กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 877

สรุปบท บทที่ 877.2 ต่างคนต่างมีท่าเรือ: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

บทที่ 877.2 ต่างคนต่างมีท่าเรือ – ตอนที่ต้องอ่านของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

ตอนนี้ของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 877.2 ต่างคนต่างมีท่าเรือ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เจิ้งจวี​จงเคย​รับปาก​ชุย​ฉาน​ว่า​จะช่วย​ปกป้อง​มรรคา​ให้​ศิษย์​น้อง​เล็ก​ของ​เขา​ระยะทาง​หนึ่ง​

หาก​นี่​ยัง​ไม่ใช่การปกป้อง​มรรคา​อีก​ แล้ว​แบบ​ไหน​จึงจะใช่?

ชุยตง​ซาน​เอ่ย​อย่าง​อัดอั้น​ “คน​บางคน​ก็​ดีแต่​รังแก​ที่​อาจารย์​ข้า​อายุ​น้อย​ ขอบเขต​ไม่สูง”

เจิ้งจวี​จงหยุด​เดิน​

ไม่ถือสา​ที่​ชุยตง​ซาน​พูดจา​กระทบกระเทียบ​ ก็​แค่​รู้สึก​ว่า​คำพูด​ประโยค​นี้​ของ​ชุยตง​ซาน​พูด​เหมือน​คนอ่อนแอ​เกินไป​

คนอ่อนแอ​ไม่ใช่ว่า​ร่างกาย​บอบบาง​ มือ​เท้า​ไร้​กำลัง​ ไม่ใช่มนุษย์​ธรรมดา​ใน​สายตา​ของ​คน​บน​ภูเขา​ แล้วก็​ไม่ใช่คนกลาง​ภูเขา​ใน​สายตา​ของ​ผู้ฝึก​ตน​บน​ยอดเขา​

แต่​เป็น​คน​ที่​เวลา​เจอ​เรื่อง​อะไรก็ตาม​แต่​ มักจะ​ชอบ​หา​ข้ออ้าง​ เป็น​เพราะ​นิสัยใจคอ​ของ​คน​คน​นั้น​อ่อนแอ​เกินไป​

ชุยตง​ซาน​ชูสอง​มือขึ้น​ “ถือว่า​ข้า​ผายลม​ก็แล้วกัน​”

น้อย​ครั้ง​นัก​ที่​ต้อง​สะอึก​อึ้ง​พูดไม่ออก​เช่นนี้​

ใคร​ให้​เจ้าคน​ที่อยู่​ข้าง​กาย​ก็​คือ​เจิ้งจวี​จงเล่า​

อาจารย์​ผู้​มีพระคุณ​ที่​ถ่ายทอด​มรรคา​ให้​กับ​เจิ้งจวี​จงอย่าง​เฉินจั๋ว​หลิว​คน​พิฆาต​มังกร​ ต่อให้​เขา​ยินดี​ออก​กระบี่​ แต่​ก็​ไม่แน่​เสมอไป​ว่า​จะปกป้อง​อาณาเขต​ของ​หลง​โจว​ได้​อย่าง​ครอบคลุม​ขนาด​นี้​

ใน​ความเห็น​ของ​ชุยตง​ซาน​ คน​ที่​คู่​ควรจะ​ถูก​เรียก​ว่า​เป็น​ผู้​บรรลุ​มรรคา​ที่​มีพร้อมทั้ง​ป้องกัน​และ​โจมตี​อย่าง​แท้จริง​ มีน้อย​จน​นับ​นิ้ว​ได้​ เจ้านคร​จักรพรรดิ​ขาว​ยึด​ครองตำแหน่ง​หนึ่ง​ใน​นั้น​ไป​ได้​อย่าง​มั่นคง​

ชุยตง​ซาน​สอด​สอง​มือ​ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ ถามว่า​ “ใน​เมื่อ​เรื่องราว​ก็​ยุติ​ลง​แล้ว​ ยัง​จะเดินเล่น​อยู่​ที่นี่​อีก​หรือ​?”

