กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 898

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “อย่าง​แรก​ยังไง​ก็ได้​ เจ้ากับ​เฉาฉิงหล่า​งลอง​ปรึกษา​กัน​ดู​ แต่​อย่าง​หลัง​ต้อง​ทำ​ตามที่​พูด​ ห้าม​ผิดสัญญา​”

เดิน​ไป​ถึงบน​ยอดเขา​ เมฆหมอก​ล้อ​มวน​อยู่​รอบกาย​ ชุยตง​ซาน​ดีดนิ้ว​หนึ่ง​ที​ ทันใดนั้น​เมฆหมอก​พลัน​สลาย​หาย​ไป​ การ​มองเห็น​พลัน​เปิดกว้าง​ ประตู​ใหญ่​สีชาด​เปิด​ออก​ช้าๆ ผนัง​บังตา​ด้านใน​กำแพง​ถึงกับ​เป็น​ศิลา​หิน​ใหญ่​ยักษ์​ก้อน​หนึ่ง​ เฉิน​ผิง​อัน​เดิน​ข้าม​ธรณีประตู​ไป​แล้วก็​แหงนหน้า​มอง​ไป​ยัง​ตัวอักษร​เก่าแก่​โบราณ​เหล่านั้น​ พอ​จะเข้าใจ​ประวัติ​ความเป็นมา​ของ​ภูเขา​ลูก​นี้​ได้​อย่าง​คร่าวๆ​ เพียงแต่ว่า​เนื้อหา​ของ​ตัวอักษร​ค่อนข้างจะ​คลุมเครือ​ พูด​ง่ายๆ​ ก็​คือ​ตัวอักษร​ทุก​ตัว​เขา​อ่าน​ออก​ แต่​ไม่ค่อย​เข้าใจ​ความหมาย​เท่าใด​นัก​

ภูเขา​เต๋า​จวน​แดง​ นคร​เซียน​หมื่น​ลี้​ตรวน​สาว​งาม…มหา​มรรคา​ชิงข้าม​ฝั่ง คม​มีด​หัว​ศร​อยู่​ตรงหน้า​ หยก​หิน​พัง​ภินท์​ จิตวิญญาณ​เสื่อมโทรม​พร้อม​เปลือกนอก​ ดื่ม​น้ำพุ​เหลือง​เคือง​แค้​น.​..ละลาย​คม​มีด​เชื่อม​หัวลูกศร​หลอม​ร่าง​ทอง​ ไย​มิใช่ทำให้​ใต้​หล้า​อ่อนแอ​โลก​มนุษย์​เปราะบาง​…

หลังจาก​เดิน​อ้อม​ก้อนหิน​มาก็​เป็น​ตำหนัก​ใหญ่​ว่างเปล่า​แห่ง​หนึ่ง​ มีเทว​รูปร่าง​ทอง​ยี่สิบ​รูป​ตั้ง​ตระหง่าน​ ทว่า​ใบหน้า​ล้วน​พร่า​เลือน​ไม่ชัดเจน​

เสี่ยว​โม่เปิดปาก​เอ่ย​ “คือ​อดีต​เทพ​ชั้นสูง​สิบสอง​ท่าน​ที่อยู่​สูงส่งบน​สวรรค์​”

จิต​ของ​เฉิน​ผิง​เกิด​การ​ขานรับ​ ลังเล​อยู่​ชั่วขณะ​ แต่​ก็​ยัง​หยิบ​ดาบ​แคบ​ ‘ลงทัณฑ์​’ เล่ม​นั้น​ออกมา​ สอง​มือ​ดัน​ปลาย​ดาบ​ ใช้ดาบ​แคบ​ยัน​พื้น​ ชั่วพริบตา​นั้น​เมฆหมอก​ที่​โอบล้อม​เทวรูป​รูป​หนึ่ง​ก็​พลัน​จางหาย​สิ้น​ เผย​ให้​เห็น​โฉมหน้าที่​แท้จริง​ เทวรูป​ลืมตา​ขึ้น​ช้าๆ คล้าย​กำลัง​มอง​สบตา​เฉิน​ผิง​อัน​

