กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 910

เหนือ​มหาสมุทร​ใหญ่​ หลังจากที่​เรื่อง​เซียน​กระบี่​ร่วมมือ​กัน​ลาก​ดวงจันทร์​ผ่าน​ไป​ได้​ไม่นาน​เท่าไร​ เรือข้ามฟาก​ขุนเขา​ลำ​หนึ่ง​ก็​พุ่ง​ทะยาน​ไป​กลางอากาศ​ ใกล้​กัน​ยังมี​เรือ​กระบี่​ของ​ต้า​หลี​อีก​สอง​ลำ​คอย​ให้การ​คุ้มกัน​

ตัว​เรือ​ใหญ่โตมโหฬาร​ มืด​ฟ้าบัง​ดิน​ ลอย​ผ่าน​กลางอากาศ​เหนือ​เกาะ​กุ้ยฮ​วา​พอดี​

เรือข้ามฟาก​ตระกูล​เซียน​ทุก​ลำ​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ที่​สามารถ​เดินทางไกล​ข้าม​ทวีป​ได้​ได้​ถูก​ศาล​บุ๋น​และ​ราชสำนัก​ต้า​หลี​ยืม​ไป​ใช้นาน​แล้ว​ เกาะ​กุ้ยฮ​วา​ของ​ตระกูล​ฟ่าน​นคร​มังกร​เฒ่าก็​ไม่ใช่ข้อยกเว้น​

เพียงแต่ว่า​หลังจากที่​การประชุม​ศาล​บุ๋น​สิ้นสุดลง​ได้​ไม่นาน​ ตระกูล​ฝูนคร​มังกร​เฒ่าก็ได้​ยืม​เรือข้ามฟาก​ที่​สร้าง​ใหม่​มาจาก​ธวัล​ทวีป​และ​หลิว​เสีย​ทวีป​อย่าง​ละ​ลำ​ เพื่อ​นำมาใช้​ประคับประคอง​เส้น​ทางการ​ทำการค้า​

เรื่อง​แบบนี้​แม้จะตก​เป็นที่​ต้องสงสัย​ว่า​ฉวยโอกาส​ไขว่คว้า​หา​ผล​ประโยชน์ส่วนตัว​ แต่กลับ​ได้รับ​การอนุญาต​จาก​ศาล​บุ๋น​แผ่นดิน​กลาง​ ไม่ถือว่า​ละ​มิด​กฎ​ นี่​จึงเป็นเหตุให้​ตระกูล​เซียน​อักษร​จงหลาย​แห่ง​ที่​สามารถ​สร้าง​เรือ​ข้าม​ทวีป​ได้​ด้วย​กองกำลัง​ของ​ตัวเอง​ถกเถียง​กัน​ไม่น้อย​

บน​เกาะ​กุ้ยฮ​วา​ เรือน​พัก​ส่วนตัว​ขนาดเล็ก​แห่ง​หนึ่ง​ที่​มีชื่อว่า​เรือน​กุย​ม่าย​

กุ้ยฮู​หยิน​นวด​คลึง​หว่าง​คิ้ว​ ช่วงนี้​นาง​ถูก​เจ้าเซียน​ฉาผู้​นั้น​ก่อกวน​จน​รำคาญใจ​อย่างยิ่ง​

จิน​ซู่กลั้น​ขำ​อย่าง​ยากลำบาก​

ที่แท้​การ​พบ​เจอกัน​อีกครั้ง​ที่​ศาล​บุ๋น​แผ่นดิน​กลาง​ก่อนหน้านี้​ เซียน​ฉาได้​เอ่ย​ความในใจ​ให้​ฟัง กุ้ยฮู​หยิน​เห็น​ว่า​เขา​จริงใจ​จึงยอม​ถอย​ให้​เล็กน้อย​ เอ่ย​ถ้อยคำ​เกรงใจ​ตามมารยาท​บอ​กว่า​เขา​จะไป​นั่งเล่น​ที่​เกาะ​กุ้ยฮ​วา​บ้าง​ก็ได้​

