กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 929

ยาม​ที่​ท่าน​เทพ​ภูเขา​ผู้เฒ่า​พูดจา​ไม่เกรงใจ​กลับ​แอบ​หันไป​ขยิบตา​ให้​คน​ชุด​เขียว​ ออกมา​อยู่​ข้างนอก​ อย่า​ได้​ทำ​เรื่อง​ที่​ใช้แต่​อารมณ์​เลย​นะ​

คนต่างถิ่น​อย่าง​เจ้า ทำไม​ถึงไม่รู้จัก​กาลเทศะ​เช่นนี้​ ไม่รู้จัก​สังเกต​สีหน้า​และ​คำพูด​ของ​คน​เลย​แม้แต่น้อย​ เจ้าไม่เห็น​หรือว่า​เหมย​ซาน​จวิน​หน้า​เปลี่ยนสี​ไป​แล้ว​?

หย่า​งจื่อ​โบก​พัด​ใบลาน​ ยิ้ม​ตาหยี​เอ่ย​ว่า​ “เหมย​ฝู่จวิน​ เรื่อง​ของ​การ​จ่าย​เงิน​ซื้อ​สถานที่​ประกอบ​พิธีกรรม​ คราวหน้า​ข้า​จะไป​เยือน​จวน​ชิงอ​วิ๋น​เพื่อ​ปรึกษา​กับ​ท่าน​ด้วยตัวเอง​ วันนี้​อย่า​เพิ่ง​พูด​กัน​เลย​ดีกว่า​ มีแขก​อยู่​ด้วย​”

นาง​กังวล​ว่า​เจ้าเหมย​เฮ้อ​ผู้​นี้​พูดจา​ไม่เข้าหู​อาจ​ถูคน​ฟัน​ตาย​เอา​ได้​

แม้ว่า​เหมย​เฮ้อ​จะแปลกใจ​ว่า​ทำไม​อีก​ฝ่าย​ถึงได้​เปลี่ยนใจ​ แต่กลับ​ไม่ได้คิด​อะไร​มาก​นัก​ ลุกขึ้น​เดิน​จากไป​ เดิน​ไป​ขึ้นรถ​ที่​ทา​เคลือบ​ด้วย​สีเขียว​ ทะยาน​เมฆหวนกลับ​ไป​ยัง​จวน​ของ​ตัวเอง​

กง​ซิน​โจว​ดึง​ตัว​เด็กสาว​แม่ย่า​ลำคลอง​ให้​ไป​ส่งอีก​ฝ่าย​ด้วยกัน​ รอ​กระทั่ง​ไม่เห็น​ร่องรอย​ของ​ราชรถ​แล้ว​ถึงได้​กลับมา​ที่​ร้านเหล้า​ ดื่มเหล้า​ต่อ​ ชามเหล้า​บน​โต๊ะ​ล้วน​ว่างเปล่า​แล้วจึง​ถือ​ชามด้วยมือ​ข้าง​ละ​ใบ​เดิน​ไป​ยัง​ถังบรรจุ​สุรา​ คนหนุ่ม​ชุด​เขียว​ก็​ยืน​อยู่​ที่​ถังเหล้า​แล้ว​ ตอนที่​ท่าน​เทพ​ภูเขา​ไป​ตัก​เหล้า​ คนต่างถิ่น​ที่​ไม่เข้าใจ​เรื่อง​การ​วางตัว​ใน​สังคม​แม้แต่น้อย​ผู้​นี้​ เวลานี้​กลับ​เหมือน​สติปัญญา​เปิด​ออก​ ไม่ได้​ตัก​เหล้า​ให้​ตัวเอง​เสร็จ​แล้ว​เดิน​กลับ​ไป​ ถึงกับ​เป็น​ฝ่าย​ช่วย​ตัก​เหล้า​ให้​ ท่าน​เทพ​ภูเขา​ผู้เฒ่า​ถอนหายใจ​อยู่​ใน​ใจเบา​ๆ ก่อนหน้านี้​มัว​ทำ​อะไร​อยู่​ ยืนกราน​จะถก​ถียง​ใน​เรื่อง​ที่​ไม่เจ็บ​ไม่คัน​ไม่สลักสำคัญ​กับ​เหมย​ฝู่จวิน​ให้จงได้​ไป​ทำไม​กัน​

เฉิน​ผิง​อัน​กลับมา​นั่ง​ที่​โต๊ะ​ ร้อง​หึ​หนึ่ง​ที​ “ตราประทับ​ข้า​แพร่​ไป​ทั่ว​ใต้​หล้า​ คน​ที่​เลียนแบบ​ย่อม​มีมากมาย​”

หย่า​งจื่อ​ถามชวน​คุย​ “เจ้าเกลียด​แค้น​เลี่ย​จี่หรือไม่​?”

