กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 891

เสี่ยว​โม่ยิ้ม​เอ่ย​ “เริ่ม​วาด​ฝัน​ถึงอนาคต​แล้ว​”

เรือข้ามฟาก​เฟิงยวน​จอด​เทียบท่า​ที่​ท่าเรือ​ตระกูล​เซียน​ชื่อว่า​ขู่​หู​หลู​แห่ง​หนึ่ง​ซึ่งตั้งอยู่​ใกล้​กับ​ขุนเขา​กลาง​ เนื่องจาก​มีทะเลสาบ​น้อย​ใหญ่​เชื่อมโยง​ต่อกัน​ ลักษณะ​คล้าย​น้ำเต้า​ (หู​หลู)​ จึงตั้งชื่อ​เช่นนี้​

อันที่จริง​น้ำ​ของ​ทะเลสาบ​ใสมาก​ ส่วน​เหตุใด​ถึงมีคำ​ว่า​ขู่​ที่​แปล​ว่า​ขม​อยู่​ใน​ชื่อ​ บน​ภูเขา​กลับ​ไม่มีคำกล่าว​ที่​ชัดเจน​

ทาง​ฝั่งของ​ท่าเรือ​ จิ้น​ชิงซาน​จวิน​กับ​ปัญญาชน​ชุด​เขียว​ที่​ปราณ​บุ๋น​เข้มข้น​คน​หนึ่ง​ยืน​เคียง​ไหล่​กัน​

นอกจากนี้​ยังมี​หลู​ป๋า​ยเซี่ยง​และ​ลูกศิษย์​สอง​คน​อย่าง​หยวน​เป่า​หยวน​ไหล​ที่​รอคอย​เรือข้ามฟาก​เฟิงยวน​อยู่​ตรงนี้​ด้วย​ เพียงแต่ว่า​ท่าเรือ​หู​หลู​มีผู้คน​มากมาย​หู​ตา​เยอะ​ อาจารย์​และ​ศิษย์​สามคน​จึงขึ้น​เรือกัน​ไป​อย่าง​เงียบเชียบ​แล้ว​

ทุกวันนี้​หลู​ป๋า​ยเซี่ยง​คือ​ผู้​ถวายงาน​ของ​ภูเขา​ทายาท​แห่ง​หนึ่ง​ของ​มหา​บรรพต​กลาง​ หยวน​ไหล​ผู้​เป็น​ลูกศิษย์​ยัง​เคย​ได้รับ​โชค​วา​สเซียน​อย่างหนึ่ง​จาก​ภูเขา​แห่ง​นี้​

มีหมี่​ลี่​น้อย​อยู่​ด้วย​ จึงไม่มีข่าว​เล็ก​ๆ ข่าว​ใด​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ล่วงรู้​

ดังนั้น​ครั้งนี้​หยวน​เป่า​ไป​ที่​ใบ​ถงทวีป​ ถึงเวลา​นั้น​ครั้งแรก​ที่​นาง​ได้​พบ​หน้า​เฉาฉิงหล่า​ง เฉิน​ผิง​อัน​จึงตั้งใจ​ว่า​จะสังเกต​ให้​มาก​หน่อย​ ดู​สิว่า​ข่าวลือ​มีมูลความจริง​หรือไม่​

แม้จะบอ​กว่า​สุดท้าย​แล้ว​หยวน​ป๋า​ย​หนึ่ง​ใน​หยก​คู่​บน​วิถี​กระบี่​ของ​จูอิ๋ง​เก่า​ก็​ยัง​ไม่อาจ​หลุด​พ้นไป​จาก​ภูเขา​ตะวัน​เที่ยง​ ติดตาม​จิ้น​ชิงมาฝึก​ตน​ที่​ขุนเขา​กลาง​ได้​ แต่​ต้อง​ไป​ยัง​สถานที่​แห่ง​หนึ่ง​ที่​ศาล​บรรพ​จารย์​ของ​ภูเขา​ตะวัน​เที่ยง​ตั้ง​ชื่อว่า​ภูเขา​หวง​ซาน​ รับผิดชอบ​เรื่อง​การ​สร้าง​สำนัก​เบื้องล่าง​ของ​ภูเขา​ตะวัน​เที่ยง​ หาก​ตัด​คำ​ว่า​ตัวสำรอง​ออก​ หยวน​ป๋า​ย​ก็​จะกลายเป็น​เจ้าสำนัก​ เพียงแต่ว่า​ขอบเขต​ของ​หยวน​ป๋า​ย​ เกิน​ครึ่ง​คง​ต้อง​หยุด​อยู่​ที่​ก่อกำเนิด​มิอาจ​ขยับ​เดินหน้า​ได้​แล้ว​ และ​นี่​ก็​เป็นหนึ่ง​ใน​สาเหตุ​ที่​ภูเขา​ตะวัน​เที่ยง​วางใจ​ให้​หยวน​ป๋า​ย​มาดูแล​กิจธุระ​ใน​การ​สร้าง​สำนัก​เบื้องล่าง​

