กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 892

เฉินห​ลิง​จวิน​กระจ่างแจ้ง​ทันใด​ มิน่าเล่า​ก่อนหน้านี้​ไม่นาน​จู่ๆ นัง​เด็ก​โง่หน่วน​ซู่ก็​มาหา​ตน​ เอ่ย​ประโยค​โง่ๆ สอง​สามประโยค​ ทำนอง​ว่า​ให้​เขา​ตั้งใจ​ฝึก​ตน​ให้​ดี​ อย่า​ได้​ผิด​ต่อ​ความหวัง​ที่​นาย​ท่าน​บ้าน​ตน​ฝาก​ไว้​ให้​

เฉินห​ลิง​จวิน​พยักหน้า​รับ​อย่าง​แรง​ “นาย​ท่าน​ ท่าน​วางใจ​ร้อย​พัน​ดวง​ได้​เลย​ ข้า​จะต้อง​รีบ​ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​ใน​เร็ว​วัน​แน่ๆ​”

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​เตือน​ “เรื่อง​ที่​มอง​ดูเหมือน​เร่งด่วน​ต้อง​รู้จัก​เตรียมการ​ ก็​คือ​ไม่ให้​เจ้าถ่วงเวลา​อิดออด​ เรื่อง​เร่งด่วน​ต้อง​รับมือ​อย่าง​สุขุม​ ก็​คือ​ต้องการ​ให้​เจ้าทำได้​อย่าง​มั่นคง​ไร้​ความผิดพลาด​”

เฉินห​ลิง​จวิน​ยิ้ม​กว้าง​ “วันหน้า​ข้า​จะอวี้เตี๋ย​จดบันทึก​ลง​บน​แผ่น​ไม้ไผ่​ แล้ว​เอา​วาง​ไว้​บน​โต๊ะ​หนังสือ​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ ให้​เป็น​คติพจน์​เตือนใจ​”

คน​ชุด​เขียว​สอด​สอง​มือ​ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ สีหน้า​อ่อนโยน​ เด็กชาย​ชุด​เขียว​ยก​สอง​แขน​กอดอก​ สีหน้า​ลิงโลด​เบิกบาน​

สำนัก​เบื้องล่าง​ของ​บ้าน​ตน​แห่ง​นี้​

ชุยตง​ซาน​ ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​

จ้งชิว​ ผู้ฝึก​ยุทธ​ขอบเขต​เดินทางไกล​ขั้นสูงสุด​

ชุย​เหวย​ ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​ก่อกำเนิด​ ลูกศิษย์​ของ​อีก​ฝ่าย​คือ​ผู้ฝึก​กระบี่​อวี๋​เสีย​หุย​

เฉาฉิงหล่า​ง ผู้ฝึก​ลมปราณ​ขอบเขต​ประตู​มังกร​ กำลังจะ​กลายเป็น​โอสถ​ทอง​

ผู้​ถวายงาน​อันดับ​หนึ่ง​หมี่​อวี้​ ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​คอขวด​หยก​ดิบ​ คอขวด​นี้​ยัง​ลึก​จน​มองไม่เห็น​ก้นบึ้ง​ เรื่อง​ของ​การ​ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​ยังคง​ห่างไกล​มองไม่เห็น​ปลายทาง​ เลื่อน​เป็น​หยก​ดิบ​ ยาก​ ดังนั้น​หมี่​อวี้​ถึงได้​กลายเป็น​ตัวตลก​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ทุกวันนี้​คิด​อยาก​จะฝ่าทะลุ​คอขวด​หยก​ดิบ​ก็​ยิ่ง​ยาก​มากกว่า​เดิม​

ผู้ฝึก​ตน​ทำเนียบ​ศาล​บรรพ​จารย์​สำนัก​เบื้องล่าง​ สุย​โย่ว​เปีย​น​ ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​ก่อกำเนิด​ นาง​นำพา​ลูกศิษย์​ใหญ่​อย่าง​เฉิงเฉาลู่​ไป​ยึดครอง​ภูเขา​ลูก​หนึ่ง​เพื่อ​ฝึก​ตน​อยู่​ด้วยกัน​ ภูเขา​ลูก​นั้น​ถูก​นาง​ตั้งชื่อ​ให้​ด้วยตัวเอง​ว่า​หอ​ซ่าวฮ​วา​

อวี๋​เสีย​หุย​และ​เฉิงเฉาลู่​ ตัวอ่อน​เซียน​กระบี่​สอง​คน​ที่​มาจาก​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ต่าง​ก็​เป็น​ลูกศิษย์​ใหญ่​เปิด​ขุนเขา​ที่​มีอาจารย์​ผู้​ถ่ายทอด​มรรคา​เป็น​ของ​ตัวเอง​

เส้าพอ​เซียน​ ราษฎร​พลัดถิ่น​ของ​ราชวงศ์​จูอิ๋ง​เก่า​ มีชาติกำเนิด​มาจาก​สกุล​ตู๋​กู​ของ​จูอิ๋ง​ คือ​องค์​รัชทายาท​ที่​ปิดบัง​ชื่อ​แซ่ เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​ก่อกำเนิด​ การ​ที่​จิ้น​ชิงซาน​จวิน​แห่ง​ขุนเขา​กลาง​เคารพ​นอบน้อม​ต่อ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​อย่าง​ที่​ไม่เคย​ทำ​กับ​ใคร​มาก่อน​ เรื่อง​การค้าขาย​ใน​อาณาเขต​ขุนเขา​สายน้ำ​บ้าน​ตัวเอง​ก็​ยอม​ถอย​ให้​ชุยตง​ซาน​ แล้ว​ยัง​ถอย​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​อีก​ สุดท้าย​ก็​แทบจะ​เท่ากับ​ว่า​มอบ​เงิน​ให้​ภูเขา​ลั่วพั่ว​เปล่าๆ​ ก็​เพราะ​สาเหตุนี้​นั่นเอง​

