กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 901

แล้วก็​ด้วยเหตุนี้​ เฉิน​ผิง​อัน​ถึงได้​เตือน​ให้​จื้อ​กุย​ระวัง​ตอน​อยู่​ใน​ศาล​ของ​ลำน้ำ​ฉีตู้​

ไม่อย่างนั้น​ต่อให้​เฉิน​ผิง​อัน​จะเป็น​คนดี​แค่​ไหน​ก็​ยัง​ไม่ยินดี​จะสนใจ​จื้อ​กุย​มาก​นัก​ หลัง​แยกย้าย​กับ​นาง​ ทั้งสองฝ่าย​อย่าง​มาก​ก็​แค่​เจ้าเดิน​ไป​บน​เส้นทาง​กว้างใหญ่​ของ​เจ้า ข้า​เดิน​ไป​บน​ทาง​สะพาน​ไม้ของ​ข้า​ก็​เท่านั้น​

เฉิน​ผิง​อัน​ใช้เสียง​ใน​ใจถาม “ที่​ตรอก​หนี​ผิง​ เรือน​สอง​หลัง​ที่อยู่​อีก​ฝั่งของ​บ้าน​พวกเรา​ ดูเหมือนว่า​จะไม่มีคน​อยู่​มานาน​หลาย​ปี​ นับตั้งแต่​ที่​ข้า​จำความได้​ก็​ถูก​ทิ้ง​ร้าง​ไร้​เจ้าของ​ ข้า​ไม่พบ​เบาะแส​อะไร​ใน​ห้อง​เก็บ​เอกสาร​ของ​ที่ว่าการ​ผู้ตรวจ​การงาน​เตาเผา​ รวมไปถึง​ฝ่าย​ครัวเรือน​ของ​อำเภอ​ไหว​หวง​ใน​ภายหลัง​ เจ้ามีเบาะแส​หรือไม่​?”

จื้อ​กุย​เดิน​เคียง​บ่า​ไป​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ นาง​หันหน้า​มายิ้ม​เอ่ย​ “นี่​ถือว่า​เจ้าขอร้อง​ให้​ข้า​ช่วย​หรือไม่​?”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ “ถือว่า​ใช่”

ทั้งสองฝ่าย​ไม่ได้​เป็น​ญาติมิตร​ ไม่มีความแค้น​ใดๆ​ ต่อกัน​ เป็น​ทั้ง​คนบ้านเดียวกัน​แล้วก็​เป็น​ทั้ง​เพื่อนบ้าน​ คุย​เล่น​กัน​แค่​คำ​สอง​คำ​ไม่ได้​ทำให้​ส่งผลร้าย​สะเทือน​ไป​ถึงกระดูก​เส้นเอ็น​ใดๆ​

จื้อ​กุย​คลี่​ยิ้ม​ ดูเหมือนว่า​ไม่คิด​จะเปิดปาก​พูด​

นาง​เชิดหน้า​ขึ้น​สูง ก้าว​เท้า​เดินเล่น​อย่าง​ผ่อนคลาย​อยู่​ใน​ซาก​ปรัก​วัง​มังกร​แห่ง​นี้​

หวน​นึกถึง​อดีต​อัน​ห่างไกล​ เด็กบ้านนอก​ขา​เปื้อน​โคลน​ที่อยู่​ข้าง​กาย​ผู้​นี้​ หาก​เห็น​ตน​หิ้ว​ถังน้ำ​กลับมา​ที่​ตรอก​หนี​ผิง​ก็​จะมาช่วย​ยก​ถังน้ำ​ให้​

ใน​ช่วง​ฤดูหนาว​ นาง​จะต้อง​แบก​ฟืน​ไม้ถุงใหญ่​ เพราะ​นาง​ไม่อยาก​จะเดิน​หลาย​รอบ​ เวลา​นั้น​นาง​ยัง​เป็น​แค่​แมลง​น่าสงสาร​ที่​ถูก​มหา​มรรคา​ของ​เมือง​เล็ก​สยบ​กำราบ​ มักจะ​รังเกียจ​ที่​ต้อง​เดินทางไกล​ จึงต้อง​แบก​ฟืน​มาหนัก​มาก​

บุรุษ​ที่​ใจแคบ​อย่าง​ซ่งจี๋ซิน​กับ​หลิว​เสี้ยน​หยาง​กลับ​ไม่เคย​เข้าใจผิด​ใน​เรื่อง​นี้​

ทั้งสองฝ่าย​ต่าง​ก็​ไม่คิด​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​จะมีความคิด​ที่​ไม่ซื่อ​กับ​นาง​

