การมาเยือนท่าเรือครั้งนี้ได้ผลเก็บเกี่ยวอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากเผยเฉียนถึงกับค้นพบว่าในบรรดาตำราที่ถูกจับมัดวางขายราคาต่ำเป็นกองๆ มีตำราลับตัวอย่างข้อสอบหน้าพระที่นั่งอยู่ฉบับหนึ่ง เป็นลายมือของแท้หายากอย่างแท้จริง รวบรวมบทความการสอบหน้าพระที่นั่งของจ้วงหยวนเคอจวี่เกือบหนึ่งร้อยท่านในหนึ่งแคว้น กระดาษข้อสอบของจ้วงหยวนหนึ่งฉบับล้วนมีตัวอักษรสีชาดที่สีสันแดงปลั่งราวกับจะหยดออกมาเป็นน้ำ เขียนเป็นคำว่า ‘ลำดับที่หนึ่งของอันดับหนึ่ง’ ซึ่งฮ่องเต้แต่ละยุคสมัยเขียนขึ้นด้วยตัวเอง นอกจากเนื้อหาหลักในคำตอบของข้อสอบแล้ว ด้านล่างสุดยังมีตำแหน่งและชื่อแซ่ของขุนนางที่ตรวจข้อสอบ แม้ว่ากลิ่นอายมังกรจะบางเบาเพราะไหลหายไปมากแล้ว แต่ปราณบุ๋นกลับเข้มข้น ถือเป็นการเก็บตกของดีมาได้อย่างจริงแท้แน่นอนแล้ว
เฉินผิงอันอ่านข้อสอบหน้าพระที่นั่งฉบับที่เก่าที่สุดและใหม่ที่สุดสองสามฉบับ แล้วจดจำชื่อและยศที่ยาวเป็นพรวนเหล่านั้นเอาไว้
ตอนนั้นข้างร้านมีผู้เฒ่าผอมแห้งสวมชุดลัทธิขงจื๊อคนหนึ่งมองจนตาถลน คงเป็นเพราะถูกความดวงดีของเฉินผิงอันสยบเข้าให้แล้ว ลังเลอยู่นานถึงได้เปิดปากถามเฉินผิงอันว่าสามารถขายกระดาษข้อสอบพวกนี้ให้เขาได้หรือไม่
เฉินผิงอันส่ายหน้ายิ้มเอ่ย ‘อาจารย์ผู้เฒ่า โปรดอภัยที่ข้ามิอาจทำเช่นนั้นได้’
ผู้เฒ่าคลี่ยิ้มอย่างสง่างาม ‘วิญญูชนไม่แย่งชิงของรักของผู้อื่น เป็นข้าบุ่มบ่ามแล้ว’
แล้วนับประสาอะไรกับที่ในกระเป๋าของตนก็มีเงินอยู่ไม่เท่าไร มาที่ท่าเรือบนภูเขาแห่งนี้ก็เพื่อผ่อนคลายจิตใจเท่านั้น ไหนเลยจะมีความกล้าพูดเรื่องค้าขายกับเซียนซือบนภูเขา เงินเทพเซียนสามเหรียญ เกล็ดหิมะ ร้อนน้อย ฝนธัญพืช มีอย่างละหนึ่งเหรียญ ล้วนเป็นสิ่งของที่ฮ่องเต้พระองค์ใหม่ประทานให้ เขาจึงคิดว่าจะเอาไว้เป็นสมบัติสืบทอดของตระกูล
