ขยับเข้าใกล้ยอดเขา มีซากปรักจวนเซียนเก่าแก่แห่งหนึ่งตั้งอยู่ มีการจัดวางตราผนึกขุนเขาสายน้ำหนาชั้น หน้าประตูยังมีหินกลมอีกสองลูก รูปร่างเหมือนกลองหินตามธรรมชาติ หากผู้ฝึกตนเคาะจะมีเสียงดัง แยกกันแกะสลักเป็นคำว่า ‘ระฆังเทพ’ กับ ‘รากเมฆ’
ในใจหวงจงโหวเกิดความระแวดระวัง เพราะนักพรตผู้นี้ดันบังเอิญมาเยือนที่แห่งนี้พอดี
ลู่เฉินมองกลองหินที่อยู่ตรงหน้าประตูแล้วถอนหายใจ รอยแกะสลักยังใหม่เอี่ยม เพียงแต่ว่าผู้คนเรื่องราวและร่องรอยความศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลเซียนได้เป็นเหมือนเมฆและควันที่ลอยผ่านตาไปแล้ว
ล่างภูเขามีการบอกลาปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เรียกว่าด่านปี การบอกลาสิ่งเก่าต้อนรับสิ่งใหม่ของบนภูเขาคือด่านใจ
ลืมไปแล้วว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์คนใดกล่าวไว้
น่าจะเป็นผินเต้าเองกระมัง
ลู่เฉินหันหน้ามายิ้มเอ่ย “สหายแห่งยอดเขาเกิงอวิ๋น แอบสะกดรอยตามผินเต้าอย่างลับๆ ล่อๆ มาตลอดทาง อยู่ในสถานที่ที่เรียกฟ้าฟ้าไม่ขาน เรียกดินดินไม่ตอบแห่งนี้ สหายคิดจะปล้นชิงทรัพย์สินกันหรือไร?”
หวงจงโหวเผยกาย เอ่ยว่า “สหายท่านนี้ ไม่สู้ติดตามข้าไปที่ภูเขาบรรพบุรุษของเมฆาเรือง ไปพบเจออาจารย์ข้าสักหน่อยดีไหม?”
เหวยลี่ผู้คุมกฎของภูเขาเมฆาเรืองก็คือผู้ถ่ายทอดมรรคาของหวงจงโหว
ลู่เฉินโบกมือ “ช่างเถิดๆ บรรพจารย์อวิ๋นเสียของพวกเจ้า ทุกวันนี้ไม่ได้อยู่บนภูเขา ผินเต้าก็ไม่มีคนรู้จักเก่าให้พูดคุยรำลึกความหลังกันแล้ว”
หวงจงโหวสะอึกอึ้งไปทันใด
เซียนผู้เฒ่าอวิ๋นเสียก็คือบรรพจารย์บุกเบิกภูเขาของภูเขาเมฆาเรือง แน่นอนว่าต้องสละร่างจากโลกนี้ไปนานหลายปีแล้ว ลูกศิษย์ผู้สืบทอดหลายคนของเขาอาศัยการแตกกิ่งก้านสาขาของใครของมัน ถึงได้ทำให้มีสถานการณ์ยิ่งใหญ่อันดีงามที่เมฆาเรืองมีสิบหกยอดเขาอยู่ในแจกันสมบัติทวีปอย่างทุกวันนี้ได้
และการที่ภูเขาเมฆาเรืองมีวิชาเซียนใกล้เคียงกับพระธรรม นี่ก็เกี่ยวพันไปถึงเรื่องวงในอย่างหนึ่งที่มีประวัติศาสตร์ยาวไกล เพราะต่างก็พูดกันว่าแท้จริงแล้วบรรพจารย์อวิ๋นเสียมีชาติกำเนิดจากวัดเสวียนคงแผ่นดินกลาง แต่กลับไม่ใช่ภิกษุ เป็นบุคคลพิเศษบางอย่าง
ลู่เฉินแสร้งทำมือเป็นท่ากำไม้เท้าจิ้มลงไปบนพื้นเบาๆ ยิ้มบางๆ เอ่ยว่า “มู่ซ่างจั้ว (คำเรียกไม้เท้าที่ทำจากไม้) ใช่หรือไม่ใช่?”