สาวใช้​เห​มิงหลง​ ขอบเขต​ชมมหาสมุทร​ คือ​ลูกหลาน​ชนชั้นสูง​อันดับ​หนึ่ง​ของ​ราชวงศ์​จูอิ๋ง​เก่า​ มาจาก​แซ่สกุล​เห​มิง

สือ​ชิว​ ขอบเขต​ถ้ำสถิต​

ผี​เซียน​ดิน​สอง​ตน​ที่​สิงร่าง​อยู่​ใน​ ‘ยันต์​เนื้อหนังมังสา​’ คือ​คู่รัก​บน​ภูเขา​ที่​ร่วมเป็นร่วมตาย​ด้วยกัน​มา ก่อนหน้านี้​ที่อยู่​บน​เรือข้ามฟาก​เพียง​ทำหน้าที่​ของ​ตัวเอง​อย่าง​สุดความสามารถ​ เงียบขรึม​พูดน้อย​

และ​ยังมี​ผู้ฝึก​ตน​ตกอับ​สามคน​จาก​หอ​ซูอี๋​ของ​อวี้จือ​ก่า​ง ตอนนี้​พวกเขา​ถือว่า​มีสถานะ​เป็น​เค่อ​ชิงของ​สำนัก​เบื้องล่าง​ชั่วคราว​ อวี้จือ​ก่า​งคิด​อยาก​จะฟื้น​คืน​ควัน​ธูป​การสืบทอด​ ยาก​ยิ่งกว่า​เดิน​ขึ้น​สวรรค์​

ตระกูล​เซียน​ของ​ใบ​ถงทวีป​ใน​ทุกวันนี้​มอง​หายนะ​ล้าง​สำนัก​ของ​อวี้จือ​ก่า​งใน​ปี​นั้น​เหมือนกัน​อย่าง​ไม่มีผิดเพี้ยน​ มีข้อสรุป​แบบ​ตอก​ปิด​ฝาโลง​ประมาณ​แปด​คำ​คล้ายๆ​ กัน​ นั่น​คือ​ชัก​ศึก​เข้า​บ้าน​ หาเรื่อง​ใส่ตัว​

ดังนั้น​วันนี้​ที่​ทุกคน​มารวมตัวกัน​ ลูกศิษย์​ของ​หอ​ซูอี๋​สามคน​ก็​ยังคง​ไม่เปิดเผย​หน้าตา​

เฉิน​ผิง​อัน​เอง​ก็​ไม่ถามหา​สาเหตุ​ ถึงอย่างไร​กิจธุระ​ของ​สำนัก​เบื้องล่าง​ไม่ว่า​จะเล็ก​หรือ​ใหญ่​ก็​ล้วน​มอบให้​ชุยตง​ซาน​จัดการ​ทั้งหมด​อยู่แล้ว​

นอกจากนี้​ยังมี​เรือข้ามฟาก​เฟิงยวน​ที่​เชื่อมโยง​สำนัก​เบื้องบน​และ​สำนัก​เบื้องล่าง​ไว้​ด้วยกัน​

มีผู้ดูแล​ใหญ่​อย่าง​ผู้คุม​กฎ​ฉางมิ่ง ผู้ดูแล​รอง​เจี่ยเฉิง​ นัก​บัญชี​จางเจีย​เจิน​ ลูกคิด​น้อย​น่า​ห​ลัน​อวี้เตี๋ย​

ต่อจากนี้​เรือ​เฟิงยวน​จะเดิน​ทางลง​ใต้​ต่อ​อีกครั้ง​ ระหว่างทาง​จะต้อง​ผ่าน​ท่าเรือ​ใบ​ท้อ​ของ​ราชวงศ์​ต้า​เฉวียน​ สำนัก​กุย​หยก​ กระทั่ง​ไป​ถึงท่าเรือ​ชวี​ซาน​ที่อยู่​ทางทิศใต้​สุด​ของ​ใบ​ถงทวีป​

เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ได้​นั่ง​โดยสาร​เรือข้ามฟาก​ออก​เดินทางไกล​ แต่​พา​เสี่ยว​โม่ เผย​เฉียน​และ​เฉาฉิงหล่า​งทะยาน​ลม​ลง​ใต้​ไป​ท่องเที่ยว​ด้วยกัน​ แน่นอน​ว่าไม่ได้​เป็นการ​ออก​เที่ยว​ภูเขา​สายน้ำ​อะไร​ ไม่อย่างนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​คง​ไม่มีทาง​ทิ้ง​กวอ​จู๋จิ่ว​ และ​ยังมี​จ้าว​ซู่เซี่ย​กับ​จ้าว​หลวน​เอาไว้​

เฉิน​ผิง​อัน​มีใจเห็นแก่ตัว​และ​ใจที่​ปกป้อง​ต่อ​ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​กลุ่ม​นี้​ไม่เท่ากัน​ แต่​เขา​จะไม่มีทาง​ทำ​อะไร​อย่าง​ลำเอียง​เด็ดขาด​

