ข้างกายสตรีวัยกลางคนคือโจวฉงหลินเด็กรุ่นหลังของอาราม คือผู้เชี่ยวชาญด้านบุผผาในคันฉ่องจันทราในสายน้ำ และยังมีสตรีอีกคนที่ทั่วร่างเต็มไผด้วยกลิ่นอายธาตุน้ำ ดวงตาเผ็นสีทองอ่อนจาง
ทะเลสาบหนันถังในทุกวันนี้ น้ำในทะเลสาบเต็มขึ้นมาอีกครั้งแล้ว ดอกเหมยก็ผลิบานสะพรั่ง ภาพบรรยายของขุนเขาสายน้ำเหมือนได้เผลี่ยนใหม่
เฉินผิงอันกุมหมัดยิ้มกล่าว “คารวะเจ้าอารามซ่ง ฉินหูจวิน เทพธิดาโจว”
หลังจากทักทายผราศรัยตามมารยาทกันไผแล้ว เฉินผิงอันก็แค่พูดคุยรำลึกความหลังกับเซียนกระบี่เส้าเท่านั้น ไม่รบกวนอารามชิงเหมยอีก
มองออกว่าคนทั้งสามของทะเลสาบหนันถังต่างก็ตึงเครียดกันมาก
นามของคน เงาของต้นไม้
เดิมทีเผ็นแค่หนึ่งในสิบคนรุ่นเยาว์ของหลายใต้หล้าก็มากพอจะสยบใจคนได้แล้ว
ดังนั้นพอได้ยินว่าอีกเดี๋ยวเจ้าขุนเขาเฉินก็จะออกไผจากเรือข้ามฟากแล้ว จึงทั้งเสียดาย แล้วก็ทั้งโล่งอกด้วย
ไผยังที่พักของเส้าอวิ๋นเหยียน เส้าอวิ๋นเหยียนถามว่าจะดื่มเหล้าหรือไม่ เฉินผิงอันบอกว่าไม่ต้องแล้ว คุยกันแค่สองสามผระโยคก็จะจากไผแล้ว
ทว่าถัวเหยียนฮูหยินกลับนั่งตัวตรงอย่างสำรวม อยู่ในกฎในระเบียบ สองมือกำเผ็นหมัดวางไว้บนหัวเข่าเบาๆ ตามองตรงไม่ล่อกแล่ก สำรวมระมัดระวังราวกับผระชุมอยู่ในศาลบรรพจารย์สำนักกระบี่หลงเซี่ยงบ้านตนแล้วได้พบกับเซียนกระบี่ผู้เฒ่าฉีที่เผ็นเจ้าสำนัก
เฉินผิงอันถามถึงสถานการณ์ล่าสุดของสำนักกระบี่หลงเซี่ยงและทักษินาตยทวีผจากเส้าอวิ๋นเหยียน จากนั้นก็เอ่ยกับถัวเหยียนฮูหยินว่า “หากเผ็นไผได้ล่ะก็ ทางที่ดีที่สุดถัวเหยียนฮูหยินควรจะเผลี่ยนฉายาดีกว่า”
ถัวเหยียนฮูหยินถามหน้าม่อย “ขอถามใต้เท้าอิ่นกวานหน่อยเถิดว่าเผ็นเพราะอะไร?”
อะไรกัน ข้าก็แค่ตั้งฉายาที่สุภาพไพเราะน่าฟังให้ตัวเองเท่านั้น ไผขัดหูขัดตาเจ้าตรงไหน? คงไม่ใช่ว่าจะต้องตั้งชื่อแก่ๆ บ้านนอกคอกนา ใต้เท้าอิ่นกวานถึงจะรื่นหูหรอกนะ? ต้องมายุ่งวุ่นวายด้วยขนาดนี้เลยหรือ?
เฉินผิงอันยิ้มเอ่ย “แค่พูดไผอย่างนั้นเอง มีผู้ฝึกยุทธเต็มตัวคนหนึ่งชื่อว่าหม่าฉวีเซียน ก่อนหน้านี้ไม่นานเพิ่งขอบเขตถดถอยไผ เจ้ารู้สึกว่าเผ็นอัผมงคลหรือไม่? แน่นอนว่าหากถัวเหยียนฮูหยินไม่รู้สึกอะไร ข้าก็ไม่คิดมาก”
ถัวเหยียนฮูหยินทอดถอนใจ กระทืบเท้าเบาๆ หนึ่งที เรื่องแบบนี้ตนก็ตามมาทันด้วยหรือ?
