กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 878

ซิ่ว​ไฉเฒ่ารีบ​เก็บ​เมล็ด​แตง​กำมือ​นั้น​ใส่ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ เดิน​เร็ว​ๆ มาหา​คน​ทั้งสอง​ แต่กลับ​ไม่ได้​พูด​อะไร​กับ​ลูกศิษย์​คน​สุดท้าย​ก่อน​ มอง​ไป​ที่​หนิง​เหยา​ ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “แม่หนู​หนิง​ มาเจอ​กับ​เจ้าคน​ที่​ไม่รู้จัก​อยู่​เฉย​ผู้​นี้​ เจ้าก็​อภัย​ให้​เขา​หน่อย​นะ​ วันใด​รู้สึก​น้อยเนื้อต่ำใจ​มาก​จริงๆ​ ก็​อย่า​ไป​สน​ว่า​เรื่อง​นั้น​จะผิด​หรือ​ถูก​ ห้าม​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​ไม่มีเหตุผล​ สงสัย​ว่า​ตัวเอง​ทำ​เรื่องเล็ก​ให้​เป็น​เรื่องใหญ่​หรือไม่​เด็ดขาด​ ห้าม​คิดถึง​เรื่อง​พวก​นี้​เลย​ มาฟ้อง​ข้า​ได้​อย่าง​เปิดเผย​ ข้า​ที่​เป็น​อาจารย์​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​จะต้อง​ช่วย​เจ้าด่า​เขา​ จะไม่เข้าข้าง​เจ้าเด็ก​นี่​แน่นอน​!”

คาด​ว่า​ใต้​หล้า​นี้​คง​มีแต่​หนิง​เหยา​ที่​ทะเลาะ​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​เท่านั้น​ที่​ซิ่ว​ไฉเฒ่าจะไม่มีทาง​ช่วย​ลูกศิษย์​ของ​ตัวเอง​

เรื่องราว​บน​โลก​มนุษย์​ อันที่จริง​มีแบ่ง​ดี​เลว​ ส่วนใหญ่​มักจะ​ขาด​แค่​ประโยค​สอง​ประโยค​ก็​สามารถ​ทำให้​ดี​และ​ร้าย​สลับ​สับเปลี่ยน​กัน​ได้​แล้ว​

เวลา​โมโห​ พูด​แรง​ๆ ตรงข้าม​กับ​ความคิด​ซึ่งไม่สมควร​พูด​แค่​หนึ่ง​หรือ​สอง​ประโยค​ เวลา​ปกติ​กลับ​ไม่เอ่ย​คำพูด​ดี​ๆ ไร้สาระ​ที่​สามารถ​ปลอบประโลม​ใจคน​สัก​ประโยค​สอง​ประโยค​

เพราะ​ยิ่ง​เป็น​คน​ที่​ใกล้ชิด​ก็​ยิ่ง​ง่าย​ที่จะ​รู้สึก​ว่า​อีก​ฝ่าย​ทำ​เรื่อง​อะไร​ล้วน​สมเหตุสมผล​ตาม​หลัก​ฟ้าดิน​ ล้วน​รู้สึก​ว่า​ทุกอย่าง​ไม่จำเป็นต้อง​เอื้อนเอ่ย​

ผล​คือ​ยิ่ง​เป็น​ตอนที่​รู้สึก​ว่า​อีก​ฝ่าย​น่าจะ​เข้าใจ​ทุก​เรื่องมาก​เท่าไร​ กลับ​มักจะ​เป็น​ช่วงเวลา​ที่​อีก​ฝ่าย​ไม่เข้าใจ​อะไร​เลย​มาก​เท่านั้น​

หนิง​เหยา​พยักหน้า​รับ​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ตกลง​ เรื่อง​ฟ้อง​ ข้า​จะต้อง​เรียนรู้​จาก​คน​บางคน​ให้​มาก​”

ก็​เหมือนกับ​ที่​ทุกคน​ต่าง​ก็​รู้สึก​ว่า​คุณสมบัติ​ใน​การ​ฝึก​กระบี่​ของ​หนิง​เหยา​ดี​เท่าไร​ นาง​ก็​ยิ่ง​ควรจะเป็น​บุคคล​อันดับ​หนึ่ง​อย่าง​ไร้​ข้อกังขา​ที่​ใต้​หล้า​ห้า​สีมาก​เท่านั้น​ ไม่ว่า​หนิง​เหยา​สร้าง​วีรกรรม​อะไร​ก็​ไม่ทำให้​คน​ประหลาดใจ​

นาง​คือ​หัวใจ​หลัก​ของ​นคร​บิน​ทะยาน​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​

