กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 901

สรุปบท บทที่ 901.2 หนึ่งกระบี่ข้ามทวีป: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

บทที่ 901.2 หนึ่งกระบี่ข้ามทวีป – ตอนที่ต้องอ่านของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

ตอนนี้ของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 901.2 หนึ่งกระบี่ข้ามทวีป จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

แล้วก็​ด้วยเหตุนี้​ เฉิน​ผิง​อัน​ถึงได้​เตือน​ให้​จื้อ​กุย​ระวัง​ตอน​อยู่​ใน​ศาล​ของ​ลำน้ำ​ฉีตู้​

ไม่อย่างนั้น​ต่อให้​เฉิน​ผิง​อัน​จะเป็น​คนดี​แค่​ไหน​ก็​ยัง​ไม่ยินดี​จะสนใจ​จื้อ​กุย​มาก​นัก​ หลัง​แยกย้าย​กับ​นาง​ ทั้งสองฝ่าย​อย่าง​มาก​ก็​แค่​เจ้าเดิน​ไป​บน​เส้นทาง​กว้างใหญ่​ของ​เจ้า ข้า​เดิน​ไป​บน​ทาง​สะพาน​ไม้ของ​ข้า​ก็​เท่านั้น​

เฉิน​ผิง​อัน​ใช้เสียง​ใน​ใจถาม “ที่​ตรอก​หนี​ผิง​ เรือน​สอง​หลัง​ที่อยู่​อีก​ฝั่งของ​บ้าน​พวกเรา​ ดูเหมือนว่า​จะไม่มีคน​อยู่​มานาน​หลาย​ปี​ นับตั้งแต่​ที่​ข้า​จำความได้​ก็​ถูก​ทิ้ง​ร้าง​ไร้​เจ้าของ​ ข้า​ไม่พบ​เบาะแส​อะไร​ใน​ห้อง​เก็บ​เอกสาร​ของ​ที่ว่าการ​ผู้ตรวจ​การงาน​เตาเผา​ รวมไปถึง​ฝ่าย​ครัวเรือน​ของ​อำเภอ​ไหว​หวง​ใน​ภายหลัง​ เจ้ามีเบาะแส​หรือไม่​?”

จื้อ​กุย​เดิน​เคียง​บ่า​ไป​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ นาง​หันหน้า​มายิ้ม​เอ่ย​ “นี่​ถือว่า​เจ้าขอร้อง​ให้​ข้า​ช่วย​หรือไม่​?”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ “ถือว่า​ใช่”

ทั้งสองฝ่าย​ไม่ได้​เป็น​ญาติมิตร​ ไม่มีความแค้น​ใดๆ​ ต่อกัน​ เป็น​ทั้ง​คนบ้านเดียวกัน​แล้วก็​เป็น​ทั้ง​เพื่อนบ้าน​ คุย​เล่น​กัน​แค่​คำ​สอง​คำ​ไม่ได้​ทำให้​ส่งผลร้าย​สะเทือน​ไป​ถึงกระดูก​เส้นเอ็น​ใดๆ​

จื้อ​กุย​คลี่​ยิ้ม​ ดูเหมือนว่า​ไม่คิด​จะเปิดปาก​พูด​

นาง​เชิดหน้า​ขึ้น​สูง ก้าว​เท้า​เดินเล่น​อย่าง​ผ่อนคลาย​อยู่​ใน​ซาก​ปรัก​วัง​มังกร​แห่ง​นี้​

หวน​นึกถึง​อดีต​อัน​ห่างไกล​ เด็กบ้านนอก​ขา​เปื้อน​โคลน​ที่อยู่​ข้าง​กาย​ผู้​นี้​ หาก​เห็น​ตน​หิ้ว​ถังน้ำ​กลับมา​ที่​ตรอก​หนี​ผิง​ก็​จะมาช่วย​ยก​ถังน้ำ​ให้​

