กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 874

ครั้ง​ที่​ดุเดือด​รุนแรง​ที่สุด​คือ​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​คน​หนึ่ง​ที่​คล้าย​จะธาตุ​ไฟเข้า​แทรก​ เกือบจะ​อาศัย​อาวุธ​เทพ​ใน​มือ​มาทำลาย​ตรา​ผนึก​ของ​ฟ้านอก​ฟ้า แทง​แผ่น​ฟ้าให้​ทะลุ​ ยังคง​เป็น​เจ้าลัทธิ​ใหญ่​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิงที่​ลงมือ​ด้วยตัวเอง​ถึงสามารถ​ซ่อมแซม​ช่องโหว่​ใหญ่​เทียมฟ้า​นั้น​ให้​เต็ม​ได้​ อีก​ทั้ง​ขัดขวาง​ศิษย์​น้อง​อวี๋​โต้​ว​ที่​พก​กระบี่​ออก​เดินทางไกล​ คิด​จะไป​ตัดหัว​ของ​ผู้ฝึก​ตน​คน​นั้น​เอาไว้​ได้​ด้วย​ พา​ตัว​ผู้ฝึก​ตน​ที่​เกือบจะ​ทำผิด​มหันต์​คน​นั้น​กลับ​ไป​ที่​ป๋า​ยอ​วี้​จิงด้วยตัวเอง​ ติดตาม​เขา​ฝึก​ตน​อยู่​นาน​หลาย​ปี​ สุดท้าย​จิต​แห่ง​มรรคา​กลับคืน​มาเป็นปกติ​ดังเดิม​ ถึงขั้น​ที่ว่า​ยัง​รับหน้าที่​เป็น​เจ้านคร​แห่ง​หนึ่ง​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิงด้วย​

และ​เต้า​กวาน​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิงท่าน​นี้​ก็​คือ​เจ้านคร​เสิน​เซียว​คน​ก่อน​ หรือ​ก็​คือ​อริยะ​ลัทธิ​เต๋า​ที่นั่ง​พิทักษ์​ม่าน​ฟ้าของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​คน​นั้น​

ดังนั้น​การเคลื่อนไหว​ของ​อาวุธ​เทพ​ทุก​ชิ้น​และ​การ​ปรากฏตัว​บน​โลก​ของ​พวก​มัน​ทุกครั้ง​ ทาง​ฝั่งของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิงจะต้อง​คอย​จับตามอง​อยู่​ตลอดเวลา​

เฉิน​ผิง​อัน​พลัน​ใช้เสียง​ใน​ใจเอ่ย​ถาม “เสื้อเกราะ​น้ำค้าง​หวาน​ที่​ปี​นั้น​หอ​ห​ลิง​จือ​ของ​ภูเขา​ห้อย​หัว​ขายไม่ออก​ ก็​เพราะ​จงใจให้​ข้า​เก็บตก​ของดี​ได้​อย่างนั้น​หรือ​? เป็น​ฝีมือ​ของ​ใคร​กัน​? เต๋า​เหล่า​เอ้อ​? ไม่ค่อย​เหมือน​นะ​ หรือ​จะเป็น​โจว​จื่อ?”​

ลู่​เฉิน​นั่ง​อยู่​ใน​สถานที่​ประกอบ​พิธีกรรม​ ทำ​มุทรา​ด้วยมือ​ข้างเดียว​ วางท่า​ว่า​จะนิ่งเงียบ​ไม่เอ่ย​อะไร​

เฉิน​ผิง​อัน​เข้าใจ​ได้​ทันใด​ ก็​คือ​เจ้าคน​ที่​วัน​ๆ กิน​อิ่ม​ว่างงาน​ไม่มีอะไร​ทำ​ผู้​นี้​นั่นเอง​

