กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 883

ซิ่ว​ไฉเฒ่าคน​หนึ่ง​ที่​หัวเราะ​ร่า​อารมณ์ดี​มาที่​ศาล​เทพ​อัคคี​ มายืน​อยู่​ตรง​บันได​ขั้น​ล่าง​สุด​ของ​ซุ้มดอกไม้​ บอ​กว่า​จะให้​เฟิงอี๋​ช่วย​สืบ​ข่าว​ใน​วังหลวง​สักหน่อย​ หลีกเลี่ยง​ไม่ให้​ลูกศิษย์​คน​สุดท้าย​ที่​นิสัย​เรียบง่าย​ซื่อสัตย์​ ใจดี​มีเมตตา​กับ​คนอื่น​ไม่รู้ทัน​แผน​ชั่วร้าย​ ถูก​คน​บางคน​ที่​อาศัยว่า​อายุ​มากกว่า​แค่​ไม่กี่​ปี​ทำตัว​เป็น​คนแก่​รังแก​เด็ก​ หาก​ถูก​ตาแก่​หนังเหนียว​นั่น​หลอก​จน​ผ่าน​ด่าน​ไป​ได้​ แล้ว​ยัง​ไม่รู้จัก​เห็น​ความดี​ของ​เขา​ เขา​ที่​เป็น​อาจารย์​ย่อม​ไม่มีทาง​ยอม​นิ่งดูดาย​อยู่​เฉย​ๆ เป็นแน่​

ซิ่ว​ไฉเฒ่าไม่แม้แต่​จะมอง​สารถี​เฒ่าให้​เต็มตา​ เอาแต่​พูดจา​ประจบ​เอาใจ​เฟิงอี๋​ เจอ​หน้า​ก็​คารวะ​ คารวะ​เสร็จ​แล้ว​เขา​ก็​ไม่ไป​นั่ง​โต๊ะ​หิน​ที่​สารถี​เฒ่านั่ง​อยู่​ แต่​ร่าย​คำพูด​ที่​ราวกับ​ดึง​ออก​มาจาก​ถังผัก​ดอง​ อะไร​ที่​บอ​กว่า​บุปผา​ดวงจันทร์​สาวงาม​ต้อง​มีบทกวี​อัน​ไพเราะ​ และ​แรงบันดาลใจ​ใน​การ​แต่ง​กวี​ก็​มาจาก​สุรา​ หาก​บน​โลก​นี้​ไม่มีเหล้า​หมัก​ ทั้ง​ฤกษ์ดี​ทิวทัศน์​งามก็​ล้วน​เป็น​เพียง​เครื่องประดับ​ที่ว่างเปล่า​…

