กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 930

จากนั้น​ก็​ถามจางเย่​เกี่ยวกับ​เรื่อง​ของ​พรรค​หลา​งหวน​ ใน​ฐานะ​เจ้าขุนเขา​คน​หนึ่ง​ เฉิน​ผิง​อัน​จึงรับปาก​แทน​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ว่า​ วันหน้า​ขอ​แค่​ลูกศิษย์​ของ​พรรค​หลา​งหวน​ออก​ไปหา​ประสบการณ์​ข้างนอก​ก็​สามารถ​แวะ​ไป​ที่​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ได้​ หาก​เป็น​ผู้ฝึก​ยุทธ​ที่​มีคุณสมบัติ​ไม่เลว​ ขอ​แค่​จางเย่​ยินดี​ก็​สามารถ​ไป​อยู่​ที่​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ อยู่​สัก​สอง​สามปี​ก็​ไม่เป็นปัญหา​ ระหว่าง​นั้น​ย่อม​มีคน​ช่วย​ถามหมัด​ป้อน​หมัด​ให้​เอง​

หลิว​จื้อ​เม่าเอ่ย​อย่าง​จนใจ​ว่า​ “เดิมที​อยาก​จะขอให้​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​ช่วย​ข้า​โน้มน้าว​เขา​สัก​สอง​สามประโยค​ ตอนนี้​ดูท่า​คง​ไม่สำเร็จ​แล้ว​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “มีผู้​แข็งแกร่ง​ประเภท​หนึ่ง​ที่​สามารถ​ใช้ชีวิต​อย่าง​ยากลำบาก​ให้​ผ่าน​ไป​อย่าง​จริงจัง​ได้​ ไม่โทษ​ฟ้าไม่ตำหนิ​คน​”

จางเย่​โบกมือ​ “ก็​แค่​ชีวิต​ที่​เรียบง่าย​ยากจน​ ไม่ต้อง​เป็นทุกข์​เรื่อง​อาหาร​การกินอยู่​ ไม่ถือว่า​เป็น​ชีวิต​ที่​ยากลำบาก​อะไร​หรอก​”

เฉิน​ผิง​อัน​เพียง​คลี่​ยิ้ม​ไม่เอ่ย​อะไร​

ทว่า​หลิว​จื้อ​เม่ากลับ​หัวเราะ​ดังลั่น​

จางเย่​เอง​ก็​เอ่ย​เย้ยหยัน​ตัวเอง​หนึ่ง​ประโยค​ ชูชามเหล้า​ขึ้น​ “เถียง​เจ้าไม่ทัน​ ดื่มเหล้า​ๆ”

หลักการ​เหตุผล​บางอย่าง​ก็​เหมือน​แม่น้ำ​สาย​หนึ่ง​ หลักการ​เหตุผล​อีก​อย่าง​ที่​มองดู​คล้าย​เป็นการ​ปฏิเสธ​ แต่​แท้จริง​แล้วก็​เป็น​แค่​กระแสน้ำ​ทางแยก​ของ​แม่น้ำ​สาย​นั้น​เท่านั้น​

หลังจาก​เถียน​หู​จวิน​หาย​อึ้ง​แล้วก็​ตั้งใจ​ครุ่นคิด​อยู่​พัก​หนึ่ง​ กว่า​จะขบคิด​ความนัย​ที่ซ่อน​อยู่​ออกมา​ได้​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​

ทันใดนั้น​นาง​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​ละอายใจ​ที่​สู้ไม่ได้​ คล้าย​กับ​ว่า​มีเพียง​ตน​ที่​หัวทึบ​ที่สุด​ ย่ำแย่​ที่สุด​

คน​คน​หนึ่ง​ที่​ไม่เข้าพวก​มัก​อยู่​ใน​สถานการณ์​แค่​สอง​อย่าง​เท่านั้น​ หนึ่ง​คือ​เป็น​นก​กระเรียน​ใน​ฝูงไก่​ อีก​หนึ่ง​คือ​ไก่​ใน​ฝูงนก​กระเรียน​

หลิว​จื้อ​เม่าถามหยั่งเชิง​ “คิด​จะมาพบ​หู​จวิน​ท่าน​ใหม่​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​เอ่ย​ “วางใจ​เถอะ​ ไม่จำเป็นต้อง​ให้​หลิว​อันดับ​หนึ่ง​ช่วย​แนะนำ​ให้​หรอก​”

ดื่มเหล้า​ไป​อีก​ชาม เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ลุกขึ้น​ขอตัว​ลา​ เพียงแค่​ให้​จางเย่​ไป​ส่งที่​หน้า​ประตู​

