ลู่เฉินหัวเราะแห้งๆ เอ่ยว่า “สีแดงสดปลั่งราวกับจะคั้นน้ำได้ สีสันชวนให้คนชอบใจ ขนาดเล็กน่ารัก ไม่ว่าใครเห็นก็ล้วนชื่นชอบ ผินเต้าเองก็แค่เพราะเงินเทพเซียนในกระเป๋ามีไม่พอ ไม่อย่างนั้นไหนเลยจะตัดใจยอมตัดชุดแต่งงานให้คนอื่น ช่วยซื้อของสิ่งนี้ให้กับสหายรักของหอหลินหลางได้”
เฉินผิงอันถามชวนคุย “หรือว่าที่วางพู่กันปะการังชิ้นนี้เป็นของเก่าเก็บในตำหนักน้ำวังมังกรทะเลบูรพา?”
ก็เหมือนการซื้อขายของโบราณในโลกมนุษย์ล่างภูเขา นอกจากจะพิถีพิถันในเรื่องการสืบทอดผลงานของคนมีชื่อเสียงที่ส่งมอบให้กันเก็บรักษาไว้แล้ว หากเป็นของเก่าแก่ที่หลุดออกมาจากในวัง แน่นอนว่าราคาต้องสูงมากยิ่งกว่า
ลู่เฉินไม่ได้ปิดบัง ตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “สายตาดียิ่งนัก เป็นของเก่าในวังมังกรจริงๆ สามารถถือเป็นของตกแต่งห้องหนังสืออันดับหนึ่งในใต้หล้าได้ อีกทั้งยังเป็นแบบของโซ่วซานในบรรดา ‘ชิ้นงานไม้’ ชิ้นหนึ่งของวังมังกร การแกะสลักลายน้ำถือเป็นสมบัติแบบจั้วซาน แน่นอนว่าต้องยิ่งหายากเข้าไปอีก ก็เหมือนอย่างราชวงศ์ต้าหลีที่ก่อตั้งแคว้นด้วยสุ่ยเต๋อ (ดาวพระพุทธ หมายถึงธาตุน้ำ) จึงเก็บศาลเทพอัคคีไว้ในเมืองหลวงแค่แห่งเดียว ไม่แน่เสมอไปว่าต้องเป็นเพราะศาลเทพอัคคีแห่งนี้หาได้ยากถึงเพียงใด แต่เป็นเพราะศาลเทพอัคคีอยู่ในเมืองหลวงต้าหลีนั้นมีค่าอย่างมาก”
“หินปะการังห้อยแขวนอยู่บนดวงจันทร์เหนือมหาสมุทร กิ่งก้านประคับประคองดวงจันทร์”
เฉินผิงอันพยักหน้า “สามารถอนุมานได้ว่า วัตถุชิ้นนี้อย่างน้อยที่สุดต้องมีอายุสามถึงห้าพันปีแล้ว มีราคาอย่างมาก แต่ที่วางพู่กันปะการังกับหอหลินหลางของป๋ายอวี้จิงมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรเล่า?”