ฝ่ามือ​เฉิน​ผิง​อัน​ยัน​ดาบ​แคบ​เล่ม​นี้​เอาไว้​ เป็น​ดาบ​ของ​ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา​ผู้​ครอง​กระบี่​หนึ่ง​ใน​ห้า​เทพ​สูงสุด​ใน​อดีต​ ถูก​คนรุ่นหลัง​ขนานนาม​ว่า​ ‘ผู้​ลงทัณฑ์​’

ชุยตง​ซาน​พลัน​เอ่ย​ว่า​ “เสี่ยว​โม่ พวกเรา​ถอย​ออก​ไป​เถอะ​”

เสี่ยว​โม่พยักหน้า​ ติดตาม​เด็กหนุ่ม​ชุด​ขาว​ย้อนกลับ​ไป​ทาง​เดิม​ เมื่อ​พวกเขา​กลับ​ไป​ยืน​อยู่​นอก​ประตู​กัน​อีกครั้ง​ ประตู​บาน​ใหญ่​ก็​ปิด​ลง​ดัง​โครม​

เว้น​เสีย​จาก​ ‘ผู้​ลงทัณฑ์​’ ที่​หลับสนิท​อยู่​ใกล้​กับ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ผู้​นั้น​แล้ว​

ยังมี​ ‘ผู้​มีตาเดียว​’ สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ชั้นสูง​ตน​หนึ่ง​ที่​จำศีล​อยู่​ใน​ใต้​หล้า​ห้า​สีมานาน​นับ​หมื่น​ปี​ ถูก​หนิง​เหยา​ใช้กระบี่​สังหาร​ ใน​อดีต​รับหน้า​ที่อยู่​ใต้​บังคับบัญชา​ของ​ผู้​สวม​เสื้อเกราะ​ คอย​ผลัดเปลี่ยน​กัน​เข้าเวร​กลางวัน​กับ​กลางคืน​ เวลานี้​เทวรูป​ของ​เทพ​ตน​นี้​ก็​ยืน​ตระหง่าน​อยู่​ใน​ตำหนัก​ใหญ่​เช่นเดียวกัน​

เทพ​ชั้นสูง​ที่​ปรากฏตัว​ที่​นอก​ฟ้าของ​ใบ​ถงทวีป​เคย​เดิน​ทางผ่าน​ขุนเขา​แม่น้ำ​ใหญ่​ ข้าม​มหาสมุทร​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​นคร​มังกร​เฒ่าของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ ผล​คือ​ถูก​ศิษย์​พี่​สอง​คน​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ขัดขวาง​การ​ขึ้นฝั่ง​ อีก​ฝ่าย​มีชื่อว่า​ ‘ผู้ส่ง​เสียงสะท้อน​’

บรรพบุรุษ​แห่ง​เซียน​ดิน​ชาย​ หยาง​เหล่า​โถว​ที่อยู่​ใน​เรือน​ด้านหลัง​ของ​ร้าน​ยา​ มีฐานะ​เป็น​ชิงถงเทียน​จวิน​

บรรพบุรุษ​แห่ง​เซียน​ดิน​หญิง​ มีชาติกำเนิด​จาก​ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​มนุษย์​เช่นเดียวกัน​ และ​นาง​ก็​ยิ่ง​เป็น​ผู้​ครอง​ดวงจันทร์​บน​ฟ้าของ​สรวงสวรรค์​บรรพกาล​

ทั้งสองฝ่าย​แยกกัน​ดูแล​หอ​บิน​ทะยาน​ที่​ชักนำ​เซียน​ดิน​ให้​เดิน​ขึ้น​สู่ที่สูง​กลายเป็น​เซียน​กัน​คนละ​แห่ง​

และ​ทั้งสอง​ท่าน​นี้​ก็​มีเจตนา​ที่​ดี​ต่อ​ผืน​แผ่นดิน​ของ​โลก​มนุษย์​อันเป็น​มาตุภูมิ​มาโดยตลอด​

พวกเขา​ถือว่า​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​รุ่น​เดียว​กับ​เจ้าของ​ปิ่น​เต๋า​นคร​เซียน​จาน​คน​แรก​สุด​ รวมไปถึง​เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​เจ้าแห่ง​ถ้ำปี้​เซียว​หาด​ลั่ว​เป่า​ใน​อดีต​ด้วย​