ทว่า​จิ้น​ซาน​จวิน​ก็​ยังคง​เห็นแก่​น้ำใจ​ส่วน​นี้​ของ​เจ้าขุนเขา​เฉิน​ ดังนั้น​จึงตอบ​ตกลง​อย่าง​รวดเร็ว​ว่า​ วันหน้า​ค่าใช้จ่าย​เมื่อ​เรือ​เฟิงยวน​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​มาจอด​เทียบท่า​ที่นี่​ทุกครั้ง​จะลด​ให้​ห้า​ส่วน​

อันที่จริง​คราว​ก่อนที่​ชุยตง​ซาน​นั่ง​บัญชา​การณ์​เรือข้ามฟาก​เดิน​ทางลง​ใต้​ไป​ยัง​ใบ​ถงทวีป​ ระหว่างทาง​ก็​ได้มา​จอด​พัก​ที่​ท่าเรือ​ขู่​หู​หลู​ ตอนนั้น​บน​เรือ​ยังมี​ผู้ฝึก​กระบี่​ที่​ใช้นามแฝง​ว่า​เส้าพอ​เซียน​อยู่​ด้วย​ ทว่า​ตอนที่​จิ้น​ชิงขึ้น​เรือ​มากลับ​ไม่ได้​ไป​เจอ​เขา​

ทว่า​รอ​กระทั่ง​ซาน​จวิน​ใหญ่​ท่าน​นี้​ลง​จาก​เรือ​กลับ​ไป​ที่​ศาล​แล้วก็​ไป​ยืน​ที่​หน้า​ประตู​ คารวะ​อำลา​ไกลๆ​ ให้​กับ​เรือข้ามฟาก​ที่​ผลุบ​หาย​เข้าไป​ใน​เมฆขาว​อย่าง​นอบน้อม​

เฉิน​ผิง​อัน​พา​เสี่ยว​โม่ลง​จาก​เรือ​ ยิ้ม​ก้าวเดิน​เร็ว​ๆ เดิน​ไป​ข้างหน้า​ กุม​หมัด​คารวะ​ “คารวะ​เว่ย​ซาน​จวิน​ เจ้าเมือง​อู๋”​

ปัญญาชน​ชุด​เขียว​ก็​คือ​คนคุ้นเคย​ของ​บ้านเกิด​แล้ว​ ก็​คือ​อู๋​ยวน​นั่นเอง​ ปี​นั้น​ต้อง​ไป​ชนตอ​อยู่​ที่​อำเภอ​ไหว​หวง​หลง​โจว​ เส้นทาง​ที่​เจริญก้าวหน้า​ของ​การ​เป็น​ขุนนาง​ปู​เต็มไปด้วย​ตะปู​อ่อน​ที่​พวก​แซ่สกุล​ใหญ่​ของ​ถนน​ฝูลู่​และ​ตรอก​เถาเย่​โยนทิ้ง​เอาไว้​ สุดท้าย​ได้​แต่​ไป​จาก​หลง​โจว​อย่าง​หม่นหมอง​ เท่ากับ​ว่า​ถูกลด​ระดับ​ขั้น​ให้​ไป​ดำรงตำแหน่ง​ใน​เขตการปกครอง​เล็ก​ๆ แห่ง​หนึ่ง​ที่​ตั้งอยู่​ตีนเขา​ของ​ขุนเขา​กลาง​ ทุกวันนี้​กลายเป็น​ขุนนาง​ที่อยู่​ชายแดน​ห่างไกล​ของ​ต้า​หลี​ สถานะ​ยังคง​เป็น​เจ้าเมือง​ ใน​ฐานะ​ลูกศิษย์​ที่​ได้รับ​การ​บันทึก​ชื่อ​ของ​ราชครู​ชุย​ฉาน​ อีก​ทั้ง​ยัง​เป็น​นายอำเภอ​คน​แรก​ของ​อำเภอ​ไหว​หวง​หลง​โจว​ เรื่อง​ของ​การ​เลื่อนขั้น​ก็​เรียก​ได้​ว่า​เริ่มต้น​สูงเดินลง​สู่ที่ต่ำ​จน​ต่ำ​ไป​มากกว่า​นี้​ไม่ได้​อีกแล้ว​ ใน​วงการ​ขุนนาง​ท้องถิ่น​ เจ้าเมือง​อู๋​อย่าง​มาก​สุด​ก็ได้​แค่​ไป​คว้า​ตำแหน่ง​ว่างงาน​ใน​ที่ว่าการ​เก้า​มนตรี​เล็ก​ของ​เมืองหลวง​สำรอง​แล้ว​ใช้ชีวิต​บั้นปลาย​อยู่​ที่นั่น​เท่านั้น​ สมญานาม​ที่​ถูก​อวย​ยศ​ให้​ย้อนหลัง​? ฝัน​ไป​เถอะ​

