กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 912

เหลาสุราแห่งอื่นในนครบินทะยาน ไม่รู้ว่าไปเอาเหล้าภูเขาชิงเสินของจริงที่ซื้อมาในราคาสูงมาจากไหน ถูกมองเป็นสมบัติพิทักษ์ร้าน แน่นอนว่าก็มีความหมายว่าจะขึ้นเวทีประลองกับร้านเหล้าขนาดเล็กแห่งนั้นเช่นกัน ขายเป็นตำลึง ผลคือเพียงไม่นานก็มีคนไปให้การสนับสนุน หลังจากดื่มไปหนึ่งจอกกลับสบถด่าแล้วเตรียมจะจากไป เกือบจะไม่ยินดีควักเงินจ่ายค่าเหล้าแล้วด้วยซ้ำ

เหล้าปลอม ขายเหล้าปลอม! เหล้าภูเขาชิงเสินไม่ใช่รสชาตินี้เลย!

แต่ละคนเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ทั้งบนโต๊ะในร้านเหล้าและข้างทาง คนกลุ่มใหญ่พากันพยักหน้ารัวๆ เป็นไก่จิกเมล็ดข้าวเปลือก

เถ้าแก่ร้านเหล้าร้านนั้นใกล้จะเป็นบ้าเต็มทีแล้ว

กระทั่งบัดนี้เพิ่งขายเหล้าภูเขาชิงเสินได้ไม่ถึงหนึ่งกา อย่าว่าแต่ร้านเหล้าจะได้กำไรเลย เงินทุนยังไม่ได้กลับคืนมาเลยด้วยซ้ำ

เจิ้งต้าเฟิงเหลือบมองคนสองคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะห่างไปไม่ไกล ก้มหน้าก้มตากินบะหมี่หยางชุน ไม่ทำผิดต่อตัวเองแม้แต่น้อย รู้จักเพิ่มไข่ดาวสองฟองด้วย

ทุกวันนี้เถาป่านกับเฝิงคังเล่อ อันที่จริงล้วนเป็นเด็กหนุ่มที่ก้นสามารถย่างขนมเปี๊ยะได้แล้ว เริ่มมีหนวดมีเครากันแล้ว

เด็กหนุ่มในอดีต ตอนที่ยังเป็นเด็กน้อย เถาป่านเคยถามคำถามหนึ่งกับเถ้าแก่รอง พอมาถึงตัวแทนเถ้าแก่อย่างเจิ้งต้าเฟิง ก็ถามคำถามที่ไม่ต่างกันสักเท่าไร เพียงแต่ว่าเปลี่ยนจากตัวอ่อนเซียนกระบี่มาเป็นผู้มีพรสวรรค์ด้านการเรียนวรยุทธ

ภายหลังเถาป่านยังถามคำถามที่ทำให้เจิ้งต้าเฟิงไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไร

ชีวิตนี้ข้ายังจะได้พบกับเถ้าแก่รองอีกไหม?

เพราะเถาป่านรู้ดีว่าตัวเองทั้งไม่ใช่ตัวอ่อนเซียนกระบี่ แล้วก็ไม่ใช่คนมีพรสวรรค์ด้านการฝึกวรยุทธอะไร เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง อีกไม่นานก็จะกลายเป็นชายวัยกลางคน เป็นชายชรา ไม่แน่ว่าจะรอได้ถึงการเปิดประตูครั้งหน้าของใต้หล้าห้าสี

ตอนนั้นเห็นว่าเจิ้งต้าเฟิงไม่พูดอะไร เถาป่านก็พูดพึมพำกับตัวเองว่า ตอนนั้นตนอายุยังน้อย ดื่มเหล้าไม่ได้ ดังนั้นจึงยังไม่เคยดื่มเหล้ากับเถ้าแก่รองมาก่อน

ท่ามกลางสีสนธยาหนาหนักมีผีขี้เหล้าโต๊ะหนึ่งดื่มเหล้าจนเมามาย มีคนหัวเราะหึหึเอ่ยว่า “พี่น้องต้าเฟิง ได้เงินจากเจ้าแบบนี้เสมอ จากแรกเริ่มที่ดีใจ จนถึงรู้สึกไม่สบอารมณ์ จนไปถึงเจ็บปวดใจ ทุกวันนี้ใกล้จะเคียดแค้นแล้วนะ”

เจิ้งต้าเฟิงดีดลูกคิด พยักหน้าเอ่ย “อืม พอๆ กับความรักฉันท์ชายหญิงนั่นแหละ”

มีคนกระจ่างแจ้งในฉับพลัน ขบคิดความนัยที่แฝงอยู่ออกจึงร้องตะโกนว่าดี

มีคนถามขึ้นมาอีก “ตัวแทนเถ้าแก่ เจ้าบอกความจริงพวกเรามาตามตรงเถอะ สรุปแล้วเป็นเพราะเจ้าเล่นพนันเก่ง หรือเพราะว่าตลอดทั้งปีไม่เคยล้างมือกันแน่?”

