กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 895

เป็นเหตุให้​คน​มากมาย​ที่​มีโชควาสนา​ หาก​เป็น​คนแก่​จะมีสัมผัส​ที่​เฉียบ​ไว​ต่อ​ขีดจำกัด​ด้าน​ความเป็นความตาย​มาก​เป็นพิเศษ​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ภิกษุ​สมณศักดิ์​สูงที่​เป็น​มังกร​คชสาร​แห่ง​ลัทธิ​พุทธ​ เจิน​เห​ริน​ผู้​บรรลุ​มรรคา​ของ​ลัทธิ​เต๋า​ที่​ถึงขั้น​สามารถ​รู้​เวลา​ตาย​ของ​ตัวเอง​ได้​

ก็​เหมือน​การ​ไป​อยู่​ตรง​จุดตัด​ระหว่าง​ทะเล​และ​บน​บก​ แล้ว​หยุด​เท้า​หัน​มอง​กลับ​ไป​ นี่​ก็​คือ​คำกล่าว​ที่​ว่าความ​สดใส​สุดท้าย​ก่อน​ตาย​

นอกจากนี้​คน​บน​ภูเขา​ช่วย​ต่อ​อายุขัย​ให้​กับ​คน​ล่าง​ภูเขา​ก็​ค่อนข้าง​คล้ายคลึง​กับ​การ​เบิก​ใช้ล่วงหน้า​ จะทำลาย​โชควาสนา​จาก​บุญ​กุศล​ที่​สร้าง​ไว้​ของ​คน​ที่​กิน​ยา​โดยที่​มองไม่เห็น​ ดังนั้น​ความมหัศจรรย์​ที่​แท้จริง​ของ​ยา​ทั้งสอง​เม็ด​นี้​คือ​ใช้บุญ​กุศล​ส่วนหนึ่ง​หลอม​เข้าไป​ใน​ตัว​ยา​ สามารถ​ต่อ​อายุขัย​ให้​กับ​แม่ทัพ​ผู้เฒ่า​เหยา​ได้​หนึ่ง​ปี​กว่า​ เท่ากับ​ว่า​เป็นความ​สดใส​เสี้ยว​สุดท้าย​ที่​เวลา​ยาวนาน​มาก​ครั้งหนึ่ง​ และ​นี่​ก็​เป็น​ขีดจำกัด​แล้ว​

เสี่ยว​โม่พลัน​เอ่ย​ว่า​ “คุณชาย​ หาก​เดา​สถานะ​ไม่ผิด​ ใต้เท้า​เจ้าเมือง​น่าจะ​ใกล้​มาถึงเรือน​พวกเรา​แล้ว​”

เฉิน​ผิง​อัน​ลุกขึ้น​ยืน​ เอ่ย​ว่า​ “เจอ​กับ​เขา​แล้ว​ค่อย​ไป​จวน​เหยา​ด้วยกัน​”

พอ​ไป​ถึงหน้า​ประตู​ก็ได้​เจอ​กับ​เหยา​เซียน​จือ​ที่​ใบหน้า​ไม่เต็มไปด้วย​หนวดเครา​อีกแล้ว​ แม้ว่า​สีหน้า​ของ​เจ้าเมือง​ท่าน​นี้​จะดู​เหนื่อยล้า​อย่าง​เห็นได้ชัด​ แต่​ดวงตา​คู่​นั้น​กลับ​สว่าง​เจิดจ้า​เหมือน​เด็กหนุ่ม​ใน​อดีต​คน​นั้น​

เดิน​ออกจาก​ตรอก​ไป​ด้วยกัน​ ตอนที่​เฉิน​ผิง​อัน​พูดถึง​ยา​กับ​เหยา​เซียน​จือ​ เหยา​เซียน​จือ​ที่​เดิน​ขา​กะเผลก​ข้าง​หนึ่ง​ถึงกับ​ไม่เอ่ย​ประโยค​เกรงใจ​อะไร​แม้แต่​ครึ่ง​คำ​ กับ​อาจารย์​เฉิน​ มีอะไร​ให้​ต้อง​เกรงใจ​กัน​เล่า​