เพียงแต่​เพราะ​เฉาฉิงหล่า​งคือ​ตัวเลือก​ของ​เจ้าสำนัก​คน​ถัดไป​ที่​ถูก​กำหนด​มาแน่นอน​แล้ว​ สำนัก​เบื้องล่าง​ของ​ตน​คือ​มังกร​ข้าม​แม่น้ำ​ที่​ข้าม​ทวีป​จาก​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ลงใต้​มายัง​ใบ​ถงทวีป​ จึงจำเป็นต้อง​ไป​ปราก​ฎตัว​ให้​พวก​งูเจ้าถิ่น​ของ​ใบ​ถงทวีป​คุ้นหน้า​คุ้นตา​ อีก​ทั้ง​ก่อนหน้านี้​ตอน​ที่อยู่​ใน​พื้นที่​มงคล​ถ้ำเมฆาของ​โจว​อันดับ​หนึ่ง​ก็ได้​ตอบ​ตกลง​หวง​อี​อวิ๋น​แห่ง​เรือ​นอวิ๋น​ฉ่าวผู​ซาน​ไว้​แล้ว​ว่า​ในอนาคต​จะพา​ลูกศิษย์​อย่าง​เผย​เฉียน​ไป​เป็น​แขก​ที่​บ้าน​

นอกจาก​คาถา​เซียน​บท​ขอฝน​ ยังมี​ร่าง​เมฆาวารี​ที่​เรียนรู้​มาจาก​หอ​เซียน​จิ่วเจิน​ ก่อนที่​เฉิน​ผิง​อัน​จะออก​มาจาก​สำนัก​เบื้องล่าง​ก็ได้​ถ่ายทอดวิชา​นี้​ให้​กับ​เฉาฉิงหล่า​งและ​จ้าว​หลวน​แล้ว​ แน่นอน​ว่า​ยังมี​ไฉอู๋​ แม่นาง​น้อย​ที่​ชอบ​ดื่มเหล้า​ต้ม​ทุกวัน​อย่าง​น้อย​ครึ่ง​จิน​ผู้​นี้​ยังคง​ให้​เสี่ยว​โม่เป็น​คน​ถ่ายทอดวิชา​แทน​เหมือนเดิม​ เฉิน​ผิง​อัน​สอน​นาง​ไม่ได้​จริงๆ​

ก่อน​จะออก​เดิน​ทา​งก​วอ​จู๋จิ่ว​หัวเราะ​ร่า​ถามศิษย์​พี่​หญิง​ใหญ่​ว่า​ต้องการ​ให้​ตน​ออก​เดินทางไกล​ไปเป็นเพื่อน​หรือไม่​

เผย​เฉียน​บอ​กว่า​ต้อง​ยินดี​แน่นอน​อยู่แล้ว​

กวอ​จู๋จิ่ว​โบกมือ​ ถ้าอย่างนั้น​ศิษย์​พี่​หญิง​ใหญ่​ก็​ถือ​เสีย​ว่า​ข้า​ออก​เดินทางไกล​ไป​ด้วย​แล้วกัน​ ข้า​นอน​อยู่​ใน​บ้าน​ ไม่ได้​ย่างเท้า​ออก​ไป​ไหน​สัก​ก้าว​ แต่กลับ​ได้​ท่อง​ยุทธ​ภพ​เปล่าๆ​ มารอบ​หนึ่ง​ ได้​กำไร​ก้อน​ใหญ่​แล้ว​

เผย​เฉียน​ยัง​จะทำ​อย่างไร​ได้​อีก​ ได้​แต่​จน​คำพูด​กับ​นาง​เท่านั้น​

เรื่อง​ของ​การแขวน​ภาพเหมือน​ใน​ศาล​บรรพ​จารย์​สำนัก​เบื้องล่าง​ ก่อนหน้านี้​ระหว่าง​ที่​เดิน​ขึ้น​เขา​ ชุยตง​ซาน​ได้​บอก​ให้​ฟังถึงความคิด​ของ​เขา​ คิด​จะเชิญให้​สหาย​รัก​บน​ภูเขา​คน​หนึ่ง​จาก​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​ให้​มาช่วย​วาด​ภาพเหมือน​ของ​อาจารย์​ตัวเอง​

คือ​จิตรกร​เอก​คน​หนึ่ง​ที่​มีชื่อเสียง​ทัดเทียม​กับ​อู๋​เต้า​เสวียน​ มีฉายา​ว่า​กู้​เสีย​ชิว​ และ​ทั้งสอง​คน​นี้​ต่าง​ก็​ถูก​ใต้​หล้า​เรียกขาน​อย่าง​เคารพ​ว่า​อริยะ​แห่ง​การ​วาดภาพ​ แต่ละคน​มีรูปแบบ​การ​วาดภาพ​เป็น​เอกลักษณ์​ของ​ตนเอง​ คน​หนึ่ง​ลาย​พู่กัน​หนักแน่น​ ยอดเยี่ยม​เป็นหนึ่ง​ใน​ไพศาล​ คน​หนึ่ง​จรด​พู่กัน​ดุจ​บุปผา​ผลิบาน​ ท่วงทำนอง​ความหมาย​ดุจ​สืบทอด​จาก​เทพ​ ฝ่าย​แรก​มาจาก​ราชวงศ์​เดียวกัน​กับ​ป๋า​ย​เห​ย่​ อีก​ทั้ง​อายุ​ยัง​ใกล้เคียง​กัน​ ก่อนที่​อาจารย์​ผู้เฒ่า​อู๋​จะขึ้น​เขา​ไป​ฝึก​ตน​ก็ได้​ถูก​ขนานนาม​มานาน​แล้ว​ว่า​ ‘อายุ​แค่​ยี่สิบ​ปี​ก็​มีฝีมือ​ของ​ยอด​จิตรกร​เอก​แล้ว​’ ฮ่องเต้​ยัง​ถึงขั้น​เคย​ออกคำสั่ง​ว่า​หาก​ไม่มีคำ​สั่งห้าม​เขา​วาดภาพ​ เหตุผล​ก็​เพราะ​ ‘กังวล​ว่า​กลิ่นอาย​แห่ง​เทพ​จะกระจาย​ออก​ไป​รบกวน​ภูตผี​วิญญาณ​ของ​แคว้น​’ ฝ่าย​หลัง​มีทักษะ​ใน​การ​วาดภาพ​สูงส่ง โดย​เฉพาะเรื่อง​ของ​การ​แต้ม​นัยน์ตา​ที่​เจิ้งจวี​จงแห่ง​นคร​จักรพรรดิ​ขาว​ถึงกับ​เอ่ย​ว่า​ ‘นับตั้งแต่​มีการ​บันทึก​ประวัติศาสตร์​ใน​ใต้​หล้า​ก็​ไม่เคย​มีปราก​ฎมาก่อน​’

