กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 904

แสงจันทร์​แสงดาว​อ่อน​จาง ยิ่ง​ทำให้​รู้สึก​ว่า​ภูเขา​สูง

ใบ​หู​ของ​ซาชิงขยับ​ไหว​เบา​ๆ พลัน​หันหน้า​ไป​มอง​ม่าน​รัตติกาล​ที่อยู่​ห่าง​ไป​ไกล​ พูด​เสียงทุ้ม​หนัก​ “นาย​ท่าน​ ซิ่ว​หู่​มาแล้ว​”

ห​ลี่​เย่​โหว​อืม​รับ​หนึ่ง​ที​ ใช้เสียง​ใน​ใจเตือน​พวกเขา​ “จำไว้​ว่า​ให้​ระวัง​คำพูด​ ต่อจากนี้​ไม่ว่า​อาจารย์​ชุย​จะพูด​อะไร​กับ​ข้า​ พวก​เจ้าแค่​ฟังแล้ว​ปล่อย​ผ่าน​ก็​พอ​ ไม่ต้อง​ถือสา​ ยิ่ง​ไม่ต้อง​เก็บ​มาใส่ใจ”

หวง​เจวี้ยน​สาวใช้​ที่​กำลัง​ปรับ​สาย​พิณ​มองตาม​สายตา​ของ​ซาชิงไป​ พอ​จะมองเห็น​ได้​อย่าง​เลือนราง​ว่า​จุด​ที่อยู่​ห่าง​ไป​ไกล​มาก​มีเงาร่าง​สีขาว​หิมะ​กลุ่ม​หนึ่ง​คล้าย​จะทะยาน​ลม​แนบ​พื้นดิน​มา ทันใดนั้น​เรือน​กาย​ก็​พลัน​พุ่ง​ขึ้น​สูง เส้น​สายตา​ของ​หวง​เจวี้ยน​จึงต้อง​ขยับ​สูงขึ้น​อย่าง​ต่อเนื่อง​ ดวงจันทร์​ลอย​อยู่​บน​ฟ้า เรือน​กาย​เล็ก​เท่า​เมล็ด​งานั้น​หันหลัง​ให้​กับ​ดวงจันทร์​กลม​โต​พอดี​ คน​ผู้​นั้น​เพิ่ม​ความเร็ว​ใน​การ​ทะยาน​ลม​พลัน​ทิ้งตัว​ดิ่ง​ลง​มายัง​ยอดเขา​แห่ง​นี้​ ประหนึ่ง​คนใน​ดวงจันทร์​ ดั่ง​เจ๋อ​เซียน​ที่​ลง​มายัง​โลก​มนุษย์​

หวง​เจวี้ยน​เก็บ​พิณ​โบราณ​ใส่ห่อ​ผ้า​อีกครั้ง​ ขยับ​ไป​ยืน​อยู่​ด้านหลัง​เจ้านาย​พร้อมกับ​ซาชิง

เด็กหนุ่ม​ที่​มีไฝแดง​กลาง​หว่าง​คิ้ว​ สวม​ชุด​สีขาว​ ชาย​แขน​เสื้อ​โบกสะบัด​ ลอยตัว​อยู่​นอก​ภูเขา​

ต่อให้​เป็น​ผู้​บรรลุ​มรรคา​ที่​มีจิต​แห่ง​มรรคา​แข็งแกร่ง​อย่าง​หวง​เจวี้ยน​ก็​ยัง​จำต้อง​ยอมรับ​ว่า​เด็กหนุ่ม​ตรงหน้า​นี้​ส่อง​ประกาย​แสงเรื่อ​เรือง​ ทำให้​แสงจันทร์​ที่​สาด​ไป​ทั่ว​ภูเขา​คล้าย​จะมืดมน​หม่น​แสงลง​ ดุจดั่ง​เทพ​วาโย​ผู้​สูงส่ง ไม่เป็นรอง​นาย​ท่าน​เลย​แม้แต่น้อย​

ก่อนหน้านี้​ชุยตง​ซาน​ไป​เป็น​แขก​ที่​ทะเลสาบ​เจี่ยว​เย​ว่​สอง​ครั้ง​ สาวใช้​หวง​เจวี้ยน​บังเอิญ​ไม่อยู่​ที่​จวน​น้ำ​พอดี​ หาก​ไม่ได้​ไปหา​สหาย​รัก​ที่​ภูเขา​แยนจือ​ก็​ไป​เที่ยวเล่น​ใน​พื้นที่​ร้อย​บุปผา​