เฟิงอี๋​ทน​รับ​กลิ่น​เปรี้ยว​นี้​ไม่ไหว​จึงได้​แต่​โยน​เหล้า​หมัก​ร้อย​บุปผา​ไป​ให้​ซิ่ว​ไฉเฒ่าหนึ่ง​ไห​ ถือเป็น​ของ​ปิดปาก​อีก​ฝ่าย​ นั่งลง​ตรง​บันได​หิน​ใต้​ซุ้มดอกไม้​แล้ว​ ซิ่ว​ไฉเฒ่าก็​คล้าย​เพิ่งจะ​มองเห็น​สารถี​เฒ่า รีบ​ขยับ​ก้น​ยกขึ้น​ร้อง​โอ้โห​หนึ่ง​ที​ อุ้ม​กา​เหล้า​ไป​พูดจา​แฝงความนัย​ที่​โต๊ะ​หิน​อย่าง​กระตือรือร้น​ พึมพำ​ทวง​ความเป็นธรรม​แทน​ผู้อาวุโส​อยู่​หลาย​ประโยค​ เหตุใด​ถึงเหลือ​เหล้า​แค่​ครึ่ง​ไห​แล้ว​เล่า​ ได้ยิน​ชื่อเสียง​อัน​เลื่องลือ​มานาน​ ประหนึ่ง​ฟ้าผ่า​ริ​มหู​ อุตส่าห์​ได้​เจอกัน​ทั้งที​ ไม่ทัน​เมาก็​จะกลับ​แล้ว​ได้​อย่างไร​ กระทั่ง​เฟิงอี๋​ทน​คำพูด​กระทบกระเทียบ​ของ​ซิ่ว​ไฉเฒ่าไม่ไหว​จึงโยน​เหล้า​ไป​ให้​สารถี​เฒ่าอีก​หนึ่ง​กา​ ผล​คือ​ซิ่ว​ไฉเฒ่ากลับ​จ้อง​เป๋ง​ไป​ที่​ฝ่าย​หลัง​และ​สุรา​บน​โต๊ะ​อยู่​อย่างนั้น​ สายตา​ขยับ​ขึ้น​ขยับ​ลง​ไม่หยุดนิ่ง​ ฝ่าย​หลัง​เข้าใจ​โดยพลัน​ ผลัก​เหล้า​หมัก​ร้อย​บุปผา​ที่​เพิ่ง​ได้มา​ไป​ให้​เห​วิน​เซิ่งผู้มีชื่อเสียง​เลื่องลือ​เงียบๆ​ ทันที​

จากนั้น​ซิ่ว​ไฉเฒ่าก็​นั่งลง​ข้าง​โต๊ะ​ หยิบ​เอา​ถั่วเหลือง​คั่ว​แห้ง​กำ​หนึ่ง​ออก​มาจาก​ชาย​แขน​เสื้อ​ โปรย​ลง​บน​โต๊ะ​ ใช้วิชา​อภินิหาร​แห่ง​ชะตาชีวิต​บท​หนึ่ง​ของ​เฟิงอี๋​ อาศัย​ลม​เย็น​ที่​โชย​อยู่​ระหว่าง​โลก​มนุษย์​มาเงี่ย​หูฟัง​บทสนทนา​ใน​งานเลี้ยง​สุรา​ที่​วังหลวง​

คาด​ว่า​ใน​บรรดา​อริยะ​ปราชญ์​มากมาย​ผู้​มีเทวรูป​และ​เจ้าขุนเขา​ผู้อำนวยการ​ทั้งหลาย​ของ​ศาล​บุ๋น​ ก็​คง​มีแค่​ซิ่ว​ไฉเฒ่าเท่านั้น​ที่​ทำ​เรื่อง​น่าขายหน้า​เช่นนี้​ได้​ลง​ แล้ว​ยัง​ทำ​อย่าง​มาดมั่น​มีเหตุมีผล​เต็มเปี่ยม​อีกด้วย​

สารถี​เฒ่านั่ง​อยู่​ตรงนั้น​ด้วย​อาการ​ตะครั่นตะครอ​ อยาก​จะขอตัว​ลา​กลับ​ไป​เต็มที​

คิดไม่ถึง​ว่า​ซิ่ว​ไฉเฒ่าจะเหล่​ตา​มอง​มา โยน​ถั่วเหลือง​คั่ว​สอง​สามเม็ด​เข้า​ปาก​ “ไม่ไว้หน้า​กัน​ใช่ไหม​? ข้า​บอก​ให้​เจ้าไป​ได้​แล้ว​หรือ​?”

สารถี​เฒ่ายิ้มเจื่อน​ “เห​วิน​เซิ่งพูดตลก​แล้ว​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าหลุด​หัวเราะ​พรืด​ “ตลก​? จำเป็นต้อง​พูด​ด้วย​หรือ​ ใน​สายตา​ของ​พวก​เจ้า เดิมที​ข้า​ก็​เป็น​ตัวตลก​อยู่แล้ว​ไม่ใช่หรือ​ ยัง​ต้อง​พูด​อีก​หรือ​ไร​?”

