กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 905

ภูเขา​บรรพบุรุษ​ของ​เสี่ยว​หลง​ชิว​ สันเขา​เส้นสาย​มังกร​เหมือน​คทา​หรู​อี้​ชิ้น​หนึ่ง​

เบื้อง​ใต้​ต้นสน​โบราณ​ ซือ​ถูเมิ่งจิงคล้าย​จะมั่นใจ​แล้ว​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​จะต้อง​เดินทาง​มาที่นี่​จึงเริ่ม​หลับตา​ทำสมาธิ​ อดทน​รอคอย​ให้​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​คน​นั้น​มาเป็น​แขก​ที่​เสี่ยว​หลง​ชิว​

หวง​ถิงรู้สึก​เบื่อหน่าย​เล็กน้อย​จึงเรียก​ลิ่ง​หู​เจีย​วอ​วี๋​ให้​มาคุย​เล่น​เป็นเพื่อน​ตน​อยู่​ที่นี่​ เพียงแต่ว่า​มีบรรพ​จารย์​ลุง​ไท่​เสวียน​อย่าง​หลง​หรา​น​เซียน​จวิน​ท่าน​นี้​อยู่​ด้วย​ เด็กสาว​หรือ​จะกล้า​เอะอะ​ ไม่ว่า​หวง​ถิงถามอะไร​นาง​ก็​แค่​พยักหน้า​หรือไม่​ก็​ส่ายหน้า​เท่านั้น​ ไม่กล้า​รบกวน​การ​ฝึก​ตน​อย่าง​สงบ​ของ​บรรพ​จารย์​สำนัก​เบื้องบน​เด็ดขาด​

ใน​ฐานะ​ผู้ฝึก​ตน​สำนัก​เบื้องล่าง​ สำหรับ​เรื่องเล่า​อัศจรรย์​พันลึก​มากมาย​ของ​ต้า​หลง​ชิว​ที่​เป็น​สำนัก​เบื้องบน​บ้าน​ตน​ แน่นอน​ว่า​ต้อง​เคย​ได้ยิน​มาจน​ชิน​ เข้าใจ​อย่าง​กระจ่าง​ ทั้ง​ยัง​เอา​มาพูดคุย​กัน​อย่าง​เพลิดเพลิน​

เกี่ยวกับ​เรื่องราว​ของ​หลง​หรา​น​เซียน​จวิน​ท่าน​นี้​ก็​ยิ่ง​มีเรื่อง​ให้​พูด​ไม่หมดสิ้น​ เป็น​สหาย​รัก​กับ​โจว​เสินจือ​เซียน​กระบี่​เฒ่าอดีต​หนึ่ง​ใน​สิบ​คน​ของ​แผ่นดิน​กลาง​ เคย​เข้าร่วม​งานเลี้ยง​สุรา​ของ​ภูเขา​ชิงเสิน​แห่ง​ถ้ำสวรรค์​จู๋ไห่​ เจ้าบุปผา​แห่ง​ชะตาชีวิต​ท่าน​หนึ่ง​ของ​พื้นที่​มงคล​ร้อย​บุปผา​คือ​สาวงาม​คน​รู้ใจ​ของ​เขา​ ไปเที่ยว​เยือน​ภูเขา​ห้อย​หัว​ก็​เคย​มีเรื่อง​เล่าลือ​อัน​ดีงาม​เกี่ยวกับ​การ​ ‘ถก​มรรคา​ท่ามกลาง​ราตรี​หิมะ​ใน​ศาลา​จัว​ฟ่าง’ กับ​เกา​เจิน​ลัทธิ​เต๋า​ที่​ถือ​แส้ปัดฝุ่น​หนวด​มังกร​ซึ่งบรรพ​จารย์​ก็​คือ​ผู้​ไร้​เทียมทาน​ที่​แท้จริง​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิง เข้า​พัก​ที่​ตำหนัก​สุ่ย​จิงหนึ่งในสี่​จวน​ส่วนตัว​ของ​ภูเขา​ห้อย​หัว​ เล่าลือ​กัน​ว่า​ค่อนข้าง​ใกล้ชิด​สนิทสนม​กับ​เทพธิดา​อวิ๋น​เชีย​น​แห่ง​สำนัก​อวี่​หลง​ และ​ยิ่ง​เป็น​สหาย​รัก​ต่างวัย​กับ​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​แห่ง​ธวัล​ทวีป​ที่​เรียก​ตัวเอง​ว่า​ ‘เจ้าของ​สามสิบ​เจ็ด​ยอดเขา​’ แรกเริ่ม​ที่​ฝึก​ตน​ เนื่องจาก​ขอบเขต​ของ​ทั้งสองฝ่าย​ต่างกัน​มาก​ จึงถูก​เทพ​เซียน​ผู้เฒ่า​เรียก​อย่าง​สนิทสนม​ว่า​ ‘สหาย​น้อย​หลง​หรา​น’​ …