หยิบ​เอา​ดาบ​แคบ​พิฆาต​ออกมา​ บวก​กับ​ดาบ​ ‘ลงทัณฑ์​’ เล่ม​นั้น​ เฉิน​ผิง​อัน​วาง​ดาบ​แคบ​ทั้งสอง​เล่ม​ทับซ้อน​กัน​แล้ว​เหน็บ​ไว้​ตรง​เอว​

ทรุดตัว​ลงนั่ง​ยอง​ เฉิน​ผิง​อัน​หยิบ​เหล้า​ออกมา​สอง​กา​ อัฐิ​สอง​กา​นี้​ เขา​ถือ​ไว้​มือ​และ​กา​ ยื่น​กา​เหล้า​ไป​ด้านนอก​หัว​กำแพง​ แนบ​ติดกับ​ผนัง​กำแพง​ ชน​กัน​เบา​ๆ หนึ่ง​ที​ กา​ทั้งสอง​ก็​แหลก​สลาย​แล้ว​ปลิว​หาย​ไป​ตาม​สายลม​

ได้​กลับคืน​บ้านเกิด​แล้ว​

เงียบ​ไป​นาน​ ก่อนที่​เฉิน​ผิง​อัน​จะลุกขึ้น​ยืน​ เป็น​ฝ่าย​ยิ้ม​เอ่ย​กับ​เฮ้อ​โซ่ว​ว่า​ “อาจารย์​เฮ้อ​พลิ้ว​กาย​ลง​บน​หัว​กำแพงเมือง​ได้​เลย​ การ​เดินทางไกล​ไป​เยือน​พื้นที่​ใจกลาง​ของ​เปลี่ยว​ร้าง​ครั้งนี้​ ทาง​ฝั่งของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​พวกเรา​ยัง​ต้อง​ชี้แจงรายละเอียด​เรื่อง​เส้นทาง​ให้​ทาง​ศาล​บุ๋น​บันทึก​ลง​เอกสาร​สักหน่อย​”

เฮ้อ​โซ่ว​พยักหน้า​รับ​ด้วย​รอยยิ้ม​ โชคดี​ที่​ลูกศิษย์​คน​สุดท้าย​ของ​เห​วิน​เซิ่งผู้​นี้​เข้าใจ​คนอื่น​เป็น​อย่าง​ดี​ ไม่อย่างนั้น​ตน​ก็​คง​ไม่อาจ​เปิดปาก​เอ่ย​เรื่อง​นี้​ได้​จริงๆ​ ใช้สถานะ​ของ​อริยะ​ปราชญ์​ผู้​มีเทวรูป​ที่​เฝ้าพิทักษ์​ที่​แห่ง​นี้​มาสอบถาม​เรื่องราว​ต่างๆ​ จาก​ผู้ฝึก​กระบี่​ห้า​ท่าน​ แน่นอน​ว่า​สมเหตุผล​ แต่กลับ​อาจ​ไม่เหมาะกับ​สถานการณ์​เสมอไป​ แต่​ใน​เมื่อ​เฉิน​ผิง​อัน​ยินดี​ใช้สถานะ​ของ​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​มาพูดถึง​เรื่อง​นี้​ก็​ไม่มีปัญหา​ใดๆ​ แล้ว​

เฮ้อ​โซ่ว​รีบ​เรียก​วิญญูชน​ลัทธิ​ขงจื๊อ​คน​หนึ่ง​มา คน​ทั้งสอง​พลิ้ว​กาย​ลง​บน​หัว​กำแพงเมือง​ด้วยกัน​ ฝ่าย​หลัง​คารวะ​ขอบคุณ​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​

เฉิน​ผิง​อัน​พูด​เข้า​ประเด็น​ทันที​ “การ​เดินทาง​ของ​พวกเรา​ได้​ทยอย​ไป​เมือง​ป่าย​ฮวา​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ ไป​เยือน​ซาก​ปรัก​สนามรบ​แห่ง​หนึ่ง​ที่​มีชื่อว่า​ ‘หลง​หง​’ มหา​บรรพต​ชิงซาน​ นคร​อวี้​ป่าน​ของ​ราชวงศ์​อวิ๋น​เห​วิน​ ภูเขา​ชุน​เจี้ยน​ นคร​เซียน​จาน​ สำนัก​จิ่ว​เฉวียน​ ลำคลอง​เย่ลั่ว​ ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ รวม​ทั้งสิ้น​เก้า​แห่ง​”

