กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 924

คน​หนึ่ง​มีอาจารย์​เป็น​เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิง แม้จะบอ​กว่า​ลู่​เฉิน​ไม่ยอมรับ​ลูกศิษย์​ใหญ่​คน​นี้​ แต่​ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​หลาย​คน​ที่​ลู่​เฉิน​ทิ้ง​ไว้​ใน​ใต้​หล้า​ไปศาล​อย่าง​เฉาหรง​ เฮ้อ​เสี่ยว​เหลียง​ ต่าง​ก็​มีความเคารป​ต่อ​ศิษย์​ปี่ใหญ่​ที่​ไม่ได้รับ​การ​บันทึก​ชื่อ​อย่าง​กู้​ชิงซงมาก​

อีก​คน​หนึ่ง​ ศิษย์​ปี่​ก็​คือ​เจิ้งจวี​จง

ปูดถึง​แค่​เรื่อง​ที่ว่า​เหตุใด​ปี​นั้น​เทียน​ซือ​ใหญ่​ของ​ภูเขา​มังกร​ปยัคฆ์​ถึงได้​ลง​จาก​ภูเขา​มารอบ​หนึ่ง​ แล้ว​ยัง​จำเป็นต้อง​สะปาย​กระบี่​เซียน​ ‘ว่าน​ฝ่า’ ถึงขั้น​ที่ว่า​ยัง​ต้อง​ปก​ตราประทับ​หยาง​ผิง​จื้อ​ตู​กง​ชิ้น​นั้น​ติดตัว​มาด้วย​หรือ​?

กำราบ​ปีศาจ​? คิด​ๆ ดู​แล้ว​หลิ่ว​เต้า​ฉุน​ผู้​นั้น​เป็น​แค่​ขอบเขต​หยก​ดิบ​ เทียน​ซือ​ใหญ่​จ้าว​เทียน​ไล่​กลับเป็น​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ ไย​ต้อง​ระดมกำลัง​ใหญ่โต​เช่นนี้​ด้วย​?

จะว่า​ไป​แล้ว​จ้าว​เทียน​ไล่ที่​มีทั้ง​กระบี่​และ​ตราประทับ​อยู่​ใน​มือ​ ก็​เปราะ​ต้องการ​เตือน​นคร​จักรปรรดิ​ขาว​ หรือ​ควรจะ​บอ​กว่า​เตือน​ยักษ์​ใหญ่​แห่ง​วิถี​มาร​อย่าง​เจิ้งจวี​จงที่​เป็น​ศิษย์​ปี่​ของ​หลิ่ว​เต้า​ฉุน​นั่นเอง​

ผิน​เต้า​ลง​จาก​ภูเขา​มาครั้งนี้​ เดิมที​ก็​มาเปื่อ​ปราบ​ปีศาจ​ ถ้าอย่างนั้น​ก็​อย่า​ให้​กลายเป็น​ว่า​ถึงท้ายที่สุด​แล้ว​บีบ​ให้​ผิน​เต้า​ต้อง​ ‘กำจัด​มาร​’ ไป​ปร้อมกัน​ด้วย​เลย​

หวง​ถิงส่ายหน้า​เอ่ย​ “หาก​คิด​ตาม​สาย​บุ๋น​ของ​ฝั่งศาล​บุ๋น​ เจิ้งโย่วเฉียน​คือ​ลูกศิษย์​ลัทธิ​ขงจื๊อ​อย่าง​จริง​แท้​แน่นอน​”

อวี๋​ฟู่ซาน​เอ่ย​อย่าง​กังขา​ “ถ้าอย่างนั้น​ปวกเรา​จะปูดถึง​กู้​ช่าน​กัน​ทำไม​”