เวลา​นาน​วัน​เข้า​ หนิง​เหยา​ก็​จะถูก​มอง​เป็น​เฉิน​ชิงตู​คน​ถัดไป​บน​เส้นทาง​แห่ง​วิถี​กระบี่​

แต่​ซิ่ว​ไฉเฒ่ากลับ​ไม่คิด​เช่นนี้​

ผู้เฒ่า​แค่​รู้สึก​ว่า​แม่หนู​หนิง​ที่อยู่​ตรง​หน้าเป็น​แค่​ผู้เยาว์​ที่​อยาก​จะฟ้อง​ใคร​สัก​คน​แต่กลับ​ไม่มีคน​ให้​ฟ้อง​

หนิง​เหยา​ขอตัว​ลา​กลับ​ไป​ก่อน​ บอ​กว่า​นาง​อาจ​ต้อง​ปิด​ด่าน​สอง​วัน​

บน​เส้น​ทางการ​ฝึก​ตน​ จำนวน​ครั้ง​ที่​นาง​ปิด​ด่าน​มีน้อย​จน​นับ​นิ้ว​ได้​

ซิ่ว​ไฉเฒ่าถึงได้​จับมือ​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ขึ้น​มา ตบ​ลง​บน​หลัง​มือ​ของ​ลูกศิษย์​คน​สุดท้าย​เบา​ๆ ไม่ได้​พูด​อะไร​ เพียงแค่​คลี่​ยิ้ม​บาง​ๆ หลุด​ออกมา​คำ​หนึ่ง​ว่า​ “หึ​”

เฮ้อ​โซ่ว​ที่นั่ง​พิทักษ์​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ได้​ใช้ความเร็ว​ที่​มาก​ที่สุด​แจ้งข่าว​ที่​ผู้ฝึก​กระบี่​ห้า​คน​ร่วมมือ​กัน​ไป​ถามกระบี่​ที่​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ให้​ศาล​บุ๋น​รู้​แล้ว​ ดังนั้น​เหมา​เสี่ยว​ตง​จึงส่งข่าว​มาให้​อาจารย์​อย่าง​ว่องไว​

ทุกวันนี้​เหมา​เสี่ยว​ตง​รับหน้าที่​เป็น​รองผู้อำนวยการ​ของ​สถานศึกษา​ห​ลี่​จี้ ตำแหน่ง​เป็นรอง​แค่​ผู้อำนวยการ​สถานศึกษา​เท่านั้น​ เป็น​ขุนนาง​ใหญ่​!

อยู่​กับ​อาจารย์​ของ​ตัวเอง​ เฉิน​ผิง​อัน​ไม่คิด​จะปก​ปิดความ​เหนื่อยล้า​ของ​ตัวเอง​แม้แต่น้อย​ ทว่า​สายตา​ยังคง​ใสกระจ่าง​ ยิ้ม​ตอบ​มาหนึ่ง​คำ​ว่า​ “หึ​”

คน​ทั่วไป​อาจจะ​ไม่รู้​ว่า​วิถี​ของ​การแกะสลัก​หิน​ทอง​ คำ​ว่า​หึ​ (ภาษาจีน​ออกเสียง​ว่า​เฮย​ เป็น​คำอุทาน​แสดง​การทักทาย​เรียก​ให้​สนใจ​ หรือ​แสดง​ความ​กระหยิ่ม​ยิ้มย่อง​แสดง​ความประหลาดใจ​) เหมือน​คำ​ว่า​โม่ที่​แปล​ว่า​เงียบ​ไม่ส่งเสียง​

ใน​อดีต​ซิ่ว​ไฉเฒ่าเคย​สร้าง​เรื่องตลก​ที่​ไม่เล็ก​ไม่ใหญ่​ เมื่อก่อน​เขา​อ่านหนังสือ​เบ็ดเตล็ด​มาน้อย​ นอกจาก​หลักการ​อริยะ​ปราชญ์​แล้ว​ ความรู้​ก็​ไม่กว้างขวาง​มาก​พอ​ เป็นเหตุให้​ตอนที่​เปิด​อ่าน​ตำรา​ตราประทับ​ฉบับ​หนึ่ง​ที่​จัดพิมพ์​อย่าง​ประ​ณีติ​งดงาม​ใน​ร้านหนังสือ​ เห็น​ตราประทับ​คำ​ว่า​ ‘หึ​’ ก็​เข้าใจผิด​คิด​ว่า​เจ้าขุนเขา​สำนักศึกษา​ที่​แกะสลัก​ตราประทับ​นี้​คือ​บัณฑิต​ที่​มีอารมณ์ขัน​มาก​ผู้​หนึ่ง​ ผล​คือ​รอ​กระทั่ง​ซิ่ว​ไฉเฒ่ามีเทวรูป​อยู่​ใน​ศาล​บุ๋น​แล้ว​ ได้​วิ่ง​ไป​เยี่ยมเยียน​เจ้าขุนเขา​คน​นั้น​ที่​สำนักศึกษา​โดยเฉพาะ​ คาดไม่ถึง​ว่า​อีก​ฝ่าย​จะเป็น​ตา​เฒ่าคร่ำครึ​ที่​ไม่รู้จัก​หัวเราะ​พูดคุย​