เสี่ยว​โม่ฝึก​ตน​ช้ากว่า​คน​เหล่านี้​หลาย​ปี​ อายุ​ก็​น้อยกว่า​เล็กน้อย​

‘ผู้​หลับ​ฝัน​’ คือ​เจ้าแห่ง​ดินแดน​ความฝัน​ ทำให้​สรรพ​ชีวิต​ทั้งหมด​ที่​เว้น​จาก​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ผู้ฝึก​ตน​ที่​เริ่ม​เดิน​ขึ้น​เขา​พลัด​หลง​เข้าไป​ใน​ความฝัน​ที่​พลิก​กลับหัว​กลับ​หาง​ จากนั้น​ก็​ก่อให้เกิด​จิต​มาร​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​

‘ผู้​ไร้​คำพูด​’ ได้​ครอบครอง​วิชา​อภินิหาร​ ‘หยุด​วจี​’ จึงเป็นเหตุให้​มีอีก​ชื่อ​หนึ่ง​ว่า​ ‘ผู้​มีเสียง​ใน​ใจ’ ข้อความ​เสียง​ใน​ใจของ​ผู้ฝึก​ตน​ การ​รวม​เสียง​ให้​เป็น​เส้น​ของ​ผู้ฝึก​ยุทธ​เต็มตัว​ล้วน​มีต้นกำเนิด​มาจากนี้​ทั้งสิ้น​

‘ผู้พิมพ์​ซ้ำ’ สร้าง​ดวงตะวัน​จันทรา​และ​พื้น​ที่ลับ​ขุนเขา​สายน้ำ​ฉบับ​คัดลอก​ไว้​นับไม่ถ้วน​ ดังนั้น​จึงมีอีก​ชื่อว่า​ ‘นัก​จินตนาการ​’ หรือ​ ‘ผู้​หล่อหลอม​’

เจ้าแห่ง​กอง​งาน​ทั้งหลาย​ในกรม​สายฟ้า​

‘นัก​วาง​เค้าโครง​’ อยู่​ใต้​อาณัติ​ของ​เทพ​อัคคี​ รับผิดชอบ​จัดวาง​ตำแหน่ง​ให้​กับ​โครงกระดูก​ของ​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ทั้งหมด​

‘นัก​ขจัด​ความวุ่นวาย​’ อยู่​ใน​อาณัติ​ของ​เทพ​วารี​ รับผิดชอบ​จัดการ​กระแสน้ำ​ไหล​ของ​แม่น้ำ​แห่ง​กาลเวลา​ให้​มีระเบียบ​

สุดท้าย​ยังมี​เทพ​ชั้นสูง​อีก​องค์​หนึ่ง​ที่​ไม่ว่า​จะเป็น​ศาล​บุ๋น​แผ่นดิน​กลาง​ ดินแดน​พุทธะ​สุขาวดี​ ป๋า​ยอ​วี้​จิงแห่ง​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​หรือ​คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ โลก​ยุค​หลัง​ล้วน​ไม่มีบันทึก​ใดๆ​ ระบุ​ไว้​ แล้วก็​ไม่มีคำ​เรียกขาน​ใดๆ​ ราวกับว่า​เป็น​การแสดง​ความเคารพ​ไกลๆ​ อย่างหนึ่ง​

ห้า​เทพ​สูงสุด​ยุค​บรรพกาล​

ผู้​ครอง​สรวงสวรรค์​ ผู้​ครอง​กระบี่​ ผู้​สวม​เสื้อเกราะ​ เทพ​อัคคี​ เทพ​วารี​

หลังจากนั้น​จึงเป็น​สิบสอง​ตำแหน่ง​สูง

หาก​ไม่นับ​รวม​ผู้​ที่​ ‘ไม่ได้รับ​การ​บันทึก​ชื่อ​’ หนึ่งเดียว​นั้น​แล้ว​ ก็​แบ่ง​ออก​เป็น​ผู้​ลงทัณฑ์​ ผู้​มีตาเดียว​ ผู้​หลับ​ฝัน​ ผู้​มีเสียง​ใน​ใจ ผู้พิมพ์​ซ้ำ ผู้ส่ง​เสียงสะท้อน​ เจ้าแห่ง​กอง​งาน​กรม​สายฟ้า​ ผู้​วาง​เค้าโครง​ ผู้​ขจัด​ความวุ่นวาย​ บวก​กับ​บรรพบุรุษ​เซียน​ดิน​ชาย​และ​หญิง​อีก​สอง​คน​