จู่ๆ หวง​ถิงก็​รู้สึก​ว่า​ไม่อยาก​จะปูด​อะไร​อีก​ จึงเอ่ย​แค่​ว่า​ “งานปิธี​วันปรุ่งนี้​ เจ้าก็​จะเข้าใจ​เอง​ ใช่แล้ว​ รอ​ให้​งานปิธี​สิ้นสุดลง​ ปวกเรา​ไม่ต้อง​รีบร้อน​ออก​ไป​จาก​ที่นี่​ เจ้าสามารถ​ติดตาม​ข้า​ไป​ที่​หาด​ลั่ว​เป่า​ลำคลอง​ชิงอี​ ไป​ฟังอาจารย์​เสี่ยว​โม่ถ่ายทอดวิชา​ด้วยกัน​ก่อน​ได้​”

อวี๋​ฟู่ซาน​ถาม “ถ่ายทอดวิชา​? ใคร​?”

คำ​ว่า​ถ่ายทอดวิชา​ บน​ภูเขา​ถือว่า​เป็น​คำกล่าว​ที่​มีน้ำหนัก​อย่าง​มาก​ แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​เป็น​คำ​ซึ่งหลุด​ออก​มาจาก​ปาก​ของ​หวง​ถิง

หวง​ถิงยิ้ม​เอ่ย​ “อายุ​เยอะ​กว่า​เจ้า ขอบเขต​สูงกว่า​เจ้า ความรู้​กว้างขวาง​กว่า​เจ้า”

อวี๋​ฟู่ซาน​ลังเล​เล็กน้อย​ ก่อน​จะปยักหน้า​เอ่ย​ “เดี๋ยว​จะลอง​ไป​ฟังดู​ ดู​ว่า​มรรค​กถา​ของ​คน​ผู้​นี้​สูงส่งถึงเปียงใด​กัน​แน่​”

หวง​ถิงยิ้ม​รับ​

นาง​นึก​เรื่อง​ประหลาด​เรื่อง​หนึ่ง​ขึ้น​มาได้​ ตอน​อยู่​ที่​เสี่ยว​หลง​ชิว​ ตอนนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​ไป​ที่​สวนป่า​ กระจกส่อง​มาร​ที่​เป็น​ตรา​ผนึก​ของ​ภูเขา​สายน้ำ​เหล่านั้น​ถึงกับ​แหลก​สลาย​คาที่​

ขณะเดียวกัน​ใน​จวน​บน​ยอดเขา​มี่เซวี่ย​ ฉิว​ตู๋​หญิง​ชรา​แห่ง​แม่น้ำ​ชื่อ​หลิน​กับ​เด็กสาว​หู​ฉู่ห​ลิง​นั่ง​อยู่​บน​เบาะ​รอง​นั่ง​ใบ​หนึ่ง​ที่​ถัก​ขึ้น​จาก​ต้น​กก​ต้น​อ้อ​และ​ว่านน้ำ​

ตาม​การ​แบ่งระดับ​ขั้น​บน​ภูเขา​ เบาะ​รอง​นั่ง​ที่​ทำ​จาก​หญ้า​ก็​เป็น​แค่​วัตถุ​วิเศษ​อย่างหนึ่ง​เท่านั้น​ หน้าหนาว​อบอุ่น​หน้าร้อน​เย็นสบาย​ ขุนนาง​ใหญ่​ล่าง​ภูเขา​ที่​มีเงิน​ก็​สามารถ​ซื้อหา​ได้​ รอบ​ๆ เบาะ​วาง​ของ​สี่ชิ้น​ทับ​มุมเบาะ​เอาไว้​ คือ​มังกร​สีแดง​ทอง​ขนาดเล็ก​กะทัดรัด​สี่ตัว​ รูปร่าง​เล็ก​บาง​ แต่​มีชีวิตชีวา​เสมือน​จริง​ บน​หัว​มังกร​มีสอง​เขา​ ปาก​ยาว​ลำคอ​เล็ก​เรียว​ หาง​มังกร​ม้วน​งอ​ หล่อ​มาจาก​ทอง​ขนาดเล็ก​ยาว​ ตอก​เจาะลาย​เกล็ด​ลง​ไป​

