กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 893

เฉิน​ผิง​อัน​ในเวลานี้​กลัว​ก็​แต่ว่า​นักพรต​ชุด​ม่วง​ที่​สถานะ​ไม่ชัดเจน​ผู้​นั้น​จะเป็น​เฒ่าสุรา​ที่​เป้าหมาย​ไม่ได้​อยู่​ที่​สุรา​ เหมือนกับ​อู๋ซวงเจี้ยง​ตอน​ที่อยู่​บน​เรือ​ราตรี​ คน​ผู้​หนึ่ง​ที่​ดูดวง​ทำนาย​ชะตา​ได้​ อาศัย​ผล​ทำนาย​อนุมาน​และ​จำแลง​ออกมา​เป็น​การแสดงออก​บน​มหา​มรรคา​ จึงมาเฝ้าตอ​รอ​กระต่าย​อยู่​นาน​แล้ว​ จากนั้น​ก็​รอ​ให้​ตน​ผ่าน​ทาง​มายัง​ที่​แห่ง​นี้​ แล้วไป​ ‘ยุ่ง​เรื่อง​ของ​คนอื่น​’ ใน​ภูเขา​อีกที​

เพียงแต่​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ยัง​หา​จุด​เชื่อมโยง​หนึ่ง​ไม่พบ​ หาก​เขา​วางแผน​เล่นงาน​ตน​จริงๆ​ ไย​ต้อง​ใช้สายตา​เตือน​เสี่ยว​โม่ก่อน​ด้วย​? ต่อให้​อีก​ฝ่าย​มองออก​ว่า​เสี่ยว​โม่ไม่ใช่คน​ที่​ควร​มีเรื่อง​ด้วย​ จึงเปลี่ยนความคิด​ คิด​จะให้​สอง​ฝ่าย​กลาย​เป็นน้ำ​บ่อ​ที่​ไม่ยุ่ง​กับ​น้ำ​คลอง​ก็​สามารถ​ลง​จาก​เขา​ถอย​ออก​ไป​โดยตรง​ได้​เลย​ ไม่อย่างนั้น​ก็​แค่​หา​วิธี​สัก​อย่างหนึ่ง​ทำให้​ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​ขอบเขต​หยก​ดิบ​ที่​รอจังหวะ​ฉวยโอกาส​โจมตี​ตกใจ​ถอย​หนี​ไป​ ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​น่าจะ​มั่นคง​ปลอดภัย​กว่า​การ​ ‘แกล้ง​ตาย​’ ใน​ยาม​นี้​มาก​นัก​

ริ้ว​ลมปราณ​ที่​แผ่​กระเพื่อม​ตรงหน้า​ประตู​ภูเขา​เกิดขึ้น​วูบ​เดียว​ก็​หายวับ​ไป​ ถึงขั้น​ที่ว่า​ฝู่จวิน​เหนียง​เนียง​สัมผัส​ไม่ถึงแม้สัก​เสี้ยว​ด้วยซ้ำ​

เสี่ยว​โม่รู้สึก​ละอายใจ​เล็กน้อย​

เป็น​ความผิดพลาด​ของ​ตน​ ถึงกับ​มอง​ขอบเขต​สูงต่ำ​ของ​นักพรต​สวม​ชุด​ม่วง​ไม่ออก​

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​เอ่ย​ปลอบใจ​ “ไม่ต้องโทษ​ตัวเอง​ เรื่อง​ประหลาด​คน​ประหลาด​มีเยอะ​จะตาย​ไป​ พวกเรา​พลาด​แค่​เรื่อง​นี้​จะเป็นไรไป​ เรื่อง​ไม่คาดฝัน​บางอย่าง​ สมมติ​ว่า​หลบ​ไม่พ้น​ ถ้าอย่างนั้น​เจอ​กองทัพ​ก็​เอา​ขุนพล​ต้าน​ น้ำ​มาก็​เอา​ดิน​กลบ​”

เสี่ยว​โม่พยักหน้า​

อันที่จริง​สิ่งที่​สามารถ​ปลอบใจ​คน​ได้​ดีกว่า​คำพูด​ก็​คือ​สายตา​ที่​มาจาก​สัญชาตญาณ​ของ​คุณชาย​ก่อนหน้านี้​

