารีบนำผู้ฝึกตนของป๋ายอวี้จิงมาชักนำดวงจันทร์ดวงนี้ ให้มันหล่นอยู่ในกระเป๋าของตัวเองก่อนเพื่อความสบายใจ จากนั้นต้องปิดประตูใหญ่ลงทันที ไม่อย่างนั้นหากป๋ายเจ๋อตัดสินใจจะอำมหิตขึ้นมา เปลี่ยนสนามรบไปอยู่ที่ใต้หล้ามืดสลัว แล้วใช้หมัดต่อยให้ดวงจันทร์ดวงนั้นปริแตก ผลลัพธ์ที่ตามมาย่อมเลวร้ายจนมิอาจคาดคิด
ด้วยตบะและขอบเขตของป๋ายเจ๋อ ต่อให้อยู่ในใต้หล้ามืดสลัว ต่อให้ศิษย์พี่อวี๋โต้วเปลี่ยนมาสวมชุดคลุมอาคม ในมือถือกระบี่เซียนก็ถูกกำหนดมาแล้วว่าไม่มีทางจะรั้งตัวอีกฝ่ายเอาไว้ได้ หนึ่งเพราะหลี่เซิ่งมาถึงใต้หล้ามืดสลัวจะถูกมหามรรคาสยบกำราบอย่างรุนแรงจนมิอาจคาดการณ์ได้ ถึงขั้นที่ว่าหนักหนายิ่งกว่าการที่ปรมาจารย์มหาปราชญ์ไปเยือนใต้หล้ามืดสลัวเสียอีก อีกอย่างก็คือลู่เฉินรู้นิสัยศิษย์พี่ของตัวเองดีว่าต้องไม่มีทางยินดีร่วมมือกับใครเพื่อต่อกรกับศัตรูแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีการผสานมรรคาของป๋ายเจ๋อ ไม่ว่าจะบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ ล้วนไม่ได้มีอะไรแตกต่าง ขอแค่ปล่อยให้ป๋ายเจ๋อหวนกลับไปยังใต้หล้าเปลี่ยวร้างได้ ด้วยระดับความแข็งแกร่งทนทานของร่างจริงป๋ายเจ๋อ บวกกับระดับความลึกล้ำต่อมรรคกถามากมายในใต้หล้าที่ป๋ายเจ๋อเข้าใจ เชื่อว่าเขาต้องฟื้นคืนพลังการต่อสู้กลับมาอย่างรวดเร็วแน่นอน
เพราะไม่ใช่ว่าใครก็สามารถชี้แนะเวทน้ำให้กับเฟยเฟยได้
ผู้เฒ่าร่างผอมแห้งที่ตื่นขึ้นมาจากการจำศีลอันยาวนานจากใต้ดินลึกของซากปรักตำหนักดวงจันทร์ ระหว่างที่ทิ้งร่างร่วงดิ่งลงไป เวลาเพียงแค่ไม่กี่ชั่วลมหายใจก็ได้กลายร่างเป็นบุรุษวัยกลางคนแล้ว อีกทั้งยังอยู่ในสภาวะอันลี้ลับมหัศจรรย์ที่คล้ายคลึงกับการหวนคืนสู่ความจริงของลัทธิเต๋า หากไม่ผิดไปจากที่คาดก็เชื่อว่าอีกเดี๋ยวมันก็จะแปลงโฉมกลายไปเป็นคนหนุ่ม และการเปลี่ยนแปลงประเภทนี้ยังไม่ได้เกิดจากเวทอำพรางตาอีกด้วย แต่เป็นการจำแลงมหามรรคาที่มิอาจขัดขวางได้ชนิดหนึ่ง
ปีศาจใหญ่ขอบเขตบินทะยานขั้นสูงสุดตนนี้ทิ้งตัวดิ่งเป็นเส้นตรงลงไปยังพื้นดิน
คิดไม่ถึงว่าจะถูกเจ้าคนที่สวมกวานดอกบัวผู้นั้นไล่ตามมาทัน
ปีศาจใหญ่ถือกระบี่ยาวไว้ในมือ เอื้อมมือไปด้านหลัง เส้นเอ็นหัวใจขมึงตึงเล็กน้อย แต่เมื่อชั่งน้ำหนักผลได้ผลเสียอย่างรวดเร็วแล้วก็ยังล้มเลิกความคิดวู่วามที่จะปล่อยกระบี่ฟันคนทิ้งไป
ทั้งสองฝ่ายอยู่ห่างกันแค่สิบกว่าจั้งเท่านั้น แสงปราณกระบี่สองเส้นพุ่งปะทะพื้นดินของใต้หล้าเปลี่ยวร้างในเวลาเดียวกัน ความเคลื่อนไหวนั้นรุนแรงประดุจฟ้าคำรามสะเทือนเลือนลั่น
ปีศาจใหญ่ถามด้วยภาษาโบราณของเปลี่ยวร้างว่า “ไม่ไปช่วยจอมปราชญ์น้อยคนนั้นสักหน่อยหรือ?”
คาดไม่ถึงว่าผู้ฝึกตนเผ่ามนุษย์คนนั้นจะถึงขั้นตอบกลับเขาด้วยภาษาโบราณแห่งเปลี่ยวร้างที่สำเนียงถูกต้องดั้งเดิมพร้อมรอยยิ้มบางๆ “เจ้าเองก็ไม่ไปช่วยอาจารย์ป๋ายสักหน่อยล่ะ?”
ปีศาจใหญ่บนยอดเขาที่อยู่ในรูปโฉมของเด็กหนุ่มเรียบร้อยแล้วตกตะลึงไปเล็กน้อย “หรือว่าข้ามองผิดไป แท้จริงแล้วเจ้าไม่ใช่เผ่ามนุษย์?”
