กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 930

ทุกครั้งที่​เถียน​หู​จวิน​อยู่​ใน​ห้อง​นี้​ แม้แต่​จะดื่มเหล้า​ก็​ยัง​ไม่กล้า​ดื่ม​คำ​ใหญ่​จริงๆ​

กลัว​ก็​แต่ว่า​จะทำให้​อาจารย์​ไม่พอใจ​ จากนั้น​คิดบัญชี​เก่า​ใหม่​กับ​ตน​พร้อมกัน​ทีเดียว​

ได้ยิน​ประโยค​ที่​แฝงปราณ​สังหาร​นี้​ของ​หลิว​จื้อ​เม่า ใบหน้า​ของ​เถียน​หู​จวิน​ก็​ขาวซีด​ใน​ฉับพลัน​

คำ​ว่า​ ‘คน​เขา​’ ที่​อาจารย์​พูดถึง​ แน่นอน​ว่า​ต้อง​หมายถึง​อิ่น​กวาน​ผู้​นั้น​แล้ว​

จางเย่​ส่าย​หน้ายิ้ม​เอ่ย​ “เถียน​หู​จวิน​ก็​ไม่ถือว่า​แย่​สักหน่อย​ หรือว่า​ทุกวันนี้​แม้แต่​เซียน​ดิน​โอสถ​ทอง​ก็​ไม่มีค่า​แล้ว​?”

หลิว​จื้อ​เม่าหลุด​หัวเราะ​พรืด​ “ที่​ใบ​ถงทวีป​คงจะ​มีค่า​มาก​เลย​ล่ะ​ เถียน​เซียน​ดิน​ของ​พวกเรา​ไป​ที่นั่น​ คิด​จะเปิด​ภูเขา​ตั้ง​สำนัก​ก็​ไม่ได้​ยาก​เลย​”

อันที่จริง​สำหรับ​การ​เติบโต​ทีละ​ก้าว​ของ​เถียน​หู​จวิน​ จางเย่​ก็​มีความประทับใจ​ที่​ไม่เลว​อยู่​เหมือนกัน​ ก็​แค่​ว่า​จิต​แห่ง​มรรคา​ของ​นาง​ไม่แข็งแกร่ง​พอ​ก็​เท่านั้น​ หาก​จะพูด​ถึงใจที่​คิด​ทำร้าย​คนอื่น​ อันที่จริง​นาง​ไม่ได้​มีมาก​นัก​ ทะเลสาบ​ซูเจี่ยน​ใน​อดีต​ ผู้ฝึก​ตน​ที่​มีเพียง​ขอบเขต​ จิตใจ​ไม่อำมหิต​มาก​พอ​เช่นนี้​ กลับ​กลายเป็น​ว่ายาก​ที่จะ​หยัดยืน​อยู่​ได้​นาน​ เพียงแต่ว่า​เมื่อ​เวลา​ผัน​ผ่าน​ ได้​กลายเป็น​ผู้ฝึก​ตน​บน​ทำเนียบ​ของ​สำนัก​เจินจิ้ง​ก็​หนี​ไม่พ้น​แค่​ต้อง​ตั้งใจ​ฝึก​ตน​ให้​ดี​ ไม่ต้อง​วางแผน​ปัดแข้งปัดขา​คนอื่น​มากเกินไป​ ไม่จำเป็นต้อง​เข่นฆ่า​กับ​ใคร​ กลับ​กลายเป็น​ว่า​จะมีอนาคต​ยาว​ไกล​ได้​มากกว่า​

นี่​ก็​คง​เป็น​เหมือน​ประโยค​หยอกล้อ​ที่​นัก​บัญชี​ใน​ปี​นั้น​กล่าว​ไว้​ คน​ของ​วันนี้​ยาก​จะบอก​เรื่อง​ของ​วันพรุ่งนี้​ได้​อย่าง​ชัดเจน​