ไม่อาจ​เปลี่ยน​คำ​เรียกขาน​อีก​ฝ่าย​ว่า​พี่เขย​ นี่​ต่างหาก​ถึงจะเป็นเรื่อง​ที่​น่าเสียดาย​

เหยา​เซียน​จือ​เอ่ย​เบา​ๆ “อาจารย์​เฉิน​ ข้า​ช่วย​ตรวจสอบ​ให้​แล้ว​ ทาง​ฝั่งของ​แคว้น​เป่ย​จิ้น​ไม่มีภิกษุ​ที่​อาจารย์​เฉิน​พูดถึง​คราวก่อน​ไป​จำวัด​ที่วัด​หรู​ชวี่”​

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ “ภิกษุ​ที่​มีพระธรรม​อยู่​ใน​ใจอย่าง​แท้จริง​ จะพบ​เจอ​ได้​คง​ต้อง​แล้วแต่​วาสนา​เท่านั้น​”

คราว​ก่อนที่​กลับมา​พบ​เจอกัน​อีกครั้ง​ เหยา​เซียน​จือ​ได้​คลาย​ปม​ใน​ใจไป​แล้ว​ไม่น้อย​ ในที่สุด​ก็​ตัดสินใจ​แล้ว​ว่า​จะไม่ขึ้น​หลัง​ม้ากลับ​ไป​ทำ​อาชีพ​เก่า​ที่​ชายแดน​อีกแล้ว​ เขา​จะเป็น​ใต้เท้า​เจ้าเมือง​อยู่​ที่​เมืองหลวง​แห่ง​นี้​ต่อไป​ แต่​เฉิน​ผิง​อัน​จะต้อง​เก็บ​ตำแหน่ง​ผู้​ถวายงาน​สำนัก​เบื้องล่าง​ไว้​ให้​เขา​ตำแหน่ง​หนึ่ง​

ฮ่องเต้​หนุ่ม​ของ​แคว้น​เป่ย​จิ้น​เลื่อมใส​ใน​พระธรรม​ ว่า​กัน​ว่า​มีครั้งหนึ่ง​ไป​ค้าง​ที่วัด​ฝัน​ว่า​มีคน​มาให้การ​ช่วยเหลือ​ จึงได้รับ​ต้นฉบับ​เนื้อหา​ของ​ขั้นตอน​การ​ทำ​พิธีกรรม​ทาง​ลัทธิ​พุทธ​เล่ม​หนึ่ง​ที่​หายสาบสูญ​ไป​นาน​

ช่วง​เริ่ม​ฤดูใบไม้ผลิ​ของ​ปี​นี้​ ฮ่องเต้​ปรากฏตัว​ใน​งาน​พิธีกรรม​ทาง​ศาสนา​ครั้งหนึ่ง​ บอก​ให้​เจ้ากรม​พิธีการ​อ่าน​ประกาศ​เนื้อหา​การ​ทำพิธี​ อีก​ทั้ง​ยัง​เขียน​กรอบ​ป้าย​เป็น​คำ​ว่า​ ‘ลาน​ประกอบ​พิธี​สุ่ย​ลู่​อู๋​อ้าย​’ (คำ​ว่า​สุ่ย​ลู่​หมายถึง​ทางน้ำ​และ​ทางบก​ แต่​ยัง​เป็น​ชื่อ​เรียก​พิธีกรรม​ทาง​ศาสนา​อีกด้วย​ อู๋​อ้าย​หมายถึง​ไร้​อุปสรรค​ สุ่ย​ลู่​อู๋​อ้าย​จึงหมายถึง​ไร้​อุปสรรค​ทั้ง​ทางน้ำ​และ​ทางบก​ หรือ​ลาน​ประกอบ​พิธีกรรม​ที่​ราบรื่น​ไร้​ซึ่งอุปสรรค​) เป็นเหตุให้​ภายใน​แคว้น​มักจะ​มีการ​จัด​พิธีกรรม​ทาง​ศาสนาพุทธ​อย่าง​ยิ่งใหญ่​อลังการ​

