อีกทั้งนางกับอาจารย์ผู้เฒ่าเซวียไหวที่มีความรู้สึกประทับใจไม่เลวผู้นี้ยังไม่เคยมีความขัดแย้งกันมาก่อน
หากว่ามีโอกาสได้ถามหมัดกับหวงอีอวิ๋นจริงๆ ถึงอย่างไรทั้งสองฝ่ายต่างก็เป็นขอบเขตปลายทางในชั้นของปราณโชติช่วงเหมือนกัน ย่อมสามารถปล่อยหมัดได้อย่างเต็มกำลัง
การถามหมัดของผู้ฝึกยุทธขอบเขตเดียวกันมีการกระทบกระทั่งกันบ้างจะแปลกตรงไหน ไม่ถือว่าเป็นการใช้เรื่องส่วนรวมมาแก้แค้นส่วนตัวอะไรด้วยซ้ำ
เฉินผิงอันพยักหน้าบอกเป็นนัยกับเผยเฉียนว่ากดขอบเขตแค่หนึ่งขั้นก็พอ
เย่อวิ๋นอวิ๋นกับเซวียไหว จนถึงทุกวันนี้ยังไม่รู้ว่าอันที่จริงเผยเฉียนเลื่อนเป็นขอบเขตปลายทางแล้ว
นี่ก็เป็นเรื่องปกติ คราวก่อนทั้งสองฝ่ายจากลากันที่พื้นที่มงคลถ้ำเมฆาเพิ่งจะผ่านไปนานเท่าไรเอง?
การถามหมัดเริ่มต้นขึ้น
อิงตามกฎเกณฑ์ในยุทธภพที่ปฏิบัติตามกันมาจนเกิดเป็นความเคยชิน การประลองบนเวทีที่ไม่ต้องลงนามสัญญาเป็นตาย แค่ประชันฝีมือสูงต่ำระหว่างผู้ฝึกยุทธเท่านั้น ผู้ที่มีหมัดสูงกว่าเป็นฝ่ายยอมลงให้ก่อน
พื้นดินของหอซ่าวฮวาสั่นสะเทือนเล็กน้อย เซวียไหวขยับเข้ามาใกล้เผยเฉียนแล้ว หนึ่งหมัดปล่อยออกไปอย่างไม่ออมแรง หมัดที่ปล่อยออกไปปณิธานหมัดเพิ่มพูนประหนึ่งภาพน้ำตกที่น้ำไหลดิ่งลงมาจากเบื้องบน แต่เปลี่ยนจากดิ่งแนวตรงเป็นแนวขวางแทน
เซวียไหวเคยอาศัยคุณสมบัติและความเฉลียวฉลาดของตัวเองหลอมรวมภาพเซียนเหรินหกภาพที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษของผูซานเข้าด้วยกัน รังสรรค์เป็นวิชาหมัดชุดหนึ่ง ดึงเอาแก่นสุดยอดของภาพเซียนเหรินแต่ละภาพออกมาหลอมเป็นหนึ่งหมัด ขอแค่ได้ปล่อยหมัดหนึ่งออกไป ห้ากระบวนท่าต่อจากนั้นก็จะทอดยาวไม่ขาดสาย วิชาหมัดเชื่อมติดกันแนบแน่น มีพลังอำนาจดุจกระแสน้ำไหลเชี่ยวโถมสู่มหาสมุทร
เผยเฉียนไม่ถอยกลับกันยังรุดขึ้นหน้า ถึงกับยกข้อศอกขึ้นต้านรับหมัดของเซวียไหว
เมื่อเทียบกับกระบวนท่ากองทัพม้าเหล็กทะลวงขบวนรบของผู้เฒ่าบนเรือนไม้ไผ่ที่เคยชินมาตั้งแต่เด็ก หมัดตรงหน้านี้ความเร็วช้าเกินไป น้ำหนักเบาเกินไปเหมือนดีดปุยนุ่นอย่างไรอย่างนั้น
เผยเฉียนยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับ เพียงแค่ยกมือข้างหนึ่งขึ้น กางห้านิ้วออกหมายจะตบลงบนใบหน้าของอาจารย์ผู้เฒ่า
ปีนั้นฝึกหมัด ถ่านดำน้อยก็เคยถูกผู้เฒ่าใช้ท่านี้ซัดให้ร่างทั้งร่างกระแทก ‘กระเด้งกระดอน’ อยู่บนกระดานไม้ไผ่นับครั้งไม่ถ้วน