ใน​ใจสารถี​เฒ่าตะลึงพรึงเพริด​สุดขีด​ รู้สึก​กระวนกระวาย​ขึ้น​มาโดยพลัน​

คง​ไม่ใช่ว่า​วันนี้​ซิ่ว​ไฉเฒ่าปาก​อม​กฎ​สวรรค์​ ต้องการ​มาคิดบัญชี​ย้อนหลัง​แทน​ศาล​บุ๋น​หรอก​กระมัง​?

ซิ่ว​ไฉเฒ่าหัวเราะ​หยัน​ “ข้า​ว่า​ผู้อาวุโส​ต่างหาก​ที่​พูดตลก​เก่ง​นัก​ ทำไม​ ผู้อาวุโส​ดูแคลน​อันดับ​สี่ของ​ศาล​บุ๋น​ คิด​ว่า​ไม่มีคุณสมบัติ​พอ​จะนั่ง​ทัดเทียม​กับ​ท่าน​อย่างนั้น​หรือ​?”

ต่อให้​สารถี​เฒ่าจะหัวทึบ​แค่​ไหน​ก็​ยัง​รู้​หนัก​เบา​ รู้​ผลได้​ผลเสีย​ดี​ ใน​ใจรู้​ว่า​ท่า​ไม่ดี​เสียแล้ว​ จึงรีบ​ใช้เสียง​ใน​ใจพูด​กับ​เฟิงอี๋​ “ผู้​มามีเจตนาร้าย​ ไม่เหมือน​นิสัย​ยาม​ปกติ​ของ​เห​วิน​เซิ่งเลย​ อีก​เดี๋ยว​หาก​เห​วิน​เซิ่งอาละวาด​ไร้เหตุผล​ หรือ​คิด​จะสาด​น้ำ​สกปรก​ใส่ข้า​ เจ้าช่วย​แบกรับ​ไว้​ให้​หน่อย​ อย่าง​น้อย​ทาง​ฝั่งศาล​บุ๋น​และ​ภูเขา​เจิน​อู่​ เจ้าก็​ช่วย​พูด​ให้​ที​”

เกี่ยวกับ​ความอัปยศ​ความรุ่งโรจน์​และ​ผลได้​ผลเสีย​ของ​ตน​ ชั่วชีวิต​นี้​ซิ่ว​ไฉเฒ่าไม่เคย​สน​ใจมาก่อน​ ต่อให้​เทวรูป​ที่อยู่​ใน​ศาล​บุ๋น​จะถูกลด​ระดับ​ลง​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ กระทั่ง​ถูก​ย้าย​ออกจาก​ศาล​บุ๋น​ หรือ​ถึงขั้น​ถูก​ทุบ​แตก​อยู่​ริม​ทาง​ ใต้​หล้า​ไพศาล​สั่งห้าม​เผยแพร่​ความรู้​ของ​เขา​ ตัว​เขา​เอง​ก็​ถูก​กักขัง​อยู่​ใน​สวน​กง​เต๋อ​ ซิ่ว​ไฉเฒ่าล้วน​ไม่เคย​แก้ตัว​ให้​ตัวเอง​ แม้แต่​ร่ำร้อง​ว่า​ได้รับ​ความ​ไม่เป็นธรรม​สัก​คำ​ก็​ไม่เคย​ บัณฑิต​คน​หนึ่ง​ที่​ได้รับ​คำ​ว่า​ ‘เซิ่ง’ ต่อท้าย​ มีชีวิต​อยู่​มาจน​ถึงขั้น​นี้​ ใน​ประวัติศาสตร์​ของ​ใต้​หล้า​ไพศาล​ก็​ไม่เคย​มีมาก่อน​ หมื่น​ปี​ที่ผ่านมา​มีแค่​เขา​คนเดียว​เท่านั้น​

