กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 899

เป็น​ผี​เซียน​เหมือนกับ​อู​ถีแห่ง​นคร​เซียน​จาน​ อวี่จิ่น​เคย​ได้ยิน​เรื่อง​หนึ่ง​จาก​จงขุย​มาก่อน​ คราว​ก่อนที่​อู​ถีปรากฏตัว​ใน​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ได้​ร่วมมือ​กับ​ฉงโอว​ผู้​เป็น​อาจารย์​ต่อสู้​กับ​จูเยี่ยน​บรรพบุรุษ​ย้าย​ภูเขา​หนึ่ง​ใน​บัลลังก์​ราชา​เก่า​ของ​เปลี่ยว​ร้าง​ ต้อง​จ่าย​เงิน​ชดใช้​ให้​จบเรื่อง​กัน​ไป​ แล้ว​ยัง​ต้อง​ยก​บรรพบุรุษ​เปิด​ขุนเขา​ออกหน้า​มาขอร้อง​จูเยี่ยน​ ถึงจะรักษา​นคร​เซียน​จาน​เอาไว้​ได้​

เพียงแต่ว่า​ไม่ว่า​อย่างไร​อวี่จิ่น​ก็​คิดไม่ถึง​ว่า​คน​ตรง​หน้าที่​ชื่อ​เสี่ยว​โม่ผู้​นี้​กลับ​เคย​ไล่​ฆ่าหย่า​งจื่อ​ซึ่งเป็นหนึ่ง​ใน​อดีต​ราชา​บน​บัลลังก์​ จากนั้น​จูเยี่ยน​ที่​ได้ยิน​ข่าว​ก็​รีบรุด​มาให้​ความช่วยเหลือ​หย่า​งจื่อ​ เสี่ยว​โม่ถึงได้​เก็บ​กระบี่​ถอย​ออกมา​

เสี่ยว​โม่ยื่นมือ​ไป​จับ​แขน​ของ​เจ้าอ้วน​ ยิ้ม​ถามว่า​ “ผู้อาวุโส​กู​ซู ไม่สู้พวกเรา​สอง​คน​หา​ที่​เงียบๆ​ มาประลอง​ฝีมือ​กัน​หน่อย​ไหม​?”

เจ้าอ้วน​แค่น​เสียง​หยัน​ใน​ลำคอ​ หัวเราะ​พรืด​เข้าใส่​ “รอเดี๋ยว​แล้วกัน​”

จากนั้น​หันไป​มอง​ทาง​จงขุย​ กระแอม​สอง​สามที​ ใช้ความเร็ว​ที่​ฟ้าผ่า​ไม่ทัน​ป้องหู​ส่งเสียงร้อง​โหยหวน​เหมือน​หมู​ถูก​เชือด​ ตะโกน​ดังสนั่น​ฟ้าคุย​กับ​จงขุย​ “พี่​จงช่วย​ข้า​ด้วย​!”

เสี่ยว​โม่จึงได้​แต่​ปล่อยมือ​ ล้มเลิก​ความคิด​ที่จะ​เชิญผี​ตน​นี้​เข้าไป​ใน​ฟ้าดิน​ของ​กระบี่​บิน​ ‘จุ้ย​เซียง’​ (บ้านเกิด​แห่ง​ความเมามาย​)

คุย​กัน​แล้ว​ว่า​จะประลอง​ฝีมือ​ กลับ​กลายเป็น​ว่า​พูด​ไม่เข้าหู​คำ​เดียว​อีก​ฝ่าย​ก็​ลง​ไป​นอน​บน​พื้น​ รอ​ให้​พื้น​รองเท้า​เหยียบ​ลงมา​บน​หน้า​เสียแล้ว​

สำหรับ​การ​รับมือ​คน​หน้าไม่อาย​ประเภท​นี้​ ประสบการณ์​ใน​ยุทธ​ภพ​ของ​เสี่ยว​โม่ยัง​ไม่มาก​พอ​จริงๆ​

เจ้าอ้วน​นวด​แขน​ สายตา​ฉายแวว​ไม่พอใจ​ “อาจารย์​เสี่ยว​โม่แรง​เยอะ​จริง​”

ลูกผู้ชาย​ยืด​ได้​หด​ได้​ หนัง​หน้า​จะนับ​เป็น​อะไร​ได้​

เผย​เฉียน​นวด​คลึง​หว่าง​คิ้ว​ รู้สึก​ว่า​ต้อง​มอง​เจ้าอ้วน​ผู้​นี้​เสีย​ใหม่​แล้ว​ แค่​มอง​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​ท่อง​อยู่​ใน​ยุทธ​ภพ​ไม่มีทาง​อดตาย​

ชุยตง​ซาน​เริ่ม​ถูกชะตา​กับ​เจ้าอ้วน​ขึ้น​อีก​หลาย​ส่วน​ เป็น​คน​มีความสามารถ​คน​หนึ่ง​

ตน​ต้องหา​โอกาส​โน้มน้าว​ให้​อวี่จิ่น​ไป​อาละวาด​ที่​ศาล​บุ๋น​แผ่นดิน​กลาง​ให้ได้​ ให้​เขา​ร้องไห้​ร่ำร้อง​จะแขวนคอ​ตาย​ทุกๆ​ สามวัน​ห้า​วัน​ จะดี​จะชั่ว​ก็​ให้​ศาล​บุ๋น​คืน​สถานที่​ฝึก​ตน​แห่ง​นั้น​มา จากนั้น​ค่อย​ให้​อวี่จิ่น​เอา​สถานที่​แห่ง​นั้น​มาไว้​ที่​ภูเขา​เซียน​ตู​ ภูเขา​เซียน​ตู​สามารถ​ช่วยดูแล​ให้ได้​ อวี่จิ่น​แค่​ต้อง​คอย​มอบ​เงิน​เทพ​เซียน​ก้อน​หนึ่ง​ให้​กับ​สำนัก​กระบี่​ชิงผิง​เป็นระยะ​เท่านั้น​ ทุก​เรื่อง​ล้วน​ปรึกษา​กัน​ได้​

เพียงแต่ว่า​จงขุย​ไม่ได้​สนใจ​อวี่จิ่น​แม้แต่น้อย​ เอาแต่​ตั้งใจ​ตรวจสอบ​จิตวิญญาณ​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ ครู่หนึ่ง​ผ่าน​ไป​ก็​ขมวดคิ้ว​ถามว่า​ “ใน​เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ทำไม​ถึงไม่อยู่​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ไป​ตลอด​?”

สามจิต​เจ็ด​วิญญาณ​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​มีปัญหา​ใหญ่​จริง​เสีย​ด้วย​

เป็นเหตุให้​พอ​เฉิน​ผิง​อัน​ออก​มาจาก​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ซึ่งเป็น​สถานที่​ที่​เขา​ผสาน​มรรคา​ด้วย​ก็​ต้อง​ถูก​เผาผลาญ​จิงชี่เสิน​อยู่​ตลอดเวลา​ คล้าย​การ​ทำการค้า​อย่างหนึ่ง​

ก็​โชคดี​ที่​เรือน​กาย​และ​จิตวิญญาณ​ของ​ผู้ฝึก​ยุทธ​ขอบเขต​ปลายทาง​ เลือด​ลม​เปี่ยมล้น​สมบูรณ์​ เส้นเอ็น​และ​กระดูก​แข็งแรง​ สามารถ​บำรุง​หล่อเลี้ยง​จิตวิญญาณ​ได้​ บวก​กับ​กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​ของ​ผู้ฝึก​กระบี่​ที่​สามารถ​ย้อน​กลับมา​หล่อเลี้ยง​ร่างกาย​และ​จิตวิญญาณ​ได้​ตาม​ธรรมชาติ​ หาก​เฉิน​ผิง​อันเป็น​แค่​ผู้ฝึก​ยุทธ​ขอบเขต​ปลายทาง​คน​หนึ่ง​ ป่านนี้​เรือน​กาย​คง​ผ่ายผอม​เหลือ​แต่​หนังหุ้มกระดูก​ไป​นาน​แล้ว​

จงขุย​เคย​เห็น​ภาพเหมือน​ที่​ศาล​บุ๋น​มาก่อน​ บน​หัว​กำแพงเมือง​มีคน​ผู้​หนึ่ง​สวม​ชุด​คลุม​อาคม​สีแดงสด​ มือ​ค้ำ​ยัน​อยู่​บน​ด้าม​ดาบ​ เรือน​กาย​พร่า​เลือน​ ไม่ใช่เรือน​กาย​ที่​มีเลือดเนื้อ​อะไร​อีกต่อไป​ แต่​คล้าย​ประกอบ​ขึ้น​มาจาก​เส้นด้าย​นับ​พัน​นับ​หมื่น​ที่​ตัด​สลับ​กัน​ ใน​สายตา​ของ​จงขุย​แล้ว​ นั่น​เรียก​ว่า​…อเนจอนาถ​จน​แทบ​มิอาจ​ทน​มอง​ได้​

เดิมที​เมื่อ​เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​ก็​สามารถ​สร้าง​ความมั่นคง​ให้​กับ​จิตวิญญาณ​ได้​ ผล​กลายเป็น​ว่า​ไป​เยือน​พื้นที่​ใจกลาง​ของ​เปลี่ยว​ร้าง​และ​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​มารอบ​เดียว​ ขอบเขต​ก็​ถดถอย​อีกครั้ง​

“หาก​อยู่​ที่นั่น​กลับ​กลายเป็น​ว่า​มิอาจ​สงบใจ​ฝึก​ตน​ดี​ๆ ได้​”

เฉิน​ผิง​อัน​ส่ายหน้า​ “แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​ นี่​ก็​เป็น​การค้า​ที่​ไม่ถือว่า​ขาดทุน​ เพราะ​ถึงอย่างไร​ก็​สามารถ​ขัดเกลา​จิตวิญญาณ​ การ​ที่​ข้า​สามารถ​เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​ปลายทาง​ที่​หน้า​ประตู​ภูเขา​ของ​ภูเขา​ไท่​ผิง​ทั้งที่​เพิ่ง​กลับ​ไพศาล​มาได้​แค่​ไม่กี่​วัน​ ใน​ระดับ​ใหญ่​แล้วก็​มาจาก​การ​ถามหมัด​ระหว่าง​ตัวเอง​กับ​ตัวเอง​นี่แหละ​”

จงขุย​หัวเราะ​อย่าง​ขัน​ๆ ปน​ฉุน​ “ก็​แค่​ว่า​ค่อนข้างจะ​ทรมาน​ใช่ไหม​ล่ะ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​บาง​ๆ “ฝึก​หมัด​จะไม่ลำบาก​เลย​ได้​อย่างไร​ แค่​ชิน​ไป​แล้ว​ก็ดี​เอง​”

เห็น​ว่า​จงขุย​ไม่มีท่าที​จะเก็บ​มือ​ไป​ เฉิน​ผิง​อัน​จึงได้​แต่​เอ่ย​เตือน​เสียง​เบา​ “พอแล้ว​ล่ะ​ อย่า​อวดเก่ง​เลย​”

จงขุย​สีหน้า​เคร่งเครียด​ เงียบงัน​ไม่พูด​คำ​ใด​

เฉิน​ผิง​อัน​จึงเตรียม​จะยก​มือขึ้น​ผลัก​สอง​นิ้ว​ที่​ ‘จับชีพจร​’ ของ​จงขุย​ออก​ไป​

ตอนนี้​ใน​ร่างกาย​ของ​ตน​คล้าย​จาน​สำหรับ​ขัด​กลึง​หิน​หยก​ใบ​หนึ่ง​

คอย​ขัด​กลึง​สามจิต​เจ็ด​วิญญาณ​อยู่​ตลอดเวลา​ เศษหยก​แตก​กระเซ็น​ ส่วน​จงขุย​ก็​พยายาม​ที่จะ​ใช้มือ​ไป​หยุด​ความเร็ว​ใน​การ​หมุน​ของ​จาน​ใบ​นั้น​

เท่ากับ​เป็นการ​ถามกระบี่​ครั้งหนึ่ง​แล้ว​

จงขุย​ถลึงตา​ใส่เฉิน​ผิง​อัน​อย่าง​ดุดัน​ “ดูถูก​ข้า​หรือ​? เป็น​ครึ่ง​คน​ครึ่ง​ผี​แบบนี้​ สนุก​นัก​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​พูด​หยอก​ “ใน​เมื่อ​เป็น​สหาย​ก็​ต้อง​มีสุข​ร่วม​เสพ​ มีทุกข์​ร่วม​ต้าน​ไม่ใช่หรือ​?”

จงขุย​เอ่ย​เสียง​หนัก​ “แบมือ​มา”

เฉิน​ผิง​อัน​สองจิตสองใจ​

จงขุย​กลับ​ไม่เปิดโอกาส​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​ได้​ปฏิเสธ​ เขา​กระทืบเท้า​หนึ่ง​ที​ ประหนึ่ง​หิน​ก้อน​หนึ่ง​ที่​ถูก​โยน​ลง​ไป​ใน​แม่น้ำ​แห่ง​กาลเวลา​ ใต้​ฝ่าเท้า​จึงเกิด​ทัศนียภาพ​ที่​มีริ้ว​น้ำ​แผ่​กระเพื่อม​ ลายน้ำ​ทับซ้อน​กัน​เป็นชั้นๆ​ สุดท้าย​เกิด​ลาง​ว่า​จะซัด​โหม​ย้อนกลับ​ จงขุย​ที่​กั้น​ขวาง​มืด​และ​สว่าง​เป็น​ฟ้าดิน​สอง​แห่ง​เรียบร้อย​แล้ว​เผย​ร่างกาย​ธรรม​ สวม​ชุด​คลุม​ขุนนาง​สีแดงสด​ พ่นลม​ออกมา​เบา​ๆ รวบรวม​ก้อน​หยก​สีชาด​ที่​สามารถ​เอาไว้​ตรวจ​เอกสาร​ทางการ​ก้อน​หนึ่ง​ขึ้น​มา จากนั้น​จงขุย​ก็​ประกบ​สอง​นิ้ว​ ปาด​ลง​ไป​บน​ก้อน​หมึก​ ใช้มือ​ต่าง​พู่กัน​ ปาก​ท่อง​คาถา​ ล้วน​เป็น​ภาษาโบราณ​ที่​ความหมาย​คลุมเครือ​ยาก​เข้าใจ​ ช่วย​วาด​ยันต์​กัก​ร่าง​บน​ฝ่ามือ​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​

เมื่อ​ทำสำเร็จ​ จงขุย​ก็​แค่น​เสียง​หึ​ใน​ลำคอ​หนึ่ง​ที​ “เป็น​ยันต์​ผี​วาด​จริงๆ​”

เฉิน​ผิง​อัน​สะบัดมือ​ ร่าง​ทั้ง​ร่าง​คล้าย​ลด​ความรู้สึก​อืดอาด​ยืดยาด​ออก​ไป​ได้​หลาย​ส่วน​

ราวกับว่า​มือ​และ​เท้า​ทั้งสอง​ต่าง​ก็​ปลด​ยันต์​ปราณ​แท้จริง​ครึ่ง​จิน​แปด​ตำลึง​ของ​ร้าน​ยา​ตระกูล​หยาง​ออก​ไป​ได้​ด้วยตัวเอง​

เวลานี้​ต่อให้​จะนั่ง​นิ่ง​อยู่​ที่​เดิม​ก็​ยัง​มีความรู้สึก​เหมือน​ได้​ยก​หิน​ออกจาก​อก​และ​รู้สึก​เหมือน​ได้​ทะยาน​ลม​

เฉิน​ผิง​อัน​สูด​ลม​หายใจเข้า​ลึก​หนึ่ง​ที​ บิด​หมุน​ข้อมือ​ ยิ้ม​เจิดจ้า​กล่าวว่า​ “ขอบคุณ​นะ​”

จงขุย​เอ่ย​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​ “ทำตัว​ห่างเหิน​ขนาด​นี้​เชียว​”

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​สัพยอก​ “ไม่พูดจา​ตามมารยาท​กับ​เจ้าคำ​สอง​คำ​ต้อง​ถูก​นินทา​ใน​ใจว่า​ข้า​ไม่รู้จัก​วางตัว​เป็น​คน​แน่นอน​ นัก​บัญชี​ใน​ใต้​หล้า​นี้​จะมีสัก​กี่​คน​ที่​ไม่ใจแคบ​เป็น​ไส้ไก่​?”

ด่า​คนอื่น​ต้อง​ด่า​ตัวเอง​ก่อน​ ย่อม​อยู่​ใน​สถานะ​ไร้​พ่าย​

เอ่ย​ประโยค​ด้วย​ความโมโห​เพิ่ม​มาประโยค​หนึ่ง​ มักจะ​ก่อให้เกิด​ปัญหา​แทรกซ้อน​ ทุกสิ่ง​ที่​ทำ​มาล้วน​สูญเปล่า​ หลักการ​เหตุผล​นับ​ร้อย​ที่​พูด​ด้วย​ความหวังดี​ล้วน​หมด​ประโยชน์​

เอ่ย​ประโยค​ไร้สาระ​น้อยลง​ไป​ประโยค​หนึ่ง​ มักจะ​ก่อให้เกิด​ความเข้าใจผิด​ ทุกหนทุกแห่ง​ใน​ใจคน​มีพืช​หญ้า​รกชัฏ​มากมาย​ การ​คาดเดา​ ความผิดหวัง​ ความไม่พอใจ​ ปรากฏ​ขึ้นๆ ลงๆ​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!