กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 891

เฉิน​ผิง​อัน​ยืน​กุมมือ​อยู่​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ ราวกับว่า​ยืน​ทอดสายตา​มอง​ไป​ไกล​อยู่​ใน​ศาลา​ของ​ภูเขา​ไฉ่จือ​จริงๆ​ ทั่ว​ร่าง​คน​ชุด​เขียว​อาบ​ไล้​ไว้​ด้วย​แสงสีทอง​

เก็บ​ภาพ​ปราก​ฎการณ์​ประหลาด​นี้​มา เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​เอ่ย​กับ​จ้งชิว​ว่า​ “วันหน้า​พวกเรา​สามารถ​ใช้ที่นี่​รับรอง​แขก​ เชิญให้​คน​ดื่ม​ชาดื่มเหล้า​ได้​ ทัศนียภาพ​งดงาม​อย่าง​ถึงที่สุด​ ถึงอย่างไร​ก็​สามารถ​หด​ย่อ​พื้นที่​ได้​ตามใจ​ เลือก​สถานที่​บน​ภาพ​แผนที่​ได้​ตามใจชอบ​ นี่​ก็​ไม่ต่าง​จาก​การ​ที่​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​สิบ​สี่สอง​ท่าน​จับมือ​กัน​เดินทางไกล​แล้ว​”

จ้งชิว​พยักหน้า​รับ​ด้วย​รอยยิ้ม​

ชุย​เหวย​มอง​จน​ปาก​อ้า​ตาค้าง​

ภาพ​แผนที่​แห่ง​ขุนเขา​สายน้ำ​ภาพ​นี้​ยังมี​ลูกเล่น​แบบนี้​ได้​ด้วย​หรือ​?

ถึงอย่างไร​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​ก่อกำเนิด​ผู้​นี้​ก็​เป็น​คนซื่อ​คน​หนึ่ง​

จ้งชิว​พลัน​ยิ้ม​แล้ว​ยื่นมือ​ไป​ทาง​ชุย​เหวย​ ผู้ฝึก​กระบี่​ส่งเงินร้อน​น้อย​เหรียญ​หนึ่ง​ให้​เงียบๆ​

จ้งชิว​เก็บ​เงินร้อน​น้อย​เหรียญ​นั้น​มา ยิ้ม​กล่าว​ “คราวหน้า​จะเลี้ยง​เหล้า​พี่​ชุย​เอง​”

เฉิน​ผิง​อัน​รู้สึก​สงสัย​อยู่​บ้าง​

จ้งชิว​จึงอธิบาย​ว่า​ “ก่อน​จะมาได้​เดิมพัน​เรื่อง​หนึ่ง​กับ​ชุย​เหวย​ ข้า​เดิมพัน​ว่า​พอ​เจ้าขุนเขา​ขึ้น​มาบน​เรือข้ามฟาก​เฟิงยวน​ เรื่อง​แรก​ที่​ทำ​ก็​คือ​ตรวจสอบ​ห้อง​ต่างๆ​ บน​เรือ​อย่าง​ละเอียด​ แต่​ชุย​เหวย​กลับ​รู้สึก​ว่า​เรื่อง​แรก​ที่​เจ้าขุนเขา​จะทำ​หลังจาก​ขึ้น​เรือ​ ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ควรจะ​เลือก​ที่พัก​ก่อน​ จากนั้น​ค่อย​เดิน​ดู​รอบ​ๆ อย่าง​ง่ายๆ​”

ปาก​เฉิน​ผิง​อัน​พูดว่า​เดิมพัน​กัน​เล็กๆ น้อยๆ​ เพื่อ​ความสนุก​ ดีมาก​ แต่​ด้าน​หนึ่ง​ก็​ใช้เสียง​ใน​ใจเอ่ย​กับ​ชุย​เหวย​ว่า​ “เจ้าไม่บอก​แต่แรก​ เมื่อ​ครู่​ตอนที่​ขึ้น​เรือ​มาก็​ควรจะ​บอก​ข้า​สัก​คำ​ ข้า​จะต้อง​ช่วย​เจ้าหา​เงินร้อน​น้อย​เหรียญ​นี้​มาแน่นอน​ หลัง​จบเรื่อง​มาแบ่ง​เงิน​กัน​ ไม่ต้อง​สน​ว่า​ตอนนั้น​พวกเรา​สอง​คน​จะได้​กำไร​ก้อน​ใหญ่​ ถึงอย่างไรก็ดี​กว่า​เจ้าขาดทุน​กระมัง​”