ตอนนั้น​นาง​มีการพิจารณา​เป็น​ของ​ตัวเอง​ ฟ่านจวิ้น​เม่าที่​เป็น​ถึงซาน​จวิน​ใหญ่​ของ​มหา​บรรพต​ทักษิณ​ ขอบเขต​ถดถอย​จาก​หยก​ดิบ​ไป​ถึงประตู​มังกร​ ดังนั้น​ตระกูล​ฟ่าน​จึงต้องการ​ผู้​ถวายงาน​ห้า​ขอบเขต​บน​อย่าง​เร่งด่วน​ และ​คนพาย​เรือ​เฒ่าที่​คอย​คุ้มกัน​ให้​เรือ​ข้าม​ทวีป​ลำ​นี้​ล่อง​ผ่าน​ร่อง​เจียว​หลง​อย่าง​ปลอดภัย​มานาน​หลาย​ปี​ก็​เป็น​ลูกศิษย์​ของ​เซียน​ฉาพอดี​ กุ้ยฮู​หยิน​จึงหวัง​ว่า​เซียน​ฉาจะช่วย​ชี้แนะ​ด้าน​การ​ฝึก​ตน​ให้​กับ​ลูกศิษย์​มาก​หน่อย​

แต่​กุ้ยฮู​หยิน​คิดไม่ถึง​เลย​ว่า​ คำ​ว่า​ ‘บ้าง​’ ที่​นาง​เอ่ย​ออก​ไป​ กับ​คำ​ว่า​บ้าง​ที่​เซียน​ฉาเข้าใจ​จะเป็น​คนละเรื่อง​กัน​เลย​

ก่อนหน้านี้​นาง​ได้รับ​จดหมาย​ขออภัย​ฉบับ​หนึ่ง​ที่​เขียน​ด้วย​ลายมือ​ของ​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ซึ่งอยู่​ใน​การคาดการณ์​ของ​นาง​อยู่แล้ว​

แรกเริ่ม​กุ้ยฮู​หยิน​ยัง​รู้สึก​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​คิดมาก​ไป​ แต่​ตอนนี้​นาง​เริ่ม​รู้สึก​แล้ว​ว่า​หาก​เฉิน​ผิง​อัน​กล้า​มาที่​เกาะ​กุ้ยฮ​วา​ นาง​ก็​กล้า​ไล่​คน​โดยตรง​

เสียงเคาะ​ประตู​ดัง​ขึ้น​ที่​เรือน​เล็ก​ ไม่มาก​ไม่น้อย​ เคาะ​สามครั้ง​พอดี​

กุ้ยฮู​หยิน​ขมวดคิ้ว​น้อย​ๆ มีคน​ขยับ​เข้าใกล้​ประตู​เรือน​ แต่​ตน​กลับ​สัมผัส​ไม่ได้​เลย​แม้แต่น้อย​

จิน​ซู่ลุกขึ้น​เตรียม​จะเดิน​ไป​เปิด​ประตู​ กุ้ยฮู​หยิน​กลับ​โบกมือ​ บอก​ให้​ลูกศิษย์​นั่ง​อยู่​ที่​เดิม​ ตัวเอง​โบก​ชาย​แขน​เสื้อ​หนึ่ง​ครั้ง​เปิด​ประตู​เรือน​ออก​

ตรงหน้า​ประตู​มีนักพรต​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​ยืน​อยู่​ อีก​ฝ่าย​คลี่​ยิ้ม​เจิดจ้า​ โบกมือ​เหวี่ยง​แขน​มาทาง​อาจารย์​และ​ศิษย์​สอง​คน​ที่อยู่​ใน​ลานบ้าน​

เรือข้ามฟาก​ตระกูล​ฟ่าน​ลำ​นี้​ไม่รับ​ผู้โดยสาร​ระหว่างทาง​ จิน​ซู่มอง​กวาน​เต๋า​ของ​นักพรต​หนุ่ม​เห็น​ว่า​เป็น​กวาน​ดอกบัว​ นาง​จึงคิด​ไป​ว่า​อีก​ฝ่าย​เป็น​นักพรต​ของ​สำนัก​โองการ​เทพ​ที่​ออกเดินทาง​หา​ประสบการณ์​

แจกัน​สมบัติ​ทวีป​มีเพียง​นักพรต​ของ​สำนัก​โองการ​เทพ​เท่านั้น​ที่​กวาน​เต๋า​ซึ่งสวม​บน​ศีรษะ​จะมีทั้ง​กวาน​หางปลา​และ​กวาน​ดอกบัว​

แต่​ตาม​หลัก​แล้ว​ ครั้งนี้​เกาะ​กุ้ยฮ​วา​เดิน​ทางผ่าน​กุย​ซวี​เส้น​นั้น​กลับ​จาก​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​มายัง​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ บน​เกาะ​ไม่มีผู้โดยสาร​คนอื่น​ ยิ่ง​ไม่ควร​มีนักพรต​ถึงจะถูก​