เหยา​เซียน​จือ​ถามอย่าง​ตรงไปตรงมา​ว่า​ “จะสร้าง​สำนัก​เบื้องล่าง​เมื่อไหร่​? กำหนด​วันที่​แน่นอน​แล้ว​หรือยัง​? ข้า​ที่​เป็น​ผู้​ถวายงาน​จะต้อง​ไป​ร่วมงาน​ด้วย​แน่นอน​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​ตอบ​ “วัน​เริ่มต้น​ฤดูใบไม้ผลิ​ของ​ปีหน้า​”

เหยา​เซียน​จือ​มีสีหน้า​ปั้น​ยาก​

ทำไม​ถึงเป็น​วันนี้​ล่ะ​? วัน​เริ่มต้น​ฤดูใบไม้ผลิ​โอรส​สวรรค์​จะต้อง​นำพา​ร้อย​ขุนนาง​ไป​ทำพิธี​ต้อนรับ​วสันต์​ฤดู​ แม้กระทั่ง​เจ้าเมือง​ของ​เมืองหลวง​อย่าง​ตน​ก็​ยัง​ต้อง​รับผิดชอบ​ต่า​ชุน​ (ใน​วัน​เริ่มต้น​ฤดู​ไม้ใบ​ผลิ​จะมีประเพณี​ให้​คน​เอา​ดิน​มาปั้น​เป็น​วัว​ จากนั้น​ใช้แส้สีเขียว​แดง​โบย​ไป​ที่​วัว​ดิน​ตัว​นี้​ เพื่อให้​เป็น​สัญลักษณ์​ถึงการหว่าน​ไถใน​ฤดูใบไม้ผลิ​ ขอพร​ให้ผล​เก็บเกี่ยว​อุดมสมบูรณ์​) ด้วย​

ดังนั้น​ฮ่องเต้​ต้อง​มิอาจ​ไป​เข้าร่วม​งานเฉลิมฉลอง​ได้​แน่นอน​

คราวก่อน​อาจารย์​เฉิน​ไป​เป็น​แขก​ที่​จวน​จิน​หวง​ ฮ่องเต้​ก็​ประทับ​อยู่​ที่​ทะเลสาบ​ซงเจิน​ ทั้งๆ ที่​อยู่​ห่าง​กัน​แค่​ไม่กี่​ก้าว​ ทว่า​ทั้งสองฝ่าย​กลับ​คลาด​กัน​ไป​

เฉิน​ผิง​อัน​นั่ง​อยู่​ใน​ห้อง​โดยสาร​รถม้า​คัน​หนึ่ง​กับ​เหยา​เซียน​จือ​ โรงเตี๊ยม​แห่ง​นี้​อยู่​ห่าง​จาก​จวน​เหยา​ไม่ไกล​นัก​

เสี่ยว​โม่นั่ง​อยู่​ข้าง​กาย​สารถี​

เหยา​เซียน​จือ​ถามหยั่งเชิง​ “ทำไม​ถึงไม่ไป​พัก​ที่​บ้าน​ข้า​ล่ะ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​อธิบาย​ “มอบ​ยา​ให้​เสร็จ​แล้ว​ หลังจาก​แน่ใจ​ว่า​แม่ทัพ​ผู้เฒ่า​เหยา​ปลอดภัย​ดี​ พวกเรา​จะออกจาก​เมืองหลวง​ทันที​ เดินทาง​ไป​ที่​เรือ​นอ​วิ๋น​ฉ่าว​ภูเขา​ผู​ซาน​”

เหยา​เซียน​จือ​ถาม “รีบร้อน​ขนาด​นี้​เลย​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “ต้น​ฤดูใบไม้ผลิ​ของ​ปีหน้า​ก็​ต้อง​ก่อตั้ง​สำนัก​เบื้องล่าง​แล้ว​ ใต้เท้า​เจ้าเมือง​ท่าน​ว่า​เจ้าสำนัก​เบื้องบน​อย่าง​ข้า​จะยุ่ง​หรือไม่​เล่า​?”