เสี่ยวโม่ใช่เสียงในใจเอ่ย “คุณชาย เมื่อครู่นี้อาจารย์ผู้เฒ่าท่านนี้เหมือนจะค่อนข้างใส่ใจกับกระดาษข้อสอบในช่วงปีล่าสุด พอเห็นชื่อของคนที่อยู่บนนั้น สภาพจิตใจมีความเคลื่อนไหวที่รุนแรงมาก”
เฉินผิงอันกล่าว “บนร่างของอาจารย์ผู้เฒ่ามีกลิ่นอายขุนนางและกลิ่นอายบนสนามรบเข้มข้นทั้งคู่ ไม่แน่ว่าอาจเห็นชื่อของตัวเองหรือสหายร่วมงานบนข้อสอบหน้าพระที่นั่ง”
มองเห็นตราประทับที่ปั้นนูนเป็นรูปเต่าอ๋าวและมังกร ทั้งสองชิ้นต่างก็ไม่มีอักษรริมขอบ เฉินผิงอันเห็นแล้วรู้สึกชื่นชอบอย่างมาก
รู้จักพอ รู้ไม่มากพอ
กลิ่นอายของหินทองไม่เข้มข้น แล้วก็ไม่มีการลงนามของบุคคลที่มีชื่อเสียง ดังนั้นราคาต้องถูกแน่นอน เพียงแต่ว่าไม่ขายเดี่ยวๆ เอาไว้เป็นของรางวัลเพิ่มเติม ลูกค้าต้องซื้อของที่ล้ำค่าอีกชิ้นหนึ่งถึงจะมอบให้
พอดีกับที่เฉินผิงอันถูกใจกาจื่อซาสือเผียวใบหนึ่งพอดี ด้านบนแกะสลักคำว่า ‘บ้านเกิดนกเขียวท่ามกลางเมฆา โลกแห่งเจียวหลงใต้ท้องทะเล’ จึงคิดว่าจะซื้อเอาไว้ วันหน้าค่อยนำไปมอบให้คนอื่น
ราคาที่ทางร้านระบุไว้คือสามสิบเหรียญเงินเกล็ดหิมะ ทุกวันนี้ข้าวของบนภูเขาของใบถงทวีป ขอแค่มีความเกี่ยวข้องกับปราณวิญญาณ บวกกับ ‘เรื่องราว’ ของจวนเซียนที่ถูกแต่งเติมเข้าไป ราคาก็มักจะสูงจนน่าตกใจ โก่งราคากันเต็มที่ ทำให้เกิดการถกเถียงกันอยู่เนืองๆ
อันที่จริงหากซื้อราคานี้ก็ออกจะแพงไปหน่อย แต่พอคิดว่าอยู่ที่ท่าเรือบ้านตน ก็ได้ คิดเสียว่ายอมแหกกฎเป็นหน้าม้าให้สักครั้งก็แล้วกัน?
เฉินผิงอันกำลังจะยื่นมือไปหยิบกาจื่อซามา แต่กลับถูกคนชนกระแทกไหล่แล้วแย่งเอากาสือเผียวใบนั้นไป ทั้งยังหันไปตะโกนเสียงดังกับเถ้าแก่ในร้าน “บอกราคามา!”
