กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 876

ลู่​เฉิน​ม้วน​ชาย​แขน​เสื้อ​ โบกมือ​สร้าง​ตรา​ผนึก​ฟ้าดิน​แห่ง​หนึ่ง​ขึ้น​มา ช่วย​บดบัง​สภาพการณ์​อัน​น่าอนาถ​ที่​ขอบเขต​ถดถอย​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​ ใช้เสียง​ใน​ใจเอ่ย​เตือน​ว่า​ “ใน​เมื่อ​เจ้ามีแผนการ​อยู่​ก่อน​แล้ว​ เรื่อง​ที่อยู่​ไกล​สุดขอบฟ้า​ คิดมาก​ไป​ก็​บังคับ​ควบคุม​อะไร​ไม่ได้​ ถ้าอย่างนั้น​ก็​อย่า​เพิ่ง​ไป​สนใจ​เลย​ เก็บกวาด​เรื่อง​ที่อยู่​ตรงหน้า​ให้​เรียบร้อย​ก่อน​จะดีกว่า​ กลับหัว​กำแพงเมือง​ทันที​เถอะ​”

กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ครึ่งหนึ่ง​คือ​สถานที่​ที่​เขา​ผสาน​มรรคา​ สามารถ​ช่วย​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​สร้าง​ความมั่นคง​ให้​กับ​จิต​แห่ง​มรรคา​และ​ขอบเขต​ได้​

ขุนเขา​สายน้ำ​ใน​ฟ้าดิน​เล็ก​ร่างกาย​มนุษย์​ จิต​แห่ง​มรรคา​ดวง​หนึ่ง​ประหนึ่ง​เรือ​น้อย​หนึ่ง​ลำ​ที่​ล่องลอย​โยกคลอน​ไป​ตาม​คลื่น​ซัดสาด​ ถ้าอย่างนั้น​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ครึ่งหนึ่ง​ที่​ผสาน​มรรคา​ด้วย​ก็​คือ​หิน​ถ่วง​ท้อง​เรือ​ที่​ยอดเยี่ยม​ที่สุด​ใน​ใต้​หล้า​

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ เปิดปาก​พูด​ด้วย​น้ำ​เสียงแหบ​พร่า​ “รอ​สัก​เดี๋ยว​”

ลู่​เฉิน​ถาม “ทำไม​ถึงไม่ปล่อย​ให้​ขอบเขต​ถดถอย​ที่​หัว​กำแพงเมือง​? อย่าง​น้อย​ก็​ไม่ต้อง​เจ็บปวด​ทรมาน​เช่นนี้​”

เฉิน​ผิง​อัน​ให้​คำตอบ​ที่​ทำให้​ลู่​เฉิน​พูดไม่ออก​ “การ​ถดถอย​ด้าน​ขอบเขต​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ แม้ขุนเขา​สายน้ำ​จะปริ​แตก​ แต่กลับ​เป็นประโยชน์​ต่อ​วิถี​วร​ยุทธ​ ตาม​วิธี​ที่​ท่าน​อา​ห​ลี่​ถ่ายทอด​ให้​ สามารถ​ทำให้​ข้า​เข้าใจ​เส้นสาย​ ‘ภูเขา​สายน้ำ​’ ที่เกิด​จาก​การ​รวมตัวกัน​ของ​เลือดเนื้อ​เส้นเอ็น​และ​กระดูก​ได้​มากกว่า​เดิม​ ก็​ถือเป็น​วิธีการ​ที่​ใช้ขัดเกลา​เรือน​กาย​ของ​ผู้ฝึก​ยุทธ​อย่างหนึ่ง​”