หวงจงโหวไม่แน่ใจว่านักพรตผู้นี้แค่แสร้งมาทำเป็นเร้นลับซับซ้อนที่นี่หรือว่ามีเรื่องนี้แบบอยู่จริงๆ กันแน่
ลู่เฉินจุ๊ปาก “ดูจากท่าทางเลอะเลือนไม่เข้าใจของภิกษุจ้างเอ้ออย่างเจ้า ไม่เหมือนจะเสแสร้ง ดูท่าปีนั้นสหายอวิ๋นเสียของผินเต้าจะไม่สะดวกแพร่งพรายรากฐานมหามรรคาของลูกศิษย์ผู้สืบทอดของตัวเองให้คนอื่นรู้ อันที่จริงนี่ก็ไม่ได้มีอะไรให้ต้องลำบากใจ ควรจะต้องเขียนตัวอักษรใหญ่น้ำหมึกเข้มๆ ลงไปในบทนำของทำเนียบศาลบรรพจารย์ภูเขาเมฆาเรืองพวกเจ้าถึงจะถูก”
ก่อนหน้าที่บรรพจารย์อวิ๋นเสียยังไม่ออกมาจากวัดเสวียนคง ลู่เฉินก็ยังไม่ได้ล่องเรือออกทะเล เคยได้เจอกับภิกษุเหลี่ยวหรานครั้งหนึ่ง มรรคกถากับพระธรรม ต่างคนต่างพูดของตัวเองไป แต่หากใช้คำพูดของลู่เฉินก็คือเป็นการพูดคุยที่ ‘เจินเหรินลัทธิเต๋าไม่ขาดพระธรรม มังกรคชสารของลัทธิพุทธก็รู้เต๋า’ น้ำชารสชาติเจือจางสองถ้วย พูดคุยกันอย่างถูกคอ
และร่างจริงของบรรพจารย์อวิ๋นเสีย ในอดีตก็คือไม้เท้าที่อยู่ในมือของเจ้าอาวาสวัดเสวียนคงนั่นเอง
ภิกษุเหลี่ยวหรานเคยใช้ ‘มู่ซ่างจั้ว’ ในมือตีไหล่ของลู่เฉินเบาๆ หนึ่งที
ลู่เฉินไม่หลบเลี่ยง ถือเป็นการมอบวาสนาในการเปิดสติปัญญาให้กับ ‘มู่ซ่างจั้ว’ ด้ามนั้น
นี่ถึงได้มีคดีลัทธิพุทธ ‘ไม้ฟาดจนลู่เฉินต้องออกจากประตูไป’ ในโลกยุคหลังของใต้หล้าไพศาล
ลู่เฉินยกมือขึ้นทำท่าแหงนหน้าดื่มเหล้า
หวงจงโหวลังเลเล็กน้อย แต่ก็ยังโยนเหล้าชุนคุ่นกาหนึ่งที่หลอมด้วยกรรมวิธีลับของภูเขาเมฆาเรืองไปให้
ลู่เฉินเปิดผนึกดิน สูดกลิ่น สีหน้าเต็มไปด้วยความเคลิบเคลิ้ม ยิ้มจนตาหยี “เป็นเหล้าดีจริงๆ”
หวงจงโหวเอ่ย “ดื่มเหล้าแล้วก็รบกวนเจินเหรินไปที่ศาลบรรพจารย์ด้วยกันรอบหนึ่ง”
คราวก่อนคนต่างถิ่นที่บุกเข้าประตูภูเขามาผู้นั้น ตอนหลังได้ไปหาไช่จินเจี่ยนที่ยอดเขาลวี่กุ้ยจริงๆ หวงจงโหวถึงได้ไม่ตอแยเขาต่อ
ลู่เฉินพยักหน้ารับ “ก็ดีเหมือนกัน ผินเต้าต้องการคุยธุระกับบรรพจารย์ลุงเจ้าขุนเขาของเจ้าสักหน่อย มีคนช่วยนำทาง ผินเต้าจะได้ไม่เป็นเหมือนแมลงวันไร้หัวพุ่งชนสะเปะสะปะ”
หวงจงโหวกล่าว “หวังว่าเจินเหรินจะทำตามที่พูด จะได้ไม่ทำลายความปรองดองที่มีต่อกัน”
ลู่เฉินเพียงยิ้มรับ ชี้ไปที่ประตูจวน ถามว่า “พื้นที่ฮวงจุ้ยมงคลที่เหมาะจะนำมาทำเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมที่สุดแห่งนี้กลับต้องปิดประตูอยู่ตลอด ไม่เสียดายหรือ?”