เฉินผิงอันไม่ถือสา ปล่อยให้คนผู้นั้นควักเงินซื้อกาจื่อซาใบนี้ไป ก่อนจะขยับไปหยิบกำไลมรกตสามสีที่มีความหมายแฝงว่าโชคดีอายุยืน ราคาที่ร้านระบุไว้คือสิบเหรียญเงินเกล็ดหิมะ
คิดไม่ถึงว่าสหายคนหนึ่งที่อยู่ข้างกายชายฉกรรจ์ร่างกำยำคนนั้นจะยื่นมือออกมาอีก เฉินผิงอันถองศอกออกไปเบาๆ ปัดข้อมือของอีกฝ่ายทิ้งไป ยิ้มเอ่ยว่า “มีใครเขาซื้อของแบบพวกเจ้ากันบ้าง”
อันที่จริงเฉินผิงอันสังเกตเห็นเบาะแสแล้ว ในกลุ่มคนผู้นี้มีอาจารย์ชิงอูครึ่งๆ กลางๆ อยู่คนหนึ่ง เขาหดมืออยู่ในชายแขนเสื้อ แอบใช้เข็มทิศจานระบุสมบัติที่สร้างขึ้นอย่างหยาบๆ มาวิเคราะห์ทิศทางการไหลไปของทรัพย์สิน และเนื่องจากภูเขาลั่วพั่วของบ้านตนมีผู้คุมกฎฉางมิ่ง บนร่างของเฉินผิงอันจึงมีไอของโชคลาภติดมาบ้าง แน่นอนว่าย่อมถูกอาจารย์ชิงอูผู้นั้นเข้าใจผิดคิดไปไกล บวกกับที่มีเอกสารลับข้อสอบหน้าพระที่นั่งก่อนหน้านี้ อีกฝ่ายถึงได้คิดว่าเฉินผิงอันเลือกอะไรก็จะซื้ออย่างนั้น มั่นใจว่าจะต้องได้กำไรไม่ขาดทุน
อันที่จริงในกลุ่มคนที่เล่นของเก่าของโบราณล่างภูเขา นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
กำไลบนมือชิ้นนี้ เฉินผิงอันไม่มีทางยอมยกให้แน่นอน เพราะเขาคิดไว้เรียบร้อยแล้วว่าจะนำไปมอบให้กับใคร
อาจารย์ชิงอูครึ่งๆ กลางๆ ที่ในมือถือจานระบุสมบัติผู้นั้นยิ้มเอ่ย “น้องชายผู้นี้ แนะนำเจ้าว่าตัดใจมอบของรักมาเสียดีกว่า ต่อให้เป็นเทพเซียนบนภูเขา แต่ออกจากบ้านมาอยู่ข้างนอก ภูเขาสูงน้ำลึกลมแรง ต้องระวังตัวไว้ให้มาก”
ข้างกายเทพเซียนขอบเขตถ้ำสถิตคนนี้ยังมีผู้ฝึกยุทธเต็มตัวที่เรือนกายแข็งแกร่งกำยำคนหนึ่งยืนอยู่ด้วย ตรงเอวพกดาบห้อยป้ายขุนนางที่เก่าแก่มีอายุพอสมควรแผ่นหนึ่ง
หากกดขอบเขตไว้ที่ขอบเขตสี่ก็ถือเป็นปรมาจารย์ใหญ่ขอบเขตยอดเขาคนหนึ่งแล้ว
เผยเฉียนรวมเสียงให้เป็นเส้นอธิบายให้อาจารย์พ่อฟัง “คนกลุ่มนี้คือผู้ถวายงานของราชวงศ์ต้าเซี่ยที่อยู่ทางทิศใต้ เพียงแต่ว่าทุกวันนี้ราชสำนักแตกแยก ลำพังแค่คนที่เรียกตัวเองเป็นฮ่องเต้ก็มีถึงสามคน องค์ชายหนึ่งองค์กับแม่ทัพบู๊สองคนต่างก็ช่วงชิงสถานะที่ถูกต้องนี้มา คนของทั้งสามฝ่าย เมื่อหลายปีก่อนก็เริ่มถูกส่งออกไปกวาดค้นทรัพย์สมบัติจากด้านนอกแล้ว วิธีการที่ใช้ก็พอๆ กัน ปล้นชิงข้าวของไปตลอดทาง ไม่ได้ดีไปกว่ากันสักเท่าไร แต่ป้ายผู้ถวายงานพวกนี้ล้วนเป็นของเก่าแก่ในวัง ข้าจึงแยกไม่ออกว่าพวกเขาเป็นลูกน้องของใครกันแน่…”
เผยเฉียนพลันลงมือ ถึงกับมีคนกล้าเอื้อมมือออกมาหมายจะกอดเอวของนาง เผยเฉียนจึงถองเข้าที่หน้าของอีกฝ่าย ฝ่ายหลังปลิวกระเด็นออกไปนอกร้านโดยตรง
อาจารย์ชิงอูผู้นั้นคำรามอย่างเดือดดาล “ระวัง คือเผ่าปีศาจ!”