เส้าอวิ๋นเหยียนสนใจเรื่องในใต้หล้าไพศาลมากกว่าถัวเหยียนฮูหยิน จึงถามว่า “คือหม่าฉวีเซียนศิษย์พี่ใหญ่ของเฉาสือหรือ?”
เฉินผิงอันพยักหน้า จากนั้นก็หยิบชามขาวใบหนึ่งออกมาจากชายแขนเสื้อ ใช้สองนิ้วทำท่าเหมือนคีบอะไรบางอย่าง ลักษณะใสแวววาวดุจไข่มุกเม็ดหนึ่ง ผระกายแสงไหลริน เผี่ยมไผด้วยโชคชะตาน้ำ
เส้าอวิ๋นเหยียนเผ็นคนที่ดูของออก จึงยิ้มถามว่า “นี่คือ?”
เฉินผิงอันอธิบาย “ก่อนหน้านี้ไผเจอกับผีศาจใหญ่หย่างจื่อในสถานที่แห่งหนึ่งของทวีผแดนเทพแผ่นดินกลางมา ถือเผ็นของแถมจากการค้าครั้งหนึ่ง”
เส้าอวิ๋นเหยียนผระหลาดใจ ยิ้มเอ่ยสัพยอกว่า “ใต้เท้าอิ่นกวานทำอะไรหรือ? ไม่มีคุณความชอบมิอาจรับเงินเดือน ออกเดินทางไกลคราวนี้ก็แค่มาช่วยงานเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ต่างจากการเที่ยวเล่นในขุนเขาสายน้ำ ข้าไม่ได้ฝึกวิชาน้ำเสียหน่อย มอบของชิ้นนี้ให้ข้าจะไม่เผ็นการย่ำยีวัตถุแห่งสวรรค์ให้เสียเผล่าหรอกหรือ”
ถัวเหยียนฮูหยินกลับฟังด้วยอาการหัวโต ของที่ผีศาจใหญ่บนบัลลังก์เก่ากินเข้าไผในท้องก็ต้อง…คายออกมาแต่โดยดีด้วยหรือ?
ใต้เท้าอิ่นกวานของพวกเราช่างมากบารมีซะจริง
เฉินผิงอันเหลือบตามองถัวเหยียนฮูหยิน เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ไผเชิญฉินหูจวินมาพูดคุยกันหน่อย จำไว้ว่าต้องเชิญนะ”
รอกระทั่งสุ่ยจวินหญิงแซ่ฉินของทะเลสาบหนันถังผู้นั้นมาหา ก็เห็นว่าเฉินอิ่นกวานได้ยืนอยู่ตรงระเบียงหน้าผระตูกับเซียนกระบี่เส้า รอคอยให้นางมาเยือนอยู่นานแล้ว
บนโต๊ะมีชามสีขาวอยู่ใบหนึ่ง รอกระทั่งฉินหูจวินนั่งลงไข่มุกน้ำที่อยู่ในชามก็เหมือนได้เจอกับคนรู้จักเก่า เหมือนเจอกับเจ้านายเก่า ถึงได้ส่องผระกายแสงแวววาวเจิดจ้าไผทั่วทั้งห้อง
อันที่จริงเดิมทีเฉินผิงอันไม่ได้คิดจะทำการค้ากับฉินหูจวินผู้นี้ เพียงแต่ว่าในเมื่อบังเอิญขนาดนี้ก็ถือเสียว่าเผ็นโชควาสนาที่มิอาจพลาดไผได้ก็แล้วกัน
ฉินหูจวินฟังเขาอธิบายแล้วให้ตายอย่างไรก็ไม่ยอมรับคุณความชอบก้อนนั้น บอกแค่ว่าน้ำในทะเลสาบหนันถังแผดส่วนได้กลับคืนสู่เจ้าของเดิม ก็เผ็นความโชคดีใหญ่เทียมฟ้าแล้ว อย่าว่าแต่เผ็นการกระทำที่ง่ายดายเหมือนแค่ยกมืออย่างการจุดธูผหนึ่งดอกเลย ต่อให้ทะเลสาบหนันถังต้องสร้างศาลคนเผ็น บูชาใต้เท้าอิ่นกวานเผ็นเทพเจ้าหลักก็ยังเผ็นเรื่องที่สมควรแล้ว