กระทั่ง​ซือ​ถูเมิ่งจิงโคจร​ปราณ​วิญญาณ​ครบรอบ​เล็ก​ไป​หนึ่ง​รอบ​ก็​ลืมตา​ขึ้น​ เป็น​ฝ่าย​เปิดปาก​พูด​กับ​เด็กสาว​ด้วย​สีหน้า​เมตตา​ “ฝูสู่ เจ้ายินดี​ติดตาม​ข้า​ไป​ยัง​ต้า​หลง​ชิว​หรือไม่​ ศิษย์​น้อง​เสวียน​จงของ​ข้า​ช่วงนี้​คิด​อยาก​จะรับ​ลูกศิษย์​พอดี​ หากว่า​เจ้ายินดี​ ข้า​ก็​สามารถ​ช่วย​แนะนำ​ให้ได้​”

ฉายา​บน​ภูเขา​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ก็​เหมือน​ชื่อเล่น​ ผู้อาวุโส​เรียก​เช่นนี้​แน่นอน​ว่า​เป็นการ​ยอมรับ​และ​แสดง​ความ​สนิทสนม​อย่างหนึ่ง​

ลิ่ง​หู​เจีย​วอ​วี๋​รีบ​ลุกขึ้น​ยืน​ แน่นอน​ว่า​เด็กสาว​ไม่ยินดี​จะไป​อยู่​ต้า​หลง​ชิว​ เพียงแต่​นาง​ไม่กล้า​พูดความจริง​ใน​ใจออก​ไป​จึงยิ่ง​กระวนกระวาย​มากกว่า​เดิม​

เซิน​ถูเมิ่งจิงยื่นมือ​ออกมา​กด​ลง​บน​ความว่างเปล่า​สอง​ที​ “ไม่ต้อง​ตื่นเต้น​ หาก​ไม่ยินดี​จะไป​ก็​ไม่ต้อง​ไป​ วันหน้า​หาก​อยาก​ไป​เที่ยวเล่น​ที่​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​ก็​สามารถ​ส่งกระบี่​บิน​แจ้งข่าว​ไป​ยัง​เรือ​นอ​วิ๋น​ซิ่ว​แห่ง​ต้า​หลง​ชิว​ก่อน​ได้​”

เรือ​นอ​วิ๋น​ซิ่ว​ก็​คือ​สถานที่​ฝึก​ตน​ใน​ภูเขา​ของ​หลง​หรา​น​เซียน​จวิน​ท่าน​นี้​

บน​ร่าง​ของ​เด็กสาว​คน​นี้​เขา​พอ​จะมองเห็น​เงาร่าง​ของ​ใคร​บางคน​ได้​อย่าง​เลือนราง​ คล้าย​ใช่คล้าย​ไม่ใช่

ลิ่ง​หู​เจีย​วอ​วี๋​รีบ​คารวะ​ขอบคุณ​ทันใด​

เซียน​เห​ริน​แห่ง​แผ่นดิน​กลาง​ท่าน​นี้​พลัน​ลุกขึ้น​ยืน​ “ซือ​ถูเมิ่งจิงผู้ฝึก​ตน​แห่ง​ต้า​หลง​ชิว​คารวะ​เจ้าขุนเขา​เฉิน”​

มือ​ดาบ​ชุด​เขียว​คน​หนึ่ง​พลิ้ว​กาย​มาทาง​หน้าผา​ ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “เฉิน​ผิง​อัน​แห่ง​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ คารวะ​หลง​หรา​น​เซียน​จวิน​”

ด้านหลัง​ยังมี​ผู้ติดตาม​ที่​สวม​หมวก​เหลือง​รองเท้า​เขียว​อีก​คน​ติด​ตามมา​ ใน​มือถือ​ไม้เท้า​เดินป่า​ทิ่ม​ลงพื้น​เบา​ๆ