จากนั้นก็ต้องทนฟังคำพูดโหดร้ายทำนองว่า ‘ชอบนอนคว่ำเดินนิ่งอยู่บนพื้นหรือ’ การป้อนหมัดของผู้เฒ่าไม่ได้สิ้นสุดแต่เพียงเท่านี้ ถ่านดำน้อยยังถูกปลายเท้าเตะเข้าที่หัวใจหรือไม้ก็หน้าผากในเสี้ยววินาที ร่างกระแทกเข้ามุม นอนตัวงอ เจ็บปวดจนเหมือนตับไต้ไส้พุงพันกัน แล้วยังต้องฟังผู้เฒ่าวิจารณ์ว่า ‘ชอบเป็นผ้าเช็ดพื้นขนาดนี้เชียวหรือ คุณสมบัติในการฝึกวรยุทธของเจ้าแย่พอๆ กับอาจารย์พ่อของเจ้าเลย แล้วยังเกียจคร้านที่จะฝึกหมัด ดีนัก วันหน้าก็เอาตัวไปแนบติดอยู่กับหน่วนซู่น้อยทุกวันเลยแล้วกัน ไม่อย่างนั้นยืนอยู่กับอาจารย์พ่อที่เป็นเศษสวะของเจ้า ตาใหญ่มองตาเล็ก คนหนึ่งบนหน้าผากเขียนคำว่าเศษ คนหนึ่งบนหน้าผากเขียนคำว่าสวะ ถึงจะไม่เสียแรงที่พวกเจ้าสองคนอุตส่าห์ได้เป็นอาจารย์และศิษย์กัน’
แน่นอนว่าทุกครั้งที่พูด ผู้เฒ่าก็ไม่ได้อยู่นิ่งเฉย ไม่เปิดโอกาสให้เผยเฉียนได้หายใจหายคอแม้แต่น้อย เดี๋ยวก็เหยียบลงบนนิ้วมือของถ่านดำน้อย เดี๋ยวก็เหยียบลงบนหน้าผากของนาง เพิ่มน้ำหนักฝีเท้าเรื่อยๆ ทำให้นางกระดุกกระดิกไม่ได้
เรือนกายของเซวียไหวในเวลานี้ผงะไปด้านหลังเล็กน้อย มือกวาดเหวี่ยงไปแนวขวางเหมือนผ่าไม้เอามาทำเป็นพิณ พละกำลังหนักหน่วง พายุหมัดกระเทือนรุนแรง ลมกระโชกพัดดัง
ขณะเดียวกันเซวียไหวก็ยกเท้าเตะออกไปอย่างแรง ปลายเท้าเหมือนคมดาบ ว่องไวดุจลูกธนูที่ทิ่มแทงเข้าที่ชายโครงของเผยเฉียน
เผยเฉียนยกแขนข้างหนึ่งบังตรงหัวไหล่แล้วพลันยกเท้าขึ้น บิดหมุนข้อเท้าเตะโดนเซวียไหวอย่างพอเหมาะพอเจาะ ต้านหมัดและเท้าของเซวียไหวไว้ได้ในเวลาเดียวกันพอดี
ในที่สุดก็ไม่ยืนเฉยอีกแล้ว นางขยับไปในแนวขวางหลายก้าว พริบตานั้นราวกับเซวียไหวกำลังรอให้เผยเฉียนขยับร่างอยู่ ฝีเท้าของอาจารย์ผู้เฒ่าประหนึ่งเซียนเหรินย่ำดารา สอดคล้องกับหลักเกณฑ์แห่งสวรรค์ หดย่อพื้นที่ ปณิธานหมัดของทั้งร่างไต่ทะยานถึงจุดสูงสุด ปราณแท้จริงที่บริสุทธิ์ไหลวนเร็วกว่าก่อนหน้านี้ ถึงกับเร็วกว่าเดิมเกือบหนึ่งเท่า พูดถึงแค่นาทีนี้ พลังอำนาจของเซวียไหวก็ไม่แพ้ให้กับผู้ฝึกยุทธขอบเขตเก้าคนใดแล้ว พายุหมัดสีเขียวม่วงเป็นเส้นๆ ที่ทะลักขึ้นมาด้านหลังยิ่งขับให้เซวียไหวเหมือนเทพแปดกร ก้าวยาวๆ ไปข้างหน้าหนึ่งก้าว หนึ่งหมัดแยกตัวออกไปเป็นหมัดอีกนับไม่ถ้วน หมัดมากมายพากันต่อยรัวใส่เผยเฉียน
บนหอซ่าวฮวา ปณิธานหมัดของเซวียไหวรวมตัวกันเหมือนกลายมาเป็นของจริง พายุหมัดสลายไปสี่ด้านแปดทิศอย่างรวดเร็ว
ชุยตงซานโบกชายแขนเสื้อสีขาวหิมะชักนำพวกมันให้ออกไปนอกยอดเขาเจ๋อเซียน ซัดให้ทะเลเมฆที่ผ่านทางมาแตกตัวออกเป็นก้อนเมฆนับไม่ถ้วน
ชุยตงซานใช้เสียงในใจยิ้มถาม “ยังคงเป็นศิษย์พี่หญิงใหญ่ที่รู้จักวางตัว”
หากไม่เป็นเพราะเผยเฉียนเก็บออมกำลังอย่างไม่เปิดเผยร่องรอย ตอนแรกสุดเผยเฉียนก็สามารถแบกรับหนึ่งหมัดหนึ่งเท้าของเซวียไหวแล้วใช้ฝ่ามือหนึ่งตบกระแทกลงบนหน้าผากของฝ่ายหลังอย่างแรง เกรงว่าเซวียไหวคงต้องไปนอนหลับกรนครอกๆ อยู่ในหลุมใดหลุมหนึ่งแล้ว
ชุยตงซานถามอย่างระมัดระวัง “อาจารย์คงไม่รู้สึกว่าศิษย์พี่หญิงใหญ่เอาแต่ประมาทอยู่ตลอดหรอกกระมัง?”