ลู่​เฉิน​กระจ่างแจ้ง​ใน​ชั่วพริบตา​

ใน​ชั้น​ปราณ​โชติช่วง​ของ​ผู้ฝึก​ยุทธ​มีความรู้​ที่​ยิ่งใหญ่​มาก​

ไป​เยือน​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​มารอบ​หนึ่ง​ สำหรับ​เฉิน​ผิง​อัน​ที่​ขอบเขต​ถดถอย​อย่าง​น่าสังเวช​แล้ว​ แน่นอน​ว่า​ความทุกข์ยาก​ที่​ต้อง​เผชิญ​จะปล่อย​ให้​เสียเปล่า​ไม่ได้​

ตอนนี้​ข้าง​กาย​คน​ทั้งสอง​ยังมี​ตัวถ่วง​อยู่​อีก​คน​หนึ่ง​ มัน​เงียบงัน​อยู่​ตลอดเวลา​ มอง​ประเมิน​ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​มนุษย์​สอง​คน​นี้​อย่าง​ระมัดระวัง​

คน​หนึ่ง​คือ​ผู้ฝึก​กระบี่​เผ่า​มนุษย์​ที่​อายุ​น้อย​ อีก​คน​หนึ่ง​คือ​คน​ที่​บอ​กว่า​ตัวเอง​เป็น​ลูกสมุน​ของ​ฝ่าย​แรก​

คน​หนึ่ง​ขอบเขต​ถดถอย​ คน​หนึ่ง​ขอบเขต​ไต่​ขึ้น​สูง

นี่​ทำให้​มัน​ประหลาดใจ​อย่าง​มาก​ ตบะ​ขอบเขต​สิบ​สี่เอา​ให้​คนอื่น​ยืม​ได้​ด้วย​หรือ​?

นี่​ทำให้​มัน​จิตใจ​สะท้าน​สะเทือน​ยิ่งกว่า​ได้​เจอ​ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​สิบ​สี่คน​หนึ่ง​เสีย​อีก​

โลก​มนุษย์​ใน​อีก​หมื่น​ปี​ให้หลัง​ มีความมหัศจรรย์​หลากหลาย​จริง​เสีย​ด้วย​

อาศัย​ม้วน​ภาพ​แห่ง​กาลเวลา​ที่​คน​ผู้​นั้น​มอบให้​มัน​ รวมไปถึง​ตำรา​อีก​สอง​สามเล่ม​ที่​คล้ายคลึง​กับ​ ‘จารึก​ภูเขา​และ​ทะเล​’ มัน​จึงรู้​ว่า​คน​ตรงหน้า​ผู้​นี้​คือ​นักพรต​ (เต้า​ซื่อ​)

ใน​ยุค​บรรพกาล​ห่างไกล​ ผู้ฝึก​ลมปราณ​ใน​ใต้​หล้า​ ไม่ว่า​จะเป็น​เผ่า​มนุษย์​หรือ​เผ่า​ปีศาจ​ก็​ล้วน​เรียก​รวมกัน​ว่า​เต้า​เห​ริน​ทั้งหมด​

คิดไม่ถึง​ว่า​ทุกวันนี้​จะมีแบ่ง​เป็น​เซิงเต้า​ (คำ​เรียก​รวม​ภิกษุ​และ​นักพรต​ลัทธิ​เต๋า​) ด้วย​ แต่​ดูเหมือน​จะถูก​นักพรต​ยึดครอง​คำ​ว่า​ ‘เต้า​’ (หรือ​เต๋า​ มรรคา​ นักพรต​ภาษาจีน​ออกเสียง​ว่า​เต้า​ซื่อ​) ไป​ฝ่าย​เดียว​

กวาน​ดอกบัว​ที่​นักพรต​หนุ่ม​สวม​ไว้​บน​ศีรษะ​คือ​หนึ่ง​ใน​สัญลักษณ์​แทน​ตัว​ของ​นักพรต​สามสาย​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิง

ลู่​เฉิน​เอง​ก็​กำลัง​สังเกต​ปีศาจ​ใหญ่​บรรพกาล​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ตน​นี้​อยู่​เช่นกัน​

