กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 889

โจว​ไห่​จิ้งหัวเราะ​หยัน​เอ่ย​ว่า​ “ความขัดแย้ง​บางอย่าง​ใน​ยุทธ​ภพ​ แสงดาบ​เงากระบี่​ หมัด​เท้า​ไร้​ตา​ ใคร​พูดมาก​ประโยค​หนึ่ง​ บางที​ก็​อาจ​ต้อง​ทิ้ง​ชีวิต​ไว้​ตรงนั้น​ เจ้าสำนัก​เฉิน​ใช่ว่า​จะไม่รู้​ถึงอันตราย​ใน​การเข่นฆ่า​ระหว่าง​ผู้ฝึก​ยุทธ​เสียหน่อย​ แบบนี้​จะทำให้​ข้า​ลำบากใจ​เกินไป​หน่อย​หรือไม่​?”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​เอ่ย​ “หาก​ผู้อาวุโส​ทั้งสอง​ท่าน​เข้าร่วม​ด้วย​ แม่นาง​โจว​สามารถ​บอก​พวกเขา​ก่อน​ได้​ บอก​ไป​ว่า​ข้า​คือ​สหาย​ของ​แม่นาง​โจว​ หาก​ถึงเวลา​นั้น​ผู้อาวุโส​ทั้งสอง​ท่าน​ยัง​ยืนกราน​ว่า​จะไม่ถอย​ จะเข้าร่วม​กับบุญคุณ​ความแค้น​ใน​ยุทธ​ภพ​ครั้งนี้​ให้ได้​ ถ้าอย่างนั้น​ก็แล้วแต่​ชะตา​ฟ้าลิขิต​แล้ว​”

โจว​ไห่​จิ้งลังเล​ไป​เล็กน้อย​ “ได้​ แต่​ต้อง​ถือว่า​เจ้าขุนเขา​เฉิน​ติดค้าง​น้ำใจ​ข้า​ครั้งหนึ่ง​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “ได้​สิ”

โจว​ไห่​จิ้งพลัน​เอ่ย​ว่า​ “อันที่จริง​เจ้าขุนเขา​เฉิน​ไม่เหมือน​เซียน​กระบี่​อะไร​เลย​ เหมือน​บัณฑิต​มากกว่า​”

บุรุษ​ที่​เคย​พลัดถิ่น​ไป​เป็น​อาจารย์​อยู่​ใน​โรงเรียน​ของ​ต่างบ้านต่างเมือง​เคย​เอ่ย​ว่า​ อริยะ​กล่าว​ไว้​ว่า​ ปณิธาน​ใน​การศึกษา​เล่าเรียน​อยู่​ที่​ปวงประชา​

แล้วก็​เคย​เอ่ย​กับ​นาง​ประโยค​หนึ่ง​ว่า​ เด็กน้อย​ใช้ถ่าน​วาด​เส้นทาง​ ต่อให้​เป็น​มด​ก็​ยัง​ไม่กล้า​ข้าม​ผ่าน​ไป​

โจว​ไห่​จิ้งมักจะ​ฝัน​ว่า​ตัวเอง​ได้​ไป​เยือน​ซาก​ปรัก​โบราณ​แห่ง​หนึ่ง​เป็นประจำ​ ด้านหน้า​ตำหนัก​ใหญ่​แห่ง​หนึ่ง​มีรูปปั้น​ทองแดง​ของ​เซียน​ที่​ใน​มือ​ทำท่า​คล้าย​ถือ​ประคอง​ของ​บางอย่าง​อยู่​ ต้น​กุ้ย​แตกหัก​ ตะไคร่​ขึ้น​เต็ม​พื้น​ ตำหนัก​ถูก​ปล่อย​ร้าง​ พืช​หญ้า​รกชัฏ​ขึ้น​เต็มไปหมด​ แทบ​ทุกครั้ง​นาง​จะต้อง​ได้​พบ​เจอ​กับ​บุรุษ​ที่​เรียก​ตัวเอง​ด้วย​ความภาคภูมิใจ​ว่า​ชิวเฟิงเค่อ​ขี่ม้า​ลาดตระเวน​ยาม​ราตรี​ ท่าทาง​เอ้อระเหย​ลอยชาย​ บอ​กว่า​ตอน​มีชีวิต​อยู่​ตัวเอง​หลอม​โอสถ​อย่าง​ยากลำบาก​หวัง​จะได้​เป็น​เซียน​ ใฝ่ฝัน​จะเป็น​อมตะ​ไม่แก่​โทรม​ โจว​ไห่​จิ้งเดินทาง​ร่วมกับ​เขา​ไป​ตลอดทาง​ พอ​ฟ้าสางเรือน​กาย​ของ​คน​ผู้​นั้น​ก็​สลาย​หาย​ไป​ เป็น​ความฝัน​ที่​ประหลาด​ยิ่ง​