บางที​อาจ​เป็น​เพราะ​การ​ออก​กระบี่​ของ​เลี่ย​จี่ ภายหลัง​เฉิน​ผิง​อัน​ถึงได้​ออกจาก​คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​ไป​อย่าง​ลับ​ๆ ไป​เยือน​คุก​ แล้ว​ถึงได้​เจอ​กับ​คน​เย็บผ้า​ ถึงได้​แบกรับ​ชื่อจริง​ของ​เผ่า​ปีศาจ​ ถึงได้​ผสาน​มรรคา​กับ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​อีก​ครึ่งหนึ่ง​…

เรื่อง​ที่​แน่นอน​เรื่อง​หนึ่ง​ ไม่อาจ​รู้​ได้​เลย​ว่า​แท้จริง​แล้ว​เกิด​จาก​ความบังเอิญ​กี่มากน้อย​ที่​ร้อย​เรียง​ต่อกัน​

เฉิน​ผิง​อัน​ส่ายหน้า​ “จะไป​เกลียด​แค้น​เขา​ทำไม​ ก็​เป็น​แค่​เรื่อง​ที่​มีเหตุผล​กับ​ไม่มีเหตุผล​เท่านั้น​”

ปี​นั้น​พวก​ผู้ฝึก​กระบี่​ใน​ท้องถิ่น​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​อย่าง​เซียว​สวิ้น​ ลั่ว​ซาน​ จู๋อาน​ คน​ที่​ทรยศ​ก็ดี​ หรือ​คน​อย่าง​เลี่ย​จี่ที่​ตาย​อยู่​ใน​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ก็ช่าง​ หรือ​จะเป็น​คน​อย่าง​จางลู่​ที่ตั้ง​แต่ต้นจนจบ​เลือก​ที่จะ​นิ่งดูดาย​อย่าง​เดียว​

ไม่แน่​เสมอไป​ว่า​จะต้อง​ถูก​ล่อลวง​ด้วย​ผลประโยชน์​จาก​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ บางที​พวกเขา​อาจจะ​แค่​เกลียด​ใต้​หล้า​ไพศาล​อย่าง​เดียว​เท่านั้น​ ไม่ยินดี​จะให้​ใต้​หล้า​ไพศาล​ที่​สงบสุข​มานาน​นับ​หมื่น​ปี​สงบสุข​อีกต่อไป​

ผู้ฝึก​กระบี่​พวก​นั้น​เคารพนับถือ​เฉิน​ชิงตู​ที่​เฝ้าพิทักษ์​หัว​กำแพงเมือง​มานาน​นับ​หมื่น​ปี​ แต่​ส่วนลึก​ใน​ใจย่อม​ไม่เห็นด้วย​กับ​การ​เลือก​ของ​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​ จะต้อง​รู้สึก​ว่า​ขี้ขลาด​เกินไป​ อัดอั้นตันใจ​เกินไป​

ส่วน​เลี่ย​จี่ผู้​นั้น​ อันที่จริง​ยัง​เป็นหนึ่ง​ใน​ผู้ฝึก​กระบี่​ห้า​ขอบเขต​บน​คน​แรก​ๆ ไป​ที่​จ่าย​เงิน​ซื้อ​เหล้า​ดื่ม​ที่​ร้านเหล้า​เล็ก​ร้าน​นั้น​ด้วย​

ปี​นั้น​อยู่​บน​หัว​กำแพงเมือง​ เฉิน​ผิง​อัน​รับ​เหล้า​ถ้ำสวรรค์​จู๋ไห่​ที่​ตัวเอง​หมัก​เอง​กา​หนึ่ง​มาจาก​มือ​ของ​เลี่ย​จี่