ก่อนหน้านี้​ไม่นาน​ซือ​ถูเมิ่งจิงเพิ่งจะ​ได้รับ​รายงาน​ขุนเขา​สายน้ำ​ฉบับ​หนึ่ง​จาก​ต้า​หลง​ชิว​ มาจาก​มือ​ของ​สำนัก​ซาน​ไห่​

ใบ​ถงทวีป​ปิด​การสื่อสาร​มากเกินไป​ ก่อนหน้านี้​ก็​สายตา​มอง​สูงไม่เห็น​หัว​ใคร​ รู้สึก​ว่า​นอกจาก​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​แล้วก็​ไม่มีทวีป​ใหญ่​แห่ง​อื่น​อีก​ ทุกวันนี้​กลับ​ต้อง​คอย​จับตามอง​สถานการณ์​ของ​ใต้​หล้า​อย่าง​ไร้​เรี่ยวแรง​ไร้​กะ​จิต​กะ​ใจ

ได้​อ่าน​เนื้อหา​ใน​รายงาน​ฉบับ​นั้น​แล้วก็​ทำให้​เซียน​เห​ริน​อย่าง​เขา​รู้สึก​เหลือเชื่อ​ ไม่กล้า​เชื่อ​สายตา​ตัวเอง​

ลิ่ง​หู​เจีย​วอ​วี๋​ลุกขึ้น​ยืน​พร้อมกับ​บรรพ​จารย์​ รู้สึก​เลอะเลือน​ไป​เล็กน้อย​ ภูเขา​ลั่วพั่ว?​ เจ้าขุนเขา​เฉิน?​

ทำไม​ตน​ถึงไม่เคย​เห็น​ ไม่เคย​ได้ยิน​มาก่อน​ เกิน​ครึ่ง​คง​เป็น​เพราะ​ตน​หู​ตา​คับแคบ​เกินไป​กระมัง​

โต๊ะ​หิน​หนึ่ง​ตัว​ ม้านั่ง​สี่ตัว​

หลง​หรา​น​เซียน​จวิน​ที่​ถือเป็น​เจ้าบ้าน​ชั่วคราว​ พี่​หญิง​หวง​ถิง กับ​แขก​จาก​ภายนอก​อีก​สอง​คน​

ลิ่ง​หู​เจีย​วอ​วี๋​จึงเตรียม​จะขยับ​เท้า​ยก​ที่นั่ง​ให้​ผู้ติดตาม​ของ​เจ้าขุนเขา​เฉิน​

เพียงแต่ว่า​บุรุษ​หนุ่ม​ที่​ถือ​ไม้เท้า​เดินป่า​สีเขียว​ซึ่งยืน​อยู่​ด้านหลัง​มือ​ดาบ​สวม​ชุดก​ว้า​ตัว​ยา​วสี​เขียว​รองเท้า​ผ้า​กลับ​หันมา​ยิ้ม​น้อย​ๆ เอ่ย​กับ​นาง​ “แม่นาง​ลิ่ง​หู​นั่ง​เถิด​”

ซือ​ถูเมิ่งจิงผาย​มือ​ไป​ทาง​เฉิน​ผิง​อัน​ อีก​มือหนึ่ง​จับ​ประคอง​ชาย​แขน​เสื้อ​ “เชิญนั่ง​”

เฉิน​ผิง​อัน​นั่งลง​แล้ว​ยิ้ม​ถาม “ไม่ทราบ​ว่า​หลง​หรา​น​เซียน​จวิน​เรียกหา​ข้า​ มีอะไร​จะสั่งการ​หรือ​?”

ซือ​ถูเมิ่งจิงกึ่ง​ยิ้ม​กึ่ง​บึ้ง​ ไม่เสียแรง​ที่​เป็น​บัณฑิต​ที่​ผู้คน​กล่าวขาน​กัน​ว่า​นิสัย​คล้ายคลึง​กับ​ซิ่ว​ไฉเฒ่ามาก​ที่สุด​ หน้า​ไม่บาง​เลย​จริงๆ​

เซียน​เห​ริน​จาก​แผ่นดิน​กลาง​ท่าน​นี้​มีใบหน้า​ผอม​เป็น​สัน​ มีเครา​งาม ราวกับ​ผู้​ที่​เก็บตัว​สันโดษ​อยู่​ใน​ป่า​เขา​