หลังจากนั้น​ยังมี​ประโยค​ที่​มาจาก​ใจจริง​อีก​ประโยค​ว่า​ หาก​สะดุ้ง​ตื่นขึ้น​มาแล้ว​วันนี้​ยังคง​ไร้​เรื่องราว​ใด​ นั่น​ก็​คือ​ช่วงเวลา​อัน​ดี​ของ​โลก​มนุษย์​

จางเย่​เก็บ​ความคิด​จิตใจ​พวก​นี้​กลับคืน​มา เอ่ย​หยอกล้อ​ว่า​ “สำนัก​เจินจิ้ง​ของ​พวก​เจ้าไม่มีความสามารถ​ผายลม​อะไร​ทั้งนั้น​ มีเพียง​เปลี่ยน​เจ้าสำนัก​บ่อย​นี่แหละ​ที่​เป็น​อันดับ​หนึ่ง​ใน​ใต้​หล้า​ หาก​ยัง​เปลี่ยนคน​อีก​ เจ้าสำนัก​คน​ถัดไป​ก็​น่าจะ​ถึงคราว​เจ้าแล้ว​กระมัง​?”

เจียง​ซ่างเจิน​ เหวย​อิ๋ง​ หลิว​เหล่า​เฉิง เก้าอี้​อันดับ​หนึ่ง​ใน​ศาล​บรรพ​จารย์​ พวกเขา​ต่าง​ก็​นั่ง​กัน​เก้าอี้​ยัง​ไม่ทัน​ร้อน​ก็​ต้อง​เปลี่ยนคน​เสียแล้ว​

กับ​สหาย​เก่าแก่​อย่าง​จางเย่​ หลิว​จื้อ​เม่าไม่ได้​มีการปิดบัง​ใดๆ​ ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “หลิว​เหล่า​เฉิงเคย​มาพูดคุย​กับ​ข้า​เป็นการ​ส่วนตัว​อยู่​ครั้งหนึ่ง​ ถามข้า​ว่า​มีความต้องการ​นี้​หรือไม่​ หากว่า​ยินดี​ เขา​ก็​สามารถ​วางแผน​ทำ​เรื่อง​นี้​ได้​ตั้งแต่​ตอนนี้​เลย​ เมื่อ​โอกาส​มาถึง หลิว​เหล่า​เฉิงก็​จะแนะนำ​ให้​กับ​สำนัก​เบื้องบน​ หลีกเลี่ยง​ไม่ให้​เป็นการ​กอด​ขา​พระ​เมื่อ​จวนตัว​ ยาก​ที่จะ​ผ่าน​ด่าน​ทาง​ฝ่าย​สำนัก​กุย​หยก​ไป​ได้​ เพราะ​ถึงอย่างไร​เหวย​อิ๋ง​ผู้​นั้น​ก็​ไม่ได้​กิน​หญ้า​ เขา​จะต้อง​มีแผนการ​เป็น​ของ​ตัวเอง​แน่นอน​ พูดถึง​แค่​ยอดเขา​จิ่ว​อี้​ ทุกวันนี้​ก็​มีเจ้าของ​คน​ใหม่​แล้ว​ แต่ว่า​ข้า​ไม่ได้​ตอบ​ตกลง​กับ​เรื่อง​นี้​”

บอก​ตามตรง​ เจ้าสำนัก​สามรุ่น​ก่อน​หลัง​ของ​สำนัก​กุย​หยก​ นับตั้งแต่​สวิน​ยวน​มาจนถึง​เจียง​ซ่างเจิน​ แล้ว​มาจนถึง​เหวย​อิ๋ง​ใน​ทุกวันนี้​ ไม่ว่า​ใคร​ก็​ล้วน​เป็น​บุคคล​ที่​ฝีมือ​ร้ายกาจ​อย่าง​ถึงที่สุด​