เพราะ​อยู่​ห่าง​กัน​แค่​ไม่กี่​ก้าว​ จึงกังวล​อย่าง​มากว่า​อีก​ฝ่าย​จะไม่ถามถูก​ผิด​ก็​ปล่อย​กระบี่​ใส่ตน​แล้ว​

ปีศาจ​ใหญ่​ในเวลานี้​เปลี่ยนแปลง​รูปโฉม​เป็น​เด็กหนุ่ม​ มอง​ดูเหมือน​จะมีอายุ​ประมาณ​ยี่สิบ​ปี​ สวม​หมวก​สีเหลือง​รองเท้า​สีเขียว​ สวม​ชุด​ผ้าป่าน​ทั้งตัว​

แต่​มอง​ไป​แล้ว​บน​ร่าง​ไม่มีกลิ่นอาย​ดุร้าย​เลย​แม้แต่น้อย​ กลับกัน​ยัง​เหมือน​บัณฑิต​ไพศาล​ที่​สะพาย​หีบ​หนังสือ​ออก​ทัศนาจร​มากกว่า​ แล้ว​ยัง​เป็น​บัณฑิต​ประเภท​ที่ว่า​ฐานะ​ทางบ้าน​ค่อนข้าง​ยากจน​อีกด้วย​

ปัญหา​อยู่​ที่ว่า​มัน​เหมือน​อะไร​จะมีประโยชน์​กะ​ผายลม​ตรงไหน​ มัน​คือ​ปีศาจ​ใหญ่​บรรพกาล​ที่​พลัง​การต่อสู้​สามารถ​ทัดเทียม​กับ​ราชา​บน​บน​บัลลังก์​เก่า​ของ​เปลี่ยว​ร้าง​ได้​อย่าง​แท้จริง​เชียว​นะ​

ลู่​เฉิน​ใช้เสียง​ใน​ใจถาม “มัน​ก็​จะตาม​ขึ้นไป​บน​หัว​กำแพงเมือง​ด้วย​หรือ​? วิชา​อภินิหาร​แห่ง​ชะตาชีวิต​ของ​เจ้าหมอ​นี่​คล้าย​จะเป็น​การควบคุม​จิตใจ​นะ​ พวกเรา​ต้อง​ระวัง​ไว้​หน่อย​”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ “ให้​มัน​ตามมา​ก็​พอ​”

แน่นอน​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​ต้อง​ไม่เชื่อใจ​มัน​ แต่​เขา​เชื่อใจ​นาง​

บน​เส้น​ทางการ​ฝึก​ตน​ เขา​เคยชิน​แล้ว​ที่จะ​ต้อง​คิด​ปัญหา​ที่​เรียบง่าย​ไป​ใน​ทาง​ที่​ยุ่งยาก​อยู่​ทุกเวลา​นาที​ คิด​ซ้ำไปซ้ำมา​ คิด​เยอะ​แล้ว​คิด​เยอะ​อีก​ มอง​ดูเหมือน​เปลือง​แรง​โดย​ไม่ได้​ผลประโยชน์​อะไร​ แต่​แท้จริง​แล้วก็​เพื่อ​ว่า​สักวันหนึ่ง​ที่​ต้อง​เผชิญหน้า​กับ​สถานการณ์​ซับซ้อน​ที่​ทุกอย่าง​ขมวด​รวมกัน​เหมือน​กอง​เชือก​ยุ่ง​ๆ กอง​หนึ่ง​ จะสามารถ​คลี่คลาย​ให้​ปัญหา​ที่​ซับซ้อน​กลาย​เป็นปัญหา​ที่​ง่ายดาย​ นี่​ก็​เป็น​เหมือน​ต้นไม้​ที่​ผลิดอกออกผล​พร้อมกัน​อย่างหนึ่ง​

ลู่​เฉิน​ยื่นมือ​ไป​จับ​แขน​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ หด​ย่อ​ขุนเขา​สายน้ำ​ไป​ยัง​หัว​กำแพงเมือง​ด้วยกัน​