ต้า​หลง​ชิวอยู่​ใน​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​ ต่อให้​มีเซียน​เห​ริน​สอง​คน​นั่ง​บัญชา​การณ์​ภูเขา​ ทุกวัน​มีเงินทอง​ไหล​มาเท​มา รากฐาน​กำลัง​ทรัพย์​หนาแน่น​ แต่กลับ​ยัง​ถือ​ได้​แค่​ว่า​เป็น​สำนัก​ลำดับ​สอง​ นี่​เป็น​เพราะ​อาณาเขต​ของ​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​กว้างขวาง​อย่าง​มาก​ เกิน​กว่า​ที่​ใคร​จะจินตนาการ​ได้​ถึง อีก​แปด​ทวีป​ที่​เหลือ​ สำนัก​แห่ง​หนึ่ง​มีเซียน​เห​ริน​คนเดียว​ก็​ถือเป็น​จวน​เซียน​เป็น​สำนัก​ ‘ชั้น​สูงสุด​’ อย่าง​สมชื่อ​ได้​แล้ว​ แต่​ที่​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​ สำนัก​ระดับ​สอง​จะเลื่อน​ไป​อยู่​เส้น​แนวหน้า​ได้​หรือไม่​ กลับ​มีปราการ​ใหญ่​เทียมฟ้า​ที่​ยาก​จะข้าม​ผ่าน​ได้​กางกั้น​ นั่น​คือ​บน​ภูเขา​มีขอบเขต​บิน​ทะยาน​หรือไม่​!

ซือ​ถูเมิ่งจิงไม่อยาก​จะเล่น​เจ้าล่อ​เอาเถิด​กับ​อีก​ฝ่าย​ จึงพูด​อย่าง​ตรงไปตรงมา​ว่า​ “เชื่อ​ว่า​เจ้าขุนเขา​เฉิน​ก็​น่าจะ​คุ้นเคย​กับ​เสี่ยว​หลง​ชิว​ของ​พวกเรา​เป็น​อย่าง​ดีแล้ว​ ก่อนหน้านี้​เรื่อง​ที่​ข้า​คุย​กับ​หวง​ถิงก็​น่าจะ​ยิ่ง​ได้ยิน​ชัดเจน​ ขอ​ถามเจ้าขุนเขา​เฉิน​ มีอะไร​จะชี้แนะ​ข้า​หรือไม่​?”

เฉิน​ผิง​อัน​กลับ​ตอบ​ไม่ตรง​คำถาม​ “หาก​จำไม่ผิด​ ต้า​หลง​ชิว​ที่​แผ่นดิน​กลาง​ของ​พวก​ท่าน​ บวก​กับ​ภูเขา​เบื้องล่าง​แห่ง​นี้​ไม่เคย​มีหยก​ดิบ​คน​ใหม่​มานาน​สอง​ร้อย​กว่า​ปี​แล้ว​”

ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​หยก​ดิบ​ของ​ต้า​หลง​ชิว​ใน​ทุกวันนี้​มีแค่​คนเดียว​ ก็​คือ​ผู้คุม​กฎ​ของ​ต้า​หลง​ชิว​ที่​มีฉายา​ว่า​ ‘เสวียน​จง’ ผู้​นั้น​ คือ​ศิษย์​น้อง​ของ​เจ้าสำนัก​และ​ของ​ซือ​ถูเมิ่งจิง

นอกจากนี้​ก็​มีแต่​ ‘ก่อกำเนิด​ผู้เฒ่า​’ จำนวน​หนึ่ง​ที่​อายุ​มาก​แล้ว​ ยกตัวอย่างเช่น​หลินฮุ่ย​จื่อ​ของ​สำนัก​เบื้องล่าง​

เฉวียน​ชิงชิว​นับว่า​ดี​หน่อย​ เพราะ​คุณสมบัติ​ไม่ธรรมดา​ มีหวัง​จะเลื่อน​เป็น​ห้า​ขอบเขต​บน​ เชื่อ​ว่า​นี่​ก็​คือ​จุด​ที่​ทำให้​สำนัก​อย่าง​ต้า​หลง​ชิว​และ​ศาล​บรรพ​จารย์​รู้สึก​ลำบากใจ​