เถ้าแก่ร้านตกใจจนหน้าซีดขาว เพราะว่าเมื่อหลายปีก่อนใบถงทวีปที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อถูกเผ่าปีศาจแห่งใต้หล้าเปลี่ยวร้างเล่นงานอย่างอเนจอนาถจริงๆ จึงตะโกนไปทางนอกประตูเสียงดัง “รีบส่งข่าวไปแจ้งภูเขาหลิงปี้!”
ในอดีตยามถึงเทศกาลชิงหมิงต้องเซ่นไหว้บรรพบุรุษ หน้าหลุมศพยังมีเถ้ากระดาษปลิวปรายเหมือนผีเสื้อขาวอยู่บ้าง ทว่าทุกวันนี้บนสุสานเงียบสงัดที่มีเพียงจิ้งจอกทอดตัวนอน ลูกหลานของหลุมศพหลายตระกูลที่มาเยือนก็มีเพียงผีใหม่จำนวนนับไม่ถ้วนที่ร้องไห้ให้กับผีเก่าเท่านั้น
ได้รับประโยคลับเสียงในใจจากอาจารย์ชิงอู ชายฉกรรจ์ร่างกำยำที่ก่อนหน้านี้แย่งเอากาสือเผียวไปก็ตวาดกร้าว เสื้อผ้าปริแตกขาดกระจาย บนร่างเผยให้เห็นรอยสักสองสาย มีทั้งมังกรข้ามผ่านหัวไหล่ แล้วก็มีทั้งพยัคฆ์ลงจากภู
อาจารย์ผู้เฒ่าที่ยังอยู่ในร้านเอ่ยเสียงหนัก “เรื่องแบบนี้จะล้อเล่นกันไม่ได้”
เผยเฉียนหันไปมองอาจารย์พ่อ เฉินผิงอันพยักหน้าให้ ลงมือได้เต็มที่เลย
ดังนั้นเหล่านายท่านผู้ถวายงานที่มาจากอดีตราชวงศ์ต้าเซี่ยกลุ่มนี้จึงได้ออกไปนอนเสวยสุขอยู่ที่นอกประตูด้วยกันทั้งหมด
เฉินผิงอันเก็บกำไลมรกตวงนั้นใส่ชายแขนเสื้อ จากนั้นจึงหยิบตราประทับคู่นั้นขึ้นมา สุดท้ายจึงวางเงินเกล็ดหิมะสิบเหรียญไว้บนโต๊ะคิดเงิน หันตัวไปกุมหมัดเอ่ยกับอาจารย์ผู้เฒ่าว่า “ขอบคุณมาก”
อาจารย์ผู้เฒ่ายิ้มกล่าว “เรื่องเล็กน้อย”
หลังจากนั้นอาจารย์ผู้เฒ่าท่านนี้ก็เอ่ยด้วยประโยคที่แฝงความหมายลึกล้ำ “อีกเดี๋ยวเมื่อเซียนซือจากภูเขาหลิงปี้มาที่นี่ ข้าสามารถช่วยอธิบายให้ได้ แต่สุดท้ายแล้วจะอธิบายได้ชัดเจนหรือไม่ก็ต้องขึ้นอยู่กับเหล่าเซียนซือของภูเขาหลิงปี้แล้ว”
ในคำพูดของผู้เฒ่ามีคำพูดซ่อนอยู่ ความนัยในประโยคนี้ก็คือภูเขาสำนักของพวกเจ้า หากว่ามีชื่อเสียงยิ่งใหญ่มากพอ บางทีอาจทำเรื่องใหญ่ให้กลายเป็นเรื่องเล็ก ทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นไม่มีเรื่องเลยได้ ไม่อย่างนั้นจะยุ่งยากอย่างมาก อีกทั้งยังรับมือได้ยากอย่างถึงที่สุด