มีสหาย​มาจาก​แดน​ไกล​ ไม่ใช่เรื่อง​ที่​น่ายินดี​หรอก​หรือ​

ดวงตา​ของ​ห​ลี่​เย่​โหว​เป็นประกาย​คล้าย​รอคอย​วัน​ที่จะ​ได้​กลับมา​พบกัน​อีกครั้ง​ครา​นี้​อย่าง​ยากลำบาก​มานาน​หลาย​ปี​แล้ว​ เก็บ​พัด​ใบลาน​สีออก​เหลือง​ใน​มือ​ลง​ไป​ จากนั้น​ปลด​หน้ากาก​บน​ใบหน้า​ลง​ คือ​บุรุษ​รูปงาม​คน​หนึ่ง​ ลุกขึ้น​ยืน​ประสานมือ​คารวะ​ “เย่​โหว​คารวะ​อาจารย์​ชุย”​

ชุยตง​ซาน​พูด​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ “ยินดี​กับ​เย่​โหว​ที่​ได้​เลื่อนขั้น​เป็น​สุ่ยจ​วิน​แห่ง​ทะเล​ทักษิณ​ เรียก​ข้า​ว่า​ชุยตง​ซาน​ก็ได้​”

สุ่ยจ​วิน​ห้า​ทะเลสาบ​สามท่าน​ใน​อดีต​ซึ่งรวมถึง​ห​ลี่​เย่​โหว​ด้วย​นั้น​ บน​ทำเนียบ​หยก​ทอง​ของ​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​แห่ง​ขุนเขา​สายน้ำ​ของ​ศาล​บุ๋น​ หากว่า​กัน​ตาม​ระดับ​ขั้น​แล้ว​ การ​ที่​ได้​กลายเป็น​สุ่ยจ​วิน​แห่ง​สี่มหาสมุทร​ก็​ถือว่า​เป็นการ​รับหน้าที่​ใหม่​ใน​ตำแหน่ง​เท่าเดิม​ แต่​ทุกวันนี้​ใน​มือ​ได้​กุมอำนาจ​ใหญ่​ อาณา​เขตการปกครอง​กว้างขวาง​มากกว่า​ใน​อดีต​

ขณะเดียวกัน​สุ่ยจ​วิน​แห่ง​ทะเลสาบ​ใหญ่​สามแห่ง​ซึ่งรวม​ทะเลสาบ​เซิ่น​เจ๋อ​ก็ได้​ถือโอกาส​เลื่อนขั้น​เป็น​สุ่ยจ​วิน​ ‘ห้า​ทะเลสาบ​’ ชดเชย​ตำแหน่ง​ที่ว่าง​อยู่​ ถือ​เป็นการ​เลื่อนขั้น​อย่าง​สมชื่อ​

ห​ลี่​เย่​โหว​พยักหน้า​รับ​ด้วย​รอยยิ้ม​

ใน​บรรดา​บุคคล​ยิ่งใหญ่​ที่​ใน​อดีต​เคย​ป่าวประกาศ​ว่า​จะทวง​ความเป็นธรรม​ให้​กับ​เจี่ย​เซิงแห่ง​ไพศาล​ ก็​มีห​ลี่​เย่​โหว​สุ่ยจ​วิน​แห่ง​ทะเลสาบ​เจี่ยว​เย​ว่​ผู้​นี้​รวม​อยู่​ด้วย​

ดังนั้น​หลังจากที่​ห​ลี่​เย่​โหว​รับหน้าที่​เป็น​สุ่ยจ​วิน​ ต่อให้​ทะเลสาบ​เจี่ยว​เย​ว่​จะถือว่า​อยู่​ใกล้​ศาล​บุ๋น​ที่สุด​ใน​บรรดา​ห้า​ทะเลสาบ​ของ​ไพศาล​ ทว่า​ห​ลี่​เย่​โหว​กลับ​ไม่เคย​คบค้าสมาคม​ใกล้ชิด​กับ​ศาล​บุ๋น​ มีความสัมพันธ์​ห่างเหิน​กับ​เหล่า​อริยะ​ปราชญ์​ผู้​มีเทวรูป​