นอกจากนี้​

เฟิงอี๋​ คือ​หนึ่ง​ใน​เทพ​วาโย​บรรพกาล​

เทพ​พิรุณ​ ช่างเตาเผา​ของ​บ้านเกิด​ท่าน​นั้น​

ส่วน​คน​ที่​เป็น​สารถี​เฒ่าอยู่​ใน​เมืองหลวง​ต้า​หลี​ ตำแหน่ง​เทพ​จะต่ำกว่า​เล็กน้อย​ เมื่อ​เทียบ​กับ​ฝ่าย​แรก​แล้ว​มีความต่าง​เหมือน​ตำแหน่ง​ขุนนาง​ซือ​หลา​งกับ​หลา​งก​วาน​ (ชื่อ​ตำแหน่ง​ขุนนาง​ซึ่งหาก​เรียงลำดับ​จาก​สูงไป​ต่ำ​ก็​คือ​อี้​หลา​ง จงหลา​ง ซือ​หลา​งและ​หลา​งก​วาน​หรือ​หลา​งจง) ของ​หก​กรม​ แต่​ถึงแม้ว่า​ ‘ตำแหน่ง​ขุนนาง​’ ของ​ฝ่าย​หลัง​จะค่อนข้าง​ต่ำ​ ทว่า​หน้าที่​ค่อนข้างจะ​โดดเด่น​ มีอำนาจ​สูงมาก​ เนื่องจาก​สารถี​เฒ่าคือ​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ขุนนาง​หลัก​ของ​หนึ่ง​ใน​กอง​งาน​มากมาย​กรม​สายฟ้า​สรวงสวรรค์​เก่า​

เฉิน​ผิง​อัน​ทยอย​คีบ​ธูป​ออกมา​สอง​ครั้ง​ ครั้ง​และ​สามดอก​ จุด​ธูป​คารวะ​เทวรูป​สอง​องค์​นั้น​

องค์​หนึ่ง​ใน​นั้น​มีคุณูปการ​ใหญ่หลวง​ต่อ​สรรพ​ชีวิต​ใน​ฟ้าดิน​ ส่วน​อีก​องค์​หนึ่ง​มีพระคุณ​ยิ่งใหญ่​ต่อตัว​เฉิน​ผิง​อัน​เอง​

คำพูด​โบราณ​กล่าว​ไว้​ว่า​เสียเปรียบ​คือ​โชค​ เป็น​การสอน​ให้​คน​เป็น​คนดี​

ลำบาก​ก็​คือ​ลำบาก​ ยิ่ง​ลำบาก​ก็​ยิ่ง​ขมขื่น​

ความทุกข์​ยากลำบาก​บางอย่าง​มิอาจ​เอ่ย​เอื้อน​ออกมา​เป็น​คำพูด​ได้​ เมื่อ​คน​คน​หนึ่ง​กว่า​จะอดทน​ผ่านพ้น​มัน​ไป​ได้​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​ ก็​เพียงแค่​ต้อง​ยอมรับ​มัน​ไป​เงียบๆ​ เท่านั้นเอง​ อย่า​ได้​พูดจา​ง่ายๆ​ สบาย​ๆ กับ​คน​ข้าง​กาย​ที่​กำลัง​เผชิญ​กับ​ความยากลำบาก​อยู่​ นั่น​คือ​ก่อกรรม​ทำชั่ว​