จางเย่​รู้สึก​ประหลาดใจ​อยู่​บ้าง​ ยื่น​ส่งขนม​ข้าว​ที่​ย่าง​จน​เป็น​สีเหลือง​ทอง​ชิ้น​หนึ่ง​ให้​กับ​หลิว​จื้อ​เม่า แล้วจึง​ส่งให้​เถียน​หู​จวิน​หนึ่ง​ชิ้น​ “ทำไม​ไม่ตอบ​ตกลง​ล่ะ​? เป็น​บุคคล​อันดับ​หนึ่ง​หรือ​บุคคล​อันดับ​สอง​ รสชาติ​ระหว่าง​นี้​ต่างกัน​ราว​ฟ้ากับ​เหว​เลย​นะ​”

หลิว​จื้อ​เม่ารับ​ขนม​ข้าว​มาก้มหน้า​กัด​กิน​ “ข้า​มอง​จน​กระจ่าง​แล้ว​ สถานะ​ทำเนียบ​ที่​มีอยู่​ใน​ตอนนี้​ก็​คือ​เสื้อผ้า​ที่​ถอด​ไม่ออก​ คนอื่น​มอง​แล้ว​รู้สึก​ว่า​มัน​ให้​ความอบอุ่น​ แต่​ตัวเอง​รังเกียจ​ว่า​มัน​ร้อน​ อยาก​จะถอด​กลับ​ถอด​ไม่ได้​ หาก​คิด​จะถอด​ก็​ต้อง​ถอด​ทั้ง​เสื้อผ้า​และ​เนื้อหนัง​ชั้นหนึ่ง​ออกมา​พร้อมกัน​ด้วย​ หากว่า​ข้า​ยัง​เป็น​แค่​ผู้​ถวายงาน​อันดับ​หนึ่ง​ วันหน้า​ไม่แน่​ว่า​อาจจะ​ยัง​มีทาง​ให้​ถอย​หนี​ แต่​หาก​เป็น​เจ้าสำนัก​คน​ถัดไป​ ชั่วชีวิต​นี้​ก็​ต้อง​เดิน​ไป​บน​ทาง​สาย​นี้​จน​สุด​ทาง​นั่นแหละ​”

ถึงอย่างไร​ก็​ไม่เหมือนกับ​การ​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​อิสระ​ที่​ทำ​อะไร​ได้​ตามใจ​ปรารถนา​ จะกำเริบเสิบสาน​อย่างไร​ก็ได้​ เมื่อ​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​สูงอำนาจ​ก็​มาก​ตาม​ไป​ด้วย​ ใน​มือ​ย่อม​กุมอำนาจ​ใหญ่​ใน​การ​ชี้เป็น​ชี้ตาย​

ทะเลสาบ​ซูเจี่ยน​ใน​อดีต​ ใคร​ที่​คิด​จะปีนป่าย​สู่เบื้องบน​ก็​จำเป็นต้อง​เหยียบย่ำ​ผ่าน​เส้นทาง​สายโลหิต​ไป​ถึงจะได้​ ลอง​ย้อน​นึกดู​ ปี​นั้น​ไม่ว่า​เจ้าเกาะ​คนใด​ก็ตาม​ จะเกาะเล็ก​หรือ​เกาะ​ใหญ่​ ใต้​ฝ่าเท้า​ของ​ใคร​บ้าง​ที่​ไม่มีโครงกระดูก​เป็น​หิน​รองเท้า​?

แล้ว​ทุกวันนี้​ล่ะ​

หนึ่ง​คือ​ขอบเขต​ของ​ตัวเอง​เป็นตัว​ตัดสิน​

นอกจากนี้​ก็​คือ​ต้อง​อาศัย​เส้นสาย​และ​การสืบทอด​ทาง​สำนัก​เท่านั้น​

สรุป​ก็​คือ​ขอบเขต​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ใน​สำนัก​อักษร​จง อย่า​ได้​เห็น​เป็นจริงเป็นจัง​เกินไป​นัก​