แต่​เขา​กับ​ซิ่ว​หู่​ชุย​ฉาน​นั้น​ถือว่า​เป็น​คนรู้จัก​เก่า​กัน​

แน่นอน​ว่า​ทั้งสองฝ่าย​อายุ​ห่าง​กัน​ เนื่อง​จาก​ห​ลี่​เย่​โหว​เป็น​คน​ที่อยู่​ช่วง​ยุค​เดียว​กับ​ป๋า​ย​เห​ย่​ อีก​ทั้ง​ยังมี​ชาติกำเนิด​มาจาก​แคว้น​เดียวกัน​ ห​ลี่​เย่​โหว​มาจาก​ตระกูล​ร่ำรวย​ อีก​ทั้ง​ยัง​เป็น​ขุนนาง​สำคัญ​ใน​ราชสำนัก​ แต่​ป๋า​ย​เห​ย่​นั้น​กลับ​ถือว่า​คน​ที่​เก็บตัว​จาก​โลก​ภายนอก​ซึ่ง ‘อยู่​ใน​ป่า​’ (เปรียบเปรย​ว่า​อยู่​นอก​วงราชการ​) ภายหลัง​อยู่​ใน​เมืองหลวง​ก็​ปราก​ฎตัว​วูบ​เดียว​แต่​สร้าง​ความ​จดจำ​ให้​คน​ได้​อย่าง​ลึกล้ำ​ จากนั้น​ก็​ล่องเรือ​เดินทาง​จากไป​ไกล​ ดังนั้น​คน​ทั้งสอง​จึงไม่มีการคบค้าสมาคม​อะไร​กัน​มาก่อน​

กลับเป็น​ใน​อดีต​ที่​ชุย​ฉาน​และ​ศิษย์​น้อง​สอง​คน​อย่าง​จั่ว​โย่ว​และ​จวิน​เชี่ยน​ได้​เดินทาง​มาเที่ยว​เยือน​ทะเลสาบ​เจี่ยว​เย​ว่​ด้วยกัน​ ใน​เวลา​สิบ​วัน​ ทั้งสองฝ่าย​เคย​เล่น​หมากล้อม​ด้วยกัน​ถึงแปด​ครั้ง​ ไม่กำหนด​เวลา​ อนุญาต​ให้​อีก​ฝ่าย​ได้​ใช้เวลา​คิด​พิจารณา​นาน​ได้​

ผล​คือ​ปี​นั้น​ห​ลี่​เย่​โหว​เกือบจะ​สูญเสีย​ ‘คลัง​ตำรา​’ และ​ทะเลสาบ​เจี่ยว​เย​ว่​ครึ่งหนึ่ง​ไป​ เพราะ​หมากล้อม​ทั้งหมด​แปด​ตา​ ห​ลี่​เย่​โหว​ชนะ​หนึ่ง​แพ้​เจ็ด​ หาก​ยัง​แพ้​อีกครั้ง​ แม้แต่​สถานะ​สุ่ยจ​วิน​ทะเลสาบ​ใหญ่​ก็​คง​รักษา​ไว้​ไม่อยู่แล้ว​

การ​ที่​ใช้คำ​ว่า​เกือบ​ก็​เพราะ​อีก​ฝ่าย​ยอม​สละ​ของ​เดิมพัน​ที่​เดิมที​ควรจะ​ได้รับ​ไป​หลังจาก​ชนะ​หมากล้อม​

หลัง​จบเรื่อง​ห​ลี่​เย่​โหว​ได้​เรียบเรียง​หมากล้อม​แปด​ตา​นั้น​ขึ้น​เป็น​ ‘ตำ​ราน้ำ​สารทฤดู​’ (อีก​ความหมาย​คือ​ดวงตา​ที่​งดงาม​ของ​สตรี​) ทำ​การทบทวน​กระดาน​หมาก​ซ้ำไปซ้ำมา​ ถึงได้​ค้นพบ​ความลี้ลับ​ที่ซ่อน​อยู่​ ฝีมือ​การ​เล่น​หมากล้อม​ของ​ทั้งสองฝ่าย​สูงต่ำ​ต่างกัน​ เมื่อ​เทียบ​กับ​ที่​ตัวเอง​จินตนาการ​ไว้​ก็​ถือว่า​ต่างกัน​เยอะ​มาก​ เรียก​ได้​ว่า​คนละชั้น​กัน​เลย​ แต่​นอกจาก​กระดาน​หมาก​กระดาน​แรก​ที่​ซิ่ว​หู่​เชิญท่าน​ลง​โอ่ง​แล้ว​ ที่​เหลือ​อีก​เจ็ด​กระดาน​ก็ได้​แสร้ง​แสดง​ความอ่อนแอ​ให้​ศัตรู​เห็น​ แต่กลับ​สามารถ​ทำให้​ห​ลี่​เย่​โหว​ไม่รู้ตัว​เลย​แม้แต่น้อย​ นึก​ว่าที่​พ่ายแพ้​ก็​เพราะ​ฝีมือ​อ่อนด้อย​กว่า​เล็กน้อย​เท่านั้น​