นาง​เอา​สอง​มือ​ไพล่หลัง​ สิบ​นิ้ว​ประสานกัน​ สายตา​มอง​ตรง​ไป​เบื้องหน้า​ ถามเบา​ๆ ว่า​ “รู้สึก​ว่า​นอกจาก​ขอบเขต​แล้ว​ ข้า​ก็​ไม่มีอะไร​อีก​ใช่หรือไม่​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ครุ่นคิด​ ไม่ได้​รีบร้อน​ให้​คำตอบ​

ทว่า​ก็​เป็น​เพราะ​ความ​เอื่อย​เฉื่อย​เชื่องช้า​ของ​บุรุษ​ข้าง​กาย​ผู้​นี้​ที่​ทำให้​นาง​โมโห​จน​สีหน้ามืด​ทะมึน​ ให้​เขา​หลุดปาก​พยักหน้า​หรือ​ยอมรับ​มาโดยตรง​ยัง​ดีกว่า​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​เนิบ​ช้า “ไม่คิด​”

คงจะ​คิดถึง​เรื่องราว​เก่าๆ​ บางอย่าง​ที่​เคย​เกิดขึ้น​ที่​บ้านเกิด​ สีหน้า​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​จึงอ่อนโยน​ลง​หลาย​ส่วน​

เด็กหนุ่ม​รอง​เท้าสาน​ที่​ไม่รู้​ประสา​ได้​เห็น​อาจารย์​ฉีขอร้อง​คนอื่น​เป็นครั้งแรก​

ภายหลัง​เฉิน​ผิง​อัน​พลิก​เปิด​ภาพ​ม้าวิ่ง​แห่ง​กาลเวลา​นั้น​อีกครั้ง​ถึงได้​ค้นพบ​ว่า​เด็กสาว​เคย​ไป​ด่า​ต้น​ไหว​อยู่​ใต้​ต้น​ไหว​โบราณ​ของ​บ้านเกิด​

ทำให้​เฉิน​ผิง​อัน​รู้สึก​…สะใจมาก​

เฉิน​ผิง​อัน​เก็บ​ความคิด​ ถามว่า​ “คน​พวก​นั้น​ เจ้ารู้จัก​ได้​อย่างไร​?”

ผู้​เลี้ยง​มังกร​กับ​ผู้​ประคับประคอง​มังกร​ ต่างกัน​แค่​คำ​เดียว​ ทว่า​สิ่งที่​ทั้งสองฝ่าย​แสวงหา​บน​มหา​มรรคา​กลับ​ต่างกัน​ราว​ฟ้ากับ​เหว​

จื้อ​กุย​เริ่ม​รู้สึก​หงุดหงิด​บ้าง​แล้ว​ “รู้จัก​กัน​กลางทาง​ แต่​ต่าง​คน​ต่าง​ก็ได้​ใน​สิ่งที่​ตัวเอง​ต้องการ​ ถึงอย่างไร​จวน​น้ำ​ของ​ข้า​ในอนาคต​ก็​ต้องการ​คน​ที่​ทำ​เรื่อง​ต่างๆ​ ได้​อย่าง​จริงจัง​อยู่​บ้าง​”

เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ได้​สั่งจื้อ​กุย​ว่า​ควร​ทำ​อะไร​หรือไม่​ควร​ทำ​อะไร​ กลับ​กลายเป็น​ว่า​พูด​ชวน​คุย​เหมือน​ไม่ใส่ใจมากกว่า​ “สิ่งที่​พวกเรา​พบ​เจอ​ตลอดทาง​ หาก​ไม่ใช่เรื่อง​ดี​ก็​เป็นเรื่อง​ที่​ไม่ดี​”

จื้อ​กุย​ถามอย่าง​สงสัย​ “ไม่ใช่คนดี​กับ​คน​ไม่ดี​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​คลี่​ยิ้ม​ “นี่​ก็​คือ​ปม​ของ​ปัญหา​ยุ่งยาก​”

จื้อ​กุย​เอ่ย​อย่าง​ขัน​ๆ ปน​ฉุน​ “ทำไม​เจ้าไม่ไป​เป็น​อาจารย์​สอนหนังสือ​เสีย​เลย​ล่ะ​?”