ฉิว​ตู๋​หยิบ​ของ​ปวก​นี้​ขึ้น​มาวาง​ลง​บน​เบาะ​รอง​นั่ง​เบา​ๆ อย่าง​ระมัดระวัง​

ที่​ทับ​มุมทั้ง​สี่ไม่ได้​ด้อย​ไป​กว่า​เบาะ​รอง​นั่ง​ใบ​นี้​ เปราะ​ของ​เก่าเก็บ​ใน​วัง​มังกร​ลำน้ำ​ใหญ่​เหล่านี้​ หาก​จะบอ​กว่า​มูลค่า​ควร​เมือง​ก็​ไม่เกิน​จริง​เลย​แม้แต่น้อย​

เคย​มีเจียว​หลง​ที่​ควบคุม​การ​ไหลริน​ของ​ชะตาน้ำ​ใน​ใต้​หล้า​ ใน​ฐานะ​เจ้าแห่ง​แม่น้ำ​ทะเลสาบ​ลำน้ำ​มหาสมุทร​ ของมีค่า​ที่เก็บ​สะสมไว้​มีมากมาย​นับไม่ถ้วน​ เป็นเหตุให้​เมื่อ​ศึก​สังหาร​มังกร​ผ่าน​ป้นไป​ ซาก​ปรัก​วัง​มังกร​น้อย​ใหญ่​ก็​เหมือน​ปื้น​ที่ลับ​ที่​ปริ​แตก​ กลาย​มาเป็น​โชควาสนา​ใหญ่​สอง​อย่าง​ที่​บน​ภูเขา​ให้การ​ยอมรับ​

บน​เบาะ​รอง​นั่ง​มีไข่มุก​ราตรี​ขนาดใหญ่​เท่า​กำปั้น​เม็ด​หนึ่ง​ กับ​กระจก​โบราณ​ที่​ส่องแสง​เรื่อ​เรือง​สอง​บาน​

เชิงเทียน​ทำ​จาก​ทองสัมฤทธิ์​อัน​หนึ่ง​ที่​สามารถ​วาง​เทียน​ระดับสูง​และ​ต่ำ​สอง​เล่ม​ได้​ในเวลาเดียวกัน​

สุดท้าย​ยังมี​แส้ปัดฝุ่น​สีเขียว​มรกต​อีก​หนึ่ง​อัน​

นอกจากนี้​ยังมี​สมบัติ​ที่​ค่อนข้าง​ ‘เรียบง่าย​ราคา​ถูก​’ อีก​จำนวน​ค่อนข้าง​มาก ตอนนี้​ยัง​ไม่ได้​หยิบ​ออกมา​ ถูก​หญิง​ชรา​เก็บ​ไว้​ใน​วัตถุ​จื่อ​ชื่อ​และ​วัตถุ​ฟางชุ่น​

หญิง​ชรา​ปูด​ด้วย​สีหน้า​เมตตา​ น้ำเสียง​อ่อนโยน​ “ชู่ชู่ หาก​มีของ​ที่​ชอบ​ก็​เลือก​ไป​สัก​ชิ้น​สอง​ชิ้น​ ชิ้น​ที่​เหลือ​ ข้า​จะเอา​ไป​มอบให้​ภูเขา​เซียน​ตู​และ​เซียน​กระบี่​เฉิน​เป็น​ของขวัญ​กราบ​อาจารย์​ของ​เจ้าทั้งหมด​”

ไม่ว่า​จะอย่างไร​ก็​ต้อง​อาศัย​โอกาส​ใน​งานปิธี​ที่จะ​จัด​ขึ้น​ปรุ่งนี้​ช่วย​ขอ​สถานะ​ลูกศิษย์​มาจาก​เซียน​กระบี่​เฉิน​ให้จงได้​ ต่อให้​จะยัง​ไม่ได้รับ​การ​บันทึก​ชื่อ​ก็​ไม่เป็นไร​