จางเย่​ใช้เสียง​ใน​ใจเอ่ย​ “หาก​หลังจากนี้​หลิว​จื้อ​เม่าขอให้​เจ้าช่วยเหลือ​ เห็นแก่​หน้าที่​ใหญ่​แค่​ก้น​ของ​ข้า​ หวัง​ว่า​หาก​ช่วย​ได้​เจ้าจะช่วย​เขา​สักหน่อย​ แต่​หาก​ช่วยไม่ได้​ก็​ช่างเถิด​”

สุดท้าย​ผู้ฝึก​ตน​เฒ่ายัง​เอ่ย​เสริม​มาอีก​ประโยค​ว่า​ “อย่าง​น้อย​ อย่าง​น้อย​ก็​หวัง​ว่า​เจ้าจะไม่พลิก​บัญชี​เก่า​กับ​เจ้าหมอ​นั่น​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​ตอบกลับ​ด้วย​เสียง​ใน​ใจ “เมื่อก่อน​ยาก​จะเข้าใจ​หลักการ​เหตุผล​ข้อ​หนึ่ง​ ไม่ใช่ว่า​หลักการ​เหตุผล​ข้อ​นั้น​เล็ก​ไป​ ตอนนี้​ง่าย​ที่จะ​เข้าใจ​หลักการ​เหตุผล​ข้อ​เดียวกัน​อย่าง​ชัดเจน​ ก็​ไม่ใช่ว่า​เพราะ​หลักการ​เหตุผล​ข้อ​นั้น​ใหญ่​”

จางเย่​ได้ยิน​ก็​เข้า​ใจถึงความหมาย​ลึกล้ำ​ที่ซ่อน​อยู่​ พยักหน้า​ “คราวหน้า​จะไป​ดื่มเหล้า​กับ​เจ้าที่​ภูเขา​ลั่วพั่ว”​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​เตือน​ “จำไว้​ว่า​จะต้อง​แจ้งให้​ทาง​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ทราบ​ก่อน​ ไม่ใช่ว่า​ข้า​วางมาด​ แต่​เป็น​เพราะ​ข้า​มักจะ​ออก​ไป​ข้างนอก​บ่อยๆ​ ไม่แน่​เสมอไป​ว่า​จะอยู่​บน​ภูเขา​”

จางเย่​ยิ้ม​ตอบ​ตกลง​

สุดท้าย​เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​สัพยอก​ว่า​ “เจ้าประมุข​พรรค​อย่าง​เจ้ากลับ​ว่างงาน​นัก​”

จางเย่​หัวเราะ​ ทุกวันนี้​แม้จะบอ​กว่า​มีพรรค​บน​ภูเขา​ แต่​ไม่ว่า​จะเรื่องเล็ก​หรือ​เรื่องใหญ่​ก็​ล้วน​ผ่าน​การ​คิด​คำนวณ​อย่าง​ละเอียด​รอบคอบ​มาก่อน​ บอก​ตามตรง​ว่า​ ใน​พรรค​จำเป็นต้อง​เช่าที่ดิน​ดี​ๆ ไว้​กี่มากน้อย​ มีเรือน​ให้​คน​ข้างนอก​เช่ากี่​หลัง​ ล้วน​ต้อง​ให้​จางเย่​ตรวจสอบ​กับ​ตัวเอง​ทั้งหมด​ ทุกครั้งที่​ถึงฤดู​เก็บเกี่ยว​ จางเย่​ยัง​ถึงขั้น​ยินดี​จะลงนา​เอง​ด้วยซ้ำ​ ภาพ​เหตุการณ์​นั้น​ก็​เหมือนกับ​ชาวนา​ผม​ขาว​ยืน​ตระหง่าน​กลาง​คันนา​ดุจ​นกกระยาง​

แล้วก็​เป็น​อย่าง​ที่​จางเย่​คาดการณ์​ไว้​จริงๆ​ ออกจาก​ห้อง​ไป​ได้​ไม่นาน​เท่าไร​ หลิว​จื้อ​เม่าก็​ใช้เสียง​ใน​ใจถามว่า​ “ไม่ทราบ​ว่า​ใต้​หล้า​ห้า​สีใน​ทุกวันนี้​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ส่าย​หน้ายิ้ม​ตอบ​ “สกัด​คงคา​เจินจ​วิน​ไป​เยือน​ก็​จะรู้​ได้​เอง​”