เฟิงอี๋​ใช้เสียง​ใน​ใจตอบ​ “จะพยายาม​แล้วกัน​ ได้​แต่​รับปาก​ว่า​หาก​ช่วย​ได้​ก็​จะช่วย​ แต่​หาก​ช่วยไม่ได้​เจ้าก็​อย่า​โทษ​ข้า​ ตอนนี้​ข้า​ก็​กังวล​เหมือนกัน​ว่า​จะชักนำ​ไฟให้​ลาม​มาเผา​ตัวเอง​”

เห​วิน​เซิ่งใน​วันนี้​เป็น​อย่าง​ที่​สารถี​เฒ่ากล่าว​ วางท่า​ว่า​ผู้มาเยือน​มีเจตนา​ไม่ดี​ ผู้​มีเจตนา​ดี​ไม่มาเยือน​จริงๆ​ ชัดเจน​แล้ว​ว่า​ต้องการ​จะซักไซ้​เอาเรื่อง​กับ​พวก​ลู่​เหว่​ย​

เฟิงอี๋​เอง​ก็​เข้าใจ​ได้​ ฉีจิ้งฉุน​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ ลูกศิษย์​คน​เล็ก​สุด​สอง​คน​ก่อน​และ​หลัง​ต่าง​ก็​เคย​ถูก​พวก​ตาแก่​เหล่านี้​ ‘อาศัยว่า​อายุ​มากกว่า​มารังแก​’ ตอน​อยู่​ใน​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูมาก่อน​

แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​เมืองหลวง​ต้า​หลี​ที่​ซิ่ว​ไฉเฒ่าอยู่​ในเวลานี้​ก็​ยิ่ง​เป็น​ ‘สถานที่​ฝึก​ตน​’ ที่​ลูกศิษย์​คน​แรก​อย่าง​ชุย​ฉาน​ทุ่มเท​ความคิด​จิตใจ​นาน​นับ​ร้อย​ปี​สร้าง​ขึ้น​มา อารมณ์​จะดี​ได้​อย่างไร​?

ดังนั้น​ยังคง​เป็น​ประโยค​เก่าแก่​ประโยค​นั้น​ อย่า​ได้​รังแก​คนซื่อ​ที่​มองดู​แล้ว​นิสัย​ดี​มากเกินไป​

ซิ่ว​ไฉเฒ่ากล่าว​ “ปฏิทิน​เหลือง​เก่าแก่​บางอย่าง​ที่​ฝุ่น​เกาะ​มานาน​ปี​ วันนี้​เฟิงอี๋​จงใช้โอกาส​นี้​ชดใช้​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​เถิด​”

เฟิงอี๋​ถอนหายใจ​เบา​ๆ ก่อน​พยักหน้า​รับ​

ดังนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​ที่​วางแผน​ปัดแข้งปัดขา​กับ​ลู่​เหว่​ย​และ​หนัน​จาน​อยู่​ใน​วังหลวง​ ‘อยู่ดีๆ​’ จึงมีข้อได้เปรียบ​ของ​การชิง​ลงมือ​ก่อน​เพิ่ม​มาหลายครั้ง​อย่าง​ไม่ทราบ​สาเหตุ​

สารถี​เฒ่าเห็น​ว่า​ซิ่ว​ไฉเฒ่าเดี๋ยว​ก็​มีสีหน้า​เคร่งขรึม​คล้าย​พระธุดงค์​ เดี๋ยว​ก็​หรี่ตา​ลูบ​หนวด​ยิ้ม​อย่าง​ชอบใจ​ เดี๋ยว​ก็​ผงกศีรษะ​อยู่​กับ​ตัวเอง​ คล้าย​แอบ​ได้ยิน​ถ้อยคำ​อัน​ยอดเยี่ยม​ซึ่งเกา​ถูกที่​คัน​

สุดท้าย​ซิ่ว​ไฉเฒ่าก็​ให้​เฟิงอี๋​เชิญลู่​เหว่​ย​มารำลึก​ความหลัง​กันที่​ศาล​เทพ​อัคคี​แห่ง​นี้​