คิดไม่ถึง​ว่าการ​รับ​เหล้า​กา​นี้​จะเป็นการ​รับ​กระบี่​ที่​ชีวิต​แขวน​อยู่​บน​เส้นด้าย​

เฉิน​ผิง​อัน​ยก​ชามเหล้า​ขึ้น​ หันไป​ยัง​ทิศทาง​หนึ่ง​เล็กน้อย​ จากนั้น​กระดก​ดื่ม​จน​หมด​

ไม่ถ่วง​รั้ง​การ​แบ่ง​เป็น​ตาย​บน​สนามรบ​บางแห่ง​ของ​คน​ทั้งสอง​ ทั้ง​ยัง​ไม่ขัดขวาง​การ​ที่​ใน​ใจเฉิน​ผิง​อัน​จะเห็น​ว่า​คน​อย่าง​เลี่ย​จี่ก็​คือ​ผู้ฝึก​กระบี่​เต็มตัว​

หย่า​งจื่อ​นึก​เรื่อง​หนึ่ง​ขึ้น​ได้​ “หมี่​อวี้​เคย​ออก​กระบี่​ที่​สนามรบ​ของ​นคร​มังกร​เฒ่า ได้ยิน​ว่า​พอ​ออก​มาจาก​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ก็​ไป​พึ่งพา​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ของ​เจ้าหรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​

หย่า​งจื่อ​ถาม “เขา​ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​แล้ว​หรือยัง​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “ใกล้​แล้ว​ล่ะ​”

หย่า​งจื่อ​ไม่เห็น​เป็นสำคัญ​ “ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​ กลายเป็น​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ของ​ใต้​หล้า​ไพศาล​ มีความหมาย​ที่ใด​ หาก​จะให้​ข้า​พูด​ คน​ที่​จิต​แห่ง​กระบี่​บริสุทธิ์​อย่าง​หมี่​อวี้​ ปี​นั้น​ก็​ควรจะ​ติดตาม​เซียว​สวิ้น​ไป​อยู่​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ อยู่​ต่อ​ที่นี่​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ยังมี​สถานะ​บน​ทำเนียบ​เพิ่ม​มา มีแต่​จะถูก​มัด​มือ​มัด​เท้า​ ก็​เหมือน​คน​ที่ทำงาน​อยู่​ใน​ที่ว่าการ​ คิด​จะออก​เดินทางไกล​สักครั้ง​ก็​ยัง​ต้อง​ไป​ลงชื่อ​ จะต้อง​หาเรื่อง​ลำบาก​ให้​ตัวเอง​ไป​ไย​”

“อย่า​ได้​ใช้ความคิด​ของ​ตัวเอง​ไป​วัด​ความคิด​ของ​คนอื่น​”

เฉิน​ผิง​อัน​ส่ายหน้า​เอ่ย​ “ใน​เมื่อ​ไม่ใช่ผู้ฝึก​กระบี่​ก็​อย่า​สอน​ผู้ฝึก​กระบี่​ว่า​ไม่ควร​ทำ​อะไร​”

ไม่ยินดี​จะพูดถึง​เรื่อง​นี้​ให้​มากความ​ เฉิน​ผิง​อัน​หันไป​มอง​เด็กสาว​แม่ย่า​ลำคลอง​ ถามว่า​ “ขาย​เหล้า​อยู่​ที่นี่​ทุกวัน​ อยู่​ว่าง​ๆ ก็​เบื่อ​ เจ้าไม่คิด​จะรับ​กาน​โจว​เป็น​ลูกศิษย์​ที่​ไม่ได้รับ​การ​บันทึก​ชื่อ​ ถ่ายทอดวิชา​คาถา​น้ำ​ให้​นาง​สัก​บท​สอง​บท​บ้าง​หรือ​?”