เจิ้งจวี​จงกล่าว​ “ข้า​กำลัง​รอ​ทาง​หนี​ที​ไล่​อย่าง​ที่สอง​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​อย่าง​ห​ลี่​ซีเซิ่ง แต่​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ยัง​ใจอ่อน​เกินไป​ ทั้ง​ไม่ยินดี​จะขอร้อง​ข้า​ แล้วก็​ไม่ยินดี​จะถ่วงเวลา​การ​ฝึก​ตน​ของ​ห​ลี่​ซีเซิ่ง ก็​เลย​ได้​แต่​ทำการค้า​กับ​ข้า​แทน​”

คน​ผู้​หนึ่ง​ที่​ตบะ​และ​ศักยภาพ​ไม่สามารถ​ใช้ขอบเขต​สูงต่ำ​ ไม่สามารถ​ใช้หลักการ​ทั่ว​ไปมา​ประเมิน​ได้​

หลิ่ว​ชื่อ​เฉิงผู้​เป็น​ศิษย์​น้อง​เคย​นำ​ความ​ของ​ห​ลี่​ซีเซิ่งมาบอกต่อ​แก่​ตน​

เจิ้งจวี​จงจึงรอคอย​อย่างยิ่ง​ที่จะ​ได้​เล่น​หมากล้อม​กับ​ห​ลี่​ซีเซิ่ง

ชุยตง​ซาน​ถาม “หาก​อาจารย์​ของ​ข้า​ขอร้อง​ท่าน​ จะเป็น​อย่างไร​?”

เจิ้งจวี​จงกล่าว​ “ยัง​จะเป็น​อย่างไร​ ข้า​ไม่มีทาง​ตอบ​ตกลง​”

จู่ๆ ซิ่ว​ไฉเฒ่าคน​หนึ่ง​ก็​มาโผล่​ด้านหลัง​คน​ทั้งสอง​ เอา​มือหนึ่ง​กดหัว​ชุยตง​ซาน​แล้ว​ผลัก​ออก​ไป​ด้าน​ข้าง​ ยื่นมือ​มาคว้า​แขน​เจิ้งจวี​จงเอาไว้​ หัวเราะ​ฮ่าๆ เอ่ย​ว่า​ “อาจารย์​เจิ้ง อาจารย์​เจิ้ง โปรด​หยุด​ก่อน​ ไป​ กลับ​ไป​ดื่ม​ชากัน​”

เจิ้งจวี​จงหยุด​เดิน​ ส่าย​หน้ายิ้ม​เอ่ย​ “อาจารย์​เห​วิน​เซิ่ง ชาคง​ไม่ดื่ม​แล้ว​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าพูด​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ “อาจารย์​เจิ้งโปรด​ไว้หน้า​ข้า​ด้วย​!”

อุตส่าห์​พูดจา​ตรงไปตรงมา​ขนาด​นี้​แล้ว​ ก่อนหน้า​นั้น​เร่งร้อน​เดินทาง​มายัง​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ แอบ​ฟังมาตลอดทาง​ ในที่สุด​ซิ่ว​ไฉเฒ่าก็​อด​ทนไม่ไหว​แล้ว​ แน่นอน​ว่า​เจิ้งจวี​จงย่อม​รู้ดี​อยู่​แก่​ใจ ก็​แค่​ไม่ได้​เปิดโปง​เท่านั้น​

เจิ้งจวี​จงสะอึก​อึ้ง​พูดไม่ออก​

เป็นเรื่อง​ที่​ไม่เคย​เกิดขึ้น​มาก่อน​

ซิ่ว​ไฉเฒ่าขยุ้ม​ชาย​แขน​เสื้อ​ของ​เจิ้งจวี​จงเอาไว้​แน่น​ เอ่ย​เสียง​บา​ “คน​ฉลาด​ไย​ต้อง​ทำให้​คนดี​ลำบากใจ​ด้วย​เล่า​”

ชุยตง​ซาน​เงียบงัน​ไม่พูดไม่จา​ เอาแต่​มอง​ใบ​หน้าด้าน​ข้าง​ของ​ซิ่ว​ไฉเฒ่าอย่าง​เหม่อลอย​

เจิ้งจวี​จงหัวเราะ​ หันไป​มอง​ทาง​โต๊ะ​ พยักหน้า​เอ่ย​ “น้ำชา​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ไม่เลว​เลย​จริงๆ​ ถ้าอย่างนั้น​ข้า​ก็​จะใช้ทรัพย์สิน​ของ​คนอื่น​มาสร้าง​ประโยชน์​ให้​กับ​ตัวเอง​ เชิญเห​วิน​เซิ่งดื่ม​ชา?”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าลาก​เจิ้งจวี​จงเดิน​กลับ​ไป​ หัวเราะ​ร่า​เอ่ย​ว่า​ “ประเสริฐ​ยิ่ง​แล้ว​!”