เหยา​เซียน​จือ​สีหน้า​ซับซ้อน​

ต่อให้​ยุ่ง​แค่​ไหน​ก็​เสียเวลา​แค่​สอง​สามวัน​เอง​ไม่ใช่หรือ​

ไป​ถึงจวน​เหยา​ มาถึงห้อง​ที่​มียันต์​แปะ​ไว้​หลาย​แผ่น​ รอ​กระทั่ง​เหยา​เซียน​จือ​ช่วย​ให้​แม่ทัพ​ผู้เฒ่า​เห​ยากิน​ยา​สอง​เม็ด​ลง​ไป​แล้ว​ เฉิน​ผิง​อัน​ที่นั่ง​อยู่​ข้าง​เตียง​ก็​ยก​ข้อมือ​ของ​ผู้เฒ่า​ขึ้น​มาตรวจ​ชีพจร​อย่าง​ละเอียด​เบา​ๆ สุดท้าย​หันไป​เอ่ย​เสียง​เบา​กับ​เหยา​เซียน​จือ​ว่า​ “วางใจ​เถอะ​ ไม่มีปัญหา​อะไร​ อีก​เดี๋ยว​แม่ทัพ​ผู้เฒ่า​เหยา​ก็​จะฟื้น​ขึ้น​มาแล้ว​ ถึงเวลา​นั้น​เจ้าก็​คอย​ช่วยเหลือ​ แล้วก็​ต้องหา​เวลา​มาเดินเล่น​กับ​ท่าน​ปู่​บ่อยๆ​ ด้วย​”

เหยา​เซียน​จือ​เรียก​อาจารย์​เฉิน​ก่อน​ จากนั้น​ยก​แขน​ข้าง​ที่​เหลืออยู่​กำหมัด​แน่น​ ทุบ​ลง​ตรง​หัว​ใจเบา​ๆ

เฉิน​ผิง​อัน​วาง​แขน​ของ​ผู้เฒ่า​กลับ​เข้าไป​ใน​ผ้าห่ม​ด้วย​ท่วงท่า​อ่อนโยน​ ยัด​มุมผ้า​ให้​เรียบร้อย​แล้ว​ถึงได้​ลุกขึ้น​ เดิน​ออก​ไปนอก​ประตู​กับ​เหยา​เซียน​จือ​

เสี่ยว​โม่ยืน​รอ​อยู่​ที่​หน้า​ประตู​เงียบๆ​

เฉิน​ผิง​อัน​ตบ​ไหล่​เหยา​เซียน​จือ​ “ไป​ทำ​ธุระ​เถอะ​ ไม่ต้อง​สนใจ​ข้า​ ข้า​จะรอ​ให้​แม่ทัพ​ผู้เฒ่า​ฟื้น​อยู่​ตรงนี้​”

เหยา​เซียน​จือ​ยิ้ม​กล่าว​ “ธุระ​กะ​ผายลม​อะไร​เล่า​ หลาย​วัน​มานี้​นอบ​หลับ​ไม่สนิท​เลย​ ในที่สุด​ก็​หาย​ใจหาย​คอ​ได้​คล่อง​บ้าง​แล้ว​”

สุดท้าย​เหยา​เซียน​จือ​ลาก​เฉิน​ผิง​อัน​มากิน​ข้าวเย็น​ด้วยกัน​ ได้ยิน​ผู้ดูแล​ของ​จวน​บอ​กว่า​ท่าน​ปู่​ฟื้น​แล้ว​ คน​ทั้ง​สามก็​รีบ​วาง​ตะเกียบ​ลง​ ไป​ยัง​เรือน​ที่อยู่​ติดกัน​

ผู้เฒ่า​นั่ง​พิง​หัว​เตียง​ สีหน้า​ไม่เลว​ ยิ้ม​มอง​หลานชาย​ที่​เดิน​ข้าม​ธรณีประตู​มาพร้อมกับ​บุรุษ​ชุด​เขียว​ ถามว่า​ “เซียน​จือ​ แจ้งให้​ฝ่าบาท​ทราบ​แล้ว​หรือยัง​?”