เฉิน​ผิง​อัน​เงยหน้า​ขึ้น​ “หาก​บวก​กับ​ดวงจันทร์​ ‘เฮ่าไฉ่’ ไป​ด้วย​ ก็​จะเป็น​สถานที่​สิบ​แห่ง​”

วิญญูชน​ลัทธิ​ขงจื๊อ​หยิบ​กระดาษ​หมึก​และ​พู่กัน​ออกมา​เตรียม​รอ​ไว้​นาน​แล้ว​ เขา​จดบันทึก​สถานที่​แต่ละ​อย่าง​ลง​ไป​ ยิ่ง​ฟังจิตใจ​ก็​ยิ่ง​สะท้าน​สะเทือน​ นอกจาก​ภูเขา​ชุน​เจี้ยน​ที่​ค่อนข้างจะ​ไม่คุ้นเคย​แล้ว​ สถานที่​อื่นๆ​ วิญญูชน​ท่าน​นี้​ล้วน​คุ้นเคย​เป็น​อย่าง​ดี​

โดยเฉพาะ​นคร​เซียน​จาน​ ลำคลอง​เย่ลั่ว​ ภูเขา​ทัว​เย​ว่…​นอกจาก​จะทำให้​วิญญูชน​ท่าน​นี้​รู้สึก​ตื่น​ตะลึง​แล้ว​ เขา​ยิ่ง​รู้สึก​ว่า​นี่​เป็นเรื่อง​ที่​เหลวไหล​สิ้นดี​ หาก​ไม่เป็น​เพราะ​คน​ตรงหน้า​ผู้​นี้​ก็​คือ​อิ่น​กวาน​คน​สุดท้าย​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ เขา​คง​อดไม่ไหว​ต้อง​เปิดปาก​ถามว่า​เป็นจริง​หรือ​เท็จ​แล้ว​ ไม่ใช่ว่า​เขา​ไม่อยาก​เชื่อ​ แต่​เพราะ​มัน​น่า​เหลือเชื่อ​เกินไป​ ทำให้​คน​ไม่กล้า​เชื่อ​

นคร​ป่าย​ฮวา​ สำนัก​อักษร​จงแห่ง​หนึ่ง​ของ​เปลี่ยว​ร้าง​ ทั้ง​สำนัก​พินาศ​วอดวาย​ นอกจาก​เจ้าสำนัก​ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​ที่​จ่าย​ราคา​เป็น​ขอบเขต​ถดถอย​ จิต​หยิน​จึงหนี​รอดไป​ได้​อย่าง​ถูไถแล้ว​ ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​ที่​เหลือ​ซึ่งคน​หนึ่ง​เป็น​ผู้คุม​กฎ​ห้า​ขอบเขต​บน​และ​ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​เซียน​ดิน​ ต่าง​ก็​ตาย​กัน​หมดสิ้น​

สนามรบ​หลง​หง​แห่ง​นั้น​ก็​ถูก​แสงกระบี่​กวาด​ทำลาย​จน​เกลี้ยง​

แต่​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ไม่ลืม​เอ่ย​ว่า​ คุณ​ความชอบ​ทางการ​สู้รบ​ใน​สอง​สถานที่​นี้​ หลัง​จบเรื่อง​ศาล​บุ๋น​ยัง​จะต้อง​สอบถาม​พวก​ฉีถิงจี้ก่อน​