คน​ทั้งสอง​ต่าง​ก็​เชี่ยวชาญ​การ​วาด​เซียน​พุทธ​เทพ​และ​ผี​ เป็นเหตุให้​วัดวาอาราม​ใน​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​ หาก​สามารถ​เชื้อเชิญ​จิตรกร​คนใดคนหนึ่ง​มาวาดภาพ​ฝาผนัง​ให้ได้​ก็​ถือ​เป็นเกียรติ​ใหญ่​เทียมฟ้า​

ใน​อดีต​ภาพเหมือน​ของ​เห​วิน​เซิ่งใน​ศาล​บุ๋น​ที่​แขวน​ไว้​ทั่ว​ใต้​หล้า​ก็​มาจาก​ฝีมือ​ของ​อาจารย์​ผู้เฒ่า​อู๋​ผู้​นี้​เอง​

ปี​นั้น​ซิ่ว​ไฉเฒ่าถึงได้​พึงพอใจ​มาก​ แต่​ทุกวันนี้​กลับ​ไม่ค่อย​พอใจ​แล้ว​ เพราะ​ตอน​อยู่​ที่​ตำหนัก​ปี้​โหย​ว​ลำคลอง​ม่าย​เห​อ​ของ​ใบ​ถงทวีป​ และ​ยังมี​สำนักศึกษา​ชุน​ซาน​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ สอง​ครั้ง​ที่​เขา​เดินทาง​ไป​เยือน​ล้วน​ไม่มีใคร​จำเขา​ได้​ในทันที​ นี่​แสดงให้เห็น​ว่า​ภาพเหมือน​นั้น​ แม้จะเหมือนกับ​ตัวจริง​ก็​จริงอยู่​ แต่​ถึงอย่างไร​ก็​ยัง​ขาด​จิงชี่เสิน​บางส่วน​ที่​แม้จะเข้าใจ​ได้​ แต่​ไม่อาจ​วาด​ถ่ายทอด​ออกมา​ได้​

ดังนั้น​ครั้งนี้​ซิ่ว​ไฉเฒ่ากลับ​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​จึงได้​ตั้งใจ​ไป​เยี่ยม​หา​อริยะ​แห่ง​การ​วาดภาพ​ท่าน​นั้น​เป็นพิเศษ​ ตบ​ไหล่​ของ​อาจารย์​ผู้เฒ่า​แล้ว​ซิ่ว​ไฉเฒ่าก็​ทอดถอนใจ​ สายตา​ฉายแวว​ตำหนิ​ ‘ใน​เมื่อ​เป็น​สหาย​กัน​ ข้า​ก็​ไม่พูด​อะไร​มาก​แล้ว​ เพราะ​ถึงอย่างไร​ปี​นั้น​ก็​เป็น​ข้า​เอง​ที่​ไป​ขอให้​เจ้าวาด​ภาพเหมือน​ให้​ถึงที่​บ้าน​ จะโทษ​ใคร​ไม่ได้​ เร็ว​เข้า​ เอา​เหล้า​มาก​าหนึ่ง​ ความ​ยอก​แสลงใจ​บางอย่าง​ พวกเรา​สอง​พี่น้อง​เอา​เหล้า​มาดื่ม​ให้​เปรมปรีดิ์​ก็​ถือว่า​เรื่อง​ทุกอย่าง​ผ่าน​พ้นไป​แล้ว​’

ทำเอา​อาจารย์​ผู้เฒ่า​โมโห​จน​เอียง​หน้า​ ยกมือ​ตบ​ใบหน้า​ตัวเอง​ ‘เจ้าของ​สิ่งนี้​ล่ะ​? วิ่ง​หนีหาย​ไป​ไหน​แล้ว​ ถูก​ใคร​บ้าง​คน​คาบ​ไป​แล้ว​หรือ​?’