เดิน​ออกมา​จาก​ตำหนัก​ใหญ่​ อ้อม​ก้อนหิน​ออกมา​ เปิด​ประตู​ใหญ่​ออก​

สอง​ตา​สุก​สกาว​สว่างไสว​ การ​มองเห็น​เปิดกว้าง​ ฟ้าดิน​สว่าง​เปิด​โล่ง​

ใบ​ถงทวีป​ในเวลานี้​อยู่​ใน​ช่วง​หิมะ​น้อย​ แต่กลับ​มีหิมะ​ใหญ่​เท่า​ขน​ห่าน​ตก​ลงมา​หลายครั้ง​แล้ว​ อากาศ​หนาวเย็น​ผิดปกติ​ จวน​เซียน​แต่ละ​ตระกูล​บน​ภูเขา​เปิด​ประตู​ออกมา​ก็​จะได้​เห็น​หิมะ​เต็ม​ภูเขา​ ทุกหนทุกแห่ง​บน​โลก​มนุษย์​มีแต่​หิมะ​หนา​ชั้น​ที่​กด​ทับ​กิ่งไม้​ เสียง​เหมือน​หยก​ปริ​แตก​ดัง​ขึ้นๆ ลงๆ​ คิดไม่ถึง​ว่า​รอ​กระทั่ง​เป็นช่วง​หิมะ​ใหญ่​อย่าง​แท้จริง​กลับ​กลายเป็น​ว่า​มีแค่​ฝน​โปรย​ลงมา​พร้อม​หิมะ​อย่าง​ลวกๆ​ ครั้ง​เดียว​เท่านั้น​

สอง​ยอดเขา​อย่าง​ชิงผิง​และ​เจ๋อ​เซียน​ของ​ภูเขา​เซียน​ตู​ตั้ง​ขนาบ​กัน​ ยอดเขา​ชิงผิง​เป็น​ภูเขา​บรรพบุรุษ​และ​เป็น​ยอดเขา​หลัก​ ที่ราบ​ฝูเหยา​บน​ยอดเขา​ก็​คือ​ที่ตั้ง​ของ​ศาล​บรรพ​จารย์​สำนัก​เบื้องล่าง​

ส่วน​ยอดเขา​เจ๋อ​เซียน​ที่​เป็น​ยอดเขา​รอง​ ตรง​ตีนเขา​มีลำคลอง​ชิงอี​ บน​ฝั่งมีหาด​ลั่ว​เป่า​ ไม่ได้​มีความเกี่ยวข้อง​ใดๆ​ กับ​หาด​ลั่ว​เป่า​ถ้ำปี้​เซียว​ของ​เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​ ชุยตง​ซาน​ก็​แค่​หวัง​ให้​เป็น​นิมิตหมาย​ที่​ดี​ หวัง​ว่า​ผู้ฝึก​ตน​สำนัก​เบื้องล่าง​ในอนาคต​ ไม่ว่า​จะขึ้น​เขา​ไป​เยี่ยมเยือน​เซียน​ก็ดี​ ลง​เขา​ไป​ฝึก​ประสบการณ์​ก็ช่าง​ สมบัติ​และ​โชควาสนา​จะเป็น​ดั่ง​เม็ดฝน​ที่​พร่าง​พรม​ลงมา​ พา​กัน​หล่น​มาอยู่​ใน​กระเป๋า​ให้​สบายใจ​

หอ​ซ่าวฮ​วา​บน​ยอดเขา​กลับ​ถูก​สุย​โย่ว​เปีย​น​หมายตา​ นาง​จึงบุกเบิก​ที่​แห่ง​นี้​เป็น​สถานที่​ฝึก​ตน​

นอกจากนี้​ภูเขา​เซียน​ตู​ยังมี​ภูเขา​ที่​เป็น​สาขา​แยก​ซึ่งค่อนข้าง​เตี้ย​อีก​ลูก​หนึ่ง​ ยื่น​เด่น​ออก​ไป​ด้าน​ข้าง​ ชุยตง​ซาน​ตั้งชื่อ​ให้​ว่า​ยอดเขา​มี่เซวี่ย​ (หิมะ​หนาแน่น​) มีส่วน​ที่​เป็น​หน้าผา​เปิด​เปลือย​ออกมา​เยอะ​มาก​ ล้วน​เป็น​หยก​ขาว​ จะมีการ​สร้าง​จวน​เซียน​ห้าสิบ​หกสิบ​แห่ง​ลดหลั่น​เรียงราย​กัน​ไป​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!