ผู้ฝึกตนเผ่ามนุษย์อายุน้อยๆ คนหนึ่ง ใครเล่าที่จะกินอิ่มว่างงานแล้วเอาเวลาไปศึกษาภาษาโบราณของเปลี่ยวร้าง?
อีกอย่างบนร่างของผู้ฝึกตนคนนี้ก็มีกลิ่นอายคุ้นเคยที่ล่องลอยอยู่เสี้ยวหนึ่งจริงๆ
เห็นว่าคนผู้นั้นคลี่ยิ้มไม่เอ่ยอะไร ปีศาจใหญ่บรรพกาลตัวนี้ก็ถามว่า “ตามข้ามาทำไม?”
คนผู้นั้นยอมตอบตามความจริง “ดูว่าจะฉวยโอกาสที่ขอบเขตของเจ้าไม่มั่นคง ยังไม่กลับสู่ยอดเขาสูงสุดอีกครั้งอย่างแท้จริงหาโอกาสมาจัดการเจ้าได้หรือไม่”
ตาข่ายหนึ่งกางอยู่บนความว่างเปล่า ปราณสังหารนับหมื่นล้านก่อกำเนิด
เหมาะกับสนามรบที่ได้ยึดครองความได้เปรียบทางชัยภูมิที่สุด ขอแค่สร้างรังเก่าขึ้นมาในจุดลึกของใต้ดินเสียก่อน แล้วก็แค่ต้อง ‘ป้องกันแมลงตัวน้อยบินหนี’ สำหรับผู้ฝึกตนห้าขอบเขตล่างเผ่ามนุษย์หรือกองทัพล่างภูเขาที่คล้ายคลึงกับกองทัพม้าเหล็กต้าหลีที่พาตัวมาติดกับดักแล้ว ปีศาจใหญ่ขอบเขตบินทะยานตนนี้ก็คืออาจารย์ค่ายกลที่น่ากลัวที่สุด
แล้วนับประสาอะไรกับที่ปีศาจใหญ่บรรพกาลตัวนี้ยังเป็นผู้ฝึกกระบี่บนยอดเขาสูงสุดที่บนร่างแบกรับวิถีกระบี่บรรพกาลเส้นหนึ่งหรืออาจจะมากกว่านั้น
ปีศาจใหญ่หลุดหัวเราะพรืด
ผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์สมัยนี้ แต่ละคนล้วนขอบเขตสูงถึงเพียงนี้ นิสัยก็แย่ถึงเพียงนี้ พูดจาก็ต้องตรงไปตรงมาขนาดนี้ด้วยหรือ?
ผู้ฝึกกระบี่ที่อยู่ตรงหน้าคนนี้เมื่อเทียบกับหลายคนก่อนหน้านั้น พูดถึงแค่เรื่องของอายุก็ออกจะประหลาดอยู่บ้าง ภาพบรรยากาศขุนเขาสายน้ำของฟ้าดินเล็กร่างกายมนุษย์หากคิดคำนวณตาม ‘อายุที่แท้จริง’ ก็เห็นได้ชัดว่าอายุไม่ถึงห้าสิบปี แต่หากคิดคำนวณตามวงปีบางอย่างที่แม่น้ำยาวแห่งกาลเวลาสร้างขึ้น ผู้ฝึกกระบี่ตรงหน้าผู้นี้ก็ยังคงอายุไม่มาก แต่จะดีจะชั่วก็น่าจะฝึกตนมาได้สามร้อยปีแล้ว เพียงแต่ว่าบางครั้งกลับแสดงออกให้เห็นว่าอายุสี่ห้าพันปี
มองผู้ฝึกกระบี่หนุ่มที่เอาสองมือสอดกันไว้ในชายแขนเสื้อ ปีศาจใหญ่ก็หัวเราะหยันเอ่ยว่า “อย่ามาหลอกข้าเลย หากเจ้ามีความสามารถจริง มีความมั่นใจสักห้าส่วน ป่านนี้ก็คงออกกระบี่ไปนานแล้ว”
เฉินผิงอันยิ้มบางๆ เอ่ยว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ลองดูไหม?”
อยู่ดีๆ ปีศาจใหญ่ก็นึกถึงคนรักของอีกฝ่ายขึ้นมา นังหนูน้อยผู้นั้นออกกระบี่อำมหิตจริงๆ
อย่าลองเลยดีกว่า
ไม่มีความจำเป็น
สาเหตุที่แท้จริงนั้นเป็นเพราะเจ้าหมอนี่เหลือบมองพื้นดินคล้ายตั้งใจคล้ายไม่ได้เจตนา ราวกับมองทะลุความคิดของตน หากสองเท้าของเขาสัมผัสพื้นก็จะสร้างฟ้าดินแห่งหนึ่งขึ้นมา แผ่นฟ้าผืนดิน ถักทอเป็นตาข่าย
ในฟ้าดินของตัวเอง ต่อให้จะเรียกหาคนให้มาช่วย ต่อสู้กับผู้ฝึกตนขอบเขตสิบสี่ ต่อให้โอกาสชนะมีไม่มาก แต่ก็ต้องถลกหนังของอีกฝ่ายออกได้ชั้นหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่นบอกกล่าวกับภูเขาทัวเยว่สักหน่อย…
มารดามันเถอะ ทำไมภูเขาทัวเยว่ถึงไม่อยู่แล้วเล่า?
หรือว่าใต้หล้าไพศาลยกทัพบุกมาโจมตีถึงภูเขาทัวเยว่แล้ว?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!