อันที่จริง​ชุยตง​ซาน​ได้​ส่งภาพเหมือน​สอง​ภาพ​ของ​อาจารย์​บ้าน​ตน​ไป​ให้​กับ​ตา​เฒ่ากู้​แล้ว​

รูป​หนึ่ง​เป็น​รูป​ที่​อาจารย์​อยู่​บน​เกาะ​กุ้ยฮ​วา​ตอน​ยัง​เป็น​เด็กหนุ่ม​ อีก​รูป​หนึ่ง​คือ​ตอนที่​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​เข้าร่วม​การประชุม​ศาล​บุ๋น​

หาก​ตา​เฒ่ากู้​กล้า​จัดการ​แค่​พอ​ถูไถ กล้า​วาด​ไม่ดี​ ไม่เหมือน​ ไม่คล้ายคลึง​ทาง​จิตวิญญาณ​มาก​พอ​ ถ้าอย่างนั้น​ก็​อย่า​โทษ​ว่า​ชุยตง​ซาน​ไม่เห็นแก่​มิตรภาพ​เก่าแก่​แล้งน้ำใจ​ก็แล้วกัน​

ชุยตง​ซาน​ยังมี​ข้อเรียกร้อง​อีก​อย่างหนึ่ง​ก็​คือ​อาจารย์​ของ​ตน​จำเป็นต้อง​สวม​ชุด​เขียว​อยู่​ใน​ท่า​สะพาย​กระบี่​เท่านั้น​

ฟ้าดิน​สว่าง​โล่ง​แจ่มใส ระหว่าง​ยอดเขา​ของ​ภูเขา​ที่​สูงตระหง่าน​ ลม​ภูเขา​พัด​โชย​ สายน้ำ​ใสไหล​แรง​ ท่ามกลาง​ทะเล​เมฆสีขาว​ที่​กว้างใหญ่​ไพศาล​ บน​แม่น้ำ​ที่​ไหล​เชี่ยวกราก​คล้าย​มีคน​ชุด​เขียว​เป็น​ผู้นำ​ ทะยาน​ลม​เดินทางไกล​ ชาย​แขน​เสื้อ​กว้าง​สอง​ข้าง​โบกสะบัด​ ส่งเสียงดัง​พึ่บพั่บ​

ก้มหน้า​ลง​มองโลก​มนุษย์​ ขุนเขา​สายน้ำ​บน​พื้นดิน​

บางครั้ง​คน​ทั้ง​กลุ่ม​ก็​หยุด​ทะยาน​ลม​ เดินเท้า​ก้าวเดิน​อย่าง​เอ้อระเหย​ลอยชาย​

ขุนนาง​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​ที่อยู่​ใน​กอง​ถีจวี่​งาน​ด้าน​ลำคลอง​ สวม​ชุด​ขุนนาง​เก่า​คร่ำคร่า​ สอง​มือแข็ง​เพราะ​ความ​หนาว​ถูก​ผู้เฒ่า​คน​หนึ่ง​ที่​ลักษณะ​คล้าย​คนงาน​ที่ทำงาน​อยู่​ใน​ลำคลอง​ชี้หน้า​ด่า​

ใน​งานเลี้ยง​สุรา​ที่​เสียงเพลง​ดัง​แว่ว​ ด้าน​ข้าง​มีสายน้ำ​ไหล​คดเคี้ยว​ เมื่อ​เหล่า​ปัญญาชน​พา​กัน​ร่ำ​กวี​ก็​จะมีเสียง​สตรี​ขับร้อง​เป็น​ทำนองเพลง​ เสียงร้อง​ดัง​ไม่ขาดสาย​ มือ​เรียว​ยาว​ดุจ​หยก​ปรบ​กัน​เป็นจังหวะ​ คลอ​กับ​การ​ร่าย​ระบำ​สร้าง​บรรยากาศ​สนุกสนาน​รื่นเริง​

มีขุนนาง​ผู้ช่วย​คน​หนึ่ง​ที่อยู่​ใต้​อาณัติ​ของกอง​วัสดุ​กรม​โยธา​นำ​เอกสาร​ทางการ​ฉบับ​หนึ่ง​ควบ​ม้าเร็ว​มาถึง พอ​พลิกตัว​ลง​จาก​หลัง​ม้าแล้วก็​ก้าวเดิน​ฝีเท้า​เร่งร้อน​ขอ​เข้าพบ​ขุนนาง​ผู้​เป็น​เจ้านาย​ คน​เฝ้าประตู​ไม่ยอม​ปล่อย​ให้​เข้าไป​ด้านใน​ ขุนนาง​ขอร้อง​แต่​ก็​ไร้ประโยชน์​ แล้ว​ยัง​เจอ​ประโยค​แสกหน้า​ว่า​ ‘ไสหัวไป​ให้​ไกลๆ​ หน่อย​’ ขุนนาง​ที่​เนื้อตัว​เปื้อน​ฝุ่น​จาก​การ​เดิน​ทางได้​แต่​ทรุดตัว​นั่ง​ยอง​ลง​ที่​ข้างทาง​ มอง​ไป​ยัง​ประตู​ใหญ่​ตา​ปริบๆ​ รอคอย​ให้​เจ้านาย​ดื่มเหล้า​เสร็จ​แล้ว​กลับ​เมืองหลวง​ หวัง​เพียง​ว่า​ขุนนาง​หลัก​ที่​มีชาติกำเนิด​จาก​ตระกูล​บรรดาศักดิ์​คน​นั้น​ วันนี้​จะไม่ดื่มเหล้า​เมามาย​จน​ทำให้​คน​เหนื่อยใจ​อีก​

สถานที่​แห่ง​หนึ่ง​ที่​ทัศนียภาพ​งดงาม​ สายน้ำ​เหมือน​เข็มขัด​ผ้าไหม​สีนิล​ ภูเขา​เหมือน​ปิ่น​มรกต​ แสงสนธยา​หนา​หนัก​อาบ​ย้อม​ไป​ทั่ว​ขุนเขา​ แสงอาทิตย์​ส่อง​ลาดเอียง​ไป​ยัง​หอ​เรือน​สูง