แม่ย่า​ลำคลอง​เฉาชิว​ผู้​นี้​คล้าย​จะมีวัตถุ​แห่ง​ชะตาชีวิต​อยู่​ชิ้น​หนึ่ง​ที่​มีชื่อว่า​คันฉ่อง​งูรัด​ ชื่อ​ของ​กระจก​ตั้ง​มาจาก​ภาษาโบราณ​ที่​มีพลัง​อำนาจ​มหาศาล​ประโยค​หนึ่ง​

‘ข้า​พิศ​มอง​ห้วง​มหรณพ​กว้างใหญ่​ คลื่น​ยักษ์​ถาโถมซัดสาด​ เก้า​ทวีป​อยู่​ตรงกลาง​ ดุจ​งูรัด​พัน​คันฉ่อง​’

เล่าลือ​กัน​ว่า​ความเป็นมา​ของ​ขอบเขต​ชมมหาสมุทร​ของ​ผู้ฝึก​ลมปราณ​ก็​มีที่​มาจาก​ประโยค​นี้​เช่นกัน​

แม้ว่า​ระดับ​ขั้น​ของ​กระจก​บาน​นี้​ของ​เด็กสาว​จะไม่สูง เป็น​แค่​อาวุธ​วิเศษ​ชิ้น​หนึ่ง​ แต่​สำหรับ​หย่า​งจื่อ​แล้ว​ หาก​คิด​ตาม​กฎเกณฑ์​บน​ภูเขา​ ก็​ถือว่า​เป็น​โชควาสนา​ครั้งหนึ่ง​ได้​เช่นกัน​

หย่า​งจื่อ​มอง​เด็กสาว​แม่ย่า​ลำคลอง​ที่​ไม่ได้​น่ารังเกียจ​เลย​จริงๆ​ ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “ก่อนหน้า​นั้น​ไม่เคย​คิดถึง​เรื่อง​นี้​ ใน​เมื่อ​วันนี้​เจ้าพูด​แบบนี้​แล้ว​ วันหน้า​ก็​ขึ้นอยู่กับ​อารมณ์​แล้วกัน​”

เฉิน​ผิง​อัน​ถาม “พวก​เจ้าสอง​คน​คุย​กัน​เสร็จ​แล้ว​หรือ​?”

ชิงถงพยักหน้า​ “วันหน้า​หาก​ข้า​มีโอกาส​ได้มา​เยือน​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​ ค่อย​มาหา​สหาย​หย่า​งจื่อ​ใหม่​”

หย่า​งจื่อ​ยิ้ม​เอ่ย​ “ชิงถง บน​ร่าง​เจ้ามีหนังสือ​เบ็ดเตล็ด​สัก​สอง​สามเล่ม​มามอบให้​ข้า​บ้าง​ได้​ไหม​”

นอกจาก​ตำรา​ลับ​ที่​มีมูลค่า​ควร​เมือง​ทั้งหลาย​ รวมไปถึง​หนังสือ​โบราณ​ที่​มีเล่ม​เดียว​ซึ่งหา​ได้​ยาก​ที่​ลำคลอง​เย่ลั่ว​เก็บรักษา​ไว้​เป็น​อย่าง​ดี​ บน​ร่าง​ของ​นาง​ก็​มีหนังสือ​เบ็ดเตล็ด​อยู่​แค่​ไม่กี่​เล่ม​เท่านั้น​ หลาย​ปี​มานี้​เปิด​อ่าน​ไม่รู้​กี่​รอบ​ต่อ​กี่​รอบ​แล้ว​ หาก​จะบอ​กว่า​จะต้อง​เปิดปาก​ขอจาก​ศาล​บุ๋น​ใน​เรื่อง​เล็กน้อย​แค่นี้​ หย่า​งจื่อ​ก็​เปิดปาก​ไม่ได้​จริงๆ​ แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​ต่อให้​นาง​หน้าหนา​เช่นนี้​จริง​ ผล​คือ​ศาล​บุ๋น​มอบ​ตำรา​อริยะ​ปราชญ์​กอง​หนึ่ง​มาให้​ จะไม่ยิ่ง​เป็นการ​หาเรื่อง​ใส่ตัว​เข้าไป​ใหญ่​หรอก​หรือ​

ชิงถงพยัก​หน้ายิ้ม​เอ่ย​ “เรื่อง​เล็กน้อย​ ชอบ​อ่าน​ตำรา​ประเภท​ไหนล่ะ​? เป็น​ตำรา​ของ​สามลัทธิ​ เกร็ดพงศาวดาร​ หรือว่า​นิยาย​เรื่องเล่า​ประหลาด​ บุรุษ​มาก​ความสามารถ​กับ​โฉมสะคราญ​ นิยาย​ต่อสู้​?”