ภายหลัง​รอ​กระทั่ง​ชุย​ฉาน​ทรยศ​ออกจาก​ศาล​บุ๋น​ก็​ยัง​เคย​มาเยือน​จวน​วารี​ทะ​เลา​บเจี่ยว​เย​ว่​อย่าง​ลับ​ๆ รอบ​ๆ หนึ่ง​

ชุย​ฉาน​ถามเขา​ว่า​ยินดี​จะเดินทางไกล​ไป​ด้วยกัน​หรือไม่​ ช่วย​ใต้​หล้า​แห่ง​นี้​ทำ​ ‘เรื่อง​ที่​เตรียมการ​ไว้​ล่วงหน้า​ซึ่งไม่เหลือบ่ากว่าแรง​’ แต่​ถูกห​ลี่​เย่​โหว​ปฏิเสธ​

ดูเหมือนว่า​ชุย​ฉาน​ก็​ไม่ได้​รู้สึก​ผิดหวัง​สัก​เท่าไร​ ก่อน​จะจากไป​เขา​เพียงแค่​มอง​ตำรา​หมากล้อม​ที่​วาง​อยู่​บน​โต๊ะ​ ยิ้ม​เอ่ย​ประโยค​หนึ่ง​ว่า​ไม่สู้เปลี่ยน​ชื่อ​ตำรา​หมากล้อม​เล่ม​นี้​เป็น​ชื่อ​ ‘ตำรา​จูงวัว​’

ห​ลี่​เย่​โหว​ที่​มีชาติกำเนิด​มาจาก​นักพรต​มีเพียง​ความ​เงียบงัน​ มอง​ส่งซิ่ว​หู่​ออก​ไป​จาก​พื้นที่​ด้วย​ความ​เงียบ​

ไม่ใช่ว่า​กลัว​จะยุ่งยาก​ แล้วก็​ไม่ใช่เพราะ​ตัดใจ​ทิ้ง​สถานะ​ของ​สุ่ยจ​วิน​ไม่ลง​ แต่​เป็น​เพราะ​หลังจากที่​ห​ลี่​เย่​โหว​ได้​กลายเป็น​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ นิสัย​ก็​ยิ่ง​เปลี่ยน​มาเป็น​เฉยชา​มากขึ้น​ ราวกับว่า​ปณิธาน​อัน​ห้าว​เหิม​ได้​ถูก​ทิ้ง​ไว้​ที่​ตัวเอง​แต่ละ​คนใน​อดีต​นาน​แล้ว​ เคย​เป็น​เด็ก​อัจฉริยะ​ที่​พรสวรรค์​โดดเด่น​ นักพรต​เด็กหนุ่ม​ที่​เลื่อมใส​การ​ฝึก​ตน​อยู่​ใน​ป่า​เขา​อย่าง​สันโดษ​แต่​จิตใจ​กลับ​มีขุนเขา​สายน้ำ​ ออกจาก​ภูเขา​มาเป็น​ขุนนาง​บุ๋น​หนุ่ม​ที่​ใช้กำลัง​ของ​ตัวเอง​กอบกู้​แคว้น​ซึ่งกำลังจะ​ล่มสลาย​ สืบทอด​ชะตา​แคว้น​ ซ่อมแซม​บูรณะ​ขุนเขา​สายน้ำ​ ช่วยเหลือ​ปวงประชา​วัยกลางคน​และ​วัยชรา​ที่​ตก​อยู่​ท่ามกลาง​น้ำ​ลึก​และ​เปลวเพลิง​ สุดท้าย​ถอนตัว​ออกมา​กลายเป็น​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​แห่ง​ขุนเขา​สายน้ำ​ได้​สำเร็จ​ จากนั้น​ก็​ไม่สนใจ​เรื่อง​ของ​แคว้น​และ​เรื่องราว​ใน​โลก​มนุษย์​อีก​ แค่​ซื้อ​หนังสือ​ สะสมหนังสือ​ อ่านหนังสือ​ ซ่อมแซม​หนังสือ​