ใน​ช่วง​ฤดูหนาว​ นาง​จะต้อง​แบก​ฟืน​ไม้ถุงใหญ่​ เพราะ​นาง​ไม่อยาก​จะเดิน​หลาย​รอบ​ เวลา​นั้น​นาง​ยัง​เป็น​แค่​แมลง​น่าสงสาร​ที่​ถูก​มหา​มรรคา​ของ​เมือง​เล็ก​สยบ​กำราบ​ มักจะ​รังเกียจ​ที่​ต้อง​เดินทางไกล​ จึงต้อง​แบก​ฟืน​มาหนัก​มาก​

บุรุษ​ที่​ใจแคบ​อย่าง​ซ่งจี๋ซิน​กับ​หลิว​เสี้ยน​หยาง​กลับ​ไม่เคย​เข้าใจผิด​ใน​เรื่อง​นี้​

ทั้งสองฝ่าย​ต่าง​ก็​ไม่คิด​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​จะมีความคิด​ที่​ไม่ซื่อ​กับ​นาง​

นาง​เอา​สอง​มือ​ไพล่หลัง​ สิบ​นิ้ว​ประสานกัน​ สายตา​มอง​ตรง​ไป​เบื้องหน้า​ ถามเบา​ๆ ว่า​ “รู้สึก​ว่า​นอกจาก​ขอบเขต​แล้ว​ ข้า​ก็​ไม่มีอะไร​อีก​ใช่หรือไม่​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ครุ่นคิด​ ไม่ได้​รีบร้อน​ให้​คำตอบ​

ทว่า​ก็​เป็น​เพราะ​ความ​เอื่อย​เฉื่อย​เชื่องช้า​ของ​บุรุษ​ข้าง​กาย​ผู้​นี้​ที่​ทำให้​นาง​โมโห​จน​สีหน้ามืด​ทะมึน​ ให้​เขา​หลุดปาก​พยักหน้า​หรือ​ยอมรับ​มาโดยตรง​ยัง​ดีกว่า​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​เนิบ​ช้า “ไม่คิด​”

คงจะ​คิดถึง​เรื่องราว​เก่าๆ​ บางอย่าง​ที่​เคย​เกิดขึ้น​ที่​บ้านเกิด​ สีหน้า​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​จึงอ่อนโยน​ลง​หลาย​ส่วน​

เด็กหนุ่ม​รอง​เท้าสาน​ที่​ไม่รู้​ประสา​ได้​เห็น​อาจารย์​ฉีขอร้อง​คนอื่น​เป็นครั้งแรก​

ภายหลัง​เฉิน​ผิง​อัน​พลิก​เปิด​ภาพ​ม้าวิ่ง​แห่ง​กาลเวลา​นั้น​อีกครั้ง​ถึงได้​ค้นพบ​ว่า​เด็กสาว​เคย​ไป​ด่า​ต้น​ไหว​อยู่​ใต้​ต้น​ไหว​โบราณ​ของ​บ้านเกิด​

ทำให้​เฉิน​ผิง​อัน​รู้สึก​…สะใจมาก​

เฉิน​ผิง​อัน​เก็บ​ความคิด​ ถามว่า​ “คน​พวก​นั้น​ เจ้ารู้จัก​ได้​อย่างไร​?”

ผู้​เลี้ยง​มังกร​กับ​ผู้​ประคับประคอง​มังกร​ ต่างกัน​แค่​คำ​เดียว​ ทว่า​สิ่งที่​ทั้งสองฝ่าย​แสวงหา​บน​มหา​มรรคา​กลับ​ต่างกัน​ราว​ฟ้ากับ​เหว​

จื้อ​กุย​เริ่ม​รู้สึก​หงุดหงิด​บ้าง​แล้ว​ “รู้จัก​กัน​กลางทาง​ แต่​ต่าง​คน​ต่าง​ก็ได้​ใน​สิ่งที่​ตัวเอง​ต้องการ​ ถึงอย่างไร​จวน​น้ำ​ของ​ข้า​ในอนาคต​ก็​ต้องการ​คน​ที่​ทำ​เรื่อง​ต่างๆ​ ได้​อย่าง​จริงจัง​อยู่​บ้าง​”

เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ได้​สั่งจื้อ​กุย​ว่า​ควร​ทำ​อะไร​หรือไม่​ควร​ทำ​อะไร​ กลับ​กลายเป็น​ว่า​พูด​ชวน​คุย​เหมือน​ไม่ใส่ใจมากกว่า​ “สิ่งที่​พวกเรา​พบ​เจอ​ตลอดทาง​ หาก​ไม่ใช่เรื่อง​ดี​ก็​เป็นเรื่อง​ที่​ไม่ดี​”

จื้อ​กุย​ถามอย่าง​สงสัย​ “ไม่ใช่คนดี​กับ​คน​ไม่ดี​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​คลี่​ยิ้ม​ “นี่​ก็​คือ​ปม​ของ​ปัญหา​ยุ่งยาก​”

จื้อ​กุย​เอ่ย​อย่าง​ขัน​ๆ ปน​ฉุน​ “ทำไม​เจ้าไม่ไป​เป็น​อาจารย์​สอนหนังสือ​เสีย​เลย​ล่ะ​?”

คิดไม่ถึง​ว่า​บุรุษ​ที่อยู่​ข้าง​กาย​จะพยักหน้า​เอ่ย​ “เลือก​โรงเรียน​ไว้​เรียบร้อย​แล้ว​”

คฤหาสน์​ส่วนตัว​ของ​บุตร​มังกร​ใน​อดีต​ซึ่งอยู่​ใน​ซาก​ปรัก​ของ​วัง​มังกร​ กิน​อาณาบริเวณ​กว้างใหญ่​มาก​ มีทะเลสาบ​อยู่​แห่ง​หนึ่ง​ ดอกบัว​ใบ​บัว​ชูช่อ​อยู่​กลาง​สระน้ำ​ มีเรือแจว​ลอย​อยู่​หนึ่ง​ลำ​ บน​เรือ​มีคน​สี่คน​ คนแก่​หนึ่ง​คน​ สตรี​วัยกลางคน​หน้าตา​งดงาม​หนึ่ง​คน​ บุรุษ​ร่าง​กำยำ​หนึ่ง​คน​และ​บุรุษ​หนุ่ม​หนึ่ง​คน​

ทุกวันนี้​พวกเขา​ต่าง​ก็​เป็น​ผู้ติดตาม​ของ​หวัง​จูมังกร​ที่​แท้จริง​ ถือว่า​มาสวามิภักดิ์​กับ​สุ่ยจ​วิน​แห่ง​มหาสมุทร​บูรพา​คน​ใหม่​อย่าง​นาง​

สตรี​หน้าตา​งดงาม​ยืน​อยู่​บน​ปลาย​ด้าน​หนึ่ง​ของ​เรือ​เล็ก​ แต่งกาย​เหมือน​ชาววัง​ มวยผม​ทรง​เมฆาคล้อย​ ปัก​ปิ่น​ดอกไม้​ส่าย​ไห​วสี​ทอง​ ประทิน​โฉมบาง​ๆ ตรง​เอวบาง​สอง​ด้าน​แยกกัน​ห้อย​กระจก​ทองสัมฤทธิ์​ชิ้น​หนึ่ง​กับ​หยก​แบน​ที่​เป็น​แก้ว​ใสชิ้น​หนึ่ง​ นาง​หันหน้า​ไป​ถามผู้เฒ่า​ที่​ยืน​อยู่​ท้ายเรือ​อย่าง​ใคร่รู้​ “ห​ลี่​ป๋า​ เจ้าคิด​ว่า​นาย​ท่าน​กับ​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​ผู้​นั้น​จะตี​กัน​ทันทีที่​พูด​ไม่เข้าหู​กัน​หรือไม่​?”