หย่า​งจื่อ​เอง​ก็​ไม่เกรงใจ​ชิงถง เอ่ย​ว่า​ “เอา​มาทุกชนิด​ ชนิด​ล่ะ​หลาย​ๆ เล่ม​”

ชิงถงหันไป​มอง​เฉิน​ผิง​อัน​

เฉิน​ผิง​อัน​เดา​ความคิด​ของ​พวกเขา​ออก​ จึงยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “หาก​พวก​เจ้าสอง​คน​สามารถ​ทำ​เรื่อง​ที่​มิอาจ​เปิดเผย​ใต้​เปลือกตา​ของ​ห​ลี่​เซิ่งได้​ ก็​ถือว่า​มีความสามารถ​ ข้า​จะขวาง​ได้​อย่างไร​”

ดังนั้น​ชิงถงจึงวางใจ​ได้​ แอบ​ร่าย​เวท​คาถา​บท​หนึ่ง​มอบ​หนังสือ​ให้​หย่า​งจื่อ​ไว้​ร้อย​กว่า​เล่ม​

หย่า​งจื่อ​เอ่ย​ขอบคุณ​หนึ่ง​คำ​

จากนั้น​หย่า​งจื่อ​ที่​ลังเล​เล็กน้อย​ก็​จ้อง​เป๋ง​มาที่​เฉิน​ผิง​อัน​ ถามว่า​ “การค้า​ที่​ข้า​เสนอ​ไป​ก่อนหน้านี้​ เจ้าไม่มีความเห็น​อะไร​จริงๆ​ หรือ​?”

จิต​ของ​เทพ​ภูเขา​เฒ่าขยับ​ไหว​เล็กน้อย​ รีบ​เปิด​หน้า​หนังสือ​ ใน​หน้า​ท้าย​ของ​ตำรา​ตราประทับ​เล่ม​นั้น​มีตราประทับ​ใหม่เอี่ยม​อัน​หนึ่ง​ที่​เมื่อก่อน​ต้อง​ไม่เคย​มีมาก่อน​แน่นอน​

‘ต่อให้​ภูเขา​ไม่สูง แต่​มีเทพ​ก็​ศักดิ์สิทธิ์​ได้​’

เด็กสาว​แม่ย่า​ลำคลอง​ยืด​คอ​มามอง​แล้วก็​ไม่ได้​เห็น​เป็นสำคัญ​อะไร​ เพียงแค่​สังเกตเห็น​ว่า​เถ้าแก่​เนี้ยะ​กลับ​ลุกขึ้น​กะทันหัน​ คล้าย​ว่า​มีแขก​ผู้สูงศักดิ์​อย่าง​แท้จริง​มาเยือน​ มองตาม​สายตา​ของ​สตรี​คน​ขาย​เหล้า​ไป​ คือ​ลูกศิษย์​ลัทธิ​ขงจื๊อ​วัยกลางคน​ที่​กลิ่นอาย​ตำรา​มีเต็ม​ร่าง​ มองดู​แล้ว​ค่อนข้าง​คุ้นหน้า​อยู่​บ้าง​ ข้าง​กาย​บัณฑิต​คือ​บัณฑิต​เฒ่าลักษณะ​ยากจน​ หน้าตา​ไม่คุ้น​ บัณฑิต​ทั้งสอง​เดิน​ตรง​มาที่นี่​ด้วยกัน​ จากนั้น​แม่ย่า​ลำคลอง​เฉาชิว​คล้าย​จะตาลาย​ไป​วูบ​หนึ่ง​ ผู้เฒ่า​ยากจน​ก็​เหมือน​หด​ย่อ​พื้น​ที่มา​อยู่​ข้าง​โต๊ะ​เหล้า​เรียบร้อย​แล้ว​ ทั้ง​ยัง​ตบ​ไหล่​ของ​เทพ​ภูเขา​เฒ่า หัวเราะ​ร่า​เอ่ย​ว่า​ “พี่ชาย​เทพ​ภูเขา​ท่าน​นี้​ ตราประทับ​บน​ตำรา​สง่างามหรือไม่​?!”