ทว่า​ชุยตง​ซาน​กลับ​ยัง​ยืน​อยู่​ที่​เดิม​

ซิ่ว​ไฉเฒ่าหันมา​ถลึงตา​ใส่ “มัว​ยืน​อึ้ง​อยู่​ทำไม​ รีบ​ไป​ริน​น้ำชา​เข้า​สิ เจ้านี่​ตาไม่มีแวว​เอา​เสีย​เลย​ แย่​กว่า​หมี่​ลี่​น้อย​ตั้ง​หนึ่ง​แสน​แปด​พัน​ลี้​!”

ชุยตง​ซาน​เค้น​รอยยิ้ม​ออกมา​ แล้ว​วิ่ง​ตุปัดตุเป๋​ไป​แย่ง​หน้าที่​ยก​น้ำ​ส่งชาที่​โต๊ะ​

ซิ่ว​ไฉเฒ่าใช้เสียง​ใน​ใจเอ่ย​กับ​เจิ้งจวี​จง “ขอบคุณ​มาก​”

ยาม​ที่​ขอร้อง​คนอื่น​ต้อง​หน้าหนา​ ตอนที่​ขอบคุณ​คนอื่น​ต้อง​หน้าบาง​

เจิ้งจวี​จงมอง​แผ่น​หลัง​ของ​เด็กหนุ่ม​ชุด​ขาว​แล้ว​ใช้เสียง​ใน​ใจตอบ​ว่า​ “เห​วิน​เซิ่งไม่ต้อง​ขอบคุณ​ อันที่จริง​ข้า​เอง​ก็​มีใจเห็นแก่ตัว​ เขา​จะไม่ใช่ลูกศิษย์​คน​แรก​ของ​สาย​เห​วิน​เซิ่งก็ได้​ แต่​เขา​จำเป็นต้อง​เป็น​ซิ่ว​หู่​คน​ใหม่​ที่​แข็งแกร่ง​ยิ่งกว่า​เดิม​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าไม่ยอมรับ​และ​ไม่ปฏิเสธ​ “วันหน้า​ข้า​จะต้อง​ไป​เป็น​แขก​ที่​นคร​จักรพรรดิ​ขาว​บ่อยๆ​ แน่นอน​”

เจิ้งจวี​จงยิ้ม​กล่าว​ “เห​วิน​เซิ่งขาด​สุรา​ ข้า​สามารถ​ให้​คน​เอา​ไป​ส่งให้​ที่​ศาล​บุ๋น​ได้​”

เห็นได้ชัด​ว่า​เป็น​คำเตือน​ว่า​เจ้าซิ่ว​ไฉเฒ่าอย่า​ได้​ไป​ที่นั่น​เลย​

ซิ่ว​ไฉเฒ่ากระทืบเท้า​พูด​บ่น​ “จะมาเกรงใจ​ข้า​ทำไม​ ห่างเหิน​กัน​เกินไป​แล้ว​นะ​!”

……

ใต้​หล้า​สี่แห่ง​ ฤดูกาล​มีความต่าง​ มีใบไม้​ร่วง​ ร้อน​ ใบไม้​ผลิ​ หนาว​เหมือนกัน​พอดี​ ต่าง​ก็ได้​ครอบครอง​กัน​อย่าง​ละ​ฤดูกาล​

ห้า​นคร​สิบสอง​หอ​เรือน​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ห้า​นคร​ใน​นั้น​แบ่ง​ออก​เป็น​นคร​ชิงชุ่ย​ นคร​ห​ลิง​เป่า​ นคร​หนัน​หัว​ นคร​เสิน​เซียว​ นคร​อวี้​ก่า​ง