อาจารย์​ผู้เฒ่า​เฮ้อ​นั่งขัดสมาธิ​ หรี่ตา​ลูบ​หนวด​ยิ้ม​ สะใจ สะใจ

อิ่น​กวาน​เฉิน​ผิง​อัน​ หนิง​เหยา​ ฉีถิงจี้ ลู่​จือ​ สิงกวาน​หาว​ซู่

เมื่อ​ผู้ฝึก​กระบี่​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ทั้ง​ห้า​คน​นี้​จับมือ​กัน​ออก​เดินทางไกล​ ก็​ถึงกับ​พุ่งตรง​บุก​ดิ่ง​เข้าไป​ด้วย​พลัง​อำนาจ​ที่​มิอาจ​สกัด​ขวาง​ถึงเพียงนี้​

หลังจากนั้น​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ก็​เล่า​ให้​ฟังว่า​นคร​เซียน​จาน​ที่​เล่าลือ​กัน​ว่า​เป็น​นคร​ที่สูง​ที่สุด​ใน​ใต้​หล้า​ได้​ถูก​ผ่า​ออก​เป็น​สอง​ท่อน​ ศาล​บรรพ​จารย์​แหลก​ยับเยิน​

ฟังมาถึงตรงนี้​ เฮ้อ​โซ่ว​ก็​หัวเราะ​ฮ่าๆ อย่าง​สาแก่ใจ​

วิญญูชน​ที่​รับหน้าที่​จดบันทึก​อึ้ง​ค้าง​ไป​ทันที​ ถึงขั้น​ไม่กล้า​จรด​พู่กัน​เขียน​ไป​ชั่วขณะ​ จำต้อง​เปิดปาก​ถามว่า​ “อิ่น​กวาน​ นคร​เซียน​จาน​ถูก​ฟัน​ออก​เป็น​สอง​ท่อน​หรือ​? ข้า​ขอ​ถามนอกเรื่อง​หน่อย​ได้​ไหม​ ถูก​ฟัน​อย่างไร​?”

เฉิน​ผิง​อัน​นั่งขัดสมาธิ​ เดิมที​กำ​สอง​หมัด​หลวม​ๆ วาง​ไว้​บน​หัวเข่า​เบา​ๆ เวลานี้​กลับ​ยิ้ม​แล้ว​ยก​สอง​มือขึ้น​

วิญญูชน​ลัทธิ​ขงจื๊อ​คน​นั้น​ยิ่ง​อึ้ง​ตะลึง​เข้าไป​ใหญ่​

“เสวียน​ผู่​ผู้ฝึก​ตน​เฒ่าขอบเขต​บิน​ทะยาน​ที่​เป็น​เจ้านคร​คน​ปัจจุบัน​ได้​ตาย​ไป​แล้ว​”

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “ถูก​สิงกวาน​หาว​ซู่สังหาร​”

ปีศาจ​ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ตน​นี้​ ร่าง​จริง​คือ​งูดำ​บรรพกาล​ตัว​หนึ่ง​ แม้แต่​โอสถ​ปีศาจ​หนึ่ง​เม็ด​ก็​ยัง​รักษา​ไว้​ได้​อย่าง​สมบูรณ์​

โดยทั่วไปแล้ว​การ​จับคู่​เข่นฆ่า​ที่​สามารถ​ทำได้​ถึงขั้น​นี้​ ขอ​แค่​เป็นการ​บดขยี้​สังหาร​ที่​ศักยภาพ​ของ​ทั้งสองฝ่าย​แตก​ต่างกัน​ ฝ่าย​หนึ่ง​ฆ่าอีก​ฝ่าย​ได้​ใน​ชั่วพริบตา​ เหมือน​กระบี่​บิน​ที่​ตัดหัว​คนใน​เสี้ยว​วินาที​

คุณ​ความชอบ​ทางการ​สู้รบ​ครั้งนี้​ เฉิน​ผิง​อัน​ยก​ให้​สิงกวาน​หาว​ซู่ตาม​ข้อตกลง​ ให้​บันทึก​ลง​ในนามของ​อีก​ฝ่าย​ ช่วย​ให้​หาว​ซู่ได้​ทำ​ความดี​ชดใช้​ความผิด​ตาม​ข้อตกลง​ที่​มีกับ​ศาล​บุ๋น​แผ่นดิน​กลาง​ เพื่อที่จะ​ได้​เดินทางไกล​ไป​ยัง​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ และ​ได้รับ​อิสระ​นับแต่​นี้​