ไป​ถึงหัว​กำแพงเมือง​ เฉิน​ผิง​อัน​เซไป​เล็กน้อย​ก่อน​จะนั่งลง​ได้​ เขา​นั่งขัดสมาธิ​อยู่​บน​หัว​กำแพงเมือง​ สอง​มือวาง​ทับซ้อน​กัน​ไว้​บน​หัวเข่า​ พ่น​ลมหายใจ​ขุ่นมัว​ออกมา​หนัก​ๆ หนึ่ง​ที​ แม้ว่า​กาย​และ​ใจจะอ่อนระโหย​ ทว่า​เลือด​ลม​ของ​ผู้ฝึก​ยุทธ​กลับ​แกร่ง​กร้าว​ นี่​ทำให้​ปีศาจ​ใหญ่​ตน​นั้น​ต้อง​มอง​เขา​ใหม่​อีกครั้ง​ ระดับ​ความ​แข็งแกร่ง​ทนทาน​ของ​ร่างกาย​ไม่แพ้​ให้​กับ​เผ่า​ปีศาจ​แล้ว​ เห็น​ว่า​คนหนุ่ม​หงาย​ฝ่ามือขึ้น​ หายใจ​เข้าออก​เบา​ๆ โคจร​วัตถุ​แห่ง​ชะตาชีวิต​ห้า​ธาตุ​ ทวาร​ทั้ง​เจ็ด​บน​ใบหน้า​มีไอ​หมอ​กลอย​ออกมา​เหมือน​งูขาว​หลาย​ตัว​ ระหว่าง​ชาย​แขน​เสื้อ​สอง​ข้าง​ก็​ยิ่ง​เหมือน​มีมังกร​เขียว​ล้อม​พัน​ขดตัว​อยู่​

มัน​พยักหน้า​เอ่ย​ชมเชย​ “เป็น​ภาพ​บรรยากาศ​ที่​ดี​”

ไม่รู้​ว่า​ทำไม​ ระหว่าง​ที่​เดินทาง​มาก็ได้​เรียนรู้​ภาษากลาง​ของ​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​และ​ภาษาราชการ​ต้า​หลี​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​จน​เป็น​แล้ว​

ลู่​เฉิน​เอ่ย​เตือน​ “ทาง​ที่​ดี​ที่สุด​ควร​เอา​ของ​นอกกาย​ที่​ไม่เคย​ผ่าน​การหลอม​ใหญ่​ออกมา​ให้​หมด​”

เฉิน​ผิง​อัน​สูด​ลม​หายใจเข้า​ลึก​หนึ่ง​ครั้ง​ ปลด​กระบี่​ยาว​เย่​โหย​ว​ที่​สะพาย​อยู่​ด้านหลัง​ลงมา​ รวมถึง​น้ำเต้า​เลี้ยง​กระบี่​ที่​เอา​มาทำเป็น​กา​เหล้า​หลาย​ปี​ด้วย​

จากนั้น​ปลด​ดาบ​แคบ​สอง​เล่ม​ที่​จักรพรรดิ​และ​ขุนนาง​มีความต่าง​ (เปรียบเปรย​ถึงสถานะ​ที่​แตกต่าง​ มิอาจ​ทัดเทียม​กัน​ได้​) อย่าง​ ‘ลงทัณฑ์​’ และ​ ‘พิฆาต​’ ลงมา​

แส้ปัดฝุ่น​ชิ้น​หนึ่ง​ ค่าย​กล​กระบี่​หนึ่ง​ชุด​ ที่​วาง​พู่กัน​ปะการัง​ สมบัติ​หนัก​สามชิ้น​ที่​ระดับ​ขั้น​เป็น​อาวุธ​เซียน​

ทำเอา​ผู้ฝึก​กระบี่​เผ่า​ปีศาจ​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ที่​มองดู​อยู่​หนังตา​กระตุก​

ไม่ใช่อาวุธ​เทพ​บรรพกาล​ก็​เป็น​อาวุธ​เซียน​ที่​สร้าง​ขึ้น​ใน​ยุค​หลัง​

ลู่​เฉิน​เหมือน​แม่บ้าน​ที่​จ้ำจี้จ้ำไชคน​หนึ่ง​ ถามต่อว่า​ “จะจัดการ​กับ​เจ้าคน​ที่​อยู่ดีๆ​ ก็​โผล่​มาตรงหน้า​ผู้​นี้​อย่างไร​?”