ด้านใน​นคร​ชิงชุ่ย​มีที่ตั้ง​เก่า​ของ​หุบเขา​หา​น​กู่​ สระ​เหมี่ยว​ฉือ​ ป่า​ท้อ​ของ​นคร​เสิน​เซียว​ รวมไปถึง​ ‘สถานที่​เมฆขาว​ก่อกำเนิด​’ ล้วน​เป็น​สถานที่​ที่​ทิวทัศน์​งดงาม​มีชื่อเสียง​เลื่องลือ​ไป​ทั้ง​ใต้​หล้า​

รอง​เจ้านคร​ของ​นคร​ทั้ง​ห้า​ จำนวน​มีตั้งแต่​หนึ่ง​ถึงสอง​สามคน​ ไม่เท่ากัน​ ล้วน​ขึ้นอยู่กับ​ความพอใจ​ของ​เจ้านคร​ อย่าง​นคร​หนัน​หัว​ก็​มีมาก​ถึงสามคน​ บิน​ทะยาน​หนึ่ง​คน​เซียน​เห​ริน​สอง​คน​ หาก​ศิษย์​พี่​อวี๋​โต้​ว​ไม่ห้าม​ไว้​ ลู่​เฉิน​ก็​สามารถ​เพิ่ม​รอง​เจ้านคร​ได้​อีก​สอง​ถึงสามคน​ ถึงขั้น​จะยอม​แหก​กฎ​ให้​ขอบเขต​หยก​ดิบ​รับหน้าที่​เป็นรอง​เจ้านคร​ด้วยซ้ำ​ไป​

ป๋า​ยอ​วี้​จิงมีแค่​หนึ่ง​นคร​กับ​สอง​หอ​เรือน​เท่านั้น​ที่​มีความเคยชิน​ใน​การข้าม​ปี​พอๆ กับ​ขนบธรรมเนียม​ของ​ล่าง​ภูเขา​ นคร​ชิงชุ่ย​ที่​มีอีก​ชื่อว่า​ ‘นคร​อวี้​หวง​’ และ​ยังมี​หอ​อวิ๋นสุ่ย​กับ​หอ​หลิน​หลา​ง

เด็กน้อย​สอน​เขียน​ยันต์​ท้อ​ นักพรต​มอบให้​กลับคืน​ทุกปี​

ไม่หลับ​ไม่นอน​เพื่อ​เฝ้าคืน​ โลก​มนุษย์​มีอายุ​เพิ่ม​อีก​หนึ่ง​ปี​ ขอพร​ให้​กับ​ใต้​หล้า​ ทุก​บ้าน​ทุก​ครอบครัว​ราบรื่น​ปลอดภัย​ มีความสุข​สมหวัง​

สำหรับ​ผู้ฝึก​ตน​ที่​ไม่รู้​ร้อน​รู้​หนาว​แล้ว​ อันที่จริง​นี่​คือ​ปัญหา​ที่​ไม่ใหญ่​ไม่เล็ก​อย่างหนึ่ง​ กลอน​คู่​ที่​ต้อง​ติด​ก่อน​วัน​ปีใหม่​ พอ​ถึงเทศกาล​หยวน​เซียว​ก็​ต้อง​เอา​ลง​

อีก​ทั้ง​ยัง​ต้อง​วาด​ยันต์​ท้อ​ แขวน​ไว้​ตามที่​ต่างๆ​ โชคดี​ที่​เคยชิน​จน​กลาย​เป็นธรรมชาติ​ไป​แล้ว​ จึงกลายเป็น​ว่า​ดีขึ้น​มาหน่อย​ แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​คน​ที่​มีความสุข​ที่สุด​ยังคง​เป็น​พวก​นักพรต​น้อย​ที่​อายุ​ไม่มาก​ทั้งหลาย​ ไม่เพียงแต่​ครึกครื้น​สนุกสนาน​ ประเด็นสำคัญ​คือ​ยัง​ได้​ซอง​แดง​มาอีก​กอง​ใหญ่​ จับกลุ่ม​แวะเวียน​ไป​ตาม​บ้าน​ต่างๆ​ ไป​สวัสดี​ปีใหม่​กับ​พวก​ผู้อาวุโส​ทั้งหลาย​ ได้เงิน​เกล็ด​หิมะ​สอง​สามเหรียญ​มาจาก​ตรงนี้​ ได้​อีก​สามสี่เหรียญ​จาก​ตรงนั้น​ บางครั้ง​ยัง​ได้​ซอง​แดง​ซอง​ใหญ่​ที่​บรรจุ​เงินร้อน​น้อย​ไว้​หนึ่ง​ถึงสอง​เหรียญ​อีกด้วย​ เอา​มารวมกัน​แล้วก็​กลายเป็น​เงิน​ยา​สุ้ย​ก้อน​ไม่เล็ก​เลย​

