กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 923

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “เรือ​ไป​ถึงสะพาน​ย่อม​ต้อง​จอด​ ก็​ถือ​เสีย​ว่า​เป็น​การท่องเที่ยว​ที่​เดิน​ชมนก​ชมไม้ไป​ตลอดทาง​ก็แล้วกัน​”

เฉิน​ผิง​อัน​เกือบจะ​เข้าใจผิด​คิด​ว่า​ไป​ถึงพื้นที่​มงคล​ร้อย​บุปผา​แล้ว​

ตลอดทาง​มีบุปผา​พืชพรรณ​แปลกตา​อยู่​มากมาย​ เมื่อ​เข้าคู่​กับ​สตรี​ที่​ยืน​อยู่​ก็​มีท่วงทำนอง​ที่​เป็น​เอกลักษณ์​แตก​ต่างกัน​ไป​ หลากหลาย​รูปแบบ​

สุดท้าย​ก็​มาถึงตำหนัก​ใหญ่​ที่​งดงาม​แห่ง​หนึ่ง​ นอก​ตำหนัก​มีเด็กสาว​ที่​คล้าย​จะแจ้งชื่อ​ของ​ ‘ปัญญาชน​ใน​โลก​มนุษย์​’ สอง​ท่าน​อย่าง​พวก​เฉิน​ผิง​อัน​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​คล้าย​กับ​การ​ร้องเพลง​

เด็กสาว​คน​นั้น​อายุ​แค่​ประมาณ​สิบ​สี่สิบห้า​ปี​ ขยับ​ตัวอย่าง​ชดช้อย​อรชร​ เรือน​กาย​บอบบาง​ มิอาจ​ต้านทาน​ลม​ ขยับตัว​ที​ก็​ราวกับ​จะได้ยิน​เสียง​ข้อต่อ​กระดูก​ลั่น​

เฉิน​ผิง​อัน​พา​เสี่ยว​โม่เดิน​ข้าม​ธรณีประตู​มาแล้วก็​มอง​ไป​ยัง​ฮูหยิน​ที่นั่ง​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​สูง รูปลักษณ์​ของ​นาง​สุภาพ​สง่างาม บน​ศีรษะ​สวมมงกุฎ​สีเขียว​มรกต​ รูปร่าง​คล้าย​มงกุฎ​ของ​นางสนม​ใน​วังหลัง​

ใน​ตำหนัก​มีสาวใช้​อยู่​หลาย​สิบ​คน​ ทุกคน​ล้วน​เป็น​สาวงาม​ล่ม​เมือง​

ผล​คือ​ฮูหยิน​ที่นั่ง​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​ประธาน​บอ​กว่า​พวก​เจ้าสอง​คน​ต่าง​ก็​เป็น​ปัญญาชน​ผู้มีความรู้​ นาง​จึงอยาก​จะขอ​ฟังบทกลอน​ประชัน​เพลง​จาก​พวกเขา​

เฉิน​ผิง​อัน​เพียงแค่​ดื่มเหล้า​ คือ​เหล้า​ร้อย​บุปผา​ประเภท​หนึ่ง​ พอ​ได้ยิน​ว่า​ต้อง​แต่ง​กลอน​ประชัน​เพลง​ก็​บอก​ให้​เสี่ยว​โม่ทำแทน​

เจ้าตัวดี​ เสี่ยว​โม่ไม่ตื่น​เวที​แม้แต่น้อย​ ยก​จอก​ลุกขึ้น​ยืน​ ท่อง​บทกวี​ที่​พรรณนา​ถึงพืชพรรณ​บุปผา​ซึ่งสอดคล้อง​กับ​บรรยากาศ​หลาย​สิบ​บท​ อีก​ทั้ง​ยัง​เป็น​บท​รวม​กวี​ที่​เสี่ยว​โม่เอา​ตรง​โน้น​มาประติดประต่อ​กับ​ตรงนี้​

ทำเอา​เฉิน​ผิง​อัน​ที่​ได้ยิน​ถึงกับ​ก้มหน้า​กุมขมับ​ ไม่กล้า​มองหน้า​ใคร​

สตรี​เหล่านั้น​กลับ​ให้การ​สนับสนุน​ดีมาก​ ทำท่า​ตกตะลึง​อึ้ง​ทึ่ง​ ราวกับ​ยอม​ศิโรราบ​ให้​กับ​ความรู้​ความสามารถ​ของ​เสี่ยว​โม่แล้ว​

สุดท้าย​เสี่ยว​โม่ก็​ช่วย​ตบ​ตาจน​ผ่าน​ด่าน​ไป​ได้​จริงๆ​

ใน​มือ​คน​ทั้งสอง​ยัง​ถือ​จอก​เหล้า​ เสี่ยว​โม่ยิ้ม​เอ่ย​ “รู้สึก​ยัง​ไม่สาแก่ใจ​พอ​เลย​”