เฉิน​ผิง​อัน​สามารถ​วางใจ​ทำตัว​เป็น​เถ้าแก่​ที่​สะบัดมือ​ทิ้ง​ร้าน​ได้​ แต่​ลู่​เฉิน​กลับ​ไม่วางใจ​ที่​ข้าง​กาย​มีผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ขั้นสูง​สุดคน​หนึ่ง​ยืน​บื้อ​อยู่​ หาก​มีแค่​ตน​ที่อยู่​ตรงนี้​ ต่อให้​ทะเลาะ​ต่อย​ตี​กัน​ต่อหน้า​ก็​ไม่ใช่ปัญหา​ แต่​หาก​ต้อง​ปกป้อง​มรรคา​ให้​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ ลู่​เฉิน​ก็​กลุ้มใจ​จริงๆ​

เห็นได้ชัด​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​ไม่มีความคิด​ที่จะ​โยน​ภาระ​ทิ้ง​ เขา​ไม่รีบร้อน​ปล่อย​จิตใจ​จมจ่อม​ไป​ภายใน​ร่างกาย​ หันหน้า​มาถามว่า​ “ได้​ตั้ง​นามแฝง​ไว้​ให้​ตัวเอง​หรือไม่​?”

ปีศาจ​ใหญ่​ตน​นั้น​คุกเข่า​ลง​ทันที​ เอ่ย​เสียง​เบา​ว่า​ “ไม่เคย​”

เฉิน​ผิง​อัน​คิด​แล้วก็​ให้​ข้อเสนอแนะ​ว่า​ “ไม่สู้ใช้ฉายา​ว่า​สี่จู๋ สี่จาก​คำ​ว่า​มงคล​ จู๋จาก​คำ​ว่า​เปลว​เทียน​ สหาย​คิด​ว่า​เป็น​อย่างไร​?”

ปีศาจ​ใหญ่​พยักหน้า​ “เป็น​ชื่อ​ที่​ดี​”

ดูเหมือน​มัน​จะรู้สึก​ว่า​แสดง​ความจริงใจ​ได้​ไม่มาก​พอ​ จึงเอ่ย​เพิ่ม​มาอีก​คำ​ “โชคดี​อย่าง​มาก​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “แต่​ว่าที่​บ้านเกิด​ของ​ข้า​ ไม่ว่า​จะเป็น​ผู้ฝึก​ตน​หรือ​คนธรรมดา​ทั่วไป​ หาก​คิด​จะลงหลักปักฐาน​ก็​ต้อง​มีสำมะโนครัว​ด้วย​ เจ้าสามารถ​ตั้ง​นามแฝง​ให้​ตัวเอง​ได้​อีก​ชื่อ​หนึ่ง​”