ชุยตง​ซาน​หันหน้า​ไป​อีก​ด้าน​ กลับ​เปลี่ยนไป​เป็น​คนละ​คน​ ยิ้ม​เอ่ย​สัพยอก​ว่า​ “พี่​ซาชิง ทำไม​ไม่เจอกัน​แค่​ร้อย​ปี​ ขอบเขต​ไม่สูงขึ้น​ ทว่า​กลับตัว​สูงขึ้น​อีก​ขั้น​ได้​เล่า​? หรือว่า​จะมีเวท​ลับ​เฉพาะ​อะไร​ ไม่สู้ลอง​สอน​ข้า​ดู​บ้าง​?”

ชายฉกรรจ์​ร่าง​เล็ก​เตี้ย​หน้า​แดงก่ำ​ เอ่ย​อย่าง​อัดอั้น​ว่า​ “ไม่มีอะไร​แบบ​นั้น​เสียหน่อย​ อาจารย์​ชุยอ​ย่า​ได้​พูดเหลวไหล​”

อยู่​กับ​ซิ่ว​หู่​ชุย​ฉาน​ก้มหัว​ทำตัว​ขี้ขลาด​ ไม่ได้​น่าอาย​ตรงไหน​

ส่วน​เรื่อง​ที่ว่า​เหตุใด​ชุย​ฉาน​ถึงกลาย​มาเป็น​เด็กหนุ่ม​ สวรรค์​เท่านั้น​ที่​รู้​ คน​ประหลาด​ทำ​เรื่อง​ประหลาด​ก็​ไม่ถือว่า​เป็นเรื่อง​ปกติ​หรอก​หรือ​?

ก่อน​จะมา เจ้าสำนัก​ได้​เตือน​เขา​กับ​หวง​เจวี้ยน​ไว้​ก่อน​แล้ว​ว่า​หาก​ได้​เจอ​กับ​เด็กหนุ่ม​ชุยตง​ซาน​ที่​เปลี่ยน​ชื่อ​แซ่ แค่​มอง​อีก​ฝ่าย​เป็น​ซิ่ว​หู่​ก็​พอ​

กระทั่ง​บัดนี้​หวง​เจวี้ยน​ถึงได้​สังเกตเห็น​ว่า​ดูเหมือน​ชายฉกรรจ์​ข้าง​กาย​จะสูงขึ้น​ชุ่น​กว่า​ ไม่ถูกสิ​ สูงขึ้น​ถึงสอง​ชุ่น​เต็มๆ​ เลย​ทีเดียว​!

นาง​พลัน​เข้าใจ​ความลี้ลับ​ที่ซ่อน​อยู่​ทันที​ เอ่ย​อย่าง​เดือดดาล​ว่า​ “ซาชิง สมอง​เจ้าถูกลา​ถีบ​แล้ว​หรือ​ไร​ แม้แต่​เรื่อง​แบบนี้​ก็​ยัง​เลียนแบบ​อา​เหลียง​ได้​?!”

ที่แท้​ซาชิงก็​เอาอย่าง​เจ้าชาติ​สุนัข​ผู้​นั้น​ซ่อน​ความลี้ลับ​ไว้​ใน​รองเท้า​

ก่อนหน้านี้​ใคร​บางคน​เคย​พา​บัณฑิต​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​กับ​ผู้เฒ่า​ชุด​เหลือง​ที่​เปี่ยม​ไป​ด้วย​มาด​แห่ง​เซียน​คน​หนึ่ง​มาเยี่ยมเยือน​ทะเลสาบ​เจี่ยว​เย​ว่​ด้วยกัน​

แล้ว​ตอน​ที่นั่ง​อยู่​บน​ขั้นบันได​ ไอ้​หมอ​นั่น​กำลังจะ​ถอด​รองเท้า​ก็​รีบ​สวม​กลับ​ไป​ทันที​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!