ชุย​เหวย​จน​คำพูด​

นิสัย​การ​เดิมพัน​ที่​ไม่ซื่อสัตย์​เช่นนี้​ เขา​ทำ​ไม่ลง​จริงๆ​

เมื่อก่อน​ชุย​เหวย​ยัง​ไม่ค่อย​เชื่อ​ข่าวลือ​หนึ่ง​ แต่​ตอนนี้​กลับ​ไม่สงสัย​แม้แต่น้อย​แล้ว​ ที่​บ้านเกิด​เคย​มีร้าน​ร้าน​หนึ่ง​ที่​ผี​ขี้เหล้า​สิบ​คน​ เก้า​คนใน​นั้น​คือ​หน้าม้า​

ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​สี่คน​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ เวลานี้​อยู่​รวมกัน​ใน​ห้อง​แห่ง​หนึ่ง​ นั่ง​ล้อมวง​กันที่​โต๊ะ​

กวอ​จู๋จิ่ว​ยังคง​มีรูปโฉม​เป็น​เด็กสาว​ ตรง​เอว​ห้อย​แท่น​ฝน​หมึก​แบบ​พกพา​ นาง​นั่ง​อยู่​ฝั่งตรงข้าม​กับ​เผย​เฉียน​

ได้​กลับมา​พบกัน​อีก​ครั้งหลัง​ต้อง​จากลา​กัน​เนิ่นนาน​ เห็น​ใบหน้า​ผอม​ตอบ​แล้ว​ชวน​ให้​คน​เวทนา​นัก​

พอก​วอ​จู๋จิ่ว​ไป​ถึงภูเขา​ลั่วพั่ว​ก็​ไม่เพียงแต่​รับ​เผย​เฉียน​เป็น​ศิษย์​พี่​หญิง​ใหญ่​อย่าง​ไม่ลังเล​ ยัง​เรียก​จ้าว​ซู่เซี่ย​เป็น​ศิษย์​พี่ชาย​ จ้าว​หลวน​เป็น​ศิษย์​พี่​หญิง​พร้อมกัน​รวดเดียว​ด้วย​

จ้าว​หลวน​รู้สึก​กระวนกระวาย​ กวอ​จู๋จิ่ว​ก็​ให้เหตุผล​ที่​สมเหตุสมผล​ตาม​หลัก​ฟ้าดิน​ จ้าว​หลวน​เจ้าหน้าตา​งดงาม​นี่​นา​ หาก​ไม่เป็น​ศิษย์​พี่​หญิง​ก็​น่าเสียดาย​แล้ว​

ขอ​แค่​วันหนึ่ง​ที่​อาจารย์​พ่อ​อิ่น​กวาน​ไม่ได้รับ​ใคร​เป็น​ลูกศิษย์​ปิด​สำนัก​อย่าง​เป็นทางการ​ ถ้าอย่างนั้น​ตน​ก็​ถือเป็น​ลูกศิษย์​คน​สุดท้าย​ครึ่งตัว​ของ​อาจารย์​พ่อ​ ยิ่ง​นาน​ก็​จะยิ่ง​มีศิษย์​พี่ชาย​หญิง​เพิ่มมากขึ้น​เรื่อยๆ​!