หย่า​งจื่อ​สงสัย​ใคร่รู้​เป็น​อย่างยิ่ง​ ใช้เสียง​ใน​ใจสอบถาม​ “ห​ลี่​เซิ่งมาได้​อย่างไร​?”

ห​ลี่​เซิ่งยิ้ม​กล่าว​ “มิอาจ​ต้านทาน​การกระทำ​ที่​ผิดปกติ​ของ​ใคร​บางคน​ได้​ ถึงกับ​ไม่ได้​อาละวาด​โวยวาย​อย่าง​ที่แล้ว​มา แค่​ดื่มเหล้า​เงียบๆ​ อยู่​คนเดียว​เท่านั้น​ จน​ซีผิง​ยัง​รู้สึก​กลัว​เขา​ จึงได้​แต่​มาแจ้งข้า​ เพื่อ​จะได้​ให้​ใคร​บางคน​สบายใจ​”

คน​แต่ละ​รุ่น​ล้วน​ต้อง​มีบุคคล​ที่​ยาก​จะทัดเทียม​ได้​

ป๋า​ย​เห​ย่​ ผู้​เป็นที่​ภาคภูมิใจ​ของ​โลก​มนุษย์​ ผู้​ประสบความสำเร็จ​ด้าน​ยันต์​อย่า​งอ​วี๋​เสวียน​ ซูจื่อ​ผู้​ห้าวหาญ​ หลิ่ว​ชีผู้​สง่างาม

เทียน​ซือ​ภูใหญ่​เขา​มังกร​พยัคฆ์​รุ่น​ก่อน​ เหวย​เซ่อ​แห่ง​ธวัล​ทวีป​ ฮว่อ​หลง​เจิน​เห​ริน​แห่ง​ยอดเขา​พา​ตี้​ เผย​หมิ่น​แห่ง​เวท​กระบี่​ คน​พิฆาต​มังกร​ โจว​เสินจือ​แห่ง​แผ่นดิน​กลาง​ ไหว​อิน​…

เจิ้งจวี​จงแห่ง​นคร​จักรพรรดิ​ขาว​ กวอ​โอ่​วทิง​แห่ง​ภูเขา​ต้นไม้​เหล็ก​ เผย​เปย​ เฉาสือ…​

ทว่า​ต่อให้​เป็น​ผู้​ที่​เป็นที่​ภาคภูมิใจ​ที่สุด​ใน​ไพศาล​อย่าง​ป๋า​ย​เห​ย่​ คน​ที่​นิสัย​พยศ​ยาก​กำราบ​อย่าง​คน​พิฆาต​มังกร​ คน​ที่​ลึกลับ​ยาก​จะคาดเดา​อย่าง​เจิ้งจวี​จง คาด​ว่า​เมื่อ​มาอยู่​กับ​จอม​ปราชญ์​น้อย​ที่อยู่​ใน​รูปลักษณ์​ของ​ลูกศิษย์​ลัทธิ​ขงจื๊อ​วัยกลางคน​ผู้​นี้​ก็​คงจะ​ยัง​ยึดหลัก​มารยาท​ของ​ผู้เยาว์​อย่าง​ยินยอมพร้อมใจ​กระมัง​

แม่ย่า​ลำคลอง​เฉาชิว​ถามอย่าง​ระมัดระวัง​ “นาย​ท่าน​ห​ลี่​เซิ่ง?”

ห​ลี่​เซิ่งพยักหน้า​รับ​ด้วย​รอยยิ้ม​

ซิ่ว​ไฉเฒ่าจัดระเบียบ​เสื้อผ้า​ กระแอม​หนึ่ง​ที​ ก่อน​จะกระแอม​ติดๆ​ กัน​อีก​หลาย​ที​ เด็กสาว​ได้​แต่​รู้สึก​สงสัย​ ไม่เข้าใจ​เลย​แม้แต่น้อย​ อะไร​ เจ้าเป็น​ใคร​กัน​ ต่อให้​เป็น​นาย​ท่าน​ขุน​นางใน​ศาล​บุ๋น​ เป็น​ผู้อำนวยการ​รองผู้อำนวยการ​หรือ​เจ้าขุนเขา​สำนักศึกษา​อะไร​นั่น​ แต่​ข้า​ก็​ไม่รู้จัก​เจ้านี่​นา​ จะให้​ข้า​พูด​ประจบ​ได้​อย่างไร​?