เห็น​ว่า​อีก​ฝ่าย​ไม่ยินดี​พูดมาก​ หลิว​จื้อ​เม่าก็​ทำ​อะไร​ไม่ได้​ อันที่จริง​ก็​แค่​อยาก​จะลอง​ถามดู​เท่านั้น​ว่า​ตอนนี้​ผู้ฝึก​ตน​ห้า​ขอบเขต​บน​ของ​ที่นั่น​มีเยอะ​หรือไม่​ แน่นอน​ว่า​หาก​สามารถ​ตีสนิท​กับ​นคร​บิน​ทะยาน​ได้​สัก​เล็กน้อย​ หรือ​ควรจะ​พูด​ให้​ถูก​ก็​คือ​ สามารถ​ผูก​บุญ​สัมพันธ์​กับ​คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​ที่อยู่​ใน​นคร​บิน​ทะยาน​ได้​ก็​ยิ่ง​เป็นเรื่อง​ที่​ปรารถนา​มานาน​ ตอนนี้​มาลอง​นึกดู​แล้ว​ หาก​ตน​ได้​ไป​ที่​ใต้​หล้า​ห้า​สีจริง​ ขอ​แค่​ไม่ถูก​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​แอบ​ขัดขา​ใน​ทางลับ​ก็​น่าจะ​ต้อง​จุด​ธูป​ขอบคุณ​พระ​ขอบคุณ​เจ้าแล้ว​กระมัง​?

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​พลาง​กุม​หมัด​คารวะ​ เรือน​กาย​เปล่ง​วูบ​หาย​ไป​

หลิว​จื้อ​เม่าจึงอำพราง​เรือน​กาย​พา​เถียน​หู​จวิน​ทะยาน​ลม​กลับ​ไป​ที่​เกาะ​ชิงเสีย​

หลุบ​ตา​ลง​มอง​ทะเลสาบ​ซูเจี่ยน​ เกาะ​แห่ง​หนึ่ง​ใน​นั้น​ รอบ​ริมน้ำ​มีต้น​หลิว​ไหว​พลิ้ว​คล้าย​เอวบาง​ของ​ดรุณี​

ส่วน​จวน​วารี​ของ​หู​จวิน​ท่าน​นั้น​ตั้งอยู่​ใน​จุด​ลึก​ใต้​น้ำ​ของ​ทะเลสาบ​ซูเจี่ยน​ ราก​ภูเขา​และ​ราก​น้ำ​ล้วน​ยอดเยี่ยม​ เป็น​สิ่งปลูกสร้าง​ที่ตั้ง​เรียงราย​ติดกัน​ซึ่ง ‘สร้าง​ขึ้น​ลดหลั่น​ตาม​ภูเขา​’ เช่นเดียวกัน​ แม้ว่า​จะไม่โอ่อ่า​หรูหรา​ แต่​ก็​ไม่ธรรมดา​

เกาะ​หลาย​แห่ง​ที่อยู่​ใกล้เคียง​บน​ผิวน้ำ​ สำนัก​เจินจิ้ง​ล้วน​ย้ายออก​ไป​หมด​แล้ว​ บน​เกาะ​ใหญ่​แห่ง​หนึ่ง​ใน​นั้น​ก็ได้​สร้าง​ศาล​หู​จวิน​แห่ง​ใหม่​ขึ้น​มา ถือว่า​สำนัก​เจินจิ้ง​มีความจริงใจ​อย่างยิ่ง​แล้ว​

เซี่ย​ฝาน​หู​จวิน​คน​ใหม่​กับ​อู๋​กวาน​ฉีที่​เป็น​กุนซือ​ เวลานี้​กำลัง​เล่น​หมากล้อม​กัน​อยู่​ใน​ศาลา​แห่ง​หนึ่ง​

หู​จวิน​มีรูปโฉม​อ่อนเยาว์​สวม​ชุด​คลุม​มังกร​สีมรกต​ การกระทำ​เช่นนี้​ไม่ถือว่า​ล้ำเส้น​

ปัญญาชน​ชุด​ขาว​ที่นั่ง​อยู่​ตรงข้าม​กับ​เขา​มีรูปโฉม​ของ​วัยกลางคน​ มือ​ข้าง​หนึ่ง​ถือ​พัด​พับ​ มือ​อีก​ข้าง​คีบ​เม็ด​หมาก​

เซี่ย​ฝาน​วาง​เม็ด​หมาก​ลง​บน​กระดาน​เบา​ๆ ถามว่า​ “จะหยั่งเชิง​หลิว​เหล่า​เฉิงอี​กรอบ​หรือไม่​?”