ร่าง​จริง​ของ​ปีศาจ​ใหญ่​ตน​นี้​เป็น​แค่​แมงมุมตัว​หนึ่ง​เท่านั้น​

และ​ชื่อ​เรียก​อีก​อย่างหนึ่ง​ของ​แมงมุมก็​คือ​ชิน​เค่อ​ สี่จื่อ​

ดังนั้น​ที่​เมือง​เล็ก​บ้านเกิด​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​จึงมีคำพูด​เก่าแก่​ที่​สืบทอด​กัน​มาปากต่อปาก​ ‘แมงมุมรวม​ร้อย​เรื่อง​น่ายินดี​’ พวก​คน​เฒ่าคนแก่​ต่าง​ก็​เห็น​การ​ชักใย​ของ​แมงมุมเป็น​นิมิตหมาย​ของ​เรื่อง​มงคล​ หาก​ใน​บ้าน​มีใยแมงมุม​ ไม่ว่า​จะมีแมงมุมอยู่​หรือไม่​ โดยทั่วไปแล้ว​เจ้าของบ้าน​ก็​มักจะ​ไม่ปัดกวาด​เช็ดถู​ มีเพียง​ช่วง​ปีใหม่​เท่านั้น​ที่​ผู้เฒ่า​จะใช้ไม้กวาด​ม้วน​มัน​ขึ้นไป​เบา​ๆ แล้ว​ค่อย​ให้​พวก​เด็ก​ๆ ใน​บ้าน​รับ​ไม้กวาด​ไป​ พา​ออก​ไป​นอกบ้าน​ ระหว่างทาง​เด็ก​ที่​กอด​ไม้กวาด​ไว้​ใน​อ้อม​อก​ยัง​ต้อง​เอ่ย​ประโยค​ทำนอง​ว่า​ ‘ขอบคุณ​มงคล​เก่า​ ขอ​เพิ่ม​มงคล​ใหม่​’ ซึ่งมีความหมาย​โดยนัย​คือ​บอกลา​สิ่งเก่า​ต้อนรับ​สิ่งใหม่​

รอ​กระทั่ง​เฉิน​ผิง​อัน​ออกจาก​บ้านเกิด​เดินทางไกล​ก็​สังเกตเห็น​อี​กว่า​ใต้​หล้า​ไพศาล​ยังมี​เทศกาล​ซีซี สตรี​จะสวม​เสื้อผ้า​ใหม่เอี่ยม​ เอา​พวก​ผลไม้​ขนม​กิน​เล่น​มาวาง​ไว้​กลาง​ลานบ้าน​ จัดเรียง​ให้​เหมือน​แมงมุมชักใย​ รวมไปถึง​จะตัด​กระดาษ​หลาก​สีด้วยตัวเอง​ หลังจาก​จุด​ธูป​หอม​จุด​เทียน​แล้ว​ สตรี​จะถือ​ด้าย​สีไว้​ใน​มือ​ หันหน้า​เข้าหา​เงาของ​แสงเทียน​ แล้ว​เอา​ด้าย​ร้อย​รู​เข็ม​เพื่อ​ขอพร​ด้าน​งานฝีมือ​จาก​สวรรค์​

หาก​จะบอ​กว่า​ร่าง​จริง​ของ​เซียน​กระบี่​ใหญ่​จางลู่​คือ​เทียน​ลู่​ซึ่งเป็น​สัตว์​แห่ง​ความ​มงคล​ประเภท​หนึ่ง​ ถ้าอย่างนั้น​แมงมุมก็​เป็น​แมงแห่ง​ความ​มงคล​ที่​เป็น​นิมิตหมาย​อัน​ดี​ เฉิน​ผิง​อัน​ยัง​เคย​สังเกตเห็น​ว่า​บน​ภาพวาด​ฝาผนัง​ใน​วัด​บางแห่ง​และ​ใน​อักษร​ภาพ​ของ​นักประพันธ์​บางคน​ต่าง​ก็​วาดภาพ​ใยแมงมุม​ห้อย​ลงมา​แล้ว​มีแมงมุมห้อย​ต่องแต่ง​ลอยตัว​อยู่​ ซึ่งมีคำ​เรียกขาน​ที่​งดงาม​ว่า​ ‘ความ​มงคล​หล่น​ลงมา​จาก​ฟ้า’

ต้อง​รู้​ว่า​ตอนที่​เฉิน​ผิง​อัน​อยู่​หน้า​ธรณีประตู​ห้อง​ของ​หอ​ชิงฝู หาก​ไม่ได้ยิน​ประโยค​ว่า​ ‘ขอให้​ท่าน​ร่ำรวย​’ เขา​ก็​จะไม่ยอม​ขยับ​เท้า​เดิน​ไป​ไหน​เด็ดขาด​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!