นักพรต​ซุน​ทอดถอนใจ​ไม่หยุด​ เมื่อครู่นี้​มอง​ปราด​ๆ ได้​เห็น​กวาน​ดอกบัว​บน​ศีรษะ​ของ​สหาย​น้อย​เฉิน​ รวมไปถึง​เจ้าลัทธิ​ลู่​ที่อยู่​ด้านใน​ซึ่งพยายาม​โบกไม้โบกมือ​ให้​ตน​ เขา​ลูบ​หนวด​ยิ้ม​ “จำต้อง​ยอมรับ​ว่า​ คราวนี้​เจ้าสามสร้าง​คุณ​ความชอบ​ไว้​ไม่เล็ก​เลย​ หาก​เปลี่ยน​ข้า​ไป​เป็น​ผู้​ไร้​เทียมทาน​ที่​แท้จริง​คน​นั้น​จะต้อง​ให้อาหาร​ร้อน​ๆ แก่​ศิษย์​น้อง​เล็ก​หลาย​ๆ คำ​ใหญ่​เชียว​ล่ะ​”

มอบ​ฉายา​ให้​สหาย​เปล่าๆ​ เติม​อิฐ​เพิ่ม​กระเบื้อง​ ปัก​บุปผา​ลง​บน​ผ้าแพร​ หาก​นักพรต​ซุน​เรียก​ตัวเอง​ว่า​เป็น​อันดับ​สอง​ใน​ใต้​หล้า​ก็​ไม่มีใคร​กล้า​บอ​กว่า​ตัวเอง​คือ​ปรมาจารย์​ยอด​ฝีมือ​อันดับ​หนึ่ง​อีกแล้ว​

“สหาย​น้อย​เฉิน​ที่​เรียก​ได้​ว่า​เป็น​เพื่อนสนิท​รู้ใจ​ของ​ผิน​เต้า​คน​นั้น​ ท่วงท่า​องอาจ​ผึ่งผาย​ เสน่ห์​เฉิดฉาย​ยิ่งกว่า​วันวาน​เสีย​อีก​ ดู​จาก​ภาพ​บรรยากาศ​แห่ง​ทรัพย์​สินบน​ร่าง​ของ​เขา​แล้ว​ ดู​ท่าจะ​กลับ​ไป​ทำ​อาชีพ​เก่า​ ได้​กำไร​เป็นกอบเป็นกำ​อีกแล้ว​?”

เพราะ​ถึงอย่างไร​การกระทำ​ ‘แบก​บ่อ​จาก​บ้านเกิด​’ (เปรียบเปรย​ถึงการ​ผลัด​ที่​นาคา​ที่อยู่​ เร่ร่อน​ไกล​บ้าน​ ในที่นี้​หมายถึง​ตอนที่​เฉิน​ผิง​อัน​แบก​ฝ้าเพดาน​ออก​ไป​จาก​พื้นที่​มงคล​ใน​อดีต​) อย่าง​จริง​แท้​แน่นอน​ครานั้น​ก็​ไม่ใช่ว่า​ใคร​ก็​ทำได้​

คราวก่อน​เดินทางไกล​ไป​ต่างบ้านต่างเมือง​ ได้รับ​ลูกศิษย์​ที่​ได้รับ​การ​บันทึก​ชื่อ​สอง​คน​มาจาก​อุตรกุรุทวีป​ของ​ใต้​หล้า​ไพศาล​