ด้วย​นิสัยใจคอ​ของ​ซือ​ถูเมิ่งจิงต้อง​ไม่มีทาง​รับหน้าที่​เป็น​เจ้าสำนัก​แน่นอน​ ผู้คุม​กฎ​เสวียน​จงที่​มีนิสัย​ฉุนเฉียว​เจ้าอารมณ์​ก็​ยิ่ง​ไม่ยินดี​จะรับ​สืบทอด​ตำแหน่ง​เจ้าสำนัก​

ดังนั้น​หาก​เจ้าสำนัก​ตาย​ไป​ วันใด​ต้อง​สละ​ร่าง​ไป​จาก​โลก​นี้​ ควัน​ธูป​ที่​สืบทอด​ต่อเนื่อง​มานาน​สามพันปี​ของ​ต้า​หลง​ชิวจะ​ทำ​อย่างไร​? ผู้ฝึก​ตน​ของ​สำนัก​หนึ่ง​จะไป​อยู่​ที่ไหน​กัน​? จะหยัดยืน​ใน​แผ่นดิน​กลาง​อย่างไร​?

จะให้​ผู้ฝึก​ตน​ก่อกำเนิด​คน​หนึ่ง​เป็น​เจ้าสำนัก​ก็​คง​ไม่ได้​กระมัง​ จะไม่กลายเป็น​เรื่องตลก​ของ​คน​ทั้ง​ใต้​หล้า​เลย​หรือ​?

ซือ​ถูเมิ่งจิงพยักหน้า​ “คนเรา​ต่อให้​ไร้​ความกังวล​ห่างไกล​ก็​ยัง​ต้อง​มีความ​ทุกข์ใจ​ใกล้เคียง​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “โชคดี​ที่​ต่อให้​จะชักหน้าไม่ถึงหลัง​แค่​ไหน​ แต่​ขอ​แค่​มีหลง​หรา​น​เซียน​จวิน​อยู่​ก็​ยัง​ดีกว่า​จวน​เซียน​ทั้งหลาย​ที่​ถูก​ตัด​อักษร​จงออก​ไป​ อย่าง​มาก​สุด​ก็​แค่​เสียหน้า​ ถูก​โลก​ภายนอก​หัวเราะเยาะ​ไม่กี่​ประโยค​เท่านั้น​”

เดือน​ปี​แห่ง​การสืบทอด​ของ​สำนัก​ มีการ​แบ่ง​ออก​เป็น​อายุ​จริง​กับ​อายุ​ลวง​ ซึ่งก็​ต้อง​ดู​ว่า​มีขอบเขต​หยก​ดิบ​หรือไม่​

ทาง​ฝั่งของ​ศาล​บุ๋น​ได้​ให้​กำหนด​ระยะเวลา​ไว้​ที่สาม​ร้อย​ปี​ หาก​สำนัก​แห่ง​หนึ่ง​ไม่มีหยก​ดิบ​ภายใน​สามร้อย​ปี​ก็​ต้อง​ถูก​ตัด​อักษร​จงออก​ตาม​กฎ​

เพียงแต่ว่า​ต่อให้​เจ้าสำนัก​ผู้เฒ่า​ของ​ต้า​หลง​ชิวสละ​ร่าง​ไป​จาก​โลก​นี้​ มีเซียน​เห​ริน​อายุ​น้อย​อย่าง​ซือ​ถูเมิ่งจิงกับ​ศิษย์​น้อง​อย่าง​เสวียน​จงอยู่​ ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ไม่ถึงขั้น​ตกต่ำ​จน​ต้อง​ไป​คำนวณ​ ‘อายุ​ลวง​’

อันที่จริง​ลิ่ง​หู​เจีย​วอ​วี๋​เงี่ยหู​ตั้งใจฟัง​อยู่​ตลอดเวลา​ มอง​ดูเหมือน​นั่ง​ตัวตรง​อย่าง​สำรวม​ ดวงตา​มอง​ตรง​ไป​ข้างหน้า​ แต่​แท้จริง​แล้ว​กลับ​ปลุก​ความกล้า​ใช้หาง​ตา​แอบมอง​ประเมิน​คน​ชุด​เขียว​ที่อยู่​ข้าง​กาย​แวบ​หนึ่ง​