ขนาด​ฮ่องเต้​ก็​ยัง​รัก​ลูก​คน​เล็ก​นี่​นะ​

เผย​เฉียน​ถามเรื่องราว​ของ​ใต้​หล้า​ห้า​สี ทว่า​พอ​นาง​ถามคำถาม​ออก​ไป​แล้ว​เห็น​ท่าทาง​เช่นนั้น​ของ​กวอ​จู๋จิ่ว​ เผย​เฉียน​ก็​เสียใจ​จน​ไส้เขียว​แล้ว​

เพราะ​กวอ​จู๋จิ่ว​มีการ​เตรียมการ​มาก่อนหน้า​แล้ว​ นาง​ริน​น้ำชา​ให้​ทุกคน​คนละ​หนึ่ง​ถ้วย​ก่อน​ จากนั้น​ก็​หยิบ​กระดาษ​สิบ​กว่า​แผ่น​ออกมา​ กระแอม​สอง​สามที​แล้ว​เริ่ม​อ่าน​ตาม​กระดาษ​

จ้าว​ซู่เซี่ย​กับ​จ้าว​หลวน​ฟังด้วย​ความเพลิดเพลิน​ เพราะ​ถึงอย่างไร​ก็​เป็น​ขนบธรรมเนียม​และ​เรื่องราว​น่าสนใจ​ของ​ใต้​หล้า​ใหม่เอี่ยม​

เพียงแต่​รอ​กระทั่ง​กวอ​จู๋จิ่ว​หยิบ​กระดาษ​อีก​ปึก​หนึ่ง​ออก​มาจาก​ชาย​แขน​เสื้อ​ มือหนึ่ง​ถือ​ถ้วย​น้ำชา​ดื่ม​ให้​ลำคอ​ชุ่มชื้น​ มือหนึ่ง​สะบัด​แรง​ๆ ปึก​กระดาษ​ใน​มือ​ส่งเสียง​พั่บๆ​

พี่ชาย​น้องสาว​สอง​คน​ก็​พลัน​เข้าใจ​ความรู้สึก​ของ​ศิษย์​พี่​หญิง​ใหญ่​แล้ว​

รอ​กระทั่ง​พวกเขา​สอง​พี่น้อง​ฟัง ‘นิทาน​’ ที่​คน​เล่า​ใส่ทั้ง​น้ำเสียง​และ​สีหน้า​อย่าง​เต็มที่​จบ​ไป​รอบ​หนึ่ง​อย่าง​ไม่ง่าย​ คน​หนึ่ง​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​จะไป​ฝึก​หมัด​ คน​หนึ่ง​บอ​กว่า​จะไป​นั่ง​เข้าฌาน​ทำสมาธิ​ พา​กัน​เผ่นหนี​เพื่อ​ความปลอดภัย​

ห้อง​นี้​เป็น​ห้องพัก​ของ​เผย​เฉียน​ นาง​อยาก​จะหลบ​ก็​ไม่มีที่​ให้​หลบเลี่ยง​

กวอ​จู๋จิ่ว​ฟุบ​ตัว​นอนคว่ำ​อยู่​บน​โต๊ะ​ บอ​กว่า​นาง​เอา​หีบ​ไม้ไผ่​ใบ​เล็ก​ใบ​นั้น​ไว้​ที่​คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​ ให้​เป็น​สมบัติ​พิทักษ์​เรือน​ วันหน้า​เมื่อ​นาง​ไป​ท่องเที่ยว​ใต้​หล้า​ห้า​สีพร้อมกับ​เผย​เฉียน​ค่อย​คืนให้​ศิษย์​พี่​หญิง​ใหญ่​

เผย​เฉียน​เท้าคาง​ด้วยมือ​ข้างเดียว​ มอง​ไปนอก​หน้าต่าง​ บอ​กว่า​ไม่มีปัญหา​

กวอ​จู๋จิ่ว​เอา​ใบหน้า​แนบ​โต๊ะ​ มอง​เผย​เฉียน​ ถามอย่าง​ประหลาดใจ​ “เผย​เฉียน​ มวยผม​ทรงกลม​นี้​ของ​เจ้า เวลา​ปกติ​จัดการ​ได้​ยาก​หรือไม่​ หาก​ไม่ยุ่งยาก​ พรุ่งนี้​ก็​ทำให้​ข้า​หน่อย​เถอะ​”

เผย​เฉียน​ยิ้ม​บาง​ๆ “ง่าย​มาก​เลย​ล่ะ​ ข้า​สามารถ​สอน​เจ้าทำ​ไป​ทีละ​ขั้นตอน​ได้​”

กวอ​จู๋จิ่ว​เงยหน้า​ขึ้น​ เปลี่ยน​ฝั่งใบ​หน้าที่​ใช้แนบ​โต๊ะ​ “เผย​เฉียน​ ได้ยิน​ว่า​ที่นี่​มีธรรมเนียม​ก่อกวน​ห้อง​หอ​ ถึงเวลา​นั้น​ข้า​สามารถ​ไป​หลบ​อยู่​ใต้​เตียง​ของ​พวก​เจ้าได้​หรือไม่​?”