ก่อน​จะออกจาก​บ้านเกิด​ นาง​เคย​ขอให้​อาจารย์​ใน​โรงเรียน​ผู้​นั้น​ทำนาย​ฝัน​ให้​ เขา​บอ​กว่า​นี่​เป็น​บุพเพ​ของ​ชาติก่อน​

โจว​ไห่​จิ้งก้มหน้า​ดื่มเหล้า​ใน​ชามจน​หมด​ วาง​ชามเหล้า​ที่ว่างเปล่า​ลง​ นาง​จ้อง​ชามขาว​นิ่ง​ ก้มหน้า​เอ่ย​ว่า​ “เจ้าสำนัก​เฉิน​คือ​ผู้ฝึก​ตน​ คิดดู​แล้ว​บน​ภูเขา​ของ​พวก​ท่าน​ก็​น่าจะ​มีคำกล่าว​ที่ว่า​ พวกเรา​มาเกิด​เป็น​คน​ ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​เลย​”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ “ไม่ง่าย​เลย​จริงๆ​”

โจว​ไห่​จิ้งเอ่ย​เสียง​หนัก​จริงจัง​ “แผ่นดิน​ที่​ให้กำเนิด​ข้า​เลี้ยงดู​ข้า​ จำเป็นต้อง​ตอบแทน​บุญคุณ​!”

เฉิน​ผิง​อัน​รับคำ​ต่อ​ “หาก​มิอาจ​ตอบแทน​บุญคุณ​ ก็​ต้อง​ชำระ​ความแค้น​”

โจว​ไห่​จิ้งเงยหน้า​ขึ้น​เผย​สีหน้า​ตกตะลึง​อย่าง​ที่​มิอาจ​ปิดบัง​

“คนเรา​มีชีวิต​อยู่​บน​โลก​ ได้รับ​ความอยุติธรรม​ก็​ต้อง​ร้องทุกข์​ มีหนี้​ก็​ต้อง​ใช้คืน​ ชาย​หญิง​ใน​ยุทธ​ภพ​ พระคุณ​ต้อง​ตอบแทน​ มีแค้น​ต้อง​ชำระ​”

เฉิน​ผิง​อัน​พูด​ด้วย​สีหน้า​เฉยเมย​ “ไม่อย่างนั้น​พวกเรา​จะฝึก​วร​ยุทธ​ให้​เหนื่อยยาก​กัน​ไป​ทำไม​”

โจว​ไห่​จิ้งลังเล​เล็กน้อย​ เป็น​ฝ่าย​ยื่น​ชามเหล้า​ออกมา​ คงจะ​ต้อง​การชน​ชามเหล้า​แล้ว​ดื่ม​ร่วมกัน​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​อีกครั้ง​

อันที่จริง​เฉิน​ผิง​อัน​กลับ​ลังเล​ยิ่งกว่า​ แต่กระนั้น​ก็​ยัง​ยก​ชามเหล้า​ชน​กับ​อีก​ฝ่าย​เบา​ๆ

เผ่าพันธุ์​เจียว​หลง​เดินลง​แม่น้ำ​ ผี​ขี้เหล้า​เอง​ก็​ลง​น้ำ​เหมือนกัน​

โจว​ไห่​จิ้งดื่ม​หมด​ใน​รวดเดียว​ เช็ด​ปาก​ เอ่ย​อย่าง​สงสัย​ว่า​ “เจ้าสำนัก​เฉิน​ไม่ใช่เซียน​กระบี่​หรอก​หรือ​? ทำไม​ถึงบอ​กว่า​เรียน​วร​ยุทธ​เหนื่อยยาก​ล่ะ​?”