เจิ้งต้าเฟิงคร้านจะคุยด้วย เพียงยกนิ้วกลางส่งไปให้

มีคนเริ่มพูดจาภาษาคนเมา “พูดความจริงที่ไม่ผิดต่อมโนธรรมในใจสักประโยค ถามหมัดกับเถ้าแก่รอง เขาไม่มีทางต่อยข้าได้สองหมัดหรอก”

“ทำไมเถ้าแก่รองถึงยังไม่กลับมาเสียทีนะ ไม่มีคนเป็นเจ้ามือเลย”

กำแพงเมืองปราณกระบี่เคยมีห้าสุดยอดใหม่เก่าอยู่สองครั้ง

แบบเก่าคือฝีมือพนันของเจ้าชาติสุนัขแข็งแกร่งเกินไป เฒ่าหูหนวกเป็นคนก็ต้องพูดภาษาคน ลู่จืองามล่มบ้านล่มเมือง ใต้เท้าอิ่นกวานรักหยกถนอมบุปผา หมี่อวี้นับแต่โบราณมารักลึกซึ้งไม่เคยรั้งไว้ได้อยู่

ส่วนแบบใหม่ เถ้าแก่รองไม่เคยหลอกลวงเด็กและคนชรา ไม่เคยเป็นเจ้ามือ ซือถูหลงชิวข้าสาบานว่าเป็นเรื่องจริง กู้เจี้ยนหลงขอให้ข้าได้พูดประโยคเป็นธรรมสักคำ ต่งฮว่าฝูจ่ายเงินราวน้ำไหล หวังซินสุ่ยก่อนออกกระบี่ไม่มีปัญหา หลังต่อยตีกันถือเป็นของข้า

คำกล่าวใหม่เก่าสองอย่างนี้ล้วนเป็นคนต่างถิ่นที่ติดอันดับในเวลาเดียวกัน อีกทั้งคนสองคนที่ได้รับเกียรติติดอันดับล้วนเป็นบัณฑิต เพียงแต่ว่ามีความแตกต่างกันอยู่บ้าง อาเหลียงแทบอยากจะเอาคำกล่าวทำนองว่าผู้มีอารยธรรม บัณฑิต เจ้าคิดว่าข้าไม่หล่อเหลาก็เพราะสายตาเจ้ามีปัญหา…เขียนลงไปบนหน้าผาก

ส่วนอิ่นกวานหนุ่มกลับตรงกันข้าม ไม่เคยจงใจพูดถึงสถานะบัณฑิตของตัวเอง แต่ตอนที่อยู่ร้านเหล้าชอบกล่าวประโยคที่ผิดต่อมโนธรรมในใจด้วยท่าทางน่าเชื่อถือ ข้าดื่มเหล้าได้ไม่เก่งจริงๆ ข้าคนนี้ไม่เคยเป็นเจ้ามือ ยุให้คนอื่นดื่มเหล้าบนโต๊ะสุราเสียภาพลักษณ์ พวกเจ้าเป็นคนต้องมีมโนธรรมสักหน่อย จะใส่ความใครก็ต้องมีหลักฐาน…

ภายหลังนครบินทะยานก็มีคำกล่าวใหม่ ‘สี่ประหลาด’ เพิ่มมาอีก

หนึ่งคือหนิงเหยารับตำแหน่งอิ่นกวานชั่วคราว แต่ไม่ได้เป็นเจ้านคร

นอกจากนี้ก็คือเหนี่ยนซินที่เป็นมือรองสายสิงกวาน สถานะแท้จริงจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครบอกได้ว่าเป็นใคร

เพียงแค่ได้ยินมาว่าเหนี่ยนซินไม่เคยเปิดปากพูดในการประชุมศาลบรรพจารย์

จากนั้นก็คือเรือนโป้จีหนึ่งในจวนส่วนตัวของเซียนกระบี่นอกเมืองในอดีต ผู้ฝึกกระบี่ชายสามคนที่แต่งกายด้วยชุดกระโปรงของสตรี

สุดท้ายคือเหล่าผู้ฝึกตนห้องบัญชีสายเฉวียนฝู่เห็นเงินลืมตาเก็บตกเศษซาก ใครขวางการหาเงินข้าก็คือการถามกระบี่

