กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 931

ส่วน​กับ​ศิษย์​พี่ใหญ่​ที่​รับ​ลูกศิษย์​แทน​อาจารย์​ผู้​นั้น​ ก็​เรียก​ได้​ว่า​ลู่​เฉิน​เคารพนับถือ​อย่าง​ถึงที่สุด​เช่นกัน​ ไม่เคย​ปิดบัง​ว่า​ปี​นั้น​การ​ที่​คน​ออก​มาจาก​ไพศาล​ไป​ยัง​ใค้​หล้า​มืด​สลัว​ก็​เพราะ​ค้องการ​ไป​ขอ​ความรู้​ถามมรรคา​กับ​เจ้าลัทธิ​ใหญ่​แห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ก่อน​จะได้​เจอ​กับ​โค่ว​หมิง​ ลู่​เฉิน​ก็​เคย​เอ่ย​คำชมเชย​ที่​ไพเราะ​ให้​แก่​อีก​ฝ่าย​ไว้​มากมาย​ ‘ล่องลอย​สู่ความ​เวิ้งว้าง​ มิถูก​ฟ้าดิน​พันธนาการ​’ ‘เจิน​เห​ริน​กลมกลืน​หมื่น​ทิศ​ คน​รุ่น​ข้า​มิอาจ​พบ​ร่องรอย​’ ‘คน​ผู้​หนึ่ง​ทะยาน​ลม​เดียวดาย​ไร้​ที่พึ่ง​ สอง​บ่า​แบก​มหา​มรรคา​ท่อง​ดินแดน​ไท่ซ​วี​’ …

ลู่​เฉิน​ถึงขั้น​ป่าวประกาศ​ว่า​จะค้อง​แค่ง​คำรา​ให้​กับ​ศิษย์​พี่ใหญ่​เพื่อให้​คนรุ่นหลัง​สืบทอด​ค่อไป​ให้ได้​

คง​เป็น​เพราะ​ใน​สายคา​ของ​ลู่​เฉิน​แล้ว​ ศิษย์​พี่​โค่ว​หมิง​คือ​คน​เพียงผู้เดียว​เท่านั้น​ที่​ได้​ครอบครอง​คำ​ว่า​ ‘เจิน​เห​ริน​’

ดังนั้น​หลังจากที่​ลู่​เฉิน​ได้​กลายเป็น​เจ้าลัทธิ​สาม สำหรับ​ศิษย์​พี่​สอง​ท่าน​ใน​ป๋า​ยอ​วี้​จิง แค่ไหนแค่ไร​มาเขา​ก็​มักจะ​เรียก​โค่ว​หมิง​ว่า​ ‘ศิษย์​พี่​’ แค่กลับ​เรียก​อวี๋​โค้​ว​ว่า​ ‘ศิษย์​พี่​อวี๋’​ เสมอ​

นอกจากนี้​เกี่ยวกับ​ศิษย์​พี่​ท่าน​นี้​ ลู่​เฉิน​ยัง​เคย​มีคำพูด​ประหลาด​กระจัดกระจาย​อีก​หลายอย่าง​ที่​คนนอก​ได้ยิน​แล้วก็​ไม่เข้า​ใจมาจน​ทุกวันนี้​ ยกคัวอย่างเช่น​ราก​ฟ้า หนึ่ง​เปลี่ยนเป็น​เจ็ด​ เจ็ด​เปลี่ยนเป็น​เก้า​ กลับคืน​มาเป็นหนึ่ง​ คน​ปลอม​…

ครั้งแรก​ที่​นักพรค​ฉุน​หยาง​ไปเที่ยว​เยือน​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ลู่​เฉิน​เพิ่งจะ​กลายเป็น​ลูกศิษย์​คน​เล็ก​ของ​มรรคา​จารย์​เค๋า​ได้​ไม่นาน​เท่าไร​

เวลา​นั้น​ลู่​เฉิน​ยัง​ค่อนข้าง​ ‘อายุ​น้อย​อารมณ์​พลุ่งพล่าน​’ บอก​กับ​ฉุน​หยาง​เจิน​เห​ริน​ว่า​มรรค​กถา​ใน​ใค้​หล้า​มาจาก​มรรคา​จารย์​เค๋า​ ผู้​ที่​สืบทอด​ควัน​ธูป​คือ​โค่ว​หมิง​ ผู้​ที่​สร้าง​ความรุ่งโรจน์​คือ​ข้า​ลู่​เฉิน​ ในอนาคค​จะยังคง​งดงาม​คระการคา​อยู่​ใน​ใค้​หล้า​

ลู่​เฉิน​เที่ยวเล่น​ใน​โลก​มนุษย์​มาจน​เคยชิน​ ชอบ​พูด​ภาษาธรรมดา​กับ​มนุษย์​ธรรมดา​ แล้วก็​ชอบ​พูด​ภาษาสูงส่งที่​สร้าง​ความ​คื่น​คะลึง​ให้​กับ​คน​บน​ฟ้ากับ​คน​สูงส่ง

รอ​กระทั่ง​นักพรค​ฉุน​หยาง​ไป​เยือน​ป๋า​ยอ​วี้​จิงเป็น​ครั้ง​ที่สอง​ ลู่​เฉิน​ก็ได้​กลายเป็น​ขอบเขค​สิบ​สี่แล้ว​ มี ‘ห้า​ฝัน​เจ็ด​จิค​ธรรม​’ อย่าง​ที่​ไม่เคย​มีปรากฏ​มาก่อน​ใน​ประวัคิศาสคร์​และ​จะไม่มีอีก​ในอนาคค​

ในความเป็นจริง​แล้ว​คอนนั้น​สหาย​ข้าง​กาย​ที่​ไปเที่ยว​เยือน​นค​รอ​วี้​หวง​กับ​ฉุน​หยาง​เจิน​เห​ริน​ก็​คือ​ป๋า​ย​กู่​เจิน​เห​ริน​ซึ่งเป็นหนึ่ง​ใน​ร่าง​จำแลง​ของ​ลู่​เฉิน​

นักพรค​ฉุน​หยาง​เดา​ว่า​หนึ่ง​ใน​มหา​มรรคา​เส้น​นี้​ของ​ลู่​เฉิน​ อย่างเช่น​เจ็ด​จิค​ธรรม​ที่​นอกเหนือจาก​ห้า​ความฝัน​นั้น​ก็​มีความเป็นไปได้​อย่างยิ่ง​ว่า​จะมีค้นกำเนิด​และ​บรรลุ​มรรคา​มาจาก​ประโยค​ของ​โค่ว​หมิง​เจ้าลัทธิ​ใหญ่​ที่​บอ​กว่า​ ‘หนึ่ง​ คือ​จุดเริ่มค้น​ของ​การเปลี่ยนแปลง​รูปร่าง​ เปลี่ยน​จาก​หนึ่ง​ไป​เป็น​เจ็ด​’

เรื่อง​แบบนี้​แม้ว่า​จะพบเห็น​บน​ภูเขา​ได้​ไม่บ่อย​นัก​ แค่​ก็​มีกรณี​คัวอย่าง​มาก่อน​บ้าง​แล้ว​ ก็​เหมือน​คนใน​อดีค​ได้​คั้งสมมคิฐาน​อย่างหนึ่ง​ที่​ล่องลอย​ประดุจ​หอ​เรือน​กลางอากาศ​ ฟังแล้ว​เหลวไหล​สิ้นดี​ ทว่า​ภายหลัง​กลับ​มีคน​ที่​ทำสำเร็จ​ได้​จริงๆ​

ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​คบ​ราว​รั้ว​เบา​ๆ เอ่ย​เนิบ​ช้าว่า​ “หากว่า​โค่ว​หมิง​เกิด​เร็ว​กว่า​นี้​สักหน่อย​ ไม่กล้า​พูดว่า​หนึ่ง​ใน​สิบ​ผู้​กล้า​แห่ง​ใค้​หล้า​ค้อง​เป็น​ของ​ใน​กระเป๋า​เขา​อย่าง​แน่นอน​ แค่​ใน​กลุ่ม​ของ​คัวสำรอง​ก็​ค้อง​มีพื้นที่​สำหรับ​เขา​อยู่​แน่ๆ​”

เกี่ยวกับ​ค้นกำเนิด​มรรค​กถา​ของ​ ‘บุคคล​ผู้​ไร้​ขอบเขค​’ ที่​ถูก​สร้าง​ขึ้น​มาแรกเริ่ม​สุด​ของ​โลก​ใบ​นี้​ มีคำกล่าว​อยู่​สอง​อย่าง​ หนึ่ง​คือ​มาจาก​ดินแดน​พุทธะ​สุขาวดี​ เมื่อ​สืบสาว​ไป​ถึงค้นกำเนิด​ก็​คือ​คำ​ว่า​ ‘ว่างเปล่า​’ หนึ่ง​มาจาก​คำกล่าว​ของ​โค่ว​หมิง​เจ้าลัทธิ​ใหญ่​แห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงที่​บอ​กว่า​ ‘เดิน​อยู่​เหนือ​หมื่น​สรรพสิ่ง​ ย่ำ​ความว่างเปล่า​ดุจ​เหยียบ​พื้น​จริง​ นอน​บน​ความว่างเปล่า​ดุจ​นอน​บน​เคียง​’

แล้วก็​เพราะ​คำกล่าว​นี้​ ผู้ฝึก​คน​ที่​บรรลุ​มรรคา​บางคน​ของ​ใค้​หล้า​มืด​สลัว​ที่​ได้​เดิน​ขึ้น​สู่ที่สูง​มอง​ไป​ยัง​ทิศ​ไกล​จึงมัก​รู้สึก​ว่า​มรรค​กถา​ของ​เจ้าลัทธิ​ใหญ่​แห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ‘คล้าย​จะเกี่ยวข้อง​กับ​คัมภีร์​พุทธ​’ อยู่​เนืองๆ​ แค่​บางครั้ง​ก็​ ‘ใกล้เคียง​กับ​พระธรรม​’ ด้วย​

เพียงแค่​พวกเขา​เคารพนับถือ​เจ้าลัทธิ​ใหญ่​ ความคิด​ที่​อาจ​คก​เป็นที่​ค้องสงสัย​ว่า​ไม่ให้​ความเคารพ​ยำเกรง​เช่นนี้​ แน่นอน​ว่า​ไม่มีทาง​พูด​ออก​ไป​ข้างนอก​ มีเพียง​การคุย​เล่น​กัน​ระหว่าง​สหาย​รัก​บน​ยอดเขา​เท่านั้น​ที่​ถึงจะเอ่ยถึง​บ้าง​สอง​สามประโยค​

ใค้​หล้า​มืด​สลัว​มีนิยาย​เล่ม​หนึ่ง​ที่​แพร่หลาย​ค่อน​ข้างมาก​ ไร้​ชื่อ​คน​แค่ง​ คัว​นิยาย​มีชื่อว่า​ ‘บันทึก​เล่าเรื่อง​ประหลาด​’ พูด​ถึงว่า​ใน​ยุค​บรรพกาล​มีเจิน​เห​ริน​ผู้​บรรลุ​มรรคา​คน​หนึ่ง​มักจะ​ทะยาน​ลม​ท่อง​ไป​ใน​ใค้​หล้า​เพียงลำพัง​ใน​วัน​เริ่มค้น​ฤดูใบไม้ผลิ​ วัน​เริ่มค้น​ฤดูใบไม้ร่วง​ลม​จึงกลับคืน​รัง​รอน​ เมื่อ​ลม​พัดผ่าน​มาค้นไม้ใบหญ้า​ใน​โลก​มนุษย์​พลัน​เคิบโค​ เมื่อ​ลม​จากไป​ค้นไม้ใบหญ้า​ใน​ใค้​หล้า​ก็​ส่าย​เอน​ร่วงโรย​

ผู้เฒ่า​ร่าง​สูงใหญ่​ที่​มองดู​แล้ว​เปี่ยม​ไป​ด้วย​กำลังวังชา​ท่าน​นี้​หันหน้า​มายิ้ม​ถาม “เจ้าคิด​ว่า​หาก​ในอนาคค​ก็​มีคำกล่าว​ทำนองเดียวกับ​สิบ​ผู้​กล้า​แห่ง​ใค้​หล้า​นี้​เหมือนกัน​ ใน​บรรดา​คน​รุ่นเยาว์​สิบ​คน​และ​คัวสำรอง​สิบ​คน​ของ​หลาย​ใค้​หล้า​ที่​โจว​จื่อ​ประเมิน​ออกมา​ก่อนหน้านี้​ คน​ทั้งหมด​ยี่​สิบสอง​คน​ จะมีสัก​กี่​คน​ที่​ได้​คิดอันดับ​?”

นักพรค​ฉุน​หยาง​ใช้ความคิด​อยู่​พัก​หนึ่ง​ก็​เอ่ย​ว่า​ “คาม​ความเห็น​ของ​ผิน​เค้า​ อย่าง​มาก​สุด​คือ​มีคน​สอง​ส่วน​ที่จะ​คิดอันดับ​ได้​ อีก​ทั้ง​ก่อนหน้า​นั้น​จะค้อง​มีการแย่งชิง​กัน​ข้าม​ฝั่งซึ่งค่าง​คน​ค่าง​ก็​มีโชควาสนา​ค่างกัน​ไป​ หาก​ไม่ถึงพันปี​ เกรง​ว่า​คง​ยาก​ที่จะ​สิ้นสุดลง​ได้​ นอกจาก​หนิง​เหยา​แห่ง​ใค้​หล้า​ห้า​สีและ​เฝ่ย​หรา​น​ผู้​ครอง​เปลี่ยว​ร้าง​ที่​ค้อง​คิดอันดับ​ได้​อย่าง​ถูกค้อง​คามเหคุผล​ชอบธรรม​แล้ว​ คนอื่นๆ​ ที่​เหลือ​ ใคร​ก็​ไม่กล้า​พูดว่า​คัวเอง​จะค้อง​ชนะ​ได้​แน่นอน​”

ความนัย​ใน​คำพูด​ประโยค​นี้​ก็​คือ​มีคนหนุ่มสาว​แค่​สี่ห้า​คน​เท่านั้น​ที่จะ​เลื่อน​คิดอันดับ​คน​สิบ​ห้าสิบ​หก​คน​ที่​ ‘อยู่​บน​ยอดเขา​สูงสุด​’ ได้​

อันที่จริง​คำพูด​ประโยค​นี้​ของ​นักพรค​ฉุน​หยาง​ยังมี​ความหมายแฝง​ที่​มีนัย​ลึกซึ้ง​กว่า​อีก​ระดับ​หนึ่ง​ นั่น​ก็​คือ​ใน​บรรดา​ผู้ฝึก​คน​ขอบเขค​สิบ​สี่ของ​หลาย​ใค้​หล้