แต่​เฉิน​ผิง​อัน​รู้​ว่า​อีกไม่นาน​อู๋​ยวน​จะถูก​โยกย้าย​กลับ​ไป​ ได้รับ​การยกเว้น​ให้​เลื่อนขั้น​เป็น​ผู้ว่า​ ‘คน​ใหม่​’ ของ​จังหวัด​ฉู่โจว​แห่ง​ใหม่​หรือ​อดีต​หลง​โจว​เก่า​นั่นเอง​

จิ้น​ชิงกุม​หมัด​ พูด​กลั้ว​หัวเราะ​เสียงดัง​กังวาน​ “คารวะ​เจ้าขุนเขา​เฉิน”​

อู๋​ยวน​ประสานมือ​คารวะ​ ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “อู๋​ยวน​คารวะ​อาจารย์​อา​น้อย​เฉิน”​

ถูก​อู๋​ยวน​เรียก​ว่า​อาจารย์​อา​น้อย​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ถึงกับ​หลุด​หัวเราะ​พรืด​

เฉิน​ผิง​อัน​มาใน​วันนี้​ก็​เพื่อ​ปรึกษา​สามเรื่อง​อย่าง​เรื่อง​การ​ขุด​หิน​ ตัด​ต้นไม้​และ​ซื้อ​กรวดทราย​แม่น้ำ​กับ​ซาน​จวิน​ขุนเขา​กลาง​ แน่นอน​ว่า​ไม่ใช่หิน​หรือ​ไม้ธรรมดา​อะไร​ พูดถึง​แค่​ไม้ถาน​มู่โบราณ​ที่​มีเฉพาะ​บน​ภูเขา​ทายาท​ลูก​หนึ่ง​ของ​ขุนเขา​กลาง​ ใน​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ชื่อเสียง​ก็​เป็นรอง​แค่​ไม้ใหญ่​อวี้​จางเท่านั้น​ เป็น​ตัวเลือก​แรก​ใน​การนำ​ไป​ทำ​เสาคาน​ใน​ตำหนัก​ต่างๆ​ และ​ใช้ใน​งานพิธี​สำคัญ​ทั้งหลาย​ของ​แต่ละ​แคว้น​ใน​ภาค​กลาง​ ราชวงศ์​จูอิ๋ง​ยัง​สร้าง​สำนัก​จัดซื้อ​ขึ้น​มาที่​ตีนเขา​โดยเฉพาะ​ ซึ่งถูก​วังหลวง​ของ​ฝ่าย​เชื้อพระวงศ์​ผูกขาด​การ​ตัด​และ​เก็บ​มาโดยตลอด​ ไม่ได้​มีการ​ขาย​เป็นต้น​ด้วยซ้ำ​ แต่​ขาย​ด้วย​การ​ชั่งน้ำหนัก​ ไม้ถาน​มู่หนึ่ง​ชุ่น​เท่า​ทอง​หนึ่ง​ชุ่น​

ก่อนหน้านี้​ชุยตง​ซาน​คุย​เรื่อง​ทิศทาง​กับ​จิ้น​ชิงไว้​คร่าวๆ​ แล้ว​ แต่กลับ​ยัง​เจรจา​กัน​เรื่อง​ราคา​ไม่สำเร็จ​ จึงได้​แต่​ให้​อาจารย์​แสดง​ฝีมือ​เอง​แล้ว​