เหยา​เซียน​จือ​ส่ายหน้า​ “ยังเลย​”

จากนั้น​เหยา​เซียน​จือ​ก็​ถามหยั่งเชิง​ “ท่าน​ปู่​ ให้​ข้า​ส่งข่าว​ไป​ที่​วังหลวง​เลย​ไหม​ขอรับ​?”

มอง​เจ้าเด็ก​หน้า​เหม็น​ที่​ขยับ​ชุดก​ว้า​ตัว​ยา​วสี​เขียว​ นั่งลง​บน​เก้าอี้​ข้าง​เตียง​ช้าๆ ด้วย​สีหน้า​เป็นปกติ​ ผู้เฒ่า​ก็​โบกมือ​ยิ้ม​เอ่ย​กับ​เหยา​เซียน​จือ​ “ไม่ต้อง​แล้ว​ เรื่อง​ที่​ขอร้อง​ก็​ไม่ได้มา​ คน​ที่​ทำให้​ตกใจ​ก็​ยัง​ไม่หนี​ไป​นี่​นะ​”

จากนั้น​ผู้เฒ่า​ก็​แค่​พูดคุย​ถึงเรื่อง​ใน​อดีต​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ ส่วน​เรื่องใหญ่​ของ​ใต้​หล้า​แคว้น​บ้าน​ตน​ทุกวันนี้​ เขา​กลับ​ไม่เอ่ยถึง​สัก​คำ​

พูดคุย​กัน​ไป​เกือบ​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ แม่ทัพ​ผู้เฒ่า​เหยา​ถึงได้​ยอม​ปล่อย​เฉิน​ผิง​อัน​ไป​ เพียงแค่​บอก​เขา​ว่า​ก่อน​จะออก​ไป​จาก​นคร​เซิ่น​จิ่งจะต้อง​มากินข้าว​ที่​บ้าน​ตน​อีก​สัก​มื้อ​ เฉิน​ผิง​อัน​ตอบ​ตกลง​

เหยา​เซียน​จือ​เดิน​ไป​ถึงหน้า​ประตู​เป็นเพื่อน​เฉิน​ผิง​อัน​ เขา​ยัง​ต้อง​กลับ​ที่ว่าการ​จวน​เจ้าเมือง​เพื่อ​ไป​จัด​การงาน​ราชการ​อีก​กอง​โต​ เรื่อง​การ​ตามหา​ดาบ​เป็น​แค่​เรื่อง​เร่งด่วน​ประชิด​ขนคิ้ว​เท่านั้น​ ยังมี​เรื่องจุกจิก​วุ่นวาย​อีก​มาก​นัก​

ยาม​ที่​หิมะ​ละลาย​ เมืองหลวง​เหมือน​กลาย​มาเป็น​ดอก​ฉงฮวา​ (ดอกไม้​สีขาว​ที่​ชูช่อ​เป็น​กลุ่ม​หรือ​ดอก​ไว​เบอร์​นัม​จีน​ ลักษณะ​คล้ายๆ​ ดอก​ไฮเดรนเยีย​)

ไป​เยี่ยมเยือน​อาราม​เต๋า​ใน​ค่ำคืน​ที่​หิมะ​ตก​

เฉิน​ผิง​อัน​เดิน​อยู่​ใน​ตรอก​เล็ก​สาย​หนึ่ง​ ทาง​ทิศตะวันตก​สุด​ของ​เมืองหลวง​ต้า​เฉวียน​แห่ง​นี้​มีอาราม​เต๋า​ขนาดเล็ก​ที่​มีชื่อว่า​อาราม​หวง​ฮวา​ตั้งอยู่​ ก่อนหน้านี้​ไม่นาน​เพิ่งจะ​คลาย​ตรา​ผนึก​ ฮ่องเต้​ถอน​ผู้ฝึก​ตน​ผู้​ถวายงาน​ของ​เชื้อพระวงศ์​ที่มา​ช่วย​ ‘ปกป้อง​’ อาราม​เต๋า​อย่าง​ลับ​ๆ กลุ่ม​หนึ่ง​ออก​ไป​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!