พูดถึง​บน​เกาะ​กง​หลิ่ว​แห่ง​นั้น​ก็​มีนัง​หนู​คน​หนึ่ง​ชื่อว่า​โจว​ไฉ่เจิน​ นาง​มีคุณสมบัติ​อะไร​ใน​การ​ฝึก​ตน​ ผล​ล่ะ​เป็น​อย่างไร​? ไม่พูดถึง​ห​ลี่​ฝูฉวี​ที่​เห็น​นาง​เป็น​เหมือน​ลูกสาว​แท้ๆ​ ของ​ตัวเอง​ เหมือน​ผู้สืบทอด​ยิ่งกว่า​ผู้สืบทอด​ ต่อให้​เป็น​เจ้าสำนัก​หลิว​เหล่า​เฉิง พอ​เห็น​นาง​ก็​ยัง​ต้อง​มีสีหน้า​เมตตา​เป็นมิตร​อยู่​หลาย​ส่วน​

และ​ยังมี​ลูกศิษย์​คน​ใหม่​ที่​ห​ลี่​ฝูฉวี​รับ​มา ชื่อว่า​กวอ​ฉุน​ซี มาจาก​สถานที่​เล็ก​ๆ แห่ง​หนึ่ง​ที่​ชื่อว่า​อำเภอ​เซียน​โหย​ว​ และ​ยัง​เคย​เป็น​ผู้ฝึก​ยุทธ​ครึ่งๆ กลางๆ​ คน​หนึ่ง​ กลายเป็น​ผู้ฝึก​ลมปราณ​ขอบเขต​สามได้​ก็​ล้วน​อาศัย​เงิน​เทพ​เซียน​ผลักดัน​มาทั้งสิ้น​ ในอนาคต​อาจจะ​กลายเป็น​ขอบเขต​ถ้ำสถิต​ได้​ ห​ลี่​ฝูฉวี​ยินดี​รับ​เขา​เป็น​ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​จริง​หรือ​? ก็​ไม่ใช่เรื่อง​เละเทะ​ที่​เจียง​ซ่างเจิน​โยน​มาให้​หรือ​ไร​ ห​ลี่​ฝูฉวี​ไม่กล้า​เพิกเฉย​ก็​แค่นั้น​ นาง​มิอาจ​ไม่ใส่ใจ ไม่ออกแรง​

หลักการ​เหตุผล​เดียวกัน​ ห​ลี่​ฝูฉวี​ที่​เป็น​ผู้​ถวายงาน​อันดับ​รอง​ อยู่​กับ​เจียง​ซ่างเจิน​ไม่กล้า​แม้แต่​จะผายลม​สักครั้ง​ แต่​อยู่​ใน​กลุ่ม​สมาชิก​ศาล​บรรพ​จารย์​ของ​สำนัก​เจินจิ้ง​ นาง​คิด​จะพูด​กระทบกระเทียบ​ใคร​สัก​คน​ มีใคร​กล้า​ไม่เก็บ​เอา​มาใส่ใจบ้าง​?

หรือ​อย่าง​เจิงเย่​เจ้าคนโง่​ที่​มีโชค​ของ​คนโง่​ผู้​นั้น​ ปี​นั้น​ไป​ได้​ตำรา​ลับ​เล่ม​นั้น​มาจาก​ไหน​ แล้ว​เหตุใด​ถึงถูก​คนอื่น​เรียกขาน​ว่า​ ‘สามารถ​เปิด​ประตู​ด้าน​วิชา​คาถา​อีก​บาน​ให้​กับ​วิถี​ผี​’ ได้​?

หล่น​ลง​มาจาก​ฟ้าหรือ​ไร​? ก็​พอ​จะถือว่า​ใช่ได้​อย่าง​ถูไถ เพราะ​ถึงอย่างไร​ก็​เป็น​เจียง​ซ่างเจิน​ที่​โยน​มาให้​เจิงเย่​จริงๆ​ จากนั้น​เจิงเย่​ที่​เดินเล่น​อยู่​ข้างทาง​ก็​เก็บ​เอา​มาได้​

จางเย่​มอง​สหาย​เก่า​แวบ​หนึ่ง​ พยักหน้า​ “เข้าใจ​แล้ว​”