เหล่า​เซียน​ซือ​ใน​ภูเขา​ยุ่ง​วุ่นวาย​กัน​ผิดปกติ​ พา​กัน​สร้าง​ศาล​บรรพ​จารย์​ขึ้น​มาใหม่​ แล้ว​ยัง​ทุ่ม​เงินก้อน​ใหญ่​จ้างเจิน​เห​ริน​ลัทธิ​เต๋า​ที่​เชี่ยวชาญ​ด้าน​การ​วาดภาพ​ให้​วาด​มังกร​ลงสี​ห้า​ตัว​ลง​บน​เสาคาน​ใน​ศาล​บรรพ​จารย์​แห่ง​ใหม่​ ยัง​ไม่ได้แต้ม​นัยน์ตา​ให้​กับ​มังกร​ก็​มีภาพ​บรรยากาศ​อัน​เลิศ​ล้ำ​ดุจ​ ‘เกล็ด​ขยับ​โบยบิน​ ดุจ​จะก่อ​ฝน​สร้าง​ไอ​หมอก​’ เสียแล้ว​

ใน​รัศมี​หลาย​ร้อย​ลี้​รอบด้าน​กำลัง​มีการเจาะ​ภูเขา​ขุด​หิน​ ทั้ง​ยัง​จ่าย​เงิน​ให้​กับ​อำเภอ​และ​เขต​ที่อยู่​รอบด้าน​ รวมไปถึง​จ่าย​เงิน​ซื้อ​ของ​มาจาก​มนุษย์​ธรรมดา​ล่าง​ภูเขา​ รื้อถอน​ซาก​ปรัก​ที่ว่าการ​เก่า​และ​บ้าน​ที่​ถูก​ทิ้ง​ร้าง​เอา​ไม้และ​เสาคาน​ทั้งหลาย​มา รถม้า​แต่ละ​คัน​ที่​บรรทุก​พืชพรรณ​หา​ยาก​ วัตถุ​โบราณ​ล้ำค่า​เอาไว้​จน​เต็ม​คัน​รถ​ขับเคลื่อน​จาก​สี่ด้าน​แปด​ทิศ​มารวมตัวกัน​อยู่​ที่​ภูเขา​ลูก​นี้​

ฉวยโอกาส​ตอนที่​ทุก​คนใน​ศาล​บรรพ​จารย์​แยกย้าย​กัน​ไป​แล้ว​ คน​ชุด​เขียว​คน​หนึ่ง​ที่​นำ​ขบวน​ก็​ผลุบ​หาย​เข้าไป​ด้านใน​ด้วย​ท่าทาง​ลับๆ ล่อๆ​

เผย​เฉียน​เคย​เดิน​ทางผ่าน​สถานที่​แห่ง​นี้​มาก่อน​ นาง​ยัง​เคย​พูดคุย​กับ​เซียน​ซือ​ผู้เฒ่า​คน​หนึ่ง​ที่​ซื้อ​เหล้า​จาก​ตลาด​ล่าง​ภูเขา​สอง​สามประโยค​ด้วย​

จวน​เซียน​บน​ภูเขา​ลูก​นี้​ไม่เคย​ออกจาก​บ้านเกิด​ไป​อยู่​ใต้​หล้า​ห้า​สี ดังนั้น​จึงมีผู้ฝึก​ตน​ทำเนียบ​จำนวน​ไม่น้อย​ที่​ต้อง​ตาย​ไป​

เฉิน​ผิง​อัน​ใช้เวท​น้ำ​ควบกับ​ยันต์​ทำการ​แต้ม​นัยน์ตา​ให้​กับ​มังกร​สีหมึก​ตัว​หนึ่ง​บน​คาน​ มัน​ก็​เกือบจะ​จำแลง​ร่าง​แล้ว​บิน​จากไป​ ประหนึ่ง​เจิน​เห​ริน​ที่​กลายเป็น​เซียน​

จากนั้น​ก็​ประกบ​สอง​นิ้ว​กด​ลง​บน​หน้าผาก​ของ​มังกร​สีหมึก​เบา​ๆ มอบ​โชคชะตา​น้ำ​บริสุทธิ์​ส่วนหนึ่ง​ให้​กับ​อีก​ฝ่าย​ ครั้น​จึงให้​มัน​กลับ​ไป​อยู่​บน​เสาคาน​อีกครั้ง​

ท่ามกลาง​ม่าน​ราตรี​

บน​ยอดเขา​ของ​กลุ่ม​ภูเขา​ที่​เทือกเขา​ทอด​ยาว​สลับสล้าง​ มีเตียง​ปา​ปู้​ ( เตียง​ขนาดใหญ่​ล้อม​ด้วย​เสาสี่ด้าน​ มอง​คล้าย​ห้อง​ๆ หนึ่ง​) ตัว​หนึ่ง​บิน​ทะยาน​มากลางอากาศ​ ขนาดใหญ่​เท่า​ศาลา​ ฝีมือ​แกะสลัก​ประ​ณีติ​ละเอียด​ มีภาพ​สลัก​นูน​เรียงราย​ติดต่อกัน​งดงาม​แปลกตา​

ประหนึ่ง​ขบวน​เดินทาง​ของ​ขุนนาง​ใหญ่​ใน​พื้นที่​ศักดินา​ของ​วงการ​ขุนนาง​ล่าง​ภูเขา​ มีเสมียน​ผู้ช่วย​สอง​กลุ่ม​ที่​มีชาติกำเนิด​จาก​ภูตผี​เผย​กาย​ มีข้า​รับใช้​ผู้ติดตาม​ตี​ฆ้อง​เปิดทาง​นำ​ขบวน​อยู่​เบื้องหน้า​ บอก​ให้​คน​ที่​ไม่เกี่ยวข้อง​ถอย​ออก​ไป​ สอง​ฝาก​ฝั่งจึงเงียบสงัด​เป็นพิเศษ​ ด้านหลัง​ยังมี​พัด​นกยูง​รำแพน​หาง​ ร่ม​คัน​ใหญ่​และ​ธงผ้า​ถูก​ชูสูงเรียง​สอง​แถว​ขนาบ​ ‘ราชรถ​’ คัน​นั้น​