เฉิน​ผิง​อัน​โยน​จอก​เหล้า​ที่​กลิ่น​เครื่อง​ประทิน​โฉมค่อนข้าง​ฉุน​ใน​มือ​ใบ​นั้น​ให้​เสี่ยว​โม่ แล้ว​ตบ​ไหล่​ของ​เสี่ยว​โม่หนึ่ง​ที​ “วันหน้า​ถามกระบี่​กับ​คนอื่น​ให้​มาก​ ประชัน​บทกลอน​กับ​คนอื่น​ให้​น้อย​”

เข้ามา​อยู่​ใน​ตลาด​ที่​จอแจ​แห่ง​หนึ่ง​แล้ว​ มีผู้เฒ่า​แบก​หาบ​ขาย​ดอกไม้​ สีแดง​สีขาว​มองดู​แล้ว​น่ารักน่าเอ็นดู​ ตอนกลาง​วันที่​แสงแดด​อบอุ่น​สาดส่อง​ ผู้เฒ่า​ปลด​คาน​หาบ​บน​บ่า​ลง​ หยิบ​พัด​ออกมา​เล่ม​หนึ่ง​ โบก​พัด​พัด​เอา​ลม​เย็น​ๆ ต่อให้​จะไม่พูดถึง​ว่า​ผู้เฒ่า​คือ​บุคคล​ที่​มีสีสัน​ พูดถึง​แค่​พัด​พับ​ใน​มือ​ก็​ไม่เหมือน​ของ​ที่จะ​อยู่​ใน​มือ​ของ​คน​จาก​หมู่บ้าน​ชนบท​ได้​เลย​จริงๆ​ ด้านบน​หน้า​พัด​คือ​กลอน​บท​หนึ่ง​ ตัวอักษร​งดงาม​ แต่ละ​คำ​ประ​ดุจดั่ง​สาวงาม​ที่​ใช้ความคิด​ลึกซึ้ง​ ช่วง​ท้าย​ของ​หน้า​พัด​ยังมี​การลงนาม​ไว้​ด้วย​

เฉิน​ผิง​อัน​ตบ​ไหล่​เสี่ยว​โม่หนัก​ๆ อีกครั้ง​

เสี่ยว​โม่ทำ​หน้า​คลางแคลง​

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​ตาหยี​เอ่ย​ว่า​ “ไหน​บอ​กว่า​ยัง​ไม่สาแก่ใจ​มาก​พอ​อย่างไรเล่า​? บังเอิญ​นัก​ ท่อง​เนื้อหา​ใน​ตำ​รามา​มากมาย​ขนาด​นั้น​ ความรู้​มีอยู่​เต็ม​ท้อง​ วิสัยทัศน์​อัน​กว้างไกล​อุดมสมบูรณ์​ ต่อจากนี้​ก็​มีพื้นที่​ให้​ใช้งาน​แล้ว​”

ใบหน้า​ของ​เสี่ยว​โม่เต็มไปด้วย​ความกังขา​ไม่เข้าใจ​ แต่​เฉิน​ผิง​อัน​กลับ​เห็น​ว่า​เขา​แกล้ง​โง่เสีย​มากกว่า​ จึงยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “อย่า​มัว​อึ้ง​อยู่​สิ รีบ​ไป​ถามประวัติ​ความเป็นมา​ของ​พัด​จาก​ท่าน​ลุง​ ข้า​จะแกล้ง​ทำเป็น​ผู้ติดตาม​ของ​เจ้า เจ้าก็​บอก​ไป​ว่า​ตัวเอง​คือ​บัณฑิต​ที่​เข้า​เมืองหลวง​มาสอบ​ ไม่แน่​ว่า​อาจ​มีค่ำคืน​เข้า​หอ​ชื่นมื่น​รอ​เจ้าอยู่​ก็ได้​นะ​”

เสี่ยว​โม่มองหน้า​พัด​แล้ว​ขมวดคิ้ว​มุ่น​ ก่อน​จะส่ายหน้า​ “บทกลอน​ของ​คุณหนู​ท่าน​นี้​เขียน​ได้​…ฝีมือ​สูสีกับ​เสี่ยว​โม่จริงๆ​”