เจ้าขุนเขา​หนุ่ม​ท่าน​นี้​พูดจา​ยิ้มแย้ม​ พอ​เพิ่ม​ประโยค​ท้าย​ที่​บอ​กว่า​ ‘ถูก​โลก​ภายนอก​หัวเราะเยาะ​ไม่กี่​ประโยค​เท่านั้น​’ เข้าไป​ก็ช่าง​…น่า​เตะ​จริงๆ​

หวง​ถิงมอง​เจ้าคน​ที่​นั่งไขว่ห้าง​ท่วงท่า​ผ่อนคลาย​ พูดคุย​ยิ้มแย้ม​อย่าง​สบายอารมณ์​ผู้​นี้​

นาง​ได้​แต่​ทอดถอนใจ​ หาก​บอ​กว่า​ตน​เป็น​คน​ดวงดี​ เจ้าหมอ​นี่​ก็​ต้อง​บอ​กว่า​เป็น​คน​ดวง​แข็ง​

ปี​นั้น​อยู่​ใน​พื้นที่​มงคล​ดอกบัว​ อันที่จริง​เฉิน​ผิง​อัน​มีขอบเขต​น้อย​นิด​แค่นั้น​ แต่กลับ​สามารถ​อาศัย​กำลัง​ของ​ตัวเอง​คนเดียว​บุก​ฝ่าวงล้อม​สังหาร​หนา​หนัก​ออกมา​ได้​

ไม่พูดถึง​ติง​อิง​ที่​ ‘ใต้​หล้า​ไร้​ศัตรู​เทียมทาน​’ พูดถึง​แค่​โจว​เฝย​ ลู่​ฝ่าง มีใคร​บ้าง​ที่​เป็น​ตะเกียง​ประหยัด​น้ำมัน​

อันที่จริง​ตอน​ที่อยู่​ใต้​หล้า​ห้า​สี หวง​ถิงเคย​ไป​เยือน​นคร​บิน​ทะยาน​มารอบ​หนึ่ง​ บน​โต๊ะ​เหล้า​ของ​ที่​แห่ง​นั้น​ ขอ​แค่​ผู้ฝึก​กระบี่​พูดถึง​อิ่น​กวาน​คน​สุดท้าย​แห่ง​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ต่าง​ก็​ต้อง​มีท่าที​แปลกใหม่​ให้​เห็น​กัน​อยู่​เสมอ​ ไม่มีทาง​อยู่​ตรงกลาง​ดั่ง​คำ​ว่า​ ‘อย่างไร​ก็ได้​’ แน่นอน​

เฉิน​ผิง​อัน​มอง​กระดาน​หมาก​บน​โต๊ะ​แล้ว​เอ่ย​อย่าง​ไม่ใส่ใจว่า​ “ดังนั้น​หาก​หลง​หรา​น​เซียน​จวิน​คิด​จะตัดสินใจ​เด็ดขาด​เก็บกวาด​ทำความสะอาด​บ้าน​ตัวเอง​ จัด​การก่อกำเนิด​ของ​เสี่ยว​หลง​ชิว​ไป​พร้อมกัน​ทีเดียว​สอง​คน​จริงๆ​ ก็​จะทำให้​สูญเสีย​พลัง​ต้นกำเนิด​อย่าง​มาก​ คนใกล้ชิด​เจ็บปวด​ศัตรู​สะใจ หาก​ไม่ทัน​ระวัง​ก็​อาจ​ถึงขั้น​เดือด​น​ร้อน​ให้​สำนัก​สูญเสีย​แดน​บิน​ใน​ทวีป​อื่น​แห่ง​นี้​ไป​ เชื่อ​ว่า​นี่​ก็​คง​เป็น​เหตุผล​ที่​หลง​หรา​น​เซียน​จวิน​ไม่ยอม​ลงมือ​เสีย​ ไม่เป็น​เจ้าขุนเขา​ของ​ต้า​หลง​ชิว​ก็​รู้สึก​ละอายใจ​ต่อ​บรรพ​จารย์​แต่ละ​ยุค​แต่ละ​สมัย​มาก​พอแล้ว​ หาก​ยัง​ต้อง​ทำลาย​รากฐาน​ของ​สำนัก​เบื้องล่าง​กับ​มือ​ตัวเอง​อีก​ ไม่ว่า​เปลี่ยน​มาเป็น​ใคร​ก็​ต้อง​กลุ้มใจ​กัน​ทั้งนั้น​”

ซือ​ถูเมิ่งจิงเงียบงัน​ไม่เอ่ย​อะไร​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!