เฟิงอี๋​ ลู่​เหว่​ย​ สารถี​เฒ่า สหาย​เก่า​สามคนใน​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูได้​กลับมา​พบกัน​อีกครั้ง​ที่​ศาล​เทพ​อัคคี​เมืองหลวง​ต้า​หลี​

ซิ่ว​ไฉเฒ่าปรายตา​มอง​บรรพบุรุษ​สกุล​ลู่​ที่​เร่ง​เดินทาง​ออกจาก​วังหลวง​ต้า​หลี​มายัง​ที่​แห่ง​นี้​แล้ว​เก็บ​เหล้า​หมัก​ร้อย​บุปผา​กา​หนึ่ง​ใส่ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ คว้า​ถั่วเหลือง​คั่ว​กำ​สุดท้าย​บน​โต๊ะ​มาโยน​ใส่ปาก​เคี้ยว​ช้าๆ แล้ว​กลืน​ ลุกขึ้น​อย่าง​เนิบ​ช้า เอ่ย​ประโยค​ที่​เป็น​ข้อสรุป​แบบ​ตอก​ปิด​ฝาโลง​กับ​สารถี​เฒ่าว่า​ “วันหน้า​เจ้าอย่า​ได้คิด​จะเข้าออก​ภูเขา​เจิน​อู่​อีก​เลย​ ไม่อย่างนั้น​หาก​ข้า​รู้​เข้า​ ข้า​ก็​จะไม่ไป​หาเรื่อง​เจ้าหรอก​ แต่​ข้า​จะไป​อธิบาย​เหตุผล​กับ​ภูเขา​เจิน​อู่​แทน​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่ายื่น​นิ้ว​ข้าง​หนึ่ง​จิ้มไป​ที่​หน้าอก​ “คำพูด​ของ​ข้า​ก็​คือ​คำพูด​ของ​ศาล​บุ๋น​ หาก​ภูเขา​เจิน​อู่​มีความเห็น​ต่าง​ก็​ไป​ฟ้องศาล​บุ๋น​เอา​เอง​ ข้า​จะรอ​อยู่​ที่​หน้า​ประตู​”

สารถี​เฒ่าเหมือน​ได้​ยกภูเขาออกจากอก​ ยัง​ดี​ที่​เห​วิน​เซิ่งไม่ได้​รังแก​กัน​มากเกินไป​ วันหน้า​อย่าง​มาก​ตน​ก็​เข้าออก​โลก​มนุษย์​ผ่าน​ทาง​ศาล​ลม​หิมะ​ก็แล้วกัน​

ซิ่ว​ไฉเฒ่ามอง​ลู่​เหว่​ย​ที่​ขอบเขต​เพิ่ง​ถดถอย​ “กลับ​ไป​ถึงทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​แล้ว​ เจ้าก็​ช่วย​ไป​บอก​กับ​ลู่​เซิงแทน​ข้า​สัก​คำ​ วันหน้า​เมื่อ​ไป​ที่​หอ​ครอง​ดาว​ อย่า​ได้​เดินทาง​ตอนกลางคืน​ อย่า​ไป​พูดว่า​ข้า​มีที่พึ่ง​อะไร​อยู่​ที่​ศาล​บุ๋น​ล่ะ​ รับมือ​กับ​ลู่​เซิงคนเดียว​ ไม่จำเป็น​ ไม่มีค่า​พอ​”

ซิ่ว​ไฉเฒ่ายก​นิ้วโป้ง​ชี้ไป​ที่​ท้องฟ้า​ “บน​ฟ้าข้า​ผู้อาวุโส​ก็​มีคน​อยู่​ด้วย​”

ฝูลู่​อวี๋​เสวียน​ ผสาน​มรรคา​กับ​ธาร​ดวงดาว​

ข้า​กับ​ป๋า​ย​เห​ย่​เป็น​พี่น้อง​ที่​ดี​ต่อกัน​ ส่วน​ตา​เฒ่าอวี๋​ก็​มีมิตรภาพ​ที่​เคย​แลก​ชีวิต​กัน​มากับ​ป๋า​ย​เห​ย่​ ถ้าอย่างนั้น​ข้า​กับ​ตา​เฒ่าอวี๋​ก็​คือ​สหาย​รัก​กัน​แล้ว​

เหตุใด​ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​ถึงต้อง​เปิดทาง​ให้​อวี๋​เสวียน​ด้วยตัวเอง​?