เผย​เฉียน​กลอกตา​มอง​บน​ “ต่อให้​เจ้าออกเรือน​แล้ว​ ข้า​ก็​ยัง​ไม่ได้​แต่งงาน​เลย​”

กวอ​จู๋จิ่ว​ร้อง​ฮ่า กะพริบตา​ปริบๆ​ “ได้ยิน​หมี่​ลี่​น้อย​บอ​กว่า​เจ้าสร้างชื่อเสียง​ใหญ่โต​ไว้​ใน​ยุทธ​ภพ​ เล่า​ให้​ข้า​ฟังหน่อย​ได้​ไหม​?”

เผย​เฉียน​ส่ายหน้า​ “หมี่​ลี่​น้อย​พูดเหลวไหล​ ชอบ​ใส่เสริม​เติม​แต่ง​ให้​เกิน​จริง​”

เดิมที​นึก​ว่า​กวอ​จู๋จิ่วจะ​ทำให้​ตน​ปวดหัว​ต่อไป​ คิดไม่ถึง​ว่า​เผย​เฉียน​จะได้ยิน​เสียงกรน​เบา​ๆ ดัง​มา ถึงกับ​หลับ​ไป​แล้ว​

เรือข้ามฟาก​เดิน​ทางลง​ใต้​

แสงจันทร์​กระเพื่อม​ไป​ตาม​กระแสน้ำ​ เรือน​น้อย​ที่​กระโดง​ตั้ง​สูงล่องลอย​อย่าง​เดียวดาย​ยาม​ราตรี​

เงยหน้า​คือ​ดวงจันทร์​ ก้มหน้า​ลง​คือ​โลก​มนุษย์​

แสงจันทร์​ยามค่ำคืน​ของ​ฤดูใบไม้ร่วง​ สาด​แสงสว่าง​สุก​สกาว​ไป​ทั่ว​บ้านเรือน​นับ​หมื่น​หลัง​

เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​เจี่ย​กับ​เฉินห​ลิง​จวิน​ พี่น้อง​สอง​คน​กำลัง​ชมจันทร์​จิบ​สุรา​พลาง​พูดคุย​เรื่อง​ใน​ใจกัน​ไป​ด้วย​

นักพรต​เฒ่าลูบ​หนวด​พึมพำ​ “หาก​มีโอกาส​จะต้อง​รีบ​ส่งจดหมาย​ไป​ให้​โจว​อันดับ​หนึ่ง​แล้ว​”

เฉินห​ลิง​จวิน​ถามอย่าง​สงสัย​ “ทำไม​ล่ะ​ ขาดเงิน​ใช้หรือ​? เดี๋ยว​ถ้าเสี่ยว​จางของ​ห้อง​บัญชี​จ่ายเงินเดือน​เดือน​ใหม่​ให้​ ท่าน​ก็​รับ​ส่วน​ของ​ข้า​ไป​พร้อมกัน​เลย​เถอะ​”

เงิน​ของ​ข้า​ก็​คือ​เงิน​ของ​พี่น้อง​ เงิน​ของ​พี่น้อง​ก็​คือ​เงิน​ค่า​สุรา​

นักพรต​เฒ่าทอดถอนใจ​ “หาก​น้อง​โจว​ยัง​ไม่กลับมา​อีก​ เกรง​ว่า​ตำแหน่ง​อันดับ​หนึ่ง​คง​รักษา​ไว้​ไม่อยู่แล้ว​”

เฉินห​ลิง​จวิน​กระจ่างแจ้ง​ทันใด​ “ใช่แล้ว​ๆ พี่น้อง​เสี่ยว​โม่ของ​เรา​คน​นี้​เป็น​คน​บน​เส้นทาง​เดียวกัน​กับ​พี่​โจว​จริงๆ​ คือ​ศัตรู​ที่​แข็งแกร่ง​!”