รู้​ว่า​เฉิน​ผิง​อันเป็น​ปรมาจารย์​ใหญ่​ที่​ขอบเขต​วิถี​วร​ยุทธ​ต้อง​ไม่ต่ำ​อย่าง​แน่นอน​ เพียงแต่​มักจะ​รู้สึก​ว่า​เมื่อ​เทียบ​กับ​สถานะ​เซียน​กระบี่​ของ​อีก​ฝ่าย​แล้ว​ วิถี​การเรียน​วร​ยุทธ​ เห็นได้ชัด​ว่า​ไม่สำคัญ​เท่า​

เฉิน​ผิง​อัน​ส่าย​หน้ายิ้ม​กล่าว​ “การเรียน​หมัด​เคย​ช่วย​ต่อ​ชีวิต​ให้​กับ​ข้า​ มีหรือ​จะกล้า​ไม่ตั้งใจ​ เมื่อ​เทียบ​กัน​แล้ว​ การ​ฝึก​กระบี่​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​การกลายเป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ กลับเป็น​เป็น​ช่วงหลัง​ๆ แล้ว​”

โจว​ไห่​จิ้งถาม “หรือว่า​ท่าน​เป็น​ผู้ฝึก​ยุทธ​ขอบเขต​ปลายทาง​คน​หนึ่ง​?”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ “ไม่อย่างนั้น​ข้า​จะเป็น​อาจารย์​ของ​เผย​เฉียน​ได้​อย่างไร​”

โจว​ไห่​จิ้งถามหยั่งเชิง​ “เจ้าสำนัก​เฉิน​ ท่าน​คง​ไม่ได้​ถูกใจ​ข้า​เข้า​แล้ว​กระมัง​?”

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​อย่าง​ระอา​ใจ “แม่นาง​โจว​ เรื่อง​ล้อเล่น​แบบนี้​อย่า​ได้​พูด​เลย​”

โจว​ไห่​จิ้งเอ่ย​อย่าง​ขำ​ๆ ปน​ฉุน​ “ถ้าอย่างนั้น​ท่าน​มาคุยโว​อะไร​กับ​ข้า​?”

หาก​จะบอ​กว่า​เฉิน​ผิง​อันเป็น​ขอบเขต​ยอดเขา​ โจว​ไห่​จิ้งยัง​กึ่ง​เชื่อ​กึ่ง​กังขา​ แต่​จะบอ​กว่า​เป็น​ขอบเขต​ปลายทาง​?!

ถ้าอย่างนั้น​ทำไม​เจ้าไม่ไป​ประลอง​ฝีมือ​กับ​ซ่งจ่างจิ้งสักครั้ง​เล่า​?

เสี่ยว​โม่มาปรากฏตัว​อยู่​ที่​หน้า​ประตู​บ้าน​ เพียงแต่ว่า​ข้าง​กาย​มีผู้เฒ่า​คน​หนึ่ง​เพิ่ม​มาด้วย​

เกา​โหย​ว​กับ​ว่าน​เหยียน​ที่อยู่​ใน​ตรอก​ไม่ได้​จากไป​ไหน​ไกล​ต่าง​ก็​ตะลึง​ระคน​ประหลาดใจ​ เพราะ​คุ้นหน้า​ผู้เฒ่า​อยู่​มาก​ ก็​คือ​นัก​เล่านิทาน​ที่​พูด​โม้น้ำลาย​แตก​ฟอง​อยู่​ใต้​สะพานลอย​ แล้ว​ยัง​ถือโอกาส​ขาย​ตำรา​ลับ​หลาย​เล่ม​คน​นั้น​