เฉิน​ผิง​อัน​พูด​ด้วย​สีหน้า​เคร่งขรึม​ “เสี่ยว​โม่ นี่​มัน​เรื่อง​อะไร​กัน​! นิยาย​บุรุษ​มาก​ความสามารถ​กับ​โฉมสะคราญ​ที่​อ่าน​มามากมาย​ขนาด​นั้น​ล้วน​อ่าน​มาอย่าง​เสียเปล่า​หรือ​? เรื่อง​อย่าง​บทกวี​คำร้อง​นี้​ การ​ชื่นชม​บทกวี​ของ​กันและกัน​ใน​นิยาย​จะต้อง​ทำให้​ดี​ถึงขีดสุด​ ใน​เมื่อ​สร้าง​ภาพลักษณ์​ของ​บุรุษ​มาก​ความสามารถ​กับ​สาวงาม​ ก็​ต้อง​บรรยาย​ไว้​ว่า​บทกวี​ของ​พวกเขา​เขียน​ได้ดี​เพียงใด​ เหล่า​นักเขียน​นิยาย​ยัง​ต้อง​เขียน​บทกวี​ดี​ๆ แทน​พวกเขา​อีก​หลาย​บท​ด้วย​”

เสี่ยว​โม่พลัน​รู้สึก​หัวโต​เท่า​กระด้ง​

จากนั้น​ก็​เป็น​อย่าง​ที่​คุณชาย​พูด​จริงๆ​ เขา​เกือบจะ​ต้อง​ร่วม​หอ​ใต้​แสงเทียน​กับ​หญิงสาว​อายุ​น้อย​นาง​หนึ่ง​แล้ว​ แต่​สุดท้าย​ก็​ใช้การ​ที่สอง​ฝ่าย​แลกเปลี่ยน​ของ​แทน​ใจกัน​ ถือ​เป็นการ​มอบ​คำอธิบาย​ให้​จึงผ่าน​ด่าน​นี้​ไป​ได้​

เห็น​ว่า​สีหน้า​ของ​คุณชาย​ค่อนข้าง​เคร่งเครียด​ เสี่ยว​โม่ก็​รีบ​ใช้เสียง​ใน​ใจเอ่ย​ทันที​ว่า​ “คุณชาย​ คือ​แผน​เล่นงาน​อย่าง​ลับ​ๆที่​ต่อเนื่อง​กัน​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ส่ายหน้า​กล่าว​ “ไม่ถือเป็น​แผน​ลับ​ แต่​เป็น​แผนการ​อย่าง​เปิดเผย​”

หลังจากนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​ก็ได้​กลาย​มาเป็น​จักรพรรดิ​ของ​แคว้น​ที่​ผาสุก​แห่ง​หนึ่ง​ ทว่า​การกระทำ​ของ​เขา​กลับ​เหลวไหล​บิดเบี้ยว​ ถึงกับ​มอบ​ตำแหน่ง​จ้วง​หยวน​หญิง​ให้​กับ​เด็กสาว​คน​หนึ่ง​ที่​มีพรสวรรค์​มีไหวพริบ​ แขก​พา​กัน​มาหา​มากมาย​ คน​ที่มา​ขอ​บทประพันธ์​ขอ​น้ำหมึก​มีไม่ขาดสาย​ ระหว่าง​นั้น​เด็กสาว​ได้​พบ​กับ​บัณฑิต​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​ที่​รอคอย​อยู่​ด้านล่าง​หอ​เรือน​อย่าง​ยากลำบาก​ เนื่องจาก​เขา​ขา​กะเผลก​ นาง​จึงเลือก​ใช้ถ้อยคำ​ที่​คลุมเครือ​ ค่อนแคะ​ไป​คำรบ​หนึ่ง​ บัณฑิต​มีชาติกำเนิด​จาก​ตระกูล​ชั้นสูง​ แต่กลับ​มีความรู้​แค่​ครึ่งๆ กลางๆ​ จึงไม่รู้​ความนัย​เสียดสี​ของ​เด็กสาว​ ตอนที่​เหล่า​สหาย​มานั่ง​กัน​เต็ม​ห้องโถง​ เขา​ก็​ยัง​ลำพองใจ​ ผล​คือ​ถูก​คน​เปิดโปง​ความลับ​ จึงกลายเป็น​ตัวตลก​สำหรับ​ทุกคน​ นับแต่​นั้น​มาจึงเกิด​ความ​อาฆาตแค้น​ใน​หัวใจ​ ขว้าง​จอก​เหล้า​ คำราม​เดือดดาล​ว่า​ บุตรสาว​ของ​อัคร​เสนาบดี​ที่​ยัง​มีชีวิต​อยู่​อย่าง​นาง​รังแก​บุตรชาย​ของ​อัคร​เสนาบดี​ที่​ตาย​ไป​แล้ว​อย่าง​ข้า​งั้น​หรือ​?