สำหรับ​เฉิน​ผิง​อัน​แล้ว​ หาว​ซู่ไป​ยัง​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ ถึงอย่างไร​ก็​ยัง​สวม​ยศ​สิงกวาน​คน​สุดท้าย​ เป็นเรื่อง​ดี​ ผู้ฝึก​กระบี่​ที่​ออก​เดินทางไกล​อย่าง​กลุ่ม​ของ​เยี่ยนจั๋ว​ ต่งฮ​ว่า​ฝู ตอนนี้​ขอบเขต​ยัง​ไม่สูงพอ​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ก่อนที่จะ​เลื่อน​เป็น​ห้า​ขอบเขต​บน​ จำเป็นต้อง​มีผู้อาวุโส​ใน​ตระกูล​ของ​ตัวเอง​ช่วย​ปกป้อง​มรรคา​

นอกจากนี้​หาว​ซู่ยัง​เป็น​คน​ที่​เห็นแก่​ความสัมพันธ์​ใน​อดีต​มาก​ที่สุด​ ไม่อย่างนั้น​ก็​ไม่มีทาง​เกิด​ความ​ยึดมั่น​ถือ​มั่น​ต่อ​ ‘พื้นที่​มงคล​ห​ลิง​ส่วง’​ ซึ่งเป็น​บ้านเกิด​แห่ง​นั้น​ ราวกับ​ว่าการ​ฝึก​กระบี่​ใน​ชีวิต​นี้​ก็​เพื่อ​แก้แค้น​เท่านั้น​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​เสริม​มาหนึ่ง​ประโยค​ “เดี๋ยว​จะให้​สิงกวาน​นำ​ทั้ง​ร่าง​จริง​และ​โอสถ​ปีศาจ​ของ​เสวียน​ผู่​ไป​มอบให้​กับ​ศาล​บุ๋น​พร้อมกัน​ ให้​ศาล​บุ๋น​เป็น​ผู้ตรวจสอบ​เรื่อง​นี้​”

เฮ้อ​โซ่วจุ๊​ปาก​เอ่ย​อย่าง​ประหลาดใจ​ “สิงกวาน​ตัวดี​ ยาม​ปกติ​ไม่แสดง​ฝีมือ​ก็​ไม่มีอะไร​น่า​ตกใจ​ แต่​พอได้​แสดง​ฝีมือ​กลับ​ทำให้​คน​ตกตะลึง​อย่าง​หนัก​ ถึงกับ​สร้าง​คุณ​ความชอบ​ใน​การ​สู้รบ​ที่​ใหญ่​เทียมฟ้า​เช่นนี้​ให้​กับ​ใต้​หล้า​ไพศาล​ของ​พวกเรา​ หาก​มีโอกาส​ ข้า​ผู้อาวุโส​คง​ต้อง​เอ่ย​ขอ​ภัย​หาว​ซู่อย่าง​จริงใจ​สักครั้ง​แล้ว​ ก่อนหน้านี้​รู้​ว่า​คน​ผู้​นี้​ตัดหัว​หนันกวง​จ้าว​ อันที่จริง​นี่​ก็​ไม่นับ​เป็น​อะไร​ ก็​แค่​ตอบแทน​ความแค้น​ด้วย​ความแค้น​เท่านั้น​ ตอนนั้น​ข้า​ผู้อาวุโส​แค่​รู้สึก​ว่า​สิงกวาน​คน​หนึ่ง​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ตอน​อยู่​บน​สนามรบ​กลับ​ไม่เคย​ออก​กระบี่​ ยัง​สู้เฒ่าหูหนวก​ที่​มีชาติกำเนิด​เป็น​เผ่า​ปีศาจ​ไม่ได้​ด้วยซ้ำ​ พอ​กลับ​มาถึงไพศาล​กลับ​เริ่ม​แสดง​ความดุร้าย​ ไม่เหมาะกับ​ตำแหน่ง​ ‘สิงกวาน​’ จริงๆ​ ดังนั้น​ตอนนั้น​ข้า​จึงเคย​เสนอ​กับ​ห​ลี่​เซิ่งว่า​ให้​โยน​เจ้าหาว​ซู่ผู้​นี้​ไป​ขัง​อยู่​ใน​สวน​กง​เต๋อ​ จะได้​เป็นเพื่อน​กับ​หลิว​ชาได้​พอดี​ คน​หนึ่ง​ตกปลา​ คน​หนึ่ง​ก่อไฟ​หุงข้าว​ ไม่ใช่คู่รัก​เทพ​เซียน​แต่​เหนือกว่า​คู่รัก​เทพ​เซียน​เสีย​อีก​ ตอนนี้​มาลอง​นึกย้อน​ดู​แล้ว​ เป็น​ข้า​ผู้อาวุโส​ที่​เข้าใจ​หาว​ซู่ผิด​ไป​”