เผ่าพันธุ์เจียวหลงในใต้หล้าแทบจะถูกยกแบ่งให้กับใต้หล้าไพศาลทั้งหมด อยู่ในการดูแลของศาลบุ๋นลัทธิขงจื๊อ
เจียวหลงที่อยู่ในดินแดนพุทธะสุขาวดีมีจำนวนไม่มาก ทุกตัวล้วนกลายเป็นผู้พิทักษ์ของลัทธิพุทธเหมือนกันหมดอย่างไม่มีข้อยกเว้น ไม่ถือว่าอยู่ในประเภทของเจียวหลงแล้ว
“หอหลินหลางมี ‘เทียบปะการัง’ อยู่หนึ่งฉบับ บรรยายปณิธานและความฮึกเหิมออกมาอย่างเต็มคราบ เรียกได้ว่าเป็นผลงานของเทพ เล่าลือกันว่าระดับความเข้มอ่อนของสีหมึกแจ่มชัดสะดุดตา วาดปะการังหนึ่งกิ่ง ด้านข้างเขียนอักษรไว้สองคำว่า ‘จินจั้ว’ งามล้ำอย่างถึงที่สุด เล่าลือกันว่าเป็นกิ่งปะการังของทะเลบูรพา จุดที่ล้ำค่ามากที่สุดยังมีคำทำนายอีกหนึ่งประโยค ‘เหนือกิ่งปะการังหมื่นปีบุปผาหยกผลิบาน’ บุปผาที่ผลิบานถูกเรียกขานว่าเป็นบุปผาหัวพู่กันห้าสี คือหนึ่งในที่มาของคำกล่าวในยุคหลังที่บอกว่าจรดพู่กันดุจบุปผาผลิบาน”
ลู่เฉินพูดเจื้อยแจ้ว “สิ่งที่เป็นกุญแจสำคัญเลยก็คือ ด้านในอักษรภาพ แท้จริงแล้วได้ซุกซ่อนซากปรักวังมังกรเก่าแก่ที่ระดับขั้นไม่ต่ำไว้แห่งหนึ่ง แม้จะเทียบกับจวนของหลงจวินสี่มหาสมุทรไม่ได้ แต่ก็ด้อยกว่าไม่มากนัก ส่วนใครกันที่ถึงกับทำให้วังมังกรเข้าไปอยู่ในเทียบอักษรชิ้นหนึ่งได้ ก็ไม่เคยมีใครรู้แล้ว บ้างก็บอกว่าเป็นฝีมือของอาจารย์ซานซานจิ่วโหว ถึงอย่างไรผินเต้าก็ไม่เคยเห็นเทียบอักษรกับตาตัวเองมาก่อน หวังต้งผู้นั้นขี้เหนียวจะตายไป ไม่ว่าใครก็ไม่ยอมให้ดู ผินเต้าจึงมิอาจอนุมานได้ รู้แค่ว่าทางฝั่งของหอหลินหลางไม่สามารถทำลายตราผนึกขุนเขาสายน้ำได้สักที จึงพอจะยืนยันเรื่องหนึ่งได้ นั่นคือที่วางพู่กันปะการังของนครอวี้ป่านชิ้นนั้น มีความเป็นไปได้อย่างสูงว่าจะเป็นกุญแจที่หายสาบสูญไปนานแล้วดอกนั้น”
เฉินผิงอันพยักหน้ารับ “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องคิดบัญชีเป็นวังมังกรครึ่งหนึ่ง”
ลู่เฉินพูดอย่างมีเหตุผลชอบธรรม “แน่นอนอยู่แล้ว”
ถึงอย่างไรก็ไม่ต้องจ่ายด้วยเงินของข้า ไม่เสียดายหรอก
ลู่เฉินนึกถึงเรื่องเก่าในวันวานบางเรื่องขึ้นมาได้ก็ให้สะทกสะท้อนใจยิ่งนัก ในเมื่ออยู่ว่างไม่มีอะไรทำอยู่แล้วจึงทำตัวเป็นนักเล่านิทาน เล่าถึงเรื่องในอดีตอันห่างไกล ใจกลางฟ้าดิน ดินแดนปาจี๋ เก้าชั้นอยู่ร่วม