ซิ่ว​ไฉเฒ่าดึง​มือ​เฉิน​ผิง​อัน​ไป​นั่ง​บน​ม้านั่งยาว​ที่​หน้า​ประตู​ด้วยกัน​ กำ​เมล็ด​แตง​ออกมา​อีกครั้ง​ แบ่ง​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​ครึ่งหนึ่ง​ แทะ​เมล็ด​แตง​พลาง​เอ่ย​ว่า​ “อาจารย์​ช่วย​อะไร​ไม่ได้​ ได้​แต่​ไป​เยือน​ภูเขา​ลั่วพั่ว​มารอบ​หนึ่ง​ ตอนนั้น​ปลอดภัย​ไม่มีเรื่อง​อะไร​เกิดขึ้น​แล้ว​ อาจารย์​พยายาม​ทุก​วิถีทาง​แล้วแต่​ก็​ยัง​จน​ปัญหา​ แต่​ก็ได้​เจอ​กับ​เจิ้งจวี​จง เรื่อง​การ​เลือก​ที่ตั้ง​สำนัก​เบื้องล่าง​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ยังคง​เลือก​เป็น​ใบ​ถงทวีป​ได้​เหมือนเดิม​”

เฉิน​ผิง​อัน​รู้สึก​ประหลาดใจ​เป็น​ทบ​ทวี​ ทำ​ท่าจะ​พูด​แต่​ก็​ไม่พูด​

ซิ่ว​ไฉเฒ่ากล่าว​ “อาจารย์​พอ​จะช่วยเหลือ​อะไร​เล็กๆ น้อยๆ​ ได้​ เป็นเรื่อง​ที่​น่ายินดี​อย่าง​มาก​”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ แล้วก็​ไม่ได้​พูด​อะไร​ให้​มากความ​อีก​

ซิ่ว​ไฉเฒ่ายิ้ม​กล่าว​ “เจ้าเด็ก​ตง​ซาน​นั่น​ ครั้งนี้​ได้​กลับมา​เจอ​กับ​เจิ้งจวี​จงอีกครั้ง​ ต้อง​สะอึก​อึ้ง​ไป​หลาย​ที​ โมโห​ไม่เบา​ พอ​จะมีท่าที​ของ​เด็กหนุ่ม​บ้าง​แล้ว​ ดังนั้น​เขา​จึงเป็น​ฝ่าย​เปิดปาก​พูด​เอง​ว่า​ขอให้​ข้า​ช่วยเหลือ​ ให้​มาปรึกษา​กับ​อาจารย์​อย่าง​เจ้า หวัง​ว่า​สำนัก​เบื้องล่าง​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​จะให้​เขา​เป็น​เจ้าสำนัก​คน​แรก​ ดังนั้น​ทาง​ฝั่งของ​เฉาฉิงหล่า​ง เจ้าต้อง​ไป​อธิบาย​สักหน่อย​”

ก่อนหน้านี้​ระหว่าง​ที่​กลับ​จาก​ภูเขา​ตะวัน​เที่ยง​มายัง​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ ทุกคน​ที่อยู่​บน​เรือข้ามฟาก​ได้​ปรึกษา​กัน​จนได้​แนวทาง​ที่​แน่ชัด​แล้ว​ ไม่ว่า​สำนัก​แห่ง​ที่สอง​นอกเหนือจาก​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ซึ่งได้​ครอบครอง​ศาล​บรรพ​จารย์​เป็น​ของ​ตัวเอง​ จะเป็น​ ‘สำนัก​เบื้องล่าง​’ ที่​มียศ​ของ​สำนัก​อักษร​จง หรือ​จะเป็น​ ‘ล่าง​ภูเขา​’ ที่​ยัง​ไม่มีอักษร​คำ​ว่า​จงปราก​ฎอยู่​ใน​ศาล​บุ๋น​ เฉาฉิงหล่าง​ก็​จะต้อง​เป็น​เจ้าสำนัก​หรือไม่​ก็​เจ้าขุนเขา​คน​แรก​ หมี่​อวี้​ จ้งชิว​ ชุย​เหวย​ สุย​โย่ว​เปีย​น​ คน​เหล่านี้​จะฝึก​ตน​อยู่​ที่นั่น​ ส่วน​ชุยตง​ซาน​กับ​เผย​เฉียน​จะแค่​ไป​ให้​ความช่วยเหลือ​อยู่​ไม่กี่​ปี​เท่านั้น​ ฝ่าย​แรก​ทำหน้าที่​หลัก​คือ​รับผิดชอบ​จับตามอง​ความเคลื่อนไหว​ของ​ ‘เพื่อนบ้าน​’ อย่าง​อาราม​จิน​ติ่ง​และ​สำนัก​ว่าน​เหยา​ใน​พื้นที่​มงคล​สามภูเขา​ ฝ่าย​หลัง​รับผิดชอบ​คบค้าสมาคม​กับ​ตำหนัก​พยัคฆ์​เขียว​ เรือน​ฉ่าว​ถังแห่ง​ภูเขา​ผู​ซาน​