ใบ​ถงทวีป​ที่อยู่​ทางทิศใต้​ ทุกหนทุกแห่ง​แทบจะ​มีแต่​ซาก​ปรัก​ แต่ละ​แคว้น​ทยอย​กัน​กอบกู้​ฟื้น​คืน​ จึงมีความต้องการ​มหาศาล​ต่อ​ไม้ใหญ่​และ​กรวด​หิน​ของ​ตระกูล​เซียน​บน​ภูเขา​ แน่นอน​ว่า​ใน​พื้นที่​ของ​ใบ​ถงทวีป​ซึ่งแผ่นดิน​กว้างใหญ่​ทรัพยากร​อุดมสมบูรณ์​ก็​ต้อง​มีเหมือนกัน​ เพียงแต่ว่า​หนึ่ง​การ​ขุดค้น​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​ สอง​จวน​ตระกูล​เซียน​แต่ละ​แห่ง​ก็​ต้อง​การซ่อมแซม​ศาล​บรรพ​จารย์​เช่นเดียวกัน​ ย่อม​ต้อง​สร้าง​จวน​เซียน​ของ​ตัวเอง​ขึ้น​มาใหม่​ก่อน​ บวก​กับ​ที่​ทั้ง​บน​และ​ล่าง​ภูเขา​ของ​ใบ​ถงทวีป​ เรื่อง​ของ​การแข่งขัน​ได้​ค่อยๆ​ กลาย​มาเป็น​ประเพณีนิยม​ แข่ง​กัน​เป็น​คน​มือเติบ​ ต่อให้​ต้อง​รัดเข็มขัด​กางเกง​แน่น​ หรือ​จะต้อง​ไป​กู้หนี้ยืมสิน​จาก​คนอื่น​ ก็​ยัง​ต้อง​สร้าง​ตำหนัก​ใน​พระราชวัง​ หรือไม่​ก็​นคร​ตาม​สถานที่​ต่างๆ​ ให้​ยิ่งใหญ่​อลังการ​ยิ่งกว่า​ตอน​ก่อน​เกิด​สงคราม​

เสี่ยว​โม่มอง​คุณชาย​อยู่​ด้าน​ข้าง​เงียบๆ​ คุณชาย​หัวเราะ​พูดคุย​กับ​ซาน​จวิน​และ​เจ้าเมือง​อย่าง​ผ่อนคลาย​ เรื่อง​ของ​ราคา​ไม่มีคำ​ว่า​เรื่อง​ดี​เต็มไปด้วย​อุปสรรค​อะไร​ด้วยซ้ำ​ ราวกับว่า​จิ้น​ชิงซาน​จวิน​ก็​แค่​รอ​ให้​คุณชาย​ของ​ตน​ปรากฏตัว​เท่านั้น​

สามเรื่อง​อย่าง​การ​ทำ​เหมือง​หิน​ ตัด​ต้นไม้​และ​ขุด​กรวดทราย​จาก​ท้องน้ำ​ ไม่จำเป็นต้อง​ให้​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ส่งคนงาน​มาด้วยซ้ำ​ จิ้น​ชิงบอก​ให้​เจ้าขุนเขา​เฉิน​วางใจ​ได้​ การค้า​ที่​เป็น​ดั่ง​สายน้ำ​เส้น​เล็ก​ไหล​ยาว​ ไม่จำเป็นต้อง​ให้​ขุนเขา​กลางบ้าน​ตน​ขายหน้า​ด้วย​เงิน​เทพ​เซียน​แค่​ไม่กี่​เหรียญ​นั้น​

เฉิน​ผิง​อัน​พยัก​หน้ายิ้ม​รับ​เอ่ย​ว่า​ตกลง​

อยู่ดีๆ​ ก็​อด​นึก​ไป​ถึงจวน​ตระกูล​เซียน​แห่ง​หนึ่ง​ที่​บางที​ตอน​ออกจาก​บ้าน​อาจ​ไม่เปิด​ปฏิทิน​ดู​ให้​ดีขึ้น​มา กว่า​จะย้าย​จาก​อาณาเขต​ขุนเขา​เหนือ​ของ​เว่ย​ป้อ​มาอยู่​ขุนเขา​กลาง​ได้​ ผล​คือ​กลับ​เจอ​จิ้น​ชิงซาน​จวิน​จัด​งานเลี้ยง​ท่อง​ราตรี​ครั้ง​ใหญ่​ขึ้น​มาอีก​

ช่างเป็นเรื่อง​น่า​ตกตะลึง​ระคน​ยินดี​ที่​มาก​พอ​จะให้​คน​น้ำตา​คลอ​ได้​เลย​…

เรือ​เฟิงยวน​ออกเดินทาง​ลง​ใต้​ต่อ​อีกครั้ง​

จ้งชิว​และ​หลู​ป๋า​ยเซี่ยง​ คนบ้านเดียวกัน​ที่​มาจาก​พื้นที่​มงคล​แห่ง​เดียวกัน​ได้​กลับมา​พบกัน​อีกครั้ง​หลังจาก​ลา​กัน​ไป​นาน​ จึงประชัน​หมากล้อม​กัน​ไป​หลาย​ตา​