ผู้ฝึกตนพวกนี้แขวนกรอบป้ายไว้ในห้องบัญชีของใครของมัน ตัวอักษรในกรอบป้ายต่างก็มีความพิเศษเป็นเอกลักษณ์ อย่างเช่นว่าสวรรค์ย่อมตอบแทนคนขยันหมั่นเพียร ความเพียรชดเชยความบกพร่องได้ เงินทองไหลมาเทมา ฟ้าสูงสามฉื่อ

โดยเฉพาะสองอย่างหลังที่ชื่อเสียงแทบจะเลื่องลือไปทั่วทั้งใต้หล้าแล้ว

เนื่องจากผู้ฝึกกระบี่เซียนดินสามท่านอย่างเซ่อโจว สุ่ยอวี้ เยี่ยนเจินได้อาศัยวิชาอภินิหารบางอย่างที่อาจารย์ถ่ายทอดมาให้ ศิษย์พี่ศิษย์น้องสามคนจึงผลัดกันออกนอกเมืองไปตามหาตัวอ่อนเซียนกระบี่ต่างถิ่น

และการสืบทอดวิชาลับนี้ก็มีธรณีประตูสูงมาก ทุกวันนี้ในบรรดาลูกศิษย์ผู้สืบทอดสิบกว่าคนก็มีแค่สองคนที่พอจะถือว่าฝึกได้ชำนาญอย่างถูไถ

อันที่จริงเซ่อโจวได้เลื่อนเป็นก่อกำเนิดแล้ว ตามคำสั่งที่อาจารย์ทิ้งเอาไว้ เขาสามารถเปลี่ยนมาแต่งกายธรรมดาได้แล้ว

ได้ยินมาว่าเซ่อโจวเพิ่งจะสวมชุดคลุมอาคมที่หอภูษาในอดีตจัดทำขึ้น ยังไม่ทันได้ออกจากบ้านไปดื่มเหล้ากับคนอื่น ผลคือถูกศิษย์น้องสองคนมาหาถึงที่ เกือบจะกลายเป็นศัตรูกับเขาเสียแล้ว จึงได้แต่ ‘มีสุขร่วมเสพ’ กันต่อไป

นี่ต้องยกคุณความชอบให้กับลูกศิษย์ผู้สืบทอดที่เซ่อโจวและศิษย์น้องสุ่ยอวี้รับมา ปีนั้นดันถามคำถามน่าตาย เป็นเหตุให้ทุกวันนี้ลูกศิษย์ทุกคนของสายโป้จีต้องสวมชุดกระโปรงของสตรีตามพวกอาจารย์ไปด้วย

ดังนั้น ‘ศิษย์พี่ใหญ่’ สองคนนี้ จนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นตะปูตำนัยน์ตาของเหล่าศิษย์น้องร่วมสำนัก

อันที่จริงคำกล่าว ‘สี่ประหลาด’ นี้ น่าสนใจก็น่าสนใจ สนุกก็สนุก

เพียงแต่ไม่รู้ว่าเหตุใด ทุกคนต่างก็รู้สึกว่าไม่ได้มีความหมายมากขนาดนั้นแล้ว เพราะรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง

บางทีอาจเป็นเพราะนครบินทะยานในทุกวันนี้ขาดผู้ฝึกกระบี่ห้าขอบเขตบนบางคนที่เคยคุ้นเคยกันอย่างถึงที่สุดไป ขาดผู้เฒ่าเหล่านั้นของกำแพงเมืองปราณกระบี่ หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะขาดบัณฑิตที่โดนด่ามากที่สุดสองคนนั้นไป

ก็เหมือนการด่าคนที่ตั้งแต่ต้นจนจบมีแค่ตนคนเดียวที่เท้าเอวด่าคนน้ำลายแตกฟองอยู่ตรงนั้น ไม่มีใครเถียงเอาคืน ถึงท้ายที่สุดก็แค่รู้สึกเหนื่อยอย่างเดียวเท่านั้น

ดังนั้นต้องมีคนให้ด่าด้วย

เฉิงเฉวียนกับจ้าวเก้ออี๋ถือว่าเป็นผู้ฝึกกระบี่เฒ่าที่ด่าคนเก่งแล้วกระมัง?

แต่เจอกับเถ้าแก่รอง คนทั้งสองรวมกันก็ยังสู้ไม่ได้

ฉีโซ่วที่ทุกวันนี้ดูแลสายสิงกวาน ได้ยินมาว่าปีนั้นแค่นั่งอยู่บนหัวกำแพง ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง ไม่ได้เอ่ยอะไรสักคำ แค่เป็นผู้บริสุทธิ์ที่ถูกทั้งสองด่ากระทบมาโดนเท่านั้น ก็ยังเกือบจะถูกเฉิงเฉวียนด่าจนในหัวมีแต่น้ำ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!