เฉิน​ผิง​อัน​เหลือบมอง​ดวงจันทร์​ที่​ยิ่ง​ขยับ​เข้าไป​ใกล้​ประตู​ใหญ่​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ เอ่ย​ว่า​ “หาว​ซู่อาจจะ​ไม่ได้​มอบ​ร่าง​จริง​ของ​เสวียน​ผู่​ให้​กับ​มือ​ตัวเอง​เสมอไป​ บางที​อาจจะ​ให้​เจ้าสำนัก​ฉีนำ​ไป​มอบ​ต่อให้​ หวัง​ว่า​ทาง​ฝั่งของ​ศาล​บุ๋น​จะผ่อนปรน​ให้​บ้าง​”

เฮ้อ​โซ่ว​พยักหน้า​รับ​ “เรื่อง​พวก​นี้​ล้วน​เป็น​เรื่องเล็ก​ ข้า​สามารถ​รับปาก​ให้ได้​เลย​”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​รับ​เบา​ๆ จากนั้น​ก็​พูด​ต่อว่า​ “ตอนที่​ข้า​อยู่​นคร​เซียน​จาน​ยัง​ร่วมมือ​กับ​เจ้าลัทธิ​ลู่​แห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงทำ​เรื่อง​อีก​อย่างหนึ่ง​ นั่น​ก็​คือ​เก็บ​พื้นที่​มงคล​เห​ยาก​วง​มาไว้​ใน​กระเป๋า​ หลัง​จบเรื่อง​ก่อนที่​เจ้าลัทธิ​ลู่​จะกลับ​ไป​ยัง​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ จะมอบ​ ‘พื้นที่​มงคล​เห​ยาก​วง​’ ให้​กับ​ศาล​บุ๋น​ แลกเปลี่ยน​มาด้วย​โอกาส​ที่จะ​ได้​หวนกลับ​มายัง​ไพศาล​สามครั้ง​”

นอกจากนี้​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​แค่​เล่า​รายละเอียด​ให้​ฟังคร่าวๆ​ เพื่อ​สะดวก​ให้​ทาง​ศาล​บุ๋น​หา​โอกาส​พิสูจน์​ความจริง​

‘พื้นที่​มงคล​เห​ยาก​วง​’ ที่​บรรพ​จารย์​บุกเบิก​ภูเขา​ของ​นคร​เซียน​จาน​อย่าง​ห​ลิง​เซียง​เป็น​ผู้​ตั้งชื่อ​ให้​ อันที่จริง​มัน​ต่างหาก​ที่​ถึงจะเป็น​รากฐาน​ของ​นคร​เซียน​จาน​ซึ่งถูก​เปลี่ยว​ร้าง​ขนานนาม​ว่า​เป็น​ ‘คลัง​ยุทโธปกรณ์​แห่ง​ใต้​หล้า​’

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!