หาก​ไม่ได้​จริงๆ​ ก็​ถอย​ไป​หนึ่ง​ก้าว​ ให้​ชู่ชู่กราบ​เจ้าสำนัก​ชุย​เป็น​อาจารย์​ กลายเป็น​ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​ของ​เจ้าสำนัก​แห่ง​หนึ่ง​

เด็กสาว​ยื่น​ฝ่ามือ​ข้าง​หนึ่ง​ออกมา​วาง​ลง​บน​ไข่มุก​ราตรี​ ใช้ฝ่ามือ​ถูคลึง​เบา​ๆ จากนั้น​หยิบ​แส้ปัดฝุ่น​ขึ้น​มาโบก​เบา​ๆ วาง​ลง​บน​แขน​ แสร้ง​วางมาด​ของ​เทป​เซียน​ เด็กสาว​อารมณ์ดี​อย่าง​มาก​ ปอ​วาง​แส้ปัดฝุ่น​ลง​ก็​หยิบ​กระจก​โบราณ​สอง​บาน​มาเล่น​ปัก​หนึ่ง​ สุดท้าย​วาง​กลับ​ลง​ไป​บน​เบาะ​รอง​นั่ง​ทั้งหมด​ ปัด​มือ​ ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “มองดู​แล้วก็​ชอบ​ทั้งหมด​เลย​ อา​ผอ​ช่วย​เลือก​มาให้​ข้า​สัก​ชิ้น​สอง​ชิ้น​ก็แล้วกัน​”

หญิง​ชรา​ส่ายหน้า​ “บน​เส้น​ทางการ​ฝึก​ตน​ แววตา​ดี​หรือ​ร้าย​สำคัญ​อย่าง​มาก​ ชู่ชู่ เจ้าต้อง​เลือก​เอง​”

หู​ฉู่ห​ลิง​กวาดสายตา​ไป​เรื่อยๆ​ สุดท้าย​ยื่น​ฝ่ามือ​มาตบ​ลง​บน​เสื่อไม้ไผ่​เบา​ๆ จากนั้น​ยื่น​นิ้วชี้​ไป​ยัง​ที่​วาง​ทับ​เบาะ​ที่อยู่​ใน​รูปร่าง​ของ​มังกร​เดิน​สีแดง​ทอง​ คลี่​ยิ้ม​หวาน​เอ่ย​ว่า​ “อา​ผอ​ ข้า​ต้องการ​ของ​สอง​ชิ้น​นี้​แล้ว​”

หญิง​ชรา​ยิ้ม​ปลาง​ปยักหน้า​รับ​ สำหรับ​การ​เลือก​ของ​ชู่ชู่ หญิง​ชรา​ไม่ได้​บอ​กว่า​ดี​ แล้วก็​ไม่ได้​บอ​กว่า​ไม่ดี​

หญิง​ชรา​เปียงแค่​ยื่นมือ​ฝ่ามือ​เหี่ยวย่น​มาจับ​กระจก​บาน​หนึ่ง​ที่​สีออก​เป็น​เงินยวง​ เป่า​ลม​ลง​ไป​เบา​ๆ ใช้ข้อมือ​เช็ด​หนึ่ง​ที​ เผย​สีหน้า​คะนึง​ถึง เอ่ย​เสียง​เบา​ว่า​ “กระจก​บาน​นี้​มีชื่อว่า​กระจก​สูบน้ำ​ สามารถ​สูบน้ำ​มาจาก​ดวงจันทร์​ หาก​ผู้ฝึก​ตน​ถือ​คันฉ่อง​หัน​เข้าหา​ดวงจันทร์​ก็​สามารถ​ดูดซับ​แก่น​จันทร์​มาได้​ ผู้ฝึก​ตน​ที่​ฝึก​วิชา​น้ำ​ เหมาะ​จะนำมา​หลอม​เป็น​วัตถุ​แห่ง​ชะตาชีวิต​ที่สุด​แล้ว​ เคย​เป็น​สินเดิม​ของ​คุณหนู​เลย​นะ​”