หวงจงโหวอธิบาย “เจ้าขุนเขารุ่นที่สองเป็นคนปิดประตูด้วยตัวเอง ก่อนจะจากไปยังมีคำสั่งบอกไว้ว่า ในอนาคตหากผู้ฝึกตนของภูเขาเมฆาเรืองไม่มีใครเลื่อนเป็นห้าขอบเขตบนได้ก็ห้ามเปิดประตูบานนี้ ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปฝึกตนในจวนลับแห่งนี้”
เรื่องนี้ไม่ถือเป็นความลับอะไรของสำนัก ผู้ฝึกตนทั้งทวีปล้วนรู้กันดี มีกองกำลังบนภูเขาจำนวนไม่น้อยที่ไม่ถูกกับภูเขาเมฆาเรืองมักจะชอบเอาเรื่องนี้มาพูดเหน็บแนม หัวเราะเยาะภูเขาเมฆาเรือง บอกว่าในจวนมีสมบัติพิทักษ์ภูเขาระดับขั้นอาวุธเซียนอยู่ชิ้นหนึ่ง แค่เปิดประตูก็จะกลายเป็นผู้ไร้ศัตรูทัดเทียมในหนึ่งทวีป หรือไม่ก็พูดเสียดสีว่าอันที่จริงบรรพจารย์บุกเบิกภูเขาของภูเขาเมฆาเรืองพวกเจ้า เป็นผู้ฝึกตนใหญ่ขอบเขตบินทะยานของแจกันสมบัติทวีปพวกเรามาตั้งนานแล้ว แต่กลับจงใจปิดด่านไม่ยอมออกมา ขอแค่บรรพจารย์ยินดีออกจากด่าน หมัดต่อยเท้าเตะ แม้แต่สำนักโองการเทพก็ยังสู้ไม่ได้
ลู่เฉินได้ยินก็สำลักเหล้าทันที ใช้ชายแขนเสื้อเช็ดปาก ยิ้มเอ่ย “ช่างหลอกได้ทั้งอาจารย์และศิษย์ลูกศิษย์หลานจริงๆ แม้ว่าความตั้งใจจะดี แต่ความหวังดีนี้ก็หนีไม่พ้นหวังให้ผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์อย่างพวกเจ้าพยายามให้มากขึ้น ตั้งใจฝึกตนให้ดี ไม่ว่าอย่างไรก็ควรฝึกจนได้หยกดิบมาครอง ถึงเวลานั้นเมื่อประตูเปิดออก ยึดครองจวนแห่งนี้ตั้งใจฝึกตน ไม่แน่ว่าอาจจะมีเซียนเหรินเพิ่มมาอีกคนหนึ่งก็เป็นได้”
หวงจงโหวเงียบไม่ต่อคำ
ลู่เฉินหยุดคิดไปพักหนึ่ง มือหนึ่งถือกาเหล้า มือหนึ่งทำมุทรา “ในเมื่อใครผูกก็ต้องแก้เอง ถ้าอย่างนั้นคนที่จะเปิดประตูก็ต้องเป็นคนที่ปิดมัน”
หวงจงโหวส่ายหน้า “หลังจากที่บรรพจารย์ท่านนั้นสละร่างจากไป ปีนั้นมีการไปตามหาตัวคนที่เขาไปจุติเกิดใหม่ที่นอกภูเขาจนเจอจริง แต่น่าเสียดายที่สติปัญญาของบรรพจารย์ยังไม่เปิดออก ตบะหยุดอยู่ที่ขอบเขตประตูมังกร เมื่อตายไปอีกครั้งก็ไม่ได้ข่าวคราวเกี่ยวกับเขาอีก”
ลู่เฉินพยักหน้า ไม่อนุมาน ‘ทางมาและทางออก’ ของบรรพจารย์รุ่นที่สองของภูเขาเมฆาเรืองท่านนั้นอีกต่อไป สะบัดมือ “วัวปั้นดินจมลงสู่ทะเล จะหาเจอได้อย่างไร”
การฝึกตนกลัวการไม่มีทางออกที่สุด ส่วนการเป็นคนทางที่ดีที่สุดควรมีทางมา
คำพูดโบราณบางอย่างที่บอกต่อกันปากต่อปากสามารถมีอายุได้ยาวนานยิ่งกว่าคนแก่ แน่นอนว่าต้องมีเหตุผล ยกตัวอย่างเช่นบรรพบุรุษสะสมบุญกุศล ลูกหลานได้อาศัยร่มเงา
เวลานี้หวงจงโหวเริ่มเชื่อผู้ฝึกตน ‘หนุ่ม’ ที่อยู่ตรงหน้าบ้างแล้ว เกินครึ่งน่าจะเป็นยอดฝีมือคนหนึ่งที่มรรคกถาลึกล้ำ อีกทั้งยังมีความเกี่ยวข้องกับภูเขาเมฆาเรืองด้วย
ลู่เฉินหมุนตัวไปมองทะเลเมฆกว้างใหญ่ไพศาลของยอดเขาเกิงอวิ๋น ดื่มเหล้าเงียบๆ สะสมบทกวีไว้ในท้องเยอะเกินไป จึงไม่รู้ควรว่าจะพลิกเอาบทไหนคำไหนออกมาให้สหายที่อยู่ข้างกายได้เปิดหูเปิดตาดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!