เรื่อง​เกิดขึ้น​กะทันหัน​ ไม่ใช่ความ​ตกตะลึง​ ไม่พอใจ​ ตำหนิ​ แต่​เป็น​ความอยากรู้​ เชื่อใจ​ วางใจ​

เฉิน​ผิง​อัน​ขมวดคิ้ว​น้อย​ๆ ลังเล​ไป​ครู่หนึ่ง​ แต่​ไม่นาน​ก็​คลี่​ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “ใน​เมื่อ​เจ้าบ้าน​ของ​แคว้น​ต้าเหลียง​ท่าน​นี้​เปิด​ประตู​รับแขก​แล้ว​ ดูเหมือนว่า​พวกเรา​ก็​ไม่มีเหตุผล​ที่จะ​ไม่เดิน​เข้า​ประตู​ไป​ ไป​ ไปดู​กัน​”

หน้า​ประตู​ศาล​ ผู้เฒ่า​เรือน​กาย​งอ​งุ้มคน​หนึ่ง​หรี่ตา​ลง​ มอง​ประเมิน​ศพ​ที่อยู่​บน​พื้น​ หลังจาก​แน่ใจ​แล้ว​ว่า​ไม่มีความผิดปกติ​ใด​ก็​ยิ้ม​เอ่ย​ด้วย​ภาษากลาง​ของ​ใบ​ถงทวีป​ที่​ไม่ชัดเจน​นัก​ “เจ้าตัวดี​ เมื่อครู่นี้​คำพูดคำจา​ใหญ่​ยิ่งกว่า​แผ่น​ฟ้า เกือบ​ทำให้​ข้า​ตกใจ​ตาย​อยู่แล้ว​ โชคดี​ที่​ข้า​พอ​จะเป็น​ศาสตร์​การคำนวณ​อยู่​บ้าง​ จึงพยากรณ์​ได้​ล่วงหน้า​”

เดิน​วน​อ้อม​ศพ​ไป​รอบ​หนึ่ง​ ผู้เฒ่า​พยักหน้า​ถี่ๆ พลาง​เอ่ย​ “นับว่า​เป็น​เนื้อหนังมังสา​ที่​ดี​ ไม่เสียแรง​ที่​ข้า​เสี่ยงอันตราย​ทำ​เรื่อง​นี้​ เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ในที่สุด​ข้า​ผู้อาวุโส​ก็​ไม่ต้อง​อุดอู้​อยู่​ใน​นี้​อีกแล้ว​ สามารถ​ออก​ไปนอก​ภูเขา​ได้​อย่าง​อิสระ​เสรี​แล้ว​”

ในที่สุด​ผู้เฒ่า​ก็​ตัดสินใจ​ทำ​มุทรา​ กลายร่าง​เป็นควัน​เขียว​ล่องลอย​กลุ่ม​หนึ่ง​ แทรกซึม​เข้าไป​ตาม​ทวาร​ทั้ง​เจ็ด​ของ​นักพรต​ชุด​ม่วง​ ทันใดนั้น​ก็​ไม่เห็น​ร่าง​ของ​ผู้เฒ่า​อีก​ ส่วน​ร่าง​ของ​นักพรต​ชุด​ม่วง​ก็​เหยียด​ตรง​ ลุกขึ้น​ยืน​ใน​ทันใด​ ค่อยๆ​ บิด​คอ​ด้วย​ท่าทาง​แข็งทื่อ​ จากนั้น​จึงยกมือ​ทั้งสอง​ขึ้น​สะบัด​ชาย​ชุด​คลุม​เต๋า​สอง​ข้าง​ ดวงตา​ทั้งคู่​กะพริบ​เปลี่ยนเป็น​สีดำ​สนิท​ แต่เพียง​ไม่นาน​ก็​กลับคืน​มาเป็นปกติ​ กลืนน้ำลาย​ให้​ลำคอ​ชุ่มชื้น​ คารวะ​ตาม​ขนบ​ลัทธิ​เต๋า​เลียนแบบ​นักพรต​คน​นั้น​ หัวเราะ​ร่า​เอ่ย​ว่า​ “ผิน​เต้า​ขอ​คารวะ​ ขอให้​อู๋​เลี่ยง​เทียน​จุน​อำนวยพร​”