พูดถึงแค่หลงจวินสี่มหาสมุทรแห่งใต้หล้าไพศาลล้วนยังมีชีวิตอยู่ สถานะสูงส่ง คอยดูแลโชคชะตาน้ำของบนบกและในทะเล เผ่าพันธุ์มังกรมีมากมายเกินจะนับ เผ่าน้ำที่อยู่ในแม่น้ำลำคลองใหญ่ก็มีมากนับไม่ถ้วน ครึกครื้นอย่างมาก ทุกครั้งที่ผู้ฝึกตนบนภูเขามาเจอกับเผ่าน้ำจะต้องเกิดเรื่องตลอด พวกเขามักจะทะเลาะกัน พูดจาไม่เข้าหูกันคำเดียวก็ตีกันทันที ตีกันเสร็จก็เปลี่ยนที่แล้วทะเลาะกันต่อ ทิ้งเรื่องราวประหลาดมากมายไว้ให้กับโลกยุคหลัง
มหรรณพกว้างใหญ่ไพศาลเพียงใด สมบัตินับหมื่นในฟ้าดินถูกซุกซ่อนไว้ภายใน ในนามล้วนถือเป็นของวังมังกรและจวนเซียนน้ำน้อยใหญ่ มังกรที่แท้จริงบนโลกมีความเคยชินในการกวาดเอาสมบัติวิเศษแห่งฟ้าดินมาจริงๆ จวนน้ำและวังมังกรทุกแห่งก็คือคลังสมบัติแห่งหนึ่ง น่านน้ำของสี่มหาสมุทรในยุคบรรพกาลมีทะเลบูรพาเป็นผู้นำ น่านน้ำกว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุดมากที่สุด ด้านใต้มหาสมุทรมีต้นไม้หยก มีหินปะการัง ระดับขั้นดีเยี่ยม
พวกเซียนซือที่อยู่บนผืนแผ่นดินพากันลงมหาสมุทรไปตามหาสมบัติ ตัดต้นไม้หยก หักกิ่งไม้ไปนับไม่ถ้วน ก็ปะการังมีให้เก็บไม่หมดไม่สิ้นนี่นะ ดังนั้นเหล่าหลงจวินจึงพากันขึ้นฝั่งไปร้องทุกข์ โอดครวญกันไม่หยุด คล้ายกับกลัวว่าคลังสมบัติของวังมังกรจะว่างเปล่า แล้วยังมีจินหลีแห่งทะเลบูรพาที่ฮุบกลืนมหาสมุทรในคำเดียวที่นำพาเผ่าน้ำใต้อาณัตินับล้านตนลุกฮือขึ้นชูธง หมายจะก่อกบฏต่อหลงจวินสี่มหาสมุทร นอกจากนี้ยังมีชุดที่ธิดามังกรตากแดด บัณฑิตละเมอมาเยือนจวนน้ำ กลายเป็นบุตรเขยคนดีอย่างแท้จริงอะไรนั่นอีก
ก็เหมือนอย่างแจกันสมบัติทวีปของพวกเจ้าที่ในอดีตก็มีอาณาเขตของสู่โบราณ ลมคาวฝนประหลาด ผ่านการสืบพันธ์แพร่พันธ์มาหลายพันปี เจียวหลงพากันเดินกร่าง เคยมีชายหาดสองแห่งที่อาณาเขตเชื่อมต่อกัน พวกเซียนกระบี่จากต่างถิ่นชอบมาสังหารมังกรที่นี่ เพื่อใช้สิ่งนี้มาหล่อหลอมคมกระบี่ หากจะพูดถึงการหลอมกระบี่ของผู้ฝึกกระบี่ การขัดเกลาคมกระบี่ แท่นสังหารมังกรในโลกยุคหลังที่มีราคาแต่ไร้ตลาด จะเปรียบเทียบกับเจียวหลงที่แท้จริงได้อย่างไร ถึงอย่างไรเผ่าน้ำก็มีมากนับไม่ถ้วน หาข้ออ้างง่ายๆ สักข้อ เซียนกระบี่ก็สามารถปล่อยกระบี่ออกไปอย่างกำเริบเสิบสานได้แล้ว