เสี่ยว​โม่ใช้เสียง​ใน​ใจอธิบาย​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​ฟัง ที่แท้​ผู้ฝึก​กระบี่​เฒ่าขอบเขต​ชมมหาสมุทร​คน​นี้​ก็ได้​บอ​กว่า​ตัวเอง​เชี่ยวชาญ​นร​ลักษณ์​ศาสตร์​ มอง​ปราด​เดียว​ก็​ถูกใจ​ใน​ชะตา​ของ​เด็กหนุ่ม​ว่าน​เหยียน​ อีก​ทั้ง​ยัง​สังเกต​ดู​นิสัยใจคอ​ของ​เด็กหนุ่ม​มาพัก​หนึ่ง​แล้ว​ รู้สึก​ว่า​อีก​ฝ่าย​สามารถ​สืบทอด​มรรค​กถา​ส่วนหนึ่ง​ของ​ตัวเอง​ได้​ เพียงแต่​เรื่อง​หลอม​กระบี่​นั้น​ หมดหวัง​

ผู้เฒ่า​มอง​บุรุษ​ชุด​เขียว​ที่อยู่​ใน​ลานบ้าน​แล้ว​รีบ​เก็บ​ความคิด​ทั้งหลาย​กลับคืน​มา ก้มหัว​กุม​หมัด​ ใช้เสียง​ใน​ใจเอ่ย​ “ฝึกฝน​น้อย​ คือ​จำศีล​อยู่​ใน​ป่า​ ฝึกฝน​ใหญ่​คือ​จำศีล​อยู่​ใน​ยุคสมัย​ ข้า​ผู้อาวุโส​ได้​แต่​เที่ยวเล่น​อยู่​ใน​โลก​มนุษย์​ มิอาจ​เทียบ​กับ​เซียน​กระบี่​เฉิน​ได้​”

เฉิน​ผิง​อัน​กุม​หมัด​คารวะ​กลับคืน​ ใช้เสียง​ใน​ใจยิ้ม​กล่าว​ “สหาย​รับ​ลูกศิษย์​ ขอแสดงความยินดี​ด้วย​”

โจว​ไห่​จิ้งเอนตัว​พิง​ประตู​บ้าน​ รวม​เสียง​ให้​เป็น​เส้น​ถามว่า​ “เฉิน​ผิง​อัน​ เจ้าเป็น​ขอบเขต​ปลายทาง​จริงๆ​ หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ตอบกลับ​อย่าง​จริงใจ​ “จริง​”

สายตา​โจว​ไห่​จิ้งฉายแวว​ประหลาด​ “บน​ยอดเขา​แห่ง​นั้น​มีทัศนียภาพ​เป็น​อย่างไร​?”

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​ “ยัง​ไม่สูงมาก​พอ​”

โจว​ไห่​จิ้งมอง​แววตา​และ​สีหน้า​ของ​บุรุษ​ชุด​เขียว​

มารดา​มัน​เถอะ​ เหตุใด​มองดู​แล้ว​เจ้าหมอ​นี่​ก็​หล่อเหลา​เหมือนกัน​นะ​

ดูท่า​เหล่า​เหนียง​น่าจะ​ดื่ม​จน​เมาแล้ว​

คง​ไม่ได้​ถูก​เจ้าหมอ​นี่​กรอก​ยา​ลืม​วิญญาณ​ใส่ใน​เหล้า​ของ​ตน​กระมัง​

โจว​ไห่​จิ้งหัวเราะ​อยู่​กับ​ตัวเอง​

เฉิน​ผิง​อัน​ไม่อยู่​ขัดจังหวะ​การกราบ​อาจารย์​รับ​ลูกศิษย์​ของ​ผู้อื่น​

หลัก​ๆ แล้ว​เป็น​เพราะ​รอยยิ้ม​ประหลาด​ของ​โจว​ไห่​จิ้งต่างหาก​ที่​น่าขนลุก​

เฉิน​ผิง​อัน​กับ​เสี่ยว​โม่กลับ​ไป​ที่​หอ​เห​ริ​นอวิ๋น​อี้​อวิ๋น​

เซียน​เว่ย​ที่อยู่​ใน​ห้อง​ด้าน​ข้าง​นอนหลับ​กรน​ดัง​ครอก​ๆ

ใน​ตรอก​เล็ก​นอก​ประตู​บ้าน​ของ​โจว​ไห่​จิ้ง ผู้เฒ่า​บอก​สาเหตุ​ที่มา​เยือน​อย่าง​ชัดเจน​ บอกกล่าว​ให้​รู้​ถึงสำนัก​ของ​ตัวเอง​ ให้​ว่าน​เหยียน​ติดตาม​ตน​ไป​ฝึก​ตน​