จากนั้น​ใบหน้า​ของ​ ‘นักพรต​ชุด​ม่วง​’ ก็​บิดเบี้ยว​ราวกับ​เจ็บปวด​อย่าง​มาก​ พึมพำ​กับ​ตัวเอง​ว่า​ “ผิน​เต้า​ทั้ง​ไม่ใช่นักพรต​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิง แล้วก็​ไม่ถือเป็น​ลูกศิษย์​ซาน​ต้ง​ หาก​อิง​ตาม​ระบบ​สืบทอด​ของ​สำนัก​และ​กฎเกณฑ์​บน​ภูเขา​ ก็​ไม่เหมาะ​ที่จะ​พูด​ประโยค​ว่า​ ‘ขอให้​อู๋​เลี่ยง​เทียน​จุน​อำนวยพร​’ นี้​สัก​เท่าไร​ แน่นอน​ว่า​ผิน​เต้า​เป็น​เจ้าบ้าน​ เจ้าเป็น​แขก​ เจ้าบ้าน​ตามใจ​แขก​ ขอ​แค่​เจ้ามีความสุข​ก็​พอ​”

เรือน​กาย​ที่​เป็น​เนื้อหนังมังสา​คล้าย​กับ​กรงขัง​สวรรค์​แห่ง​หนึ่ง​

ทวาร​ทั้ง​เจ็ด​บน​ใบหน้า​ ควัน​เขียว​เป็น​กลุ่ม​ๆ ที่​จำแลง​มาจาก​จิตวิญญาณ​ของ​ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​ตน​นั้น​ล้วน​มิอาจ​ ‘ออกจาก​ถ้ำ’ ได้​แม้แต่​เศษเสี้ยว​

ครู่หนึ่ง​ต่อมา​ก็​ไม่เห็น​ควัน​เขียว​อีก​ นักพรต​ชุด​ม่วง​จุ๊ปาก​เอ่ย​อย่าง​ประหลาดใจ​ “มีเรื่อง​ไม่คาดฝัน​เล็กน้อย​ อาศัย​วัตถุ​แห่ง​ชะตาชีวิต​ที่​ลี้ลับ​ชิ้น​หนึ่ง​ ขอบเขต​หยก​ดิบ​ถึงกับ​มีพลัง​พิฆาต​เท่า​เซียน​เห​ริน​ ผิน​เต้า​ช่าง…มรรค​กถา​ไม่ต่ำ​ ไม่ต่ำ​เลย​จริงๆ​”

เห็น​ว่า​คน​ทั้ง​สี่เผย​กาย​ตรงหน้า​ นักพรต​ชุด​ม่วง​ก็​มอง​เผย​เฉียน​ ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “วิชา​เพื่อ​ความ​สะดวกสบาย​ที่​เล่น​เล่ห์​พวก​นั้น​ของ​ผิน​เต้า​ แม้ว่า​จะไม่สนใจ​วิธีการ​ แต่​หากว่า​ใช้ได้ดี​ แผนการ​ชั่วคราว​เช่นนี้​ก็​สร้าง​ประโยชน์​แก่​ปวงชน​เช่นกัน​”

นักพรต​คน​หนึ่ง​ที่​เป็น​เจิน​เห​ริน​พิทักษ์​แคว้น​กลับ​พูดจา​ภาษาพุทธ​

นักพรต​ประหลาด​ที่​อำพราง​ตัวอย่าง​ลึกล้ำ​ผู้​นี้​หรี่ตา​เอ่ย​ “ไม่ได้​คุยโว​หรอก​นะ​ ลูกศิษย์​คน​ใหม่​ที่​ผิน​เต้ารับ​มามีบุพเพ​ใน​ชาติปางก่อน​กับ​ฮ่องเต้​แคว้น​เหลียง​จริงๆ​ แน่นอน​ว่า​แม่นาง​เจิ้งก็​เคย​ได้​พบ​หน้า​นาง​มาแล้ว​”