คนผู้หนึ่งพูดจ้อเป็นน้ำไหลไฟดับ คนผู้หนึ่งตั้งใจฟัง ทั้งสองฝ่ายเดินไปถึงอาณาเขตของนครในอดีตโดยไม่ทันรู้ตัว
นกขมิ้นตัวหนึ่งบินมาเกาะบนไหล่ของลู่เฉิน
ปีนั้นตั้งแผงดูดวงอยู่ที่ถ้ำสวรรค์หลีจู กิจการซบเซา ช่างน่าเบื่อจริงๆ ลู่เฉินจึงอาศัยนกขมิ้นตัวนี้มาทดสอบชะตาบุ๋นว่ามีมากหรือน้อย จ้าวเหยา ซ่งจี๋ซิน หลิวเสี้ยนหยาง เฉินผิงอัน…คนรุ่นเยาว์ของเมืองเล็กแทบทุกคนต่างก็เคยถูกเจ้าลัทธิลู่ที่อยู่ว่างจนอุดอู้ทดสอบโชคชะตาบุ๋นหมดแล้วทั้งสิ้น
ส่วนเรื่องที่ว่าเหตุใดลู่เฉินถึงได้มองเฉินผิงอันพลาดไปเพียงคนเดียว เขายอมรับชะตากรรมนานแล้ว ถึงอย่างไรก็ไม่ขาดแค่เรื่องสองเรื่องนี้หรอก
เฉินผิงอันยิ้มถาม “เจ้าลัทธิลู่จิตใจกว้างขวาง เป็นหนึ่งไม่เหมือนใคร คงไม่อาฆาตแค้นหลิวเสี้ยนหยางหรอกกระมัง?”
ลู่เฉินยิ้มกล่าว “เจ้าพูดถึงขนาดนี้แล้ว ผินเต้าหรือจะกล้าคว้าจับเรื่องเก่าแก่เล็กเท่าเมล็ดงาในอดีตเอาไว้ไม่ยอมวาง ไม่ใจกว้างเอาเสียเลย”
ปีนั้นตอนอยู่บ้านเกิด หลิวเสี้ยนหยางเคยคว่ำแผงดูดวงของลู่เฉินด้วยท่าทางดุดัน แล้วยังทำท่าจะตีคนด้วย
เฉินผิงอันไม่ได้กังวลว่าการกระทำนี้จะทำให้ลู่เฉินจดจำไม่ลืมเลือน แต่กังวลว่าเหตุใดหลิวเสี้ยนหยางถึงมีการกระทำเช่นนั้น ลู่เฉินจะไล่ตามเส้นสายบางอย่างที่ไม่มีใครรู้ไปแล้ววางแผนสร้างสถานการณ์ ฝังเส้นเบาะแสยาวพันลี้ จากนั้นก็เหมือนเฝ้าตอรอกระต่าย รอคอยหลิวเสี้ยนหยางในอนาคตหรือไม่
ยกตัวอย่างเช่นบรรพบุรุษของหลิวเสี้ยนหยางคือคนเลี้ยงมังกรที่ศาลบุ๋นแต่งตั้งให้
ส่วนลู่เฉินกับมังกรแท้จริงบนโลกก็มีความเกี่ยวพันกันอย่างแนบแน่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งธิดามังกรที่สถานะสูงศักดิ์คนนั้น
น้อยครั้งนักที่เฉินผิงอันจะไม่มีท่าทีแข็งกระด้าง แทบจะแสดงการอ่อนข้อต่อลู่เฉินเช่นนี้
ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการค้า ส่วนใหญ่เขามักจะตาต่อตาฟันต่อฟัน คิดบัญชีอย่างชัดเจนเสมอ
เฉินผิงอันเก็บรอยยิ้ม เอ่ยว่า “ไม่ได้ล้อเล่นกับเจ้าลัทธิลู่นะ”
ลู่เฉินยิ้มอย่างเข้าใจ “ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าวางใจเถอะ วันหน้ารอให้ผินเต้ากลับคืนสู่บ้านเกิดก็จะให้เจ้าได้เป็นเจ้าภาพ ก็แค่เรื่องของการดื่มเหล้าไม่กี่ชามเท่านั้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!