สอง​พี่น้อง​สบตา​กัน​แล้ว​หัวเราะ​ดังลั่น​

อย่า​ได้​โทษ​ที่​พวกเรา​สอง​พี่น้อง​ไม่มีน้ำใจ​ใน​ยุทธ​ภพ​ เป็น​เพราะ​เสี่ยว​โม่มีคุณธรรม​มากเกินไป​ต่างหาก​

เฉิน​ผิง​อัน​ค่อนข้าง​ประหลาดใจ​ คิดไม่ถึง​ว่า​ตน​จะได้​เจอ​กับ​ลูกศิษย์​ของ​เว่ยเซี่ยน​เร็ว​ขนาด​นี้​ แม่นาง​น้อย​คน​หนึ่ง​อายุ​ยัง​ไม่ถึงสิบ​ปี​ แซ่ไฉนาม​อู๋​

เว่ยเซี่ยน​จะต้อง​ติดตาม​กองทัพ​ชายแดน​อัน​เกรียงไกร​ของ​ต้า​หลี​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ จึงส่งแม่นาง​น้อย​มาที่​เรือข้ามฟาก​กลางทาง​ระหว่าง​ที่อยู่​นคร​มังกร​เฒ่าซึ่งถูก​สร้าง​ขึ้น​ใหม่​ แล้ว​ยัง​มอบ​จดหมาย​ฉบับ​หนึ่ง​ไว้​ให้​กับ​ไฉอู๋​ บอก​ให้​นาง​มอบให้​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ผู้​เป็น​เจ้าขุนเขา​กับ​มือ​ตัวเอง​

แม่นาง​น้อย​หน้าตา​งามหมดจด​ สุภาพ​เรียบร้อย​ ตัว​ไม่เตี้ย​ ก็​แค่​ผอม​กว่า​คน​วัย​เดียวกัน​เล็กน้อย​

ไม่รู้​ว่า​เพราะเหตุใด​ เฉิน​ผิง​อัน​ถึงได้​มีความรู้สึก​เหมือน​ภาพลวงตา​ว่า​แม่นาง​น้อย​ตรงหน้า​ อายุ​น้อย​ๆ ก็​คล้าย​เขียน​ตัวอักษร​สี่คำ​ไว้​บน​ใบหน้า​ว่า​ ข้า​อยาก​ดื่มเหล้า​

เฉิน​ผิง​อัน​แกะ​จดหมาย​ออก​ เปิด​อ่าน​เนื้อหา​ด้านใน​เรียบร้อย​ก็​รู้สึก​ว่า​ความรู้สึก​ลวงตา​นั้น​ของ​ตน​มีเหตุผล​

เว่ยเซี่ยน​บอก​แค่​ว่า​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​ช่วย​หา​ยอด​ฝีมือ​สัก​สอง​สามคน​มาช่วย​ถ่ายทอด​คาถา​เซียน​บน​ภูเขา​ให้​กับ​แม่นาง​น้อย​ หาก​เจ้าขุนเขา​ยินดี​ถ่ายทอดวิชา​ให้​ด้วยตัวเอง​ก็​ยิ่ง​ดี​

ไม่ต้อง​กังวล​ว่า​โลภมาก​ไป​แล้​วจะ​เคี้ยว​ไม่ละเอียด​ สอน​อะไร​ นาง​ก็​เรียน​อย่างนั้น​ จะเรียน​สำเร็จ​หรือไม่​ก็​ขึ้นอยู่กับ​วาสนา​ของ​นาง​เอง​

เว่ยเซี่ยน​มีข้อเรียกร้อง​เพียง​อย่าง​เดียว​ ความสามารถ​ด้าน​หมัด​เท้า​ของ​ไฉอู๋​ต้อง​ให้​เขา​ที่​เป็น​อาจารย์​เป็น​คน​สอน​ด้วยตัวเอง​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!