“แม่นาง​เจิ้ง อายุ​น้อย​ๆ ก็​ออก​หมัด​อยู่​บน​สนามรบ​ของ​เกราะ​ทอง​ทวีป​อย่าง​เฉียบคม​ ผิน​เต้า​ได้ข่าว​มานาน​แล้ว​ เลื่อมใส​อย่าง​มาก​ ส่วน​เรื่อง​ที่​เจ้าถามหมัด​กับ​เฉาสือ​สามครั้ง​ติด​ก็​ยิ่ง​เลื่องลือ​ไป​ทั่ว​ทั้ง​ใต้​หล้า​ ต่อให้​ไม่อยากรู้​ ผิน​เต้า​ใช้สอง​มือ​ปิด​หู​ก็​ยัง​ได้ยิน​”

เผย​เฉียน​ไม่เอ่ย​อะไร​สัก​คำ​

ดูเหมือนว่า​ในที่สุด​ก็​สังเกตเห็น​บุรุษ​ชุด​เขียว​ นักพรต​ชุด​ม่วง​จึงหันมา​มอง​แล้ว​เอ่ย​อย่าง​กระจ่างแจ้ง​ว่า​ “เซียน​กระบี่​เซียน​ดิน​ที่​…ขอบเขต​ขึ้นๆ ลงๆ​ ท่าน​นี้​ คงจะ​เป็น​เจ้าขุนเขา​เฉิน​แห่ง​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ที่​ชื่อเสียง​ปาน​ฟ้าผ่า​ดัง​ข้าง​หู​ อาจารย์​ของ​แม่นาง​เจิ้งสินะ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ทั้ง​ไม่กุม​หมัด​ ไม่ประสานมือ​คารวะ​ และ​ยิ่ง​ไม่คารวะ​ตาม​แบบ​ลัทธิ​เต๋า​ เพียงแค่​ยิ้ม​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​เป็นปกติ​ว่า​ “ผู้อาวุโส​เรียก​พบ​ มิกล้า​ไม่มา”

ต้อง​เป็นยอด​ฝีมือ​นอก​โลก​คน​หนึ่ง​แน่นอน​

เพียงแต่​ไม่ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​จะคาดเดา​อย่างไร​ ต่อให้​มีจินตนาการ​บรรเจิด​แค่​ไหน​ก็​ยัง​เดา​สถานะ​ของ​คน​ผู้​นี้​ไม่ออก​

ดูเหมือน​นักพรต​ชุด​ม่วง​จะเดา​ความคิด​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ออก​จึงโบกมือ​ “เจิน​เห​ริน​ไม่เผย​ตัวตน​ เผย​ตัวตน​ไม่ใช่เจิน​เห​ริน​ (เจิน​เห​ริน​เป็น​คำ​เรียกขาน​ของ​ตำแหน่ง​ทาง​ลัทธิ​เต๋า​ และ​ยัง​แปล​ว่า​คนจริง​ได้​ด้วย​) ยอด​ฝีมือ​นอก​โลก​ที่​แท้จริง​ต้อง​เป็น​คน​ที่​ต่อให้​เจ้าจะพบ​หน้า​ก็​ยัง​ไม่รู้จัก​ บางที​อาจ​เป็น​สาวใช้​ม้วน​ผ้าม่าน​ข้าง​กาย​ฝู่จวิน​เหนียง​เนียง​ บางที​อาจ​เป็น​ทหาร​บู๊​สวม​เสื้อเกราะ​บางคน​ที่อยู่​ไกล​ตรง​ตีนเขา​ เอาเป็นว่า​มีเพียง​ผิน​เต้า​นี่แหละ​ที่​ไม่ถือว่า​เป็น​เจิน​เห​ริน​ เป็นยอด​ฝีมือ​อะไร​ เจ้าขุนเขา​เฉิน​ประเมิน​ข้า​ไว้​สูงมากเกินไป​แล้ว​ ผิน​เต้ารับ​ไม่ไหว​”