หาง​ตา​ของ​หลิว​จื้อ​เม่าเหลือบมอง​ลูกศิษย์​ใหญ่​ นาง​ยัง​นั่ง​กิน​ขนม​ข้าว​อย่าง​สบายอารมณ์​อยู่เลย​นะ​

มารดา​เถอะ​ ช่างเป็น​เศษสวะ​ที่​ไร้​หัวสมอง​จริงๆ​

ทำเอา​สกัด​คงคา​เจินจ​วิน​โมโห​เกือบตาย​ เกือบจะ​อดไม่ไหว​ตบ​ฉาด​เข้าที่​ใบหน้า​นาง​เสียแล้ว​

อันที่จริง​คำพูด​เหล่านี้​ของ​หลิว​จื้อ​เม่าซุกซ่อน​ความหมาย​สอง​อย่าง​เอาไว้​

หลิว​เหล่า​เฉิงเลื่อน​เป็น​ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​ได้​แค่​ไม่กี่​ปี​ แต่กลับ​มีความมั่นใจ​ที่จะ​เดิน​สูงขึ้นไป​อีก​ขั้น​ แสวงหา​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ใน​ตำนาน​!

ไม่อย่างนั้น​ทำไม​หลิว​เหล่า​เฉิงถึงต้อง​แสดง​ความเป็นมิตร​ต่อ​หลิว​จื้อ​เม่าเช่นนี้​ด้วย​? ก็​ไม่ใช่เพราะ​วันหน้า​อยาก​เป็น​ไท่​ซ่างหวง​ของ​สำนัก​เจินจิ้ง​อย่าง​ผ่อนคลาย​สบายอารมณ์​หรือ​ไร​?

อีก​อย่าง​ก็​คือ​คำ​ว่า​ทาง​ถอย​ของ​หลิว​จื้อ​เม่า เถียน​หู​จวิน​ไม่เข้าใจ​ แต่​จางเย่​แค่​ชี้นำ​เล็กน้อย​ก็​กระจ่างแจ้ง​ทันที​ พูดถึง​การ​เปิด​ประตู​คราวหน้า​ของ​ใต้​หล้า​ห้า​สี

มีความเป็นไป​ได้มา​กว่า​หลิว​จื้อ​เม่าจะไป​ก่อ​สำนัก​ตั้ง​พรรค​อยู่​ที่นั่น​! ให้​ตัวเอง​เป็น​บรรพ​จารย์​ผู้บุกเบิก​ภูเขา​ของ​สำนัก​แห่ง​นั้น​ ไม่ใช่เป็น​เจ้าสำนัก​รุ่น​ที่สี่​ของ​สำนัก​เบื้องล่าง​ผายลม​สุนัข​นี่​

เรื่อง​นี้​มีโอกาส​จะเป็นไปได้​จริงๆ​ อีก​ทั้ง​ไม่ต้อง​ฉีกหน้า​แตกหัก​กับ​สำนัก​กุย​หยก​ด้วย​ ขาด​ผู้​ถวายงาน​อันดับ​หนึ่ง​ของ​สำนัก​เบื้องล่าง​ไป​คน​หนึ่ง​ แต่กลับ​มีสหาย​บน​ภูเขา​ที่​ได้​ก่อ​สำนัก​ตั้ง​พรรค​อยู่​ใน​ใต้​หล้า​ห้า​สีมาคน​หนึ่ง​ แม้จะบอก​ว่าการ​เปิด​และ​ปิดประตู​คราวหน้า​ หาก​คิด​จะเดิน​ทางข้าม​ผ่าน​ใต้​หล้า​ใหญ่​สอง​แห่ง​ ถ้าไม่ใช่ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ก็​ไม่มีทาง​ทำได้​ แต่​เรื่องราว​ใน​ใต้​หล้า​ล้วน​ไม่มีอะไร​ที่​แน่นอน​ ยกตัวอย่างเช่น​หาก​หลิว​จื้อ​เม่าโชคดี​ได้​เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​จริงๆ​ เล่า​? หรือ​ยกตัวอย่างเช่น​ว่าอยู่ดีๆ​ ทาง​ฝั่งของ​ศาล​บุ๋น​เกิด​เปลี่ยนใจ​กะทันหัน​ อยาก​จะเปิดประตู​เชื่อมโยง​เพื่อ​ไปมาหาสู่​กับ​ใต้​หล้า​ห้า​สีไป​อีก​นาน​? ก็​เหมือน​อย่าง​การ​แลกเปลี่ยน​สินค้า​ตาม​ชายแดน​ของ​ราชวงศ์​ใน​โลก​มนุษย์​?