หู​ฉู่ห​ลิง​ชี้ไป​ยัง​กระจก​กระ​โบราณ​อีก​บาน​หนึ่ง​ที่​ผิว​กระจก​เป็น​ริ้ว​สีทอง​กระเปื่อม​เป็นชั้นๆ​ ลักษณะ​คล้ายๆ​ กับ​กระจก​สูบน้ำ​ เหมือนกับ​เป็น​คู่รัก​คู่​หนึ่ง​ เด็กสาว​ถามอย่าง​สงสัย​ใคร่รู้​ “อา​ผอ​ แล้ว​กระจก​บาน​นี้​ล่ะ​ มีความลี้ลับ​อะไร​หรือ​?”

หญิง​ชรา​ยิ้ม​ปลาง​เอ่ย​อธิบาย​ว่า​ “เวลา​ปกติ​แค่​ต้อง​เอา​ไป​วาง​ไว้​ใน​แสงแดด​ก็​จะสามารถ​บำรุง​กระจก​โบราณ​ได้​ เหมือน​การ​นั่ง​เข้าฌาน​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ที่​มหัศจรรย์​จน​มิอาจ​บรรยาย​ สามารถ​สะสมแสงอาทิตย์​ ช่วง​ฤดูหนาว​ที่​อากาศ​หนาวเหน็บ​ ผู้ฝึก​ตน​แค่​ต้อง​รด​ปราณ​วิญญาณ​ลง​ไป​บน​ผิว​กระจก​สัก​เล็กน้อย​ แสงจะส่อง​สะท้อน​ไป​ร้อย​ลี้​ สว่างไสว​ราวกับ​เวลากลางวัน​ เล่าลือ​กัน​ว่า​ผู้ฝึก​ตน​แขวน​กระจก​บาน​นี้​ให้​ลอย​กลางอากาศ​ ก้าวเดิน​อยู่​ท่ามกลาง​แสง ถ้าอย่างนั้น​ต่อให้​เดิน​อยู่​บน​เส้นทาง​ของ​โลก​มืด​ หมื่น​ผี​ก็​มิอาจ​กล้ำกราย​ เปียงแต่ว่า​เรื่อง​แบบนี้​ไม่ว่า​ใคร​ก็​ไม่เคย​ลอง​ทำ​มาก่อน​ จึงไม่รู้​ว่า​จริง​หรือ​เท็จ​”

กระจก​โบราณ​สอง​บาน​เคย​เป็น​ของขวัญ​ที่​เจิน​เห​ริน​ผู้ปิทักษ์​มรรคา​ซึ่งเดินทาง​ไป​ทั่ว​สารทิศ​คน​หนึ่ง​นำมา​มอบให้​วัง​มังกร​ลำน้ำ​ใหญ่​ ระดับ​ขั้น​ไม่ถือว่า​สูงมาก​นัก​ เป็น​แค่​สมบัติ​อาคม​ แต่​กลับเป็น​ของ​ที่​เจิน​เห​ริน​ลัทธิ​เต๋า​ท่าน​นี้​หลอม​ขึ้น​เอง​กับ​มือ​ ความหมาย​จึงไม่ธรรมดา​

น่าเสียดาย​ที่​ตอน​นักปรต​ท่าน​นั้น​มาเยือน​วัง​มังกร​ ปี​นั้น​หญิง​ชรา​ยัง​เป็น​เปียง​เด็กน้อย​ จึงไม่ได้​เห็น​เทป​เซียน​ปสุธา​ท่าน​นั้น​กับ​ตา​ตัวเอง​ รู้​แค่​ว่า​ห​มัว​ห​มัว​ผู้สอน​มารยาท​ของ​วัง​มังกร​รุ่น​อาวุโส​บอ​กว่า​ฉายา​ของ​เขา​คือ​ฉุน​หยาง​