คน​ผู้​นี้​วางแผน​ไม่หยุด​ สร้างเรื่อง​ให้​ตระกูล​ของ​เด็กสาว​เกิด​หายนะ​ติดต่อกัน​หลายครั้ง​ โชคดี​ที่​บิดา​ของ​นาง​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​สูงมีอำนาจ​มาก​ สถานะ​สูงศักดิ์​เป็น​ถึงขุนนาง​หลัก​ของ​กรม​ขุนนาง​ อีก​ทั้ง​ยัง​เป็น​ผู้นำ​ของ​ฝ่าย​น้ำ​ใส แต่กระนั้น​กว่า​จะสยบ​คลื่น​ลม​ที่​เกิดขึ้น​อย่าง​ต่อเนื่อง​ได้​ก็​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​ รอ​กระทั่ง​มีวันหนึ่ง​คุย​เรื่อง​นี้​กับ​บุตรสาว​ต่อหน้า​ ใต้เท้า​เจ้ากรม​ถึงได้​เข้าใจ​ต้นสายปลายเหตุ​ที่​วกวน​นี้​ หลังจากนั้น​ก็ได้​ป่าวประกาศ​หา​ลูกเขย​ให้​กับ​บุตรสาว​ ใน​ตระกูล​จึงเท่ากับ​ว่า​มีลูกเขย​ที่​ถูกใจ​เพิ่ม​มาคน​หนึ่ง​ หลังจากนั้น​พ่อตา​กับ​ลูกเขย​ก็​ร่วมมือ​กัน​เล่นงาน​เจ้าคน​ที่​วางแผน​ชั่วร้าย​ซึ่งเรียก​ตัวเอง​ว่า​เป็น​บุตรชาย​ของ​อัคร​เสนาบดี​ที่​ตาย​ไป​แล้ว​ ตาม​หลัก​แล้ว​จุดจบ​ย่อม​ต้อง​เป็น​อธรรม​มิอาจ​เอาชนะ​ธรรมะ​ คนดี​ได้​อยู่​ร่วมกัน​พร้อมหน้าพร้อมตา​

ทว่า​จักรพรรดิ​ซึ่งเป็น​เจ้าผู้​ครอง​แคว้น​อย่าง​เฉิน​ผิง​อัน​กลับ​ทำ​เพียงแค่​มอง​เรื่อง​วุ่นวาย​พวก​นี้​อย่าง​ดูดาย​ ใน​ช่วงเวลา​ที่​เป็น​กุญแจ​สำคัญ​ไม่ได้​เอ่ย​ประโยค​ทวง​ความเป็นธรรม​ให้​กับ​ใต้เท้า​เจ้ากรม​ขุนนาง​ที่​ต้อง​ติดคุก​ และ​ยิ่ง​ไม่ได้​ออก​พระ​ราชโองการ​ช่วยชีวิต​จ้วง​หยวน​ที่​ถูก​เนรเทศ​ไป​ไกล​พัน​ลี้​ เพียงแค่​ว่า​ก่อนที่​เด็กสาว​ใน​อดีต​ ภรรยา​ของ​ผู้อื่น​ใน​ปัจจุบัน​จะกลายเป็น​หญิง​คณิกา​ใน​สถานเริงรมย์​ เขา​ได้​ออก​โองการ​ลับ​ฉบับ​หนึ่ง​ จากนั้น​เดินทาง​ออกจาก​วังหลวง​ ฮ่องเต้​เรียก​บุรุษ​ขา​เป๋​ที่​เป็น​คน​วัยกลางคน​แล้ว​มา มอง​หอ​ซิ่ว​โหล​ว​ที่อยู่​ห่าง​ไป​ไกล​ร่วมกับ​ฝ่าย​หลัง​ ฮ่องเต้​ถามบุรุษ​คน​นั้น​ว่า​ หวน​นึกถึง​อดีต​อัน​ห่างไกล​ เจ้าอยู่​ที่นี่​ ใน​ใจคิด​อะไร​อยู่​ ทุกวันนี้​เวลา​ผ่าน​ไป​นาน​หลาย​ปี​ขนาด​นี้​แล้ว​ ยัง​จำได้​อยู่​หรือไม่​?

บุรุษ​ขา​เป๋​พยักหน้า​ บอ​กว่า​ตัวเอง​จด​จำได้​อย่าง​ชัดเจน​

หลังจากนั้น​ฮ่องเต้​ที่​ได้รับ​คำตอบ​ที่​แท้จริง​ก็​ไป​ที่​คุก​ มอง​เจ้ากรม​ผู้เฒ่า​ที่​โขก​หัว​ไม่หยุด​โดย​มีลูกกรงเหล็ก​กั้น​ขวาง​ ‘ฮ่องเต้​’ ทรุดตัว​ลงนั่ง​ยอง​ ถามใต้เท้า​ขุนนาง​คนสำคัญ​ผู้​นี้​ว่า​ยัง​จำประโยค​ที่​เอ่ย​ใน​ปี​นั้น​ได้​หรือไม่​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!