เห็นได้ชัด​ว่า​เถียน​หู​จวิน​สัมผัส​ได้​ถึงความ​ไม่สบอารมณ์​ของ​อาจารย์​ แต่กลับ​ไม่รู้​ว่า​ตัวเอง​ทำผิด​ตรงไหน​ นาง​อัดอั้น​ยิ่งนัก​ รู้สึก​เพียง​ว่า​ชีวิต​ของ​ตัวเอง​ช่างขมขื่น​ แต่​ก็​ไม่กล้า​แสดง​ออกมา​แม้แต่น้อย​ ทำ​เพียง​ก้มหน้า​กิน​ขนม​ข้าว​ รสชาติ​เหมือน​กลืน​เทียน​

จางเย่​นึกถึง​เรื่อง​น่าสนใจ​เรื่อง​หนึ่ง​ขึ้น​มาได้​ จึงยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “ได้ยิน​มาว่า​คน​มหัศจรรย์​ที่​เตร็ดเตร่​อยู่​ใน​นคร​ฉือสุ่ย​มานาน​หลาย​ปี​ผู้​นั้น​ ทุกวันนี้​ได้​กลาย​มาเป็น​แขก​ (ชิงเค่อ​ หมายถึง​แขก​ที่​ตระกูล​ชั้นสูง​หรือ​ตระกูล​ขุน​นางใน​สมัยโบราณ​จะเชิญให้​มากิน​อยู่​ใน​บ้าน​เพื่อ​ช่วย​ออก​หัวคิด​ทำ​เรื่อง​ต่างๆ​) ใน​จวน​หู​จวิน​แล้ว​ มีความเป็นมา​อย่างไร​ หรือ​จะเป็น​เหมือน​คำกล่าว​โบราณ​ที่​เอ่ย​ว่า​ นับแต่​โบราณ​มาคน​มหัศจรรย์​ส่วนใหญ่​ล้วน​แฝงตัว​อยู่​ใน​กลุ่มอาชีพ​ต่ำต้อย​จริงๆ​?”

เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​นคร​ฉือสุ่ย​มีคนต่างถิ่น​ที่​เป็น​คน​มหัศจรรย์​ยาก​จะบอก​ได้​ว่า​ตบะ​ตื้น​หรือ​ลึก​คน​หนึ่ง​มาเยือน​ เขา​สามารถ​เป่าขลุ่ย​เหล็ก​ได้​ นิสัย​ประหลาด​ บางครั้ง​ชอบ​สวม​ชุด​สีแดงสด​เหมือน​ลูกหลาน​ตระกูล​ชั้นสูง​ บน​ศีรษะ​ปัก​ปิ่น​ดอกไม้​ วางตัว​เย่อหยิ่ง​จองหอง​ แต่​บางครั้ง​กลับ​สวม​เสื้อผ้า​เก่า​ขาด​เหมือน​ขอทาน​ เจอ​ใคร​ก็​ขอ​เงิน​จาก​คนอื่น​เขา​ หากว่า​มีใคร​ยินดี​ให้เงิน​ก็​จะช่วย​ทำนาย​ชะตา​ให้​ ไม่ว่า​อีก​ฝ่าย​จะยอม​ฟังหรือไม่​ก็​จะไล่ตาม​ไป​เอ่ย​ประโยค​ที่​คล้าย​คำทำนาย​ให้​ฟัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!