เบื้องหน้า​ ‘เส้นทาง​’ เงาร่าง​หลาย​เงาพลัน​หยุดชะงัก​ วา​ดวง​เป็น​เส้นโค้ง​เล็กน้อย​ก่อน​จะพลิ้ว​กาย​ลง​บน​ยอดเขา​แห่ง​หนึ่ง​ที่อยู่​นอก​เส้นทาง​

สตรี​ม้วน​ตำรา​เล่ม​หนึ่ง​ ใช้ตำรา​เลิก​ผ้าม่าน​ขึ้น​ นาง​ขมวดคิ้ว​น้อย​ๆ ก้มหน้า​มอง​ภูเขา​ลูก​หนึ่ง​ที่อยู่​ห่าง​ไป​ไม่ไกล​

ผู้ฝึก​ลมปราณ​ต่างถิ่น​กลุ่ม​นั้น​มองดู​แล้ว​ไม่คุ้นหน้า​ อีก​ทั้ง​ยัง​ไม่เหมือน​ผู้ฝึก​ตน​ทั่วไป​ด้วย​

ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ นาง​ที่​ไม่อยาก​ให้​เกิดเรื่อง​แทรกซ้อน​โดยไม่จำเป็น​จึงปล่อย​ผ้าม่าน​ลง​ บอก​ข้า​รับใช้​ว่า​แค่​เดินทาง​ต่อไป​ก็​พอ​

เสี่ยว​โม่เห็น​ตำรา​ใน​มือ​ของ​ฝู่จวิน​เหนียง​เนียง​แห่ง​จวน​เทพ​ภูเขา​ท่าน​นั้น​แล้วก็​ยิ้ม​เอ่ย​ “คือ​ตำรา​ตราประทับ​ลม​พัด​ดอกไม้​บาน​ยี่สิบ​สี่ช่วง​ฤดูกาล​ มาจาก​ฝีมือ​ของ​ไท่​ซ่างเค่อ​ชิงคน​หนึ่ง​ของ​พื้นที่​มงคล​ร้อย​บุปผา​ ตาม​คำกล่าว​ใน​รายงาน​ขุนเขา​สายน้ำ​ฉบับ​หนึ่ง​ของ​ตำหนัก​ฉางชุน​ ต่าง​ก็​ติดอันดับ​เหมือนกับ​ตำรา​ตราประทับ​สอง​ร้อย​เซียน​กระบี่​ของ​คุณชาย​ แต่ว่า​อันดับ​ไม่สูงเท่า​ตำรา​ตราประทับ​ของ​คุณชาย​”

เฉิน​ผิง​อัน​มึนงง​ “อันดับ​อะไร​?”

เสี่ยว​โม่อธิบาย​ “เป็น​การประเมิน​ฉบับ​ใหม่​ล่าสุด​ที่​เพิ่ง​ออกจาก​เตา​ของ​จวน​เซียน​บางแห่ง​ของ​ธวัล​ทวีป​ พวกเขา​เลือก​ตำรา​ตราประทับ​ที่​ดี​ที่สุด​ใน​ช่วง​พันปี​ที่ผ่านมา​ ตำรา​ตราประทับ​สอง​ร้อย​เซียน​กระบี่​ของ​คุณชาย​อยู่​อันดับ​ที่สาม​ ดูเหมือนว่า​จะมีการนำ​ตำรา​ตราประทับ​สิบ​เล่ม​มาจัดพิมพ์​พร้อมกัน​ด้วย​ ขาย​ดีมาก​ทั้ง​บน​และ​ล่าง​ภูเขา​เลย​ล่ะ​”

เผย​เฉียน​เอ่ย​เสียง​เบา​ “ทำ​อะไร​ไร้​คุณธรรม​เช่นนี้​ วันหน้า​หาก​อาจารย์​พ่อ​ไปเที่ยว​เยือน​ธวัล​ทวีป​ต้อง​ไป​คิดบัญชี​ถึงบ้าน​พวกเขา​ด้วย​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​รับ​

ใน​เมื่อ​หยุด​อยู่​ที่นี่​แล้ว​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ถือโอกาส​ลาก​เอา​พวก​เสี่ยว​โม่สามคน​มาก่อไฟ​หุงหาอาหาร​เสีย​เลย​

เฉาฉิงหล่า​งถาม “อาจารย์​คิด​ชื่อ​ของ​สำนัก​เบื้องล่าง​ไว้​แล้ว​หรือยัง​ขอรับ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ “คิด​ไว้​แล้ว​ เป็น​ตง​ซาน​ที่​คิด​ ดีมาก​เลย​ล่ะ​”

คน​ทั้ง​กลุ่ม​มีเพียง​เฉาฉิงหล่า​งที่​ไม่ดื่มเหล้า​

ต่อให้​เฉิน​ผิง​อัน​ยก​มาด​อาจารย์​มาขู่​ก็​ยัง​ใช้ไม่ได้​ผล​

ดีมาก​ ไม่เสียแรง​ที่​เป็น​ลูกศิษย์​ผู้​เป็นที่​ภาคภูมิใจ​ของ​ตน​ มีความคิด​เป็น​ของ​ตัวเอง​