คิดไม่ถึง​ว่า​บุรุษ​ที่อยู่​ข้าง​กาย​จะพยักหน้า​เอ่ย​ “เลือก​โรงเรียน​ไว้​เรียบร้อย​แล้ว​”

คฤหาสน์​ส่วนตัว​ของ​บุตร​มังกร​ใน​อดีต​ซึ่งอยู่​ใน​ซาก​ปรัก​ของ​วัง​มังกร​ กิน​อาณาบริเวณ​กว้างใหญ่​มาก​ มีทะเลสาบ​อยู่​แห่ง​หนึ่ง​ ดอกบัว​ใบ​บัว​ชูช่อ​อยู่​กลาง​สระน้ำ​ มีเรือแจว​ลอย​อยู่​หนึ่ง​ลำ​ บน​เรือ​มีคน​สี่คน​ คนแก่​หนึ่ง​คน​ สตรี​วัยกลางคน​หน้าตา​งดงาม​หนึ่ง​คน​ บุรุษ​ร่าง​กำยำ​หนึ่ง​คน​และ​บุรุษ​หนุ่ม​หนึ่ง​คน​

ทุกวันนี้​พวกเขา​ต่าง​ก็​เป็น​ผู้ติดตาม​ของ​หวัง​จูมังกร​ที่​แท้จริง​ ถือว่า​มาสวามิภักดิ์​กับ​สุ่ยจ​วิน​แห่ง​มหาสมุทร​บูรพา​คน​ใหม่​อย่าง​นาง​

สตรี​หน้าตา​งดงาม​ยืน​อยู่​บน​ปลาย​ด้าน​หนึ่ง​ของ​เรือ​เล็ก​ แต่งกาย​เหมือน​ชาววัง​ มวยผม​ทรง​เมฆาคล้อย​ ปัก​ปิ่น​ดอกไม้​ส่าย​ไห​วสี​ทอง​ ประทิน​โฉมบาง​ๆ ตรง​เอวบาง​สอง​ด้าน​แยกกัน​ห้อย​กระจก​ทองสัมฤทธิ์​ชิ้น​หนึ่ง​กับ​หยก​แบน​ที่​เป็น​แก้ว​ใสชิ้น​หนึ่ง​ นาง​หันหน้า​ไป​ถามผู้เฒ่า​ที่​ยืน​อยู่​ท้ายเรือ​อย่าง​ใคร่รู้​ “ห​ลี่​ป๋า​ เจ้าคิด​ว่า​นาย​ท่าน​กับ​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​ผู้​นั้น​จะตี​กัน​ทันทีที่​พูด​ไม่เข้าหู​กัน​หรือไม่​?”

ชาย​ชรา​ที่​มีนาม​ว่า​ห​ลี่​ป๋า​เส้น​ผม​ขาวโพลน​ ร่าง​ผอม​แต่​ให้​ความรู้สึก​โปร่ง​สบาย​ เขา​ส่ายหน้า​เบา​ๆ “ไม่มีความแค้น​อะไร​ต่อกัน​ ไม่มีทาง​ตี​กัน​หรอก​”

ตรง​ฝ่าเท้า​ของ​ผู้เฒ่า​มีชายฉกรรจ์​ร่าง​กำยำ​คน​หนึ่ง​นั่งขัดสมาธิ​อยู่​

สุดท้าย​คือ​คนหนุ่ม​คน​หนึ่ง​ ต้อง​เป็น​เทพ​เซียน​ใน​ภูเขา​ที่​ฝึก​ตน​ประสบความสำเร็จ​คน​หนึ่ง​แน่นอน​ ผิวพรรณ​ดุจ​หยก​ บุคลิก​รูปโฉม​งามสง่าดุจ​โฉมสะคราญ​ล่ม​เมือง​ เวลานี้​เขา​นอน​อยู่​ใน​เรือ​ลำ​เล็ก​ ใช้มือ​ข้าง​หนึ่ง​หนุน​ใต้​ท้ายทอย​ต่าง​หมอน​ ยก​ขา​ไขว่ห้าง​ ท่วงท่า​ผ่อนคลาย​สบายอารมณ์​ มือหนึ่ง​แกว่ง​กา​เหล้า​ เหล้า​สีอำพัน​ไหล​เป็น​เส้นตรง​เข้าสู่​ปาก​ของ​เขา​ แกว่ง​กา​เหล้า​ที่ว่างเปล่า​ ลุกขึ้น​ยืน​ มอง​ไป​ยัง​ทิศทาง​ของ​ตำหนัก​ใหญ่​ “ช่างเป็น​ปราณ​กระบี่​ที่​เข้มข้น​ยิ่งนัก​ ไม่เสียแรง​ที่​เป็น​คน​ฝึก​กระบี่​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​”

ดวงตา​ของ​สตรี​วัยกลางคน​คลอ​ประกาย​ฉ่ำน้ำ​มอง​ไป​ยัง​บุรุษ​ร่าง​กำยำ​ที่นั่ง​เหมือน​หิน​ผา​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!