คือ​จาน​ฉิงท่าน​โหว​น้อย​จาก​แคว้น​เป่ยถิง​ และ​ตี๋​หยวน​เฟิงที่​สวม​รอง​เท้าสาน​ถือ​ไม้เท้า​ไม้ไผ่​ตลอด​การ​เดินทาง​

เดิมที​หลิ่ว​กุ้ย​เป่า​แห่ง​จวน​ไฉ่เชวี่ย​ก็​สามารถ​กลาย​มาเป็น​ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​ของ​เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​ได้​ แต่กลับ​คลาด​กัน​ไป​

หาก​พูดตาม​คำกล่าว​ของ​นักพรต​ซุน​ก็​คือ​คนแก่​อายุ​มาก​แล้​วจะ​ต้อง​คบค้าสมาคม​กับ​คน​รุ่นเยาว์​ให้​มาก​ๆ จะได้​เพิ่ม​ความ​สดใส​มีชีวิตชีวา​ ขัดเกลา​เอา​ความ​แก่​ชรา​ทิ้ง​ไป​

เพียงแต่​เรื่อง​ของ​การ​ถ่ายทอด​มรรคา​ ตัว​เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​เอง​ไม่ได้​ใส่ใจมาก​นัก​ ถึงอย่างไร​ศิษย์​ลูกศิษย์​หลาน​ใน​อาราม​ก็​มีเยอะ​อยู่แล้ว​ เรื่อง​การ​ถ่ายทอดวิชา​ความรู้​ยังมี​น้ำอดน้ำทน​ดี​ยิ่งกว่า​เขา​ จึงมอบ​จาน​ฉิงและ​ตี๋​หยวน​เฟิงไป​ให้​กับ​ลูกศิษย์​ที่​อายุ​มาก​สอง​คน​ นักพรต​เฒ่าให้เหตุผล​ว่า​ เพื่อให้​สยบ​ใจคน​ได้​ ไม่ให้​ใน​ศาล​บรรพ​จารย์​มีความเห็น​ต่าง​ใดๆ​ ระหว่าง​พวก​เจ้าศิษย์​พี่​ศิษย์​น้อง​ก็​ควร​ไปมาหาสู่​กัน​ให้​สนิทสนม​มากขึ้น​ ไม่อย่างนั้น​ปี​ๆ หนึ่ง​พบ​หน้า​กัน​แค่​ไม่กี่​ครั้ง​ก็​ไม่เข้าท่า​เอา​เสีย​เลย​

สวี​เจวี้ยน​เจ้าสำนัก​หนุ่ม​ของ​สำนัก​ต้า​เฉา ทุกวันนี้​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​ผี​ขอบเขต​หยก​ดิบ​

เขา​จับมือ​กับ​คนรัก​ทะยาน​ลม​มาตลอดทาง​ ฝ่าย​หลัง​คือ​นักพรต​หญิง​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ขั้นสูง​สุดคน​หนึ่ง​ มีนาม​ว่า​เฉาเก​อ​ ฉายา​คือ​ฟู่คาน​

และ​นาง​ก็​ยิ่ง​เป็น​บรรพ​จารย์​เปิด​ภูเขา​ของ​ภูเขา​เหลี่ยง​จิง

สำนัก​ใหญ่​ฝ่าย​ลัทธิ​เต๋า​ที่​แค่​เห็น​หน้า​กัน​ก็​ต้อง​ต่อสู้​กัน​เอาเป็นเอาตาย​สอง​แห่ง​นี้​ ใน​ประวัติศาสตร์​ต่าง​ก็​เคย​ก่อตั้ง​สำนัก​เบื้องล่าง​กัน​มาก่อน​ ผล​ปรากฏ​ว่าต่าง​ก็​ถูก​สำนัก​ฝ่ายตรงข้าม​ทำลาย​จน​ไม่เหลือ​อยู่แล้ว​ นี่​แสดงให้เห็น​ว่า​ความแค้น​ระหว่าง​สอง​สำนัก​นั้น​ยิ่งใหญ่​แค่​ไหน​

ดังนั้น​นักพรต​ซุน​จึงต้อง​ออกหน้า​ด้วยตัวเอง​ เอ่ย​ถ้อยคำ​จาก​ใจจริง​อย่าง​คน​สุขุม​และ​มีประสบการณ์​

ใต้​หล้า​นี้​ไม่มีเรื่อง​ใด​ที่​การ​แต่งงาน​เชื่อม​สัมพันธ์​คลี่คลาย​ไม่ได้​!