กุ้ยฮู​หยิน​ไม่เอ่ย​อะไร​ หลังจาก​ลุกขึ้น​ยืน​แล้วก็​เพียงแค่​ยอบ​กาย​คารวะ​

จิน​ซู่รีบ​ลุกขึ้น​ตาม​อาจารย์​

นักพรต​หนุ่ม​รับ​ค้อม​เอว​คารวะ​กลับคืน​ ยืดตัว​ขึ้น​แล้วก็​เอ่ย​อย่าง​ปลงอนิจจัง​ว่า​ “จากลา​กัน​พันปี​แล้ว​พันปี​เล่า​ โชคดี​ที่​ความงาม​ของ​กุ้ยฮู​หยิน​ยัง​คงเดิม​ ทำให้​คน​เห็น​แล้ว​ลืม​ความ​สามัญ”

กุ้ยฮู​หยิน​ยิ้ม​บาง​ๆ ไม่เอ่ย​อะไร​

นักพรต​หนุ่ม​เดิน​อาด​ๆ เข้ามา​ใน​ลานบ้าน​ “นี่​คง​เป็น​แม่นาง​จิน​ซู่กระมัง​ ซุน​เจีย​ซู่ได้​แต่ง​แม่นาง​จิน​ซู่เป็น​ภรรยา​ ช่างเป็น​คู่สร้างคู่สม​กัน​จริงๆ​”

ต้น​กุ้ย​ใน​อาราม​จิน​กุ้ย​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ถูก​ผู้ฝึก​ตน​บน​ภูเขา​รุ่นหลัง​จำนวนมาก​มอง​เป็น​เผ่าพันธุ์​ตำหนัก​ดวงจันทร์​สาย​ดั้งเดิม​ ก็​เป็น​นักพรต​ผู้​นี้​ที่​ใน​อดีต​ล่องเรือ​ออก​ทะเล​ได้​เจอ​กับ​เกาะ​กุ้ยฮ​วา​กลางทาง​โดยบังเอิญ​ จึงมาขอ​กิ่ง​กุ้ย​จาก​ที่นี่​ไป​สอง​สามกิ่ง​ ภายหลัง​ขึ้นฝั่ง​ที่​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ เดิน​ทางผ่าน​อาราม​จิน​กุ้ย​จึงร่าย​ฝีมือ​ของ​ ‘เซียน​เห​ริน​’ ไป​รอบ​หนึ่ง​ แล้ว​ยัง​เป็น​ยาย​หวัง​ขาย​แตง​ที่​ขาย​เอง​ชมเอง​ด้วย​

ก็​เขา​ว่างงาน​มาก​จริงๆ​ นี่​นะ​

เพียงแต่ว่า​ไม่ว่า​อย่างไร​กุ้ยฮู​หยิน​ก็​คิดไม่ถึง​ว่า​ลู่​เฉิน​ที่​ไป​ยัง​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ ตอนนั้น​จะว่างงาน​จนได้​กลายเป็น​ลูกศิษย์​คน​เล็ก​ของ​มรรคา​จารย์​เต๋า​ เป็น​เจ้าลัทธิ​สามของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิง

ในความเป็นจริง​แล้ว​ท่ามกลาง​การ​เดินทาง​หา​ประสบการณ์​ครั้งนั้น​ ลู่​เฉิน​ยัง​ได้​เจอ​กับ​เจ้าสำนัก​ของ​สำนัก​โองการ​เทพ​ในเวลานั้น​ จึงได้​ช่วย​ชี้แนะ​มรรค​กถา​บางส่วน​ให้​กับ​นักพรต​น้อย​ที่​ปี​นั้น​เพิ่งจะ​ขึ้น​เขา​ฝึก​ตน​

และ​นักพรต​น้อย​คน​นั้น​ก็​แซ่ฉีนาม​เจิน​

จิน​ซู่ย่อม​ไม่รู้​ถึงตัวตน​ของ​นักพรต​หนุ่ม​ผู้​นี้​

ต่อให้​อีก​ฝ่าย​บอกกล่าว​ตัวตน​อย่าง​ชัดเจน​ คาด​ว่า​นาง​เอง​ก็​คง​ไม่กล้า​เชื่อ​

ก่อนที่​นักพรต​หนุ่ม​จะนั่งลง​ได้​เหลียว​ซ้าย​แล​ขวา​ไป​รอบ​หนึ่ง​ แล้ว​ยิ้ม​ถามว่า​ “ไม่บังเอิญ​ขนาด​นี้​เชียว​ เหล่า​กู้​ไม่ได้​อยู่​บน​เรือ​ลำ​นี้​หรือ​?”