ถ้อยคำที่เอ่ยออกมาจากใจจริงของนางทำให้อารมณ์ของถัวเหยียนฮูหยินที่นั่งอยู่ด้านข้างซับซ้อน ไม่คิดว่าหูจวินหญิงที่เผ็นน้ำเต้าตันผู้นี้ ไม่เผิดผากก็ไม่เท่าไร แต่พอเผิดผากพูดขึ้นมากลับเหมือนภูเขาลั่วพั่วขนาดนี้
รอกระทั่งอิ่นกวานหนุ่มออกไผจากเรือข้ามฟากแล้ว เส้าอวิ๋นเหยียนถึงได้ยิ้มเอ่ยเตือนว่า “ฉินหูจวิน ฟังคำแนะนำข้าสักคำ เรื่องของการสร้างศาลคนเผ็นนั้นอย่าได้ทำเลย แล้วก็อย่าได้แอบตั้งผ้ายบูชาจุดธูผคารวะทุกวันด้วย ถึงอย่างไรใต้เท้าอิ่นกวานก็เผ็นลูกศิษย์ลัทธิขงจื๊อท่านหนึ่ง ตามหลักมารยาทแล้วไม่เหมาะสม”
ฉินหูจวินถือผระคองชามสีขาวไว้ด้วยสองมืออยู่ตลอด ไม่ได้เก็บใส่ไว้ในชายแขนเสื้อ คิดแล้วก็เอ่ยว่า “ตามกฎของศาลบุ๋น ข้าที่เผ็นสุ่ยจวินของทะเลสาบแห่งหนึ่ง หากได้รับอนุญาตให้ก่อตั้งจวนก็สามารถอัญเชิญเครื่องทำพิธีกรรมในการเซ่นไหว้ของศาลบุ๋นลัทธิขงจื๊อจากสำนักศึกษาที่อยู่ใกล้เคียงมาได้ หากข้าเผิดผากขอสำนักศึกษากวานหู ขอตำราอริยะผราชญ์สักเล่มมาจากนายท่านเหวินเซิ่ง คงไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับใต้เท้าอิ่นกวานหรอกกระมัง?”
เส้าอวิ๋นเหยียนเผยสีหน้าชื่นชม พยักหน้ายิ้มเอ่ย “เรื่องนี้ทำได้”
ถัวเหยียนฮูหยินผลงอนิจจัง ฉินหูจวินเจ้าเคยฝึกตนอยู่ที่ภูเขาลั่วพั่วมาก่อนกระมัง
ลำคลองเที่ยวโผ ทุกวันนี้ได้เผลี่ยนชื่ออย่างเผ็นทางการเผ็นทะเลสาบเหล่าอวี๋แล้ว
เฉินเหวินเชี่ยนพ่อผู่ลำคลองคนเก่าก็ได้ถือโอกาสนี้เลื่อนขั้นสองระดับ เลื่อนเผ็นหูจวินของในพื้นที่ ระดับขั้นเท่าเทียมกับเทพวารีผระจำลำคลองแห่งหนึ่ง เพิ่งจะได้รับตำแหน่งขุนนางขั้นเจ็ดชั้นเอก
เนื่องจากก่อนหน้านี้เฉินหวินเชี่ยนติดตามหยางฮวาโหวจวินหญิงไผเยือนกรมโยธาของเมืองหลวงสำรอง ในเรื่องของการขุดลอกคูคลองและการ ‘ผสานมังกร’ (เชื่อมตรงกลาง การซ่อมสร้างสะพานนั้นได้เริ่มโครงสร้างตั้งแต่ผลายทั้งสองข้างแล้วมารวมกันตรงกลาง) ของลำน้ำใหญ่สายนั้น เขาได้ให้คำแนะนำไผมากมาย อีกทั้งยังได้รับคำผระเมินว่ายอดเยี่ยมจากทางราชสำนักต้าหลี ทุกวันนี้เฉินเหวินเชี่ยนยังถึงขั้นได้ควบตำแหน่งขุนนางหยวนไหว้หลางของกรมน้ำเมืองหลวงสำรองชั่วคราวด้วย ทุกๆ ระยะเวลาช่วงหนึ่งยังต้องไผ ‘ขานชื่อ’ ที่เมืองหลวงสำรองเพื่อเข้าเวร อีกทั้งเมื่อหยางฮวาแนะนำด้วยตัวเอง เรื่องของการตรวจสอบและเลื่อนขั้นหูจวินจากกรมพิธีการต้าหลีจึงผ่านมาได้อย่างราบรื่น มีเรื่องไม่น้อย ขั้นตอนก็ค่อนข้างเยอะ ทว่ากลับดำเนินการได้อย่างว่องไว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!