เฉินผิงอันส่ายหน้ายิ้มกล่าว “จะเป็นไปได้อย่างไร นางไม่ได้ถามหมัดกับเจ้าขุนเขาเย่เสียหน่อย กดขอบเขตถามหมัดกับเซวียไหวย่อมต้องมีมารยาท”
อันที่จริงเฉินผิงอันมองออกแล้วว่าไม่เพียงแค่เพราะมีอาจารย์พ่ออย่างตนคอยมองดูอยู่ ทำให้เผยเฉียนเหมือนถูกมัดมือมัดเท้า ยังมีสาเหตุที่ใหญ่ยิ่งกว่านั้น การออกหมัดของเผยเฉียน หากคิดจะให้ปณิธานหมัดสมบูรณ์เต็มเปี่ยมอย่างแท้จริง นางก็เคยชินที่จะลงมืออย่างอำมหิต พูดง่ายๆ ก็คือเผยเฉียนเหมาะกับการแบ่งแพ้ชนะอย่างไม่ออมมือไว้ไมตรีกับคนอื่นมากกว่า ไม่เหมาะกับการประลองวิชาถามหมัดที่ต้องหยุดแต่พอสมควรเช่นนี้แม้แต่น้อย
ดังนั้นปีนั้นเผยเฉียนใช้ขอบเขตแปดถามหมัดกับหลิ่วสุ้ยอวี๋แห่งศาลเหลยกงที่เป็นขอบเขตยอดเขา หรือจะเป็นภายหลังที่ถามหมัดกับเฉาสือบนหัวกำแพงเมืองของราชวงศ์ต้าตวนสี่ครั้งติด นั่นต่างหากถึงจะเป็นการลงมืออย่างแท้จริงของเผยเฉียน
หากจะวิจารณ์ให้โหดร้ายสักหน่อยก็คือ เซวียไหวแห่งผูซานขอบเขตยังต่ำเกินไป เผชิญหน้ากับเผยเฉียนที่กดขอบเขตแล้วก็ยังมิอาจเป็นหินฝนทองก้อนนั้นได้อยู่ดี
ชุยตงซานเอ่ยอย่างระมัดระวัง “ศิษย์พี่หญิงอาจจะอยากให้เซวียไหวปล่อยหมัดได้อีกหลายๆ ครั้ง”
เฉินผิงอันเอ่ยอย่างขันๆ ปนฉุน “ดี รอให้การถามหมัดของข้าสิ้นสุดลงจะต้องขอบคุณนางให้ดีสักหน่อย”
เย่อวิ๋นอวิ๋นลังเลเล็กน้อย สุดท้ายนางก็อดไม่ไหวรวมเสียงให้เป็นเส้นถามเฉินผิงอันอย่างประหลาดใจว่า “เวลาปกติเจ้าสอนหมัดอย่างไร?”
เฉินผิงอันคงจะพูดไม่ได้ว่าเขาที่เป็นอาจารย์พ่อ อันที่จริงไม่เคยสอนหมัดให้กับลูกศิษย์ใหญ่เปิดขุนเขามาก่อน จึงได้แต่ใช้คำพูดที่คลุมเครือว่า “ใช้วิธีโง่ๆ สอนหมัดเยอะๆ ความหมั่นเพียรสามารถชดเชยข้อบกพร่องได้ ตอนที่ช่วยป้อนหมัดก็ฝืนข่มใจไม่สงสารลูกศิษย์”
หกกระบวนท่าผ่านไปแล้ว
เซวียไหวยังคงไม่ได้เปรียบใดๆ
ปณิธานหมัดของหกกระบวนท่ายังคงเหมือนเดิม อันที่จริงจึงถือว่าได้ปล่อยหมัดไปแค่หมัดเดียวเท่านั้น
แน่นอนว่าเซวียไหวไม่ได้โง่จนเป็นฝ่ายเปิดปากพูดเรื่องนี้ออกมาด้วยตัวเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!