เฉิน​ผิง​อัน​คลี่​ยิ้ม​ไม่เอ่ย​อะไร​ เหมือนกับ​ผู้เยาว์​คน​หนึ่ง​ที่​ตั้งใจ​รับฟัง​คำสั่งสอน​จาก​ผู้อาวุโส​ที่อยู่​บน​ยอดเขา​

นักพรต​ชุด​ม่วง​ถอนหายใจ​ “ไม่เสียแรง​ที่​เป็น​เจ้าสำนัก​ของ​สำนัก​หนึ่ง​ นิสัย​ดี​ยิ่งนัก​ ไม่เสียแรง​ที่​เคย​ประสบ​พบ​เจอ​เหตุการณ์​ใหญ่​ๆ ใน​ต่างถิ่น​มามากมาย​ ตบะ​หนักแน่น​ ผิน​เต้า​เคย​บอก​ไว้​ตั้ง​นาน​แล้ว​ว่า​ดวงดี​ไม่สู้ดวง​แข็ง​ ต่อให้​ชะตาชีวิต​จะดี​แค่​ไหน​ ถึงอย่างไร​ก็​ไม่อาจ​ดี​ไป​ได้​ตลอด​ แต่​หาก​ชะตาแข็ง​กลับ​สามารถ​เดิน​ขึ้น​สู่ที่สูง​โดย​ไม่ต้อง​หยุดพัก​ได้​ตลอด​ บางครั้ง​แค่​ต้อง​แบ่ง​เรี่ยวแรง​เดิน​ให้​ช้าลง​หน่อย​เท่านั้น​ ต่าง​พูด​กัน​ว่า​คน​มีปณิธาน​พุ่ง​ทะยาน​ฟ้า คือ​พวก​จิต​ใจหนักแน่น​มั่นคง​ แต่​หาก​ไม่มีโชค​เสีย​บ้าง​ ก็​ยัง​มิอาจ​เข้าใจ​ได้​ด้วยตัวเอง​ ถ้าอย่างนั้น​โชค​น้อย​นิด​นี้​ ไม่ทราบ​ว่า​เจ้าขุนเขา​เฉิน​ที่​เป็น​ลูกศิษย์​ปิด​สำนัก​ของ​สาย​เห​วิน​เซิ่งมีความคิดเห็น​อย่างไรบ้าง​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ตอบ​ “สวรรค์​ประทาน​โชคดี​ให้​คน​ผู้​หนึ่ง​ ย่อม​ต้อง​เปิด​สติปัญญา​ให้​คน​ผู้​นั้น​ก่อน​ ไม่สะดุดตา​ที่สุด​ แต่กลับ​สำคัญ​ที่สุด​”

ดวงตา​นักพรต​ชุด​ม่วง​เป็นประกาย​วาบ​ ปรบมือ​ยิ้ม​ “บทกวี​ที่​แต่ง​ขึ้น​อย่าง​ส่งเดช​ ก็​เหมือน​การ​จรด​พู่กัน​เขียน​ลง​ไป​โดย​ไม่ต้อง​สนใจ​เรื่อง​ความหมาย​ หรือ​ความสวยงาม​ของ​ตัวอักษร​ ความมหัศจรรย์​ของ​มัน​ก็​คือ​ความ​ยอดเยี่ยม​เช่นนี้​เอง​”

กระแอม​อยู่​สอง​สามที​ นักพรต​ชุด​ม่วง​ที่​คิด​หา​ถ้อยคำ​เหมาะ​ๆ ได้​แล้วก็​เอ่ย​ว่า​ “ผิน​เต้า​เป็น​คน​ตรงไปตรงมา​ พูดจา​ไม่เคย​วกวน​อ้อมค้อม​ มีอยู่​สอง​สามประโยค​ที่หวัง​ว่า​จะไม่กลายเป็น​คำพยากรณ์​ที่​เหลวไหล​ ไม่ทราบ​ว่า​ควรจะ​พูด​ดี​หรือไม่​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “ควร​พูด​หรือไม่​ควร​พูด​ ผู้อาวุโส​ตัดสิน​เอง​ได้​เลย​”