ที่แท้​ก็​คือ​ลู่​เฉิน​ที่​หลัง​ออก​มาจาก​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ก็​ไม่ได้​รีบร้อน​กลับ​ไป​ที่​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ แต่​ทำตาม​ข้อตกลง​ที่​ให้​ไว้​กับ​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​อย่าง​เคร่งครัด​ นั่น​คือ​จะต้อง​ไป​เยือน​ภูเขา​เมฆาเรือง​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​รอบ​หนึ่ง​

และ​ความเร็ว​ใน​การ​ทะยาน​ลม​เดินทาง​ของ​เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงนั้น​ก็​ต้อง​เรียก​ว่า​เหมือนกับ​…เต่า​คลาน​

กุ้ยฮู​หยิน​เอ่ย​อย่าง​อ่อนใจ​ว่า​ “เจ้าลัทธิ​ลู่​รู้​อยู่แล้ว​ไย​ต้อง​แกล้ง​ถาม”

ก็​ไม่ใช่เพราะว่า​เขา​ไม่อยู่​ เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงอย่าง​ท่าน​ถึงได้​ยินดี​ปรากฏตัว​หรือ​ไร​?

ลู่​เฉิน​นั่งลง​แล้ว​ใช้นิ้ว​เคาะ​โต๊ะ​ ความหมาย​ชัดเจน​อย่างยิ่ง​ สุรา​ล่ะ​

จิน​ซู่จึงใช้เสียง​ใน​ใจสอบถาม​อาจารย์​ว่า​จะให้​เอา​เหล้า​กุ้ยฮ​วา​มารับรอง​แขก​สัก​สอง​สามไห​ดี​หรือไม่​ แน่นอน​ว่า​กุ้ยฮู​หยิน​ไม่ตอบ​ตกลง​ นาง​ไม่ยินดี​จะคบค้าสมาคม​กับ​เจ้าลัทธิ​สามผู้​นี้​บน​เกาะ​กุ้ยฮ​วา​มาก​เกินควร​

เซียน​ฉาผู้​นั้น​ หรือ​กู้​ชิงซงที่​มีชื่อเสียง​เลื่องลือ​ไป​ทั่ว​ทั้ง​ใต้​หล้า​ไพศาล​ก็​ไม่ใช่ว่า​เป็น​ลู่​เฉิน​ที่​พา​ขึ้น​เกาะ​กุ้ยฮ​วา​มาใน​ปี​นั้น​หรอก​หรือ​?

“มอง​ภูเขา​จาก​บน​หอ​ มอง​หิมะ​จาก​บน​ภูเขา​ มอง​ดวงจันทร์​ท่ามกลาง​หิมะ​ ใต้​แสงจันทร์​เห็น​สาวงาม​ ต่าง​ก็​เป็น​คนละ​ฉาก​คนละ​ตอน​”

ลู่​เฉิน​ใช้นิ้ว​ทั้ง​ห้า​ผลัดกัน​เวียน​เคาะ​โต๊ะ​หิน​จน​ครบ​ พูด​พึมพำ​กับ​ตัวเอง​ว่า​ “ขึ้น​สิบห้า​ค่ำคืน​วันที่​ดวงจันทร์​งามสุด​บน​ฟ้า วลี​ของ​หลิ่ว​ชีคือ​ถ้อยคำ​ที่​งามที่สุด​แห่ง​ตัวอักษร​ เกาะ​กุ้ยฮ​วา​คือ​สิ่งที่​งามที่สุด​ใน​บรรดา​ขุนเขา​สายน้ำ​”

กุ้ยฮู​หยิน​เอ่ย​เตือน​ว่า​ “เจ้าลัทธิ​ลู่​ มีธุระ​อะไร​ก็​พูด​มาเถิด​ หาก​ไม่มีธุระ​ข้า​คง​ไม่ไป​ส่งท่าน​แล้ว​”

ลู่​เฉิน​หัวเราะ​ฮ่าๆ “ผิน​เต้า​ไม่จน​ใคร​จะจน​ (ภาษาจีน​คือ​ผิน​เต้า​ปู้​ผิน​เสย​ผิน​ คำ​ว่า​ผิน​เต้า​ ตรง​กับ​คำ​ว่า​ผิน​ที่​แปล​ว่า​ยากจน​ ประโยค​นี้​จึงเป็น​การเล่นคำ​) กุ้ยฮู​หยิน​โปรด​อภัย​ให้​ด้วย​”

ใน​ใจจิน​ซู่เกิด​ข้อสงสัย​ อาจารย์​เรียก​นักพรต​ท่าน​นี้​ว่า​เจ้าลัทธิ​ลู่​อย่างนั้น​หรือ​?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!