เด็กหนุ่ม​หน้าตา​หมดจด​มอง​เกา​โหย​ว​แวบ​หนึ่ง​ ลังเล​อยู่​พักใหญ่​ก่อน​จะพยักหน้า​ เพียงแค่​บอก​กับ​เกา​โหย​ว​ว่า​ตน​ต้อง​กลับมา​แน่นอน​

ผู้เฒ่า​บอก​กับ​ว่าน​เหยียน​ว่า​ไม่ต้อง​เอา​อะไร​ไป​ทั้งนั้น​ แล้วก็​ออก​ไป​จาก​ตรอก​ทั้งอย่างนั้น​

อันที่จริง​เกา​โหย​ว​หวัง​ให้​ว่าน​เหยียน​จากไป​ทั้ง​อย่างนี้​ แต่​ก็​อยาก​ให้​ว่าน​เหยียน​ไม่ต้อง​ไป​ไหน​ด้วย​ อยู่​เป็นเพื่อน​กัน​ มีทุกข์​ร่วม​ต้าน​ แต่​สุดท้าย​สหาย​รัก​ต้อง​จากไป​ก็​ดูเหมือนว่า​จะไม่ได้​แย่​ไป​ทั้งหมด​ แต่​ถึงอย่างไร​หัวใจ​ของ​เด็กหนุ่ม​ร่าง​สูงใหญ่​ก็​ว่าง​โหวง​แปลก​ๆ

โจว​ไห่​จิ้งมอง​เด็กหนุ่ม​อารมณ์​ซับซ้อน​ที่นั่ง​ยอง​อยู่​หน้า​ประตู​ ยกมือ​กุม​หัว​

นาง​ถอนหายใจ​ บอก​ที่อยู่​แห่ง​หนึ่ง​ใน​เมืองหลวง​ให้​กับ​เกา​โหย​ว​ โบกมือ​เอ่ย​ว่า​ “เจ้าไปหา​คน​ตาม​ที่อยู่​นี้​ เขา​ชื่อ​ซูหลา​ง ก็​คือ​คน​ที่​พก​เหล้า​มาก่อนหน้านี้​ บอก​ไป​ว่า​ข้า​ให้​เจ้าไปหา​เขา​ แล้ว​ให้​เขา​สอน​วร​ยุทธ​กับ​เจ้าสัก​สอง​สามกระบวนท่า​ ส่วน​เจ้าจะเรียน​เป็น​กี่มากน้อย​ก็​ต้อง​ดู​ที่​ความสามารถ​ของ​เจ้าเอง​แล้ว​”

เกา​โหย​ว​หันขวับ​กลับมา​ พูด​เสียงสะอื้น​ “ขอบคุณ​ท่าน​น้า​โจว​”

โจว​ไห่​จิ้งเอ่ย​อย่าง​ขำ​ๆ ปน​ฉุน​ “เจ้าตะพาบ​น้อย​ เรียก​พี่​โจว​!”

เกา​โหย​ว​ยิ้ม​กว้าง​ วิ่ง​ปรู๊ด​จากไป​ทันที​ คิด​ว่า​จะกลับบ้าน​ไป​เก็บ​สัมภาระ​ก่อน​ เพียงแต่ว่า​ตอนที่​วิ่ง​ไป​ถึงหัวเลี้ยว​ เขา​กลับ​หันหน้า​มาตะโกน​เสียงดัง​ “ท่าน​น้า​โจว​ จำไว้​ว่า​พรุ่งนี้​ช่วย​บอก​นาง​แทน​ข้า​สัก​คำ​ว่า​ข้า​ออก​ไป​ท่อง​ยุทธ​ภพ​แล้ว​”

โจว​ไห่​จิ้งไม่ได้​พูด​อะไร​

ยุทธ​ภพ​มีอะไร​ดีกัน​เล่า​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!