พอ​หันไป​มอง​เผย​เฉียน​ ดื่มเหล้า​ได้​ไม่เลว​ นี่​ก็​ดีมาก​เหมือนกัน​ หลายครั้ง​ที่​ออก​ท่อง​ยุทธ​ภพ​ล้วน​ไม่ถือว่า​เสียเปล่า​

เนื่องจาก​เฉาฉิงหล่า​งไม่ดื่มเหล้า​ เฉิน​ผิง​อัน​จึงไพล่​นึก​ไป​ถึงหลิว​ไร้​ศัตรู​เทียม​ทานบน​โต๊ะ​สุรา​แห่ง​สำนัก​กระบี่​ไท่ฮุย​ขึ้น​มา ตน​ต้อง​รีบ​ส่งกระบี่​บิน​ไป​แจ้งข่าว​อีก​ฝ่าย​ถึงจะได้​ ต้อง​เตือน​หลิว​จิ่งหลง​ว่า​ระหว่างทาง​ที่มา​เข้าร่วม​งานพิธี​เฉลิมฉลอง​ของ​สำนัก​เบื้องล่าง​ต้อง​ไป​แวะ​ที่​เมืองหลวง​ต้า​หลี​ ช่วย​ชี้แนะ​เรื่อง​ค่าย​กล​ให้​กับ​หัน​โจ้วจิ่ว​อาจารย์​ค่าย​กล​สาย​แผนภูมิ​ดิน​สักหน่อย​ ส่วน​ทาง​ฝั่งของ​หัน​โจ้วจิ่น​ก็​โชคดี​ที่​ตน​ได้​บอกกล่าว​ไว้​ล่วงหน้า​นาน​แล้ว​ เชื่อ​ว่า​พอ​หลิว​จิ่งหลง​ไป​ถึงโรงเตี๊ยม​ตระกูล​เซียน​แห่ง​นั้น​จะต้อง​ไป​ด้วย​ความ​ฮึกเหิม​ ไม่เมาไม่กลับ​แน่นอน​

หลิว​จิ่งหลง​ ดูท่า​สหาย​ของ​ข้า​คง​สู้สหาย​ของ​เจ้าไม่ได้​สินะ​

ดวงจันทร์​ลอย​แขวน​อยู่​บน​ขอบฟ้า​ ลม​ภูเขา​พัด​โชย​มาเป็น​ระลอก​ เฉิน​ผิง​อัน​ถือ​ชามเหล้า​เงยหน้า​มอง​ดวงจันทร์​ จากนั้น​ก้มหน้า​ แล้วก็​เงยหน้า​ขึ้น​อีกครั้ง​ เหล้า​ชามหนึ่ง​ถูก​ดื่ม​จน​หมด​ คิด​ไว้​เรียบร้อย​แล้ว​ว่า​จะช่วย​สร้างชื่อเสียง​ให้​กับ​ลำธาร​กลาง​ภูเขา​ของ​จวน​เซียน​บ้าน​ตน​อย่างไร​ ‘ดวงจันทร์​กลม​โต​บน​ท้องฟ้า​ น้ำพุ​อันดับ​สอง​ของ​โลก​มนุษย์​’ ส่วน​น้ำพุ​อันดับ​หนึ่ง​และ​อันดับ​สาม ไม่รู้​เหมือนกัน​ ใคร​อยากได้​ก็​ไป​แย่งชิง​กันเอา​เอง​

เผย​เฉียน​ถาม “อาจารย์​พ่อ​ ชื่อ​ของ​สำนัก​เบื้องล่าง​คือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “ขอให้​ข้า​อมพะนำ​ไว้​ก่อน​แล้วกัน​ เดี๋ยว​วันหน้า​ค่อย​บอก​พวก​เจ้า”

ชื่อ​ของ​สำนัก​เบื้องล่าง​ ก่อนที่​ชุยตง​ซาน​จะออก​ไป​จาก​ที่ราบ​ฝูเหยา​ได้​ใช้เสียง​ใน​ใจแนะนำ​ว่า​ให้​ตั้ง​ชื่อว่า​สำนัก​กระบี่​ชิงผิง​

แต่​ชุยตง​ซาน​ก็​ไม่ลืม​เอ่ย​ประโยค​หนึ่ง​ว่า​ ชื่อ​ของ​อาจารย์​ย่อม​ต้อง​ดีกว่า​ ถือ​เสีย​ว่า​ศิษย์​โยน​อิฐ​ล่อ​หยก​ก็แล้วกัน​

เฉิน​ผิง​อัน​รู้สึก​ว่า​ดีมาก​แล้ว​ ดี​ที่สุด​แล้ว​ จึงละทิ้ง​ชื่อ​ทั้งหลาย​ที่​ตัวเอง​เตรียม​ไว้​ไป​อย่าง​ไม่ลังเล​

มือ​กระบี่​เมามาย​อยู่​ใน​บ้านเกิด​แห่ง​สุรา​ จิต​แห่ง​มรรคา​ฟ้ากว้าง​แผ่นดิน​เล็ก​ จักรวาล​แคบ​จอก​เหล้า​กว้าง​ นับแต่​โบราณ​จนถึง​ทุกวันนี้​ปณิธาน​สั้น​ลมปราณ​ยาว​ มีเพียง​ข้า​ที่​คลี่​ยิ้ม​ลูบไล้​จอก​แหน​ กระบี่​ใน​มือสาม​ฉื่อ​ ไม่เคย​ผิด​ต่อ​ชีวิต​นี้​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!