ระหว่าง​ที่มา​ เฉิน​ผิง​อัน​ได้​หยิบ​ไม้เท้า​เดินป่า​อัน​หนึ่ง​ออก​มาจาก​วัตถุ​จื่อ​ชื่อ​

นักพรต​ชุด​ม่วง​เหลือบมอง​ไม้เท้า​ไผ่​เขียว​ใน​มือ​เฉิน​ผิง​อัน​ “ควร​สังหาร​ไม่สังหาร​ ย่อม​ต้อง​เจอ​ความวุ่นวาย​ ควร​กำราบ​ไม่กำราบ​ ย่อม​ต้อง​ถูก​ทำร้าย​ ก่อ​ภูเขา​สูงขาด​ดิน​หนึ่ง​ตะกร้า​ ทุกอย่าง​ที่​ทำ​มาย่อม​ต้อง​เสียเปล่า​ หาก​ไม่ระวัง​จะต้อง​พ่ายแพ้​ทั้ง​กระดาน​”

เฉิน​ผิง​อัน​กำ​ไม้เท้า​เดินป่า​ที่อยู่​ใน​มือ​ไว้​แน่น​ พยักหน้า​เอ่ย​ “ได้รับ​การ​สั่งสอน​แล้ว​”

หลังจากที่​เสี่ยว​โม่เผย​กาย​ ใบหน้า​ก็​ประดับ​รอยยิ้ม​ตลอดเวลา​

จนกระทั่ง​ได้ยิน​ประโยค​ที่​เขา​คิด​ว่า​เป็น​คำพูด​ไร้สาระ​อย่าง​จริง​แท้​แน่นอน​พวก​นี้​ รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​เสี่ยว​โม่ถึงได้​ค่อยๆ​ หาย​ไป​

กระบี่​บิน​ ‘ซี่โครง​ไก่​’ ที่​ถูก​ตน​ดึง​ออก​มาจาก​ร่าง​ ก่อนหน้านี้​ได้​ถูก​คุณชาย​บ้าน​ตน​ตั้งชื่อ​ให้​ว่า​ซินฮว่อ​

เสี่ยว​โม่จึงขอร้อง​อีก​สอง​ครั้ง​ ขอให้​เฉิน​ผิง​อัน​ช่วย​ตั้งชื่อ​กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​ที่​เหลือ​อีก​สามเล่ม​ไป​พร้อมกัน​ด้วย​

ดังนั้น​กระบี่​บิน​เล่ม​ที่​เสี่ยว​โม่รัก​มาก​ที่สุด​ซึ่งสามารถ​ชักนำ​ดวงดาว​บรรพกาล​ดวง​หนึ่ง​ที่อยู่​ห่างไกล​ให้​หล่น​ลงมา​บน​พื้นดิน​ได้​จึงถูก​คุณชาย​ตั้งชื่อ​ให้​ว่า​ ‘โอ่​วซือ’​ (ใย​ของ​ราก​บัว​) มีความหมาย​ว่า​ตัด​บัว​ยัง​เหลือ​ใย​

กระบี่​บิน​เล่ม​ที่​เลียนแบบ​วิชา​อภินิหาร​ของ​คนอื่น​ตั้ง​ชื่อว่า​ ‘เจิน​จี้’ (ลายมือ​แท้​ ผลงาน​ด้วย​ลายมือ​แท้​ของ​นักเขียน​)

สุดท้าย​เล่ม​ที่​สามารถ​กัก​วิญญาณ​ของ​ผู้ฝึก​ตน​มีชื่อว่า​ ‘จุ้ย​เซียง’​ (บ้านเกิด​แห่ง​ความเมามาย​)

ดีมาก​ ไม่แน่​ว่า​วันนี้​อาจจะ​ได้​เปิดฉาก​เข่นฆ่า​กับ​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ยอดเขา​สูงสุด​ของ​ไพศาล​อย่าง​สาแก่ใจ​สักครั้ง​แล้ว​

ส่วน​เรื่อง​ที่ว่า​อีก​ฝ่าย​ชื่อ​แซ่อะไร​ ใช่คน​ของ​ลัทธิ​เต๋า​หรือไม่​ มาจาก​ที่ใด​ แล้ว​เป็น​บรรพ​จารย์​ของ​สำนัก​แห่งใด​ หลังจากนี้​ขอ​แค่​ตน​ปลดปล่อย​ฝีมือ​ถามกระบี่​อย่าง​เต็มที่​ก็​พอ​

แค่​ถามก็​รู้​ได้​เอง​

“อย่า​นะ​!”