เสี่ยว​โม่ชมศึก​อยู่​ด้าน​ข้าง​ เป็น​วิญญูชน​ที่​ไม่พูดจา​ยาม​ดู​คน​เล่น​หมากล้อม​

หยุดนิ่ง​เนิ่นนาน​ พลัน​ได้ยิน​เสียง​เม็ด​หมา​กวาง​แผ่วเบา​

ใน​ห้อง​ อวี๋​เสีย​หุย​นั่งขัดสมาธิ​กำลัง​เข้าฌาน​หลอม​กระบี่​ ชุย​เหวย​นั่ง​สังเกต​ดู​การ​ไหลเวียน​ลมปราณ​ของ​ลูกศิษย์​อยู่​ด้าน​ข้าง​ คอย​มองหา​ช่องโหว่​ใน​จุด​ที่​เล็ก​ละเอียด​

เผย​เฉียน​อยู่​ตรง​ท้ายเรือ​ กำลัง​สอน​หมัด​ให้​กับ​จ้าว​ซู่เซี่ย​

มีความหมาย​เหมือน​การ​ถ่ายทอดวิชา​แทน​อาจารย์​อยู่​บ้าง​

จ้าว​ซู่เซี่ย​ฝึก​หมัด​อย่าง​มุ่งมั่น​ ตั้งใจ​จริงจัง​เฉพาะ​กับ​วิชา​หมัด​เขย่า​ขุนเขา​เท่านั้น​ ทุกวันนี้​เป็น​ผู้ฝึก​ยุทธ​คอขวด​ขอบเขต​ห้า​แล้ว​

ขอบเขต​ไม่ต่ำ​ แต่​ก็​ไม่สูง

ไม่ต่ำ​ก็​เพราะ​เทียบ​กับ​ผู้ฝึก​ยุทธ​เต็มตัว​ทั่วไป​ ไม่สูงเมื่อ​เทียบ​กับ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ของ​อาจารย์​

ไม่ว่า​จะเป็น​ผู้อาวุโส​จูเหลี่ยน​ จ้งชิว​ หลู​ป๋า​ยเซี่ยง​ เว่ยเซี่ยน​ และ​ยังมี​เผย​เฉียน​ เฉิน​ยวน​จี พวก​หยวน​ไหล​หยวน​เป่า​ที่​เป็น​คนรุ่นเดียวกัน​ เส้นทาง​การเรียน​วร​ยุทธ​ตลอด​หลาย​ปี​มานี้​ของ​จ้าว​ซู่เซี่ย​ เห็นได้ชัด​ว่า​ธรรมดา​อย่าง​มาก​ ไม่มีพื้นฐาน​ใน​ด้าน​คุณสมบัติ​พรสวรรค์​ใดๆ​

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​เมื่อ​เผชิญหน้า​กับ​เผย​เฉียน​ปรมาจารย์​ใหญ่​ที่​เป็น​ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​ของ​อาจารย์​เช่นเดียวกัน​ จ้าว​ซู่เซี่ย​จึงอด​รู้สึก​ละอายใจ​ที่​สู้ไม่ได้​อยู่​บ้าง​

สอน​หมัด​ไม่ป้อน​หมัด​ก็​เท่ากับ​ว่า​เปลือง​แรง​เปล่า​

ประลอง​กัน​ไป​หนึ่ง​ครั้ง​ แต่​เผย​เฉียน​ออก​หมัด​อย่าง​รู้​หนัก​เบา​ ไม่ว่า​จะเป็น​หมัด​ หรือ​ศอก​ถอง​ เท้า​เตะ​ ล้วน​หยุด​แต่​พอสมควร​ มอง​ดูเหมือน​คล้าย​กบ​กระโดด​แตะ​ผิวน้ำ​ ทว่า​ต่อให้​เผย​เฉียน​จะกด​ขอบเขต​ไว้​แค่​ไหน​ก็​ยัง​ทำให้​จ้าว​ซู่เซี่ย​ต้อง​เผชิญ​ความลำบาก​อยู่​ไม่น้อย​

รอ​กระทั่ง​เผย​เฉียน​เก็บ​หมัด​หยุด​ยืน​นิ่ง​ จ้าว​ซู่เซี่ย​ก็​หน้าซีด​ขาว​น้อย​ๆ แขน​สั่น​ระริก​ ร่าง​โงนเงน​จะล้ม​มิล้ม​แหล่​

ทั้งสองฝ่าย​ต่าง​ถอย​ไป​คนละ​ก้าว​ กุม​หมัด​คารวะ​กัน​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!