แน่นอน​ว่า​เพราะ​ฝูลู่​อวี๋​เสวียน​ไม่ผิด​ต่อ​คำ​ว่า​ ‘ฝูลู่​’ (ยันต์​) ตอนนั้น​เขา​ข้าม​ทวีป​ไป​ให้​ความช่วยเหลือ​ป๋า​ย​เห​ย่​ ตา​เฒ่าอวี๋​เสวียน​ยอม​สละ​มรรค​กถา​และ​ยันต์​นับ​ล้าน​แผ่น​อย่าง​ไม่เสียดาย​ แต่​ก็​ต้อง​เข้าร่วม​สงคราม​วุ่นวาย​ครั้งนั้น​ให้ได้​

ขณะเดียวกัน​ศาล​บุ๋น​ก็​มีความไม่พอใจ​ต่อ​สกุล​ลู่​แผ่นดิน​กลาง​อยู่​เช่นกัน​ เพียงแต่ว่า​เรื่อง​บางอย่าง​สกุล​ลู่​ทำ​อย่าง​คลุมเครือ​ทั้ง​ยัง​ยอดเยี่ยม​ อยู่​ใน​กฎเกณฑ์​ทุก​เรื่อง​ ศาล​บุ๋น​จะเอาโทษ​ก็​ไม่อาจ​แสดงออก​อย่าง​ชัดเจน​มากเกินไป​

บน​ฟ้ามีอวี๋​เสวียน​ สกุล​ลู่​อยู่​บน​ดิน​ นี่​ต่างหาก​จึงจะเป็นการ​พึ่งพา​อยู่​ใต้​ชายคา​ของ​คนอื่น​อย่าง​แท้จริง​!

คำ​ข่มขู่​ของ​ซิ่ว​ไฉเฒ่า ฟังดูเหมือน​คำ​ล้อเล่น​ที่​เอาแต่ใจ​ไร้​แก่นสาร​ ไม่เจ็บ​ไม่คัน​ ไม่ส่งผล​ต่อ​เรื่องสำคัญ​ใดๆ​

แต่​ลู่​เหว่​ยก​ลับ​หัวเราะ​ไม่ออก​เลย​สักนิด​

อาจารย์​คน​หนึ่ง​ที่​นิสัย​ดี​ย่อม​ไม่มีทาง​สอน​ลูกศิษย์​อย่าง​ฉีจิ้งชุน​และ​จั่ว​โย่ว​ออกมา​ได้​

บัณฑิต​ที่​ดีแต่​แสร้ง​วางท่า​ข่มขู่​ให้​คน​กลัว​ก็​ไม่มีทาง​สอน​คน​อย่าง​ชุย​ฉาน​ เฉิน​ผิง​อัน​ได้​เช่นกัน​

อริยะ​ปราชญ์​ลัทธิ​ขงจื๊อ​คน​หนึ่ง​ที่​ความรู้​ไม่พอ​ ใน​ช่วงเวลา​ที่​ชื่อเสียง​ไม่โดดเด่น​ก็​ไม่มีทาง​ทำให้​หลิว​สือ​ลิ่ว​เป็น​ฝ่าย​กราบ​อาจารย์​ขอ​เข้ามา​เรียน​ใน​สำนัก​ด้วยตัวเอง​

ยิ่ง​ไม่มีทาง​มีสหาย​อย่าง​ป๋า​ย​เห​ย่​ ป๋า​ย​เจ๋อ​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!