ชาย​ชรา​ที่​มีนาม​ว่า​ห​ลี่​ป๋า​เส้น​ผม​ขาวโพลน​ ร่าง​ผอม​แต่​ให้​ความรู้สึก​โปร่ง​สบาย​ เขา​ส่ายหน้า​เบา​ๆ “ไม่มีความแค้น​อะไร​ต่อกัน​ ไม่มีทาง​ตี​กัน​หรอก​”

ตรง​ฝ่าเท้า​ของ​ผู้เฒ่า​มีชายฉกรรจ์​ร่าง​กำยำ​คน​หนึ่ง​นั่งขัดสมาธิ​อยู่​

สุดท้าย​คือ​คนหนุ่ม​คน​หนึ่ง​ ต้อง​เป็น​เทพ​เซียน​ใน​ภูเขา​ที่​ฝึก​ตน​ประสบความสำเร็จ​คน​หนึ่ง​แน่นอน​ ผิวพรรณ​ดุจ​หยก​ บุคลิก​รูปโฉม​งามสง่าดุจ​โฉมสะคราญ​ล่ม​เมือง​ เวลานี้​เขา​นอน​อยู่​ใน​เรือ​ลำ​เล็ก​ ใช้มือ​ข้าง​หนึ่ง​หนุน​ใต้​ท้ายทอย​ต่าง​หมอน​ ยก​ขา​ไขว่ห้าง​ ท่วงท่า​ผ่อนคลาย​สบายอารมณ์​ มือหนึ่ง​แกว่ง​กา​เหล้า​ เหล้า​สีอำพัน​ไหล​เป็น​เส้นตรง​เข้าสู่​ปาก​ของ​เขา​ แกว่ง​กา​เหล้า​ที่ว่างเปล่า​ ลุกขึ้น​ยืน​ มอง​ไป​ยัง​ทิศทาง​ของ​ตำหนัก​ใหญ่​ “ช่างเป็น​ปราณ​กระบี่​ที่​เข้มข้น​ยิ่งนัก​ ไม่เสียแรง​ที่​เป็น​คน​ฝึก​กระบี่​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​”

ดวงตา​ของ​สตรี​วัยกลางคน​คลอ​ประกาย​ฉ่ำน้ำ​มอง​ไป​ยัง​บุรุษ​ร่าง​กำยำ​ที่นั่ง​เหมือน​หิน​ผา​

สำหรับ​สิ่งที่​ถ้ำซาน​สุ่ย​ต้อง​ประสบ​พบ​เจอ​ กง​เยี่ยน​ค่อนข้างจะ​สมน้ำหน้า​ ภายหลัง​นาง​ยัง​เคย​ได้​รู้จัก​กับ​ผู้ฝึก​กระบี่​หญิง​แซ่สอง​พยางค์​ว่า​น่า​ห​ลัน​ที่นั่น​ เป็น​คนต่างถิ่น​ ขอบเขต​ไม่แน่ชัด​ อาจจะ​เป็น​ก่อกำเนิด​ อีก​ฝ่าย​บอ​กว่า​ตัวเอง​มาจาก​ตำหนัก​สุ่ย​จิงของ​ภูเขา​ห้อย​หัว​

ทั้งสองฝ่าย​เคย​ทำการค้า​ใหญ่​ด้วยกัน​มาหลายครั้ง​ และ​ผู้ฝึก​กระบี่​ต่างถิ่น​ที่​ตอนนั้น​รับผิดชอบ​ดูแล​กิจธุระ​ของ​ถ้ำซาน​สุ่ย​ก็​เป็น​สตรี​ล้างผลาญ​คน​หนึ่ง​ คง​เพราะ​มีความสัมพันธ์​กับ​ศาล​บุ๋น​แผ่นดิน​กลาง​ ถึงได้​กล้า​ที่จะ​ขาย​ทรัพย์สิน​ใน​บ้าน​ด้วย​ราคา​ต่ำ​อย่าง​เปิดเผย​ กง​เยี่ยน​ไม่ปฏิเสธ​ผู้​ที่มา​เยือน​ จึงตาม​ไป​กว้านซื้อ​มาด้วย​ ผล​เก็บเกี่ยว​ที่​ได้​มหาศาล​