ถูกผู้ฝึกลมปราณคนหนึ่งที่เป็นผู้ถวายงานเชื้อพระวงศ์ชี้ตัวว่าเป็นผู้ฝึกตนเผ่าปีศาจ อย่าว่าแต่ภูเขาหลิงปี้ที่แบกรับไม่ไหวเลย หากวันนี้เจรจากันที่ร้านนี้ไม่สำเร็จ ทั้งสองฝ่ายลงไม้ลงมือต่อกัน ไม่แน่ว่าเรื่องอาจลุกลามไปถึงสำนักศึกษาต้าฝู พวกเขาอาจตั้งใจส่งวิญญูชนหรือนักปราชญ์ของสำนักศึกษาท่านหนึ่งมาตรวจสอบสถานะที่นี่ แน่นอนว่าหลังจบเรื่องหากพิสูจน์ได้ว่าภูเขาหลิงปี้จงใจรายงานเท็จก็ต้องมีโทษไม่น้อย
ข้างกายผู้เฒ่ามีผู้ติดตามหนุ่มฉกรรจ์คนหนึ่ง เขาทำท่าจะพูดแต่ก็ไม่พูด คงกังวลว่านายท่านบ้านตนจะหาเรื่องใส่ตัวโดยไม่จำเป็น
หลังจากที่ทางฝั่งของศาลบรรพจารย์ภูเขาหลิงปี้ได้ข่าวแล้ว ไหนเลยจะกล้าประมาท หนึ่งโอสถทองสองประตูมังกรที่มีเจ้าขุนเขาผู้เฒ่าเป็นหนึ่งในนั้นรีบทะยานลมมายังท่าเรือเหย่อวิ๋นทันที ท่าทางประหนึ่งเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ ยืนอยู่ตรงหน้าประตูร้าน
หลังจากที่ผู้เฒ่าแนะนำตัวแล้ว เสี่ยวโม่ก็ใช้เสียงในใจยิ้มเอ่ย “คุณชายคาดการณ์ได้แม่นยำดุจเทพจริงๆ”
เพราะอาจารย์ผู้เฒ่าที่ได้สร้างคุณความชอบต่อบ้านเมืองอีกครั้งผู้นี้ก็คือหนึ่งในคนที่เป็นผู้ตรวจข้อสอบ อีกทั้งชื่อตำแหน่งขุนนางยังค่อนข้างยาว เจ้ากรมพิธีการมหาบัณฑิตแห่งตำหนักเหวินฮว่า เซ่าเป่า (หนึ่งในตำแหน่งขุนนางซานกู ทำหน้าที่คอยช่วยเหลือรัชทายาท) ควบตำแหน่งมหาองค์รักษ์แห่งองค์รัชทายาท
เป็นขุนนางบุ๋นน้ำใสที่สุด มีลูกศิษย์ลูกหาเต็มบ้านเต็มเมือง ทว่าผู้เฒ่ากลับไม่ได้ติดตามอดีตฮ่องเต้หนีไปที่ใต้หล้าแห่งใหม่ เลือกจะอยู่ในมาตุภูมิแคว้นบ้านเกิด อยู่บนสนามรบมานานหลายปี เมื่อหลายปีก่อนได้ขัดขวางการรุกรานทางชายแดนจากแคว้นเพื่อนบ้านหลายแห่งซึ่งรวมถึงอดีตราชวงศ์ต้าเซี่ยเป็นหนึ่งในนั้น ทุกวันนี้ลาออกแล้วกลับมาอยู่บ้านเกิด ผ่านทางมายังที่แห่งนี้พอดี ไร้เรื่องราวใดก็ตัวเบา คิดว่าจะลองสัมผัสกับทัศนียภาพของบนภูเขาดูสักครั้ง ความบกพร่องเพียงหนึ่งเดียวในความสมบูรณ์แบบก็คือกระเป๋าฟีบแบนไปหน่อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!