นักพรต​ชุด​ม่วง​รีบ​โบกมือ​ พูด​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ว่า​ “ผิน​เต้า​เป็น​คน​เกียจคร้าน​ที่​ไม่แสวงหา​ความก้าวหน้า​ ไม่คู่ควร​ให้​ผู้อาวุโส​ท่าน​นี้​กับ​เจ้าขุนเขา​เฉิน​ร่วมมือ​กัน​ถามกระบี่​หรอก​ ไม่มีความจำเป็น​ที่จะ​ต้อง​ทำลาย​พัน​ภูเขา​หมื่น​สายน้ำ​หรอก​นะ​”

เขา​ไม่ได้​แปลกใจ​ที่​เจ้าคน​สวม​หมวก​เหลือง​รองเท้า​เขียว​มีขอบเขต​สูง ปราณ​สังหาร​เข้มข้น​

แต่กลับ​เป็นการ​ ‘ถือ​ไม้เท้า​เหมือน​กุม​กระบี่​’ ของ​ผู้ฝึก​กระบี่​หนุ่ม​ต่างหาก​ที่​ทำให้​เขา​ประหลาดใจ​อย่าง​มาก​

เกือบจะ​เข้าใจผิด​คิด​ว่า​ตัวเอง​ตาลาย​ อันที่จริง​อิ่น​กวาน​คน​สุดท้าย​แห่ง​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ตรงหน้า​ผู้​นี้​ไม่ได้​ขอบเขต​ถดถอย​ แต่​กลายเป็น​ว่า​ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​แล้ว​?

ดูท่า​แล้ว​ไม่น่า​ใช่

โชคดี​ที่​ไม่ใช่

ไม่อย่างนั้น​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​แห่ง​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ พรสวรรค์​ด้าน​เวท​กระบี่​ก็​ออกจะ​ทำให้​คน​ผิดหวัง​อยู่​บ้าง​จริงๆ​

นักพรต​ชุด​ม่วง​เริ่ม​พูดจ้อ​ไม่หยุด​ ดูเหมือนว่า​พอ​เห็นท่า​ไม่ดี​ก็​เลย​เปลี่ยน​มาชวน​พูดคุย​เรื่อง​สัพเพเหระ​แทน​

“ผู้ฝึก​ตน​อย่าง​เรา​ๆ ออกจาก​บ้าน​มาอยู่​ข้างนอก​ คิด​อยาก​จะมีชีวิต​อย่าง​ยาวนาน​และ​มีความสุข​ การทำดี​กับ​คนอื่น​เป็น​เรื่องสำคัญ​อันดับ​หนึ่ง​ เอาแต่​ฆ่าแกง​กัน​ ไม่เพียงแต่​ทำลาย​ความสามัคคี​ปรองดอง​ การ​ที่​ไม่ยอม​ละเว้น​คนอื่น​ใน​ทุก​เรื่องราว​ก็​ยิ่ง​เป็นการ​ไม่ละเว้น​ตัวเอง​ด้วย​ เท่ากับ​ว่า​เดิน​ให้​มหา​มรรคา​กว้างใหญ่​กลายเป็น​สะพาน​ไม้แคบ​ๆ แล้​วจะ​ต้อง​ทำ​อย่างนั้น​ไป​ทำไม​”

“ที่ตั้ง​สำนัก​เบื้องล่าง​ของ​เจ้าขุนเขา​เฉิน​ ทุกวันนี้​ถือว่า​เลือก​ได้​เรียบร้อย​แล้ว​ สำนัก​เบื้องล่าง​มีชื่อว่า​อะไร​ล่ะ​? หากว่า​ตอนนี้​ยัง​ไม่มีชื่อ​ ผิน​เต้า​สามารถ​ช่วย​ตั้ง​ให้ได้​นะ​”