พอ​คำพูด​นี้​เอ่ย​ออ​อก​ไป​ ตลอดทั้ง​ใต้​หล้า​ก็​พา​กัน​ชื่นชม​สรรเสริญ​ไม่หยุด​

ยังคง​เป็น​เจ้าอาราม​ซุน​ที่​พูดจา​ได้​มีระดับ​ มีน้ำหนัก​

เล่าลือ​กัน​ว่า​เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​ดื่มเหล้า​มงคล​ใน​งานเลี้ยง​แต่งงาน​ครั้งนั้น​แล้ว​ พอ​กลับ​มาถึงอาราม​บ้าน​ตัวเอง​ก็​ไปหา​แม่นาง​น้อย​คน​หนึ่ง​ที่​ลำดับ​อาวุโส​ต่ำสุด​และ​อายุ​ยัง​น้อย​มาก​ เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​เอ่ย​สั่งสอน​นาง​ด้วย​ความปรารถนาดี​ บอ​กว่า​พยายาม​ให้​มาก​เข้า​ โตมา​ให้​หน้าตา​งดงาม​เข้า​ไว้​ วันหน้า​พยายาม​ให้​เจ้าลัทธิ​ลู่​กลาย​มาเป็น​เขย​ที่​แต่ง​เข้า​อาราม​บ้าน​เรา​ให้ได้​

แม่นาง​น้อย​พยักหน้า​รับ​อย่าง​แรง​ เปี่ยมล้น​ไป​ด้วย​ความมั่นใจ​

ก็​อาจารย์​ปู่​พูด​แล้ว​นี่​นา​ บอ​กว่า​เจ้าคน​บ้ากาม​ที่​ชื่อว่า​ลู่​เฉินคน​นั้น​หลงรัก​นาง​ตั้งแต่​แรกเห็น​ ทุกๆ​ สอง​วัน​สามวัน​จะต้อง​ปีน​กำแพง​มาแอบมอง​ตน​

แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​เจ้าอ้วน​เยี่ยน​ก็​เอ่ย​ประโยค​ที่​เป็น​ข้อยืนยัน​ได้​ ดังนั้น​นี่​จึงไม่ใช่ว่า​นาง​คิด​เหลวไหล​ไป​เอง​

เจ้าอ้วน​เยี่ยน​ที่อยู่​ใน​อาราม​ทำการค้า​ได้​เจริญรุ่งเรือง​มาก​ ลำพัง​แค่​ตราประทับ​ร้อย​เซียน​กระบี่​เล่ม​หนึ่ง​ ยอดขาย​ก็​มากมาย​น่าดู​ชม ส่วน​ราคา​น่ะ​หรือ​ ออกจะ​แพง​ไป​สักหน่อย​

ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ก็​มีตำรา​ตราประทับ​สอง​ร้อย​เซียน​กระบี่​ที่​จัดพิมพ์​อย่าง​ประณีต​งดงาม​ แล้ว​ยังมี​คำนำ​ของ​ป๋า​ย​เห​ย่​วางขาย​อีก​ แบ่ง​ออก​เป็น​สอง​เล่ม​ เล่น​บน​และ​เล่ม​ล่าง​ ตราประทับ​สอง​เล่ม​ เล่ม​บน​ขาย​แยก​ ราคา​สอง​เหรียญ​เงินร้อน​น้อย​ เล่ม​ล่าง​ขาย​แยก​ราคา​สามเหรียญ​เงินร้อน​น้อย​ หรือว่า​คำนำ​จาก​ป๋า​ย​เห​ย่​ไม่มีค่า​พอ​สำหรับ​เงินร้อน​น้อย​หนึ่ง​เหรียญ​?

ตำรา​สอง​เล่ม​ขาย​รวมกัน​สามเหรียญ​เงินร้อน​น้อย​ คนโง่​เท่านั้น​ถึงจะไม่ซื้อ​สอง​เล่ม​

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!