ซิ่ว​ไฉเฒ่าจึงได้​แต่​แนะนำ​ตัวเอง​ สะบัด​ชาย​แขน​เสื้อ​ “ข้า​คือ​อาจารย์​ของ​มือ​กระบี่​ชุด​เขียว​คน​เมื่อครู่นี้​”

กง​ซิน​โจว​เหม่อมอง​นาย​ท่าน​ห​ลี่​เซิ่ง กลืนน้ำลาย​เอื้อ​ก​ ถ้อย​คำนับ​พัน​นับ​หมื่น​ถูก​อุด​อยู่​ตรง​ปาก​ ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​เปิดปาก​พูด​เช่นไร​ ต้องโทษ​ที่​ก่อนหน้านี้​ดื่มเหล้า​ไป​หลาย​ชาม ต้องโทษ​สุรา​เลย​ทีเดียว​

จากนั้น​ไหล่​ของ​เทพ​ภูเขา​ผู้เฒ่า​ก็​ถูก​ซิ่ว​ไฉฒ่าตบ​อีกที​ “ดี​ๆๆ พี่​เทพ​ภูเขา​ช่างมีความกล้าหาญ​จริงๆ​ ต่อให้​เจอ​กับ​ห​ลี่​เซิ่งของ​พวกเรา​แล้​วจะ​อย่างไร​ ก็​ยัง​แน่ว​นิ่ง​ไม่สะทกสะท้าน​ดุจ​มหา​บรรพ​ต.​..”

ระหว่าง​ที่​พูด​ซิ่ว​ไฉเฒ่าได้​เดิน​อ้อม​ผ่าน​โต๊ะ​เหล้า​มาช่วย​ขยับ​ยก​ม้านั่งยาว​ให้​ห​ลี่​เซิ่งแล้ว​ จากนั้น​ก็​วิ่ง​ตุปัดตุเป๋​ไป​ตัก​เหล้า​ ยก​เหล้า​มาวาง​บน​โต๊ะ​ ใช้ชาย​แขน​เสื้อ​เช็ด​โต๊ะ​ ทำ​เหมือนกับ​เทพ​ภูเขา​ผู้เฒ่า​ก่อนหน้านี้​ไม่มีผิด​ จากนั้น​ก็​วิ่ง​ไป​ที่​ถังเหล้า​อี​กรอบ​ แม้แต่​ส่วน​ของ​เทพ​ภูเขา​ผู้เฒ่า​และ​เด็กสาว​แม่ย่า​ลำคลอง​ก็​ยัง​ไม่ลืม​ เพียง​ชั่วพริบตา​ก็​ทำสำเร็จ​ได้​ใน​รวดเดียว​ กง​ซิน​โจว​ที่​ถูก​คน​เรียก​ว่า​พี่ชาย​เทพ​ภูเขา​คำ​แล้ว​คำ​เล่า​รับ​ชามเหล้า​มา ถามเสียงสั่น​ว่า​ “ไม่ทราบ​ว่า​ท่าน​อาจารย์​คือ​ใคร​หรือ​?”

ซิ่ว​ไฉเฒ่าทอดถอนใจ​ยาวเหยียด​ บ่นว่า​ “ถามเรื่อง​นี้​ทำไม​ แค่​รู้​ว่า​ลูกศิษย์​ปิด​สำนัก​ของ​ข้า​เป็น​ใคร​ก็​พอแล้ว​”

ห​ลี่​เซิ่งมอง​ซิ่ว​ไฉเฒ่าที่​ยิ้ม​กว้าง​จน​หุบปาก​ไม่ลง​ แล้วจึง​พูด​กลั้ว​หัวเราะ​เบา​ๆ ว่า​ “พวกเรา​นั่งลง​ดื่มเหล้า​กัน​เถอะ​”

อันที่จริง​ก่อนหน้านี้​ซิ่ว​ไฉเฒ่าที่อยู่​ใน​สวน​กง​เต๋อ​ไม่ได้​เป็น​เช่นนี้​ จิงเซิงซีผิง​ไม่เคย​เห็น​ซิ่ว​ไฉเฒ่าที่​เงียบงัน​เช่นนั้น​มาก่อน​

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!