“บอก​ตามตรง​ เรื่อง​ของ​การ​ตั้งชื่อ​ ผิน​เต้า​พอ​จะมีความรู้​อยู่​บ้าง​ สูงกว่า​มรรค​กถา​บน​ร่าง​มาก​นัก​”

เฉิน​ผิง​อัน​มีความอดทน​ดีเยี่ยม​ ฟังผู้อาวุโส​บน​ยอดเขา​ท่าน​นี้​ชวน​คุย​ไป​เรื่อยเปื่อย​ก็​แค่​เอา​ฝ่ามือ​ดัน​ไม้เท้า​เดินป่า​ มือหนึ่ง​กำ​เป็น​หมัด​วาง​ไว้​ตรง​หน้าท้อง​เท่านั้น​

อยู่ดีๆ​ นักพรต​ชุด​ม่วง​ก็​ถามคำถาม​ที่อยู่​ห่างไกล​จาก​บทสนทนา​ไป​หมื่น​ลี้​ “ไม่ทราบ​ว่า​เจ้าขุนเขา​เฉิน​มอง​การกระทำ​ของ​ผู้ฝึก​ตน​หญิง​แห่​งอ​วี้จือ​ก่า​งผู้​นั้น​อย่างไร​?”

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “คือ​ตัวการ​ร้าย​ที่​ทำให้​สำนัก​ล่มจม​ สำหรับ​สำนัก​ของ​ตัวเอง​ สำหรับ​ใบ​ถงทวีป​อันเป็น​บ้านเกิด​ และ​สำหรับ​ใต้​หล้า​ไพศาล​ ล้วน​ถือเป็น​ความผิด​มหันต์​”

“แล้ว​จากนั้น​ล่ะ​? คง​ไม่ใช่ว่า​จะไม่มี ‘จากนั้น​’ หรือว่า​ ‘แต่ว่า​’ หรอก​นะ​?”

นักพรต​ชุด​ม่วง​ยิ้ม​ถาม “ซิ่ว​ไฉเฒ่าอุตส่าห์​ถ่ายทอด​ความรู้​ทั้งหมด​ที่​มี ตั้งใจ​สั่งสอน​ลูกศิษย์​ผู้​เป็นที่​ภาคภูมิใจ​ออกมา​ ไม่มีทาง​ไม่มีประโยค​ต่อมา​แล้ว​กระมัง​?”

เดิมที​เฉิน​ผิง​อัน​คิด​จะพูด​บางอย่าง​ แต่​สุดท้าย​ก็​เงียบ​ไป​

นักพรต​ชุด​ม่วง​ส่ายหน้า​ โบกมือ​เอ่ย​ “ลง​จาก​ภูเขา​ไป​เถอะ​”

หนึ่ง​ประโยค​สอง​ความหมาย​

เสียดาย​คำ​ว่า​ ‘โชคดี​’ ก่อนหน้านี้​

ซิ่ว​ไฉเฒ่ารับ​คน​แบบนี้​มาเป็น​ลูกศิษย์​ปิด​สำนัก​หรือ​?

เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​แห่ง​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ให้​คน​แบบนี้​มาเป็น​อิ่น​กวาน​? แต่กลับ​ปล่อย​โฉว​เหมียว​ไว้​ไม่ยอม​ใช้งาน​?

ทำไม​ เป็น​เจ้าเฉิน​ชิงตู​ที่​ถูกใจ​บุคคล​ที่อยู่​เบื้องหลัง​คนหนุ่ม​ผู้​นี้​อย่างนั้น​หรือ​? ตั้งแต่​เมื่อไหร่​กันที่​เฉิน​ชิงตู​และ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ต้อง​ทำตัว​หน้าเลือด​เช่นนี้​?

นักพรต​ชุด​ม่วง​เริ่ม​เป็นกังวล​แล้ว​ว่า​หาก​ตน​ยัง​มอง​คนหนุ่ม​นาน​กว่า​นี้​อีกหน่อย​จะอดไม่ไหว​ถามกระบี่​กับ​เขา​ก่อน​สัก​รอบ​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!