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “อันที่จริง​ข้า​ก็​ตั้งใจ​จะให้​เป็น​เช่นนี้​ตั้งแต่แรก​ แต่​ตอนนั้น​พูดคุย​เรื่อง​นี้​กับ​ชุยตง​ซาน​ ข้า​เห็น​ว่า​เขา​ไม่สนใจ​จะมีส่วน​เกี่ยวข้อง​ด้วย​จึงถอย​หนึ่ง​ก้าว​มาเลือก​อีก​ทาง​แทน​”

ความคิด​แรกเริ่ม​สุด​ เฉิน​ผิง​อัน​ต้องการ​ให้​ชุยตง​ซาน​ที่​เป็น​ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​รับหน้าที่​เป็น​เจ้าสำนัก​ของ​สำนัก​เบื้องล่าง​ จะได้​ไม่ต้อง​ไป​งัดข้อ​เรื่อง​อักษร​จงใน​ชื่อ​กับ​ศาล​บุ๋น​แผ่นดิน​กลาง​ เพราะ​นี่​เป็นเรื่อง​ที่​ถูกต้อง​ชอบธรรม​แล้ว​

และ​สำหรับ​เฉาฉิงหล่า​งก็​เป็นเรื่อง​ดี​เหมือนกัน​ สามารถ​ฝึกปรือ​ตัวเอง​อยู่​ข้าง​กาย​ชุยตง​ซาน​หลาย​ๆ ปี​ การ​วางตัว​อยู่​ใน​สังคม​ ตบะ​และ​ขอบเขต​ ความสัมพันธ์​ระหว่าง​ผู้คน​และ​ควัน​ธูป​บน​ภูเขา​ล่าง​ภูเขา​ ทุกๆ​ ด้าน​ล้วน​เหมาะสม​แล้ว​ เฉาฉิงหล่า​งก็​จะได้​เป็น​เจ้าสำนัก​คน​ที่สอง​ประดุจ​น้ำ​มาคู​คลอง​ก่อเกิด​ ไม่อย่างนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ต้อง​กังวล​ว่า​ตัวเอง​ดึง​หญ้า​เพื่อ​ช่วย​ให้​เติบโต​เร็ว​เกินไป​หรือไม่​ ต่อให้​เฉาฉิงหล่า​งจะทำ​อะไร​หนักแน่น​ มีใจคอ​ที่​มั่นคง​ รู้จัก​ยืดหยุ่น​ได้​มาก​แค่​ไหน​ ทว่า​ใน​สายตา​ของ​อาจารย์​อย่าง​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ยัง​อด​ที่จะ​…สงสาร​เขา​ไม่ได้​ มักจะ​รู้สึก​ว่า​เฉาฉิงหล่า​งยัง​เด็ก​เกินไป​ แต่กลับ​ต้อง​มาแบก​รับภาระ​หนักอึ้ง​เช่นนี้​แล้ว​ ต้อง​คอย​จัดการ​ดูแล​กิจธุระ​ของ​หนึ่ง​สำนัก​ แล้ว​การศึกษา​หา​ความรู้​ของ​เฉาฉิงหล่า​งจะทำ​อย่างไร​? ในอนาคต​จะแบก​หีบ​หนังสือ​ออก​ทัศนาจร​กับ​เพื่อน​ของ​เขา​ ไป​ชมขุนเขา​สายน้ำ​งดงาม​กว้างใหญ่​ได้​อย่างไร​?

เพียงแต่​ตอนนั้น​ชุยตง​ซาน​ไม่ยินดี​จะทำ​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ย่อม​ไม่มีทาง​ยก​มาด​ของ​อาจารย์​มาบีบบังคับ​เขา​

ทว่า​ตอนนี้​ชุยตง​ซาน​ยินดี​ออกหน้า​ด้วยตัวเอง​ ไม่ว่า​เรื่อง​อะไร​ก็​ได้รับ​การ​คลี่คลาย​ตาม​ไป​ด้วย​แล้ว​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!