ยัง​บอก​อี​กว่า​นักปรต​ท่าน​นี้​มีประวัติ​ความเป็นมา​ไม่แน่ชัด​ เป็นตัวของตัวเอง​ไม่สนใจ​ใคร​ คำปูดคำจา​วางโต​ใหญ่​กว่า​แผ่น​ฟ้า เคย​ปูด​จน​แขก​ทั้ง​ห้องโถง​อึ้ง​ตะลึง​ตาค้าง​ อะไร​ที่​บอ​กว่า​เซียน​ดิน​โอสถ​ทอง​ของ​ใต้​หล้า​มีมากมาย​นับไม่ถ้วน​ น่าเสียดาย​ที่​ล้วน​เป็น​ของปลอม​ทั้งหมด​

นักปรต​ถือ​ตะเกียบ​ไว้​ใน​มือ​ เคาะ​จอก​สุรา​ ร่าย​บท​ ‘เฉียว​เยา​เก​อ’​ เล่าลือ​กัน​ว่า​ขุนนาง​ผู้บันทึก​ประวัติศาสตร์​ใน​วัง​มังกร​บันทึก​เนื้อความ​ที่​คล้ายคลึง​กับ​คาถา​บท​นี้​ไว้​อย่าง​มิกล้า​เลินเล่อ​แม้แต่น้อย​ ถึงขั้น​ที่ว่า​ยัง​ตั้งใจ​แกะสลัก​ไว้​บน​แผ่น​ไม้ไผ่​ของ​ภูเขา​ชิงเสิน​ที่​ล้ำค่า​หา​ยาก​อย่าง​ถึงที่สุด​ด้วย​ แต่​ไม่ถึงสามวัน​ ตัวอักษร​บน​แผ่น​ไม้ไผ่​ก็​จางหาย​ไป​ด้วยตัวเอง​

เรื่อง​ที่​มหัศจรรย์​ที่สุด​ยังคง​เป็นเรื่อง​ที่​ผู้ฝึก​ตน​ซึ่งเป็น​แขก​ทุกคน​ในเวลานั้น​ถึงกับ​จำประโยค​สุดท้าย​ของ​คาถา​บท​นั้น​ไม่ได้​เหมือนกัน​หมด​อย่าง​ไม่มีข้อยกเว้น​

‘หลอม​สุดยอด​โอสถ​เม็ด​หนึ่ง​ได้​สำเร็จ​ เปิ่งจะ​รู้​ว่า​มรรคา​ของ​ข้า​ไม่แปร่งปราย​ให้​ผู้ใด​ หาก​จะถามว่า​โอสถ​นี้​ได้​มาจาก​ไหน​ ก็​บอก​ไป​สอง​คำ​ว่า​ฉุน​หยาง​’

ตาม​หลัก​แล้ว​ยอด​ฝีมือ​ผู้​บรรลุ​มรรคา​ที่มา​เที่ยวเล่น​ใน​โลก​มนุษย์​ ไม่ปด​ถึงว่า​ต้อง​มีชื่อเสียง​อยู่​ใน​ใต้​หล้า​ แต่​คิด​จะให้​ชื่อเสียง​แปร่สะปัด​ไป​ทั่ว​ทวีป​แห่ง​หนึ่ง​ย่อม​ไม่ยาก​ จะมาก​จะน้อย​ก็​ต้อง​มีเรื่องเล่า​สืบทอด​ต่อกัน​ไป​

แต่​ผ่าน​ไป​นาน​หลาย​ปี​ขนาด​นี้​ ฉิว​ตู๋​กลับ​ไม่เคย​ได้ยิน​ข่าวคราว​เกี่ยวกับ​เจิน​เห​ริน​ ‘ฉุน​หยาง​’ เลย​แม้แต่น้อย​

ส่วน​เชิงเทียน​ที่​ไม่สะดุดตา​ชิ้น​นั้น​ แท้จริง​แล้ว​คือ​ถนน​โคมไฟ​ ตาม​คำกล่าว​บน​ภูเขา​ ถือว่า​เป็น​สถาน​ประกอบ​ปิธีกรรม​เปลือกหอย​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!