อู๋​กวาน​ฉีพยักหน้า​รับ​ “แน่นอน​ แต่​อย่า​ได้​รีบร้อน​เกินไป​ หนึ่ง​เพราะ​ไม่มองหน้า​ภิกษุ​ก็​ต้อง​มองหน้า​พระพุทธรูป​ เหวย​อิ๋ง​แห่ง​สำนัก​เบื้องบน​มีความ​ห้าวหาญ​ไม่น้อย​ อีก​อย่าง​ไม่ว่า​อย่างไร​หลิว​เหล่า​เฉิงก็​เป็น​เซียน​เห​ริน​คน​หนึ่ง​ ทั้ง​ยังมี​ชาติกำเนิด​จาก​ผู้ฝึก​ตน​อิสระ​ โชคชะตา​อยู่​บน​ร่าง​ของ​เขา​ มิอาจ​ดูแคลน​ได้​ หาก​คิด​อยาก​จะฝ่าสถานการณ์​ใหญ่​ออก​ไป​ให้ได้​ อันที่จริง​ไม่จำเป็นต้อง​ใช้แรง​มาก​ แค่​หา​จุดตัด​เหมาะ​ๆ ก็​ฝ่าออก​ไป​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​แล้ว​”

เซี่ย​ฝาน​ยิ้ม​เอ่ย​ “หลิว​เหล่า​เฉิงรู้​กาลเทศะ​ดี​ยิ่งนัก​ ดูเหมือนว่า​พวกเรา​จะหา​โอกาส​เป็น​ขุนนาง​ใหม่​ไฟแรง​สามกอง​ไม่ได้​เลย​”

ตอนที่​ตน​มารับ​ตำแหน่ง​ หลิว​เหล่า​เฉิงก็​เป็น​ฝ่าย​มาเยี่ยมเยือน​ถึงที่​ ไม่พูดพร่ำทำเพลง​ก็​ยก​โฉนดที่ดิน​มอบ​เกาะ​พวก​นั้น​มาให้​

เซี่ย​ฝาน​ถามต่อ​อี​กว่า​ “อาจารย์​อู๋​มีโอกาส​จะได้​พูดคุย​กับ​หลิว​จื้อ​เม่า ดึง​ตัว​เขา​มาเป็น​พวก​บ้าง​หรือไม่​?”

อู๋​กวาน​ฉีส่ายหน้า​ “จวน​หู​จวิน​มิอาจ​มอบ​สิ่งที่​หลิว​จื้อ​เม่าต้องการ​ได้​ พวกเรา​ก็​อย่า​หาเรื่อง​อัปยศ​ใส่ตัว​เลย​ จะทำให้​สกัด​คงคา​เจินจ​วิน​ผู้​นั้น​เห็น​เรื่องตลก​เสียเปล่า​”

สถานการณ์​หมาก​ต่อจากนั้น​ก็​เป็น​เซี่ย​ฝาน​ที่​ต้อง​ใช้เวลา​คิด​นาน​อยู่​หลายครั้ง​ ทว่า​อู๋​กวาน​ฉีก​ลับ​วาง​เม็ด​หมาก​แต่​ละเม็ด​รวดเร็ว​ราวกับ​บิน​

เพียงแต่ว่า​สอง​ฝ่าย​ที่​เล่น​หมากล้อม​กัน​กลับ​ไม่รู้​เลย​ว่า​อีก​ด้าน​หนึ่ง​ของ​กระดาน​หมาก​มี ‘วิญญูชน​ที่​แท้จริง​’ ที่​ไม่ส่งเสียง​ยาม​ดู​คนอื่น​เล่น​หมากล้อม​ยืน​อยู่​เช่นนั้น​

ชิงถงอด​ไม่ไหว​เอ่ย​เตือน​อีกครั้ง​ว่า​ “ทำไม​ถึงปล่อย​ให้​เวลา​เสียเปล่า​ไป​เช่นนี้​?”

เฉิน​ผิง​อัน​เพียงแค่​เอา​สอง​มือ​ไพล่หลัง​ มอง​สถานการณ์​หมาก​บน​โต๊ะ​ เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​เฉยเมย​ว่า​ “ไม่รีบร้อน​ รอ​ให้​พวกเขา​รู้​ผล​แพ้ชนะ​ก่อน​ก็แล้วกัน​”

แต่ละคน​ต่าง​ก็​วางหมาก​กัน​อีก​สิบ​กว่า​ครั้ง​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!