ผู้เฒ่า​มีชื่อว่า​ห​ลี่​ป๋า​ บ้านเกิด​คือ​เกราะ​ทอง​ทวีป​ มีฉายา​ว่า​ชุ่ย​จ่าง เป็น​สหาย​รัก​ต่างวัย​กับ​หวาน​เหยียน​เหล่า​จิ่งแห่ง​เกราะ​ทอง​ทวีป​ จิต​มุ่งตรง​หา​มรรคา​ เคย​รับหน้าที่​เป็น​ราชครู​ของ​ราชวงศ์​ใหญ่​ล่าง​ภูเขา​ เพียงแต่ว่า​ฮ่องเต้​ถึงสามรุ่น​ที่​เขา​เคย​ช่วย​ประคับประคอง​ช่วยเหลือ​กลับ​ไร้ความสามารถ​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​กษัตริย์​แคว้น​ล่มสลาย​ผู้​ปราดเปรื่อง​คน​สุดท้าย​ที่​ถึงกับ​ถวาย​ฎีกา​ให้​กับ​ชิงจางเต้า​ย่วน​ที่​ราชครู​หลี​ป๋า​เป็น​ผู้ดูแล​ คิด​จะแต่งตั้ง​ตัวเอง​เป็น​เต้า​จวิน​ผู้นำ​ลัทธิ​

รอ​กระทั่ง​การ​เดินทาง​คุ้มกัน​ของ​เทพ​วารี​แห่ง​ใต้​หล้า​ไพศาล​สิ้นสุดลง​ชั่วคราว​ หวัง​จูผู้​เป็น​เจ้านาย​เคย​รับปาก​พวกเขา​ว่า​หลัง​จบเรื่อง​สามารถ​หา​ที่​พักพิง​ใหม่​ได้​ตามใจ​ สอง​คนใน​นี้​ตัดสินใจ​ว่า​จะฝึก​ตน​อยู่​ใน​จวน​วารี​ไป​อีก​ยาวนาน​ อีก​สอง​คน​กลับ​คิด​จะไป​ลงหลักปักฐาน​ที่​เมืองหลวง​สำรอง​ต้า​หลี​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ เพราะ​พวกเขา​ต่าง​ก็​เห็นดี​ใน​ตัว​ของ​ซ่งมู่อ๋อง​เจ้าเมือง​

เรือน​กาย​สีขาว​หิมะ​ประหนึ่ง​ก้อน​เมฆขาว​หล่น​ลง​มายัง​สระ​ดอกบัว​ เหยียบ​ลง​บน​ใบ​บัว​สีเขียว​มรกต​ใบ​หนึ่ง​ แต่​ร่าง​ก็​ยัง​โงนเงน​ กว่า​จะยืน​นิ่ง​ได้​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​ ยืด​คอ​ยาว​มอง​ไป​ยัง​บุรุษ​รูปงาม​ที่นั่ง​อยู่​ใน​เรือแจว​ ปาก​ก็​ตะโกน​ว่า​ “โอ้โห​ นี่​มัน​นักพรต​หยก​หวง​ม่าน​ผู้มีชื่อเสียง​เลื่องลือ​ที่​ชอบ​ ‘กระดูก​ขาว​นอน​บน​เมฆสน​’ เรียก​ตัวเอง​ว่า​ ‘ลูกศิษย์​สุรา​แห่ง​แม่น้ำ​บูรพา​’ บอ​กว่า​ตัวเอง​มี ‘ปณิธาน​อยู่​นอก​ฟ้า’ ป่าวประกาศ​ว่า​ต้องการ​จะ ‘กำจัด​คุก​ทางใจ​ ปกป้อง​เรือน​แห่ง​ใจ สร้าง​ตำหนัก​แห่ง​ใจ’ ว่า​กัน​ว่า​แค่​หายใจ​ก็​สามารถ​รับลม​เมฆฝน​สายฟ้า​ฟาด​ จากนั้น​ก็​เกือบจะ​ถูก​จางเถียว​เสีย​ฆ่าตาย​เพราะ​แย่ง​ที่นั่ง​ตกปลา​คน​นั้น​ไม่ใช่หรือ​”

เด็กหนุ่ม​ชุด​ขาว​เท้า​เอว​สอง​มือ​ “ขอให้​ข้า​ได้​หาย​ใจหาย​คอ​หน่อย​ ทำเอา​ข้า​เหนื่อย​แทบตาย​แล้ว​”

แขกไม่ได้รับเชิญ​ผู้​นี้​จ้อง​เป๋ง​ไป​ยัง​คน​ทั้ง​สี่ที่อยู่​ใน​เรือ​พัก​หนึ่ง​ จากนั้น​เด็กหนุ่ม​ผม​ขาว​ก็​มอง​ไป​ยัง​ศาลา​ริมน้ำ​แห่ง​หนึ่ง​ที่​ตั้งอยู่​ริมฝั่ง​ หัวเราะ​ร่า​ถามว่า​ “โชคดี​ได้​พบ​เจอ​ยอด​ฝีมือ​มากมาย​ใน​ระยะ​ประชิด​เช่นนี้​ อาจารย์​เสี่ยว​โม่ ท่าน​ช่วย​บอก​หน่อย​เถอะ​ว่า​นี่​เรียก​ว่า​อะไร​?”

ใน​ศาลา​ริมน้ำ​มีบัณฑิต​อ่อนแอ​สวม​หมวก​เหลือง​รองเท้า​เขียว​คน​หนึ่ง​ที่​ไม่รู้​ว่า​ปราก​ฎตัว​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​ ใน​มือถือ​ไม้เท้า​เดิน​ป่าไผ่​เขียว​ ได้ยิน​คำพูด​นี้​แล้วก็​หัวเราะ​เอ่ย​ว่า​ “น่าจะ​ถือว่า​ไม่ออกจาก​บ้าน​ลาน​กว้าง​มีทัศนียภาพ​ของ​ชานเมือง​ ออกมา​ใน​ตรอก​ต้อง​เจอ​ยอด​ฝีมือ​แน่นอน​กระมัง​”

หวง​ม่าน​ที่นั่ง​อยู่​คิดไม่ถึง​ว่า​จะถูก​คน​แฉตัวตน​ของ​ตัวเอง​ใน​รวดเดียว​ จึงยิ้ม​ตาหยี​ถามว่า​ “เจ้าเป็น​ใคร​?”

เขา​ร่าย​เวท​อำ​พรางตา​หนา​ชั้น​ ปิดบัง​ชื่อ​แซ่มาร้อย​กว่า​ปี​ ตาม​หลัก​แล้ว​ไม่ควรจะ​ถูก​คน​จำได้​เพียงแค่​มอง​ป​รา​เดียว​

บุคคล​โดดเด่น​ทั้ง​สี่ที่อยู่​ใน​เรือ​แค่​ได้ยิน​คนหนุ่ม​ชุด​ขาว​พูด​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ว่า​ “ข้า​คือ​ตง​ซาน​ไงล่ะ​”

ชุยตง​ซาน​ขยับ​สายตา​มอง​ไป​ทาง​ผู้เฒ่า​ ใบหน้า​มีแต่​กลิ่นอาย​ของ​ยา​ ขมขื่น​ยิ่งนัก​ จึงเอ่ย​ด้วย​สีหน้า​ตกตะลึง​ว่า​ “เอ๊ะ​? นี่​ไม่ใช่ราชครู​ห​ลี่​ป๋า​ของ​หลิว​เสีย​ทวีป​หรือ​? ใช่แล้ว​ๆ ต้อง​เป็น​เพราะ​ถูก​หวาน​เหยียน​เหล่า​จิ่งที่​เคารพ​รัก​ทำร้าย​จิตใจ​จน​บาดเจ็บสาหัส​ จึงไม่อยาก​อยู่​บ้านเกิด​ให้​เสียใจ​อีก​ หาก​เป็น​ข้า​ ก็​ต้อง​เปลี่ยน​สถานที่​ผ่อน​คลายอารมณ์​เช่นกัน​”

ชุยตง​ซาน​พลัน​หยิบ​ของ​ชิ้น​หนึ่ง​ออก​มาจาก​ชาย​แขน​เสื้อ​สีขาว​หิมะ​ จากนั้น​ตั้งท่า​ไก่​ทอง​ยืน​ขา​เดียว​ ใน​มือถือ​กระจกส่อง​มาร​ชูขึ้น​สูง เล็ง​ตรง​ไป​ที่​สตรี​ผู้​นั้น​”เฮ้! ภูตผี​ปีศาจ​จะหนี​ไป​ไหน​ ยัง​ไม่รีบ​เผย​ร่าง​จริง​อีก​หรือ​!”

ไม่ได้ผล​? เด็กหนุ่ม​ชุด​ขาว​ขมวดคิ้ว​น้อย​ๆ เก็บ​กระจก​โบราณ​ใส่ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ ก่อน​จะหยิบ​กระจก​เล่ม​ใหม่​ออกมา​ กระโดด​ผลุง​เปลี่ยน​ตำแหน่ง​ ขยับ​ร่าง​ไป​ใน​แนว​ขวาง​ พลิ้ว​กาย​ลง​บน​ใบ​บัว​สีเขียว​อีก​ใบ​หนึ่ง​ที่อยู่​ข้าง​กัน​ ระหว่าง​ที่​ทะยาน​ตัว​กลางอากาศ​ โยน​กระจก​โบราณ​ขึ้น​สูง เปลี่ยน​อีก​มือหนึ่ง​รับเอา​มา ตะโกน​เสียงดัง​ “จงหยุด​!”

หลังจากนั้น​ก็​หยิบ​กระจก​โบราณ​ออกมา​อีก​สอง​บาน​ กระจกส่อง​มาร​สี่ชนิด​ที่​มีชื่อเสียง​ที่สุด​ของ​ใต้​หล้า​ไพศาล​ล้วน​ถูก​เด็กหนุ่ม​ชุด​ขาว​เอา​ออกมา​โอ้อวด​ สอง​บาน​ใน​นั้น​เป็น​จวน​เทียน​ซือ​ภูเขา​มังกร​พยัคฆ์​และ​สำนัก​ของ​ฝูลู่​อวี๋​เสวียน​ที่​เป็น​คน​หลอม​ อีก​สอง​บาน​แบ่ง​ออก​เป็น​กระจก​กฎเกณฑ์​ที่​เกราะ​ทอง​ทวีป​เรียกขาน​กัน​ว่า​ ‘กระจก​ภูเขา​’ รวมไปถึง​กระจก​วารี​ของ​ต้า​หลง​ชิว​ สอง​อย่าง​หลัง​แบ่ง​ออก​เป็น​ดึง​เอา​แก่น​ตะวัน​ แก่น​จันทรา​มาหล่อหลอม​ ต่าง​ก็​มีข้อดี​ของ​ตัวเอง​ กระจก​ภูเขา​พลัง​พิฆาต​สูง ทำลาย​สิ่งกีดขวาง​ได้​เร็ว​ กระจก​วารี​ก็​ยิ่ง​สามารถ​หา​ร่องรอย​ของ​ภูตผี​ได้ดี​ยิ่งกว่า​ ทำให้​พวก​มัน​ไม่มีที่​ให้​หลบหนี​

คน​สี่คน​ที่อยู่​บน​เรือแจว​หันมา​มองหน้า​กันเอง​

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​กง​เยี่ยน​ที่​ถูก​เล่นงาน​ก็​ยิ่ง​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​หัวเราะ​หรือ​ร้องไห้​ดี​ กลุ่ม​ของ​ตน​มาเจอ​กับ​เซียน​ซือบน​ภูเขา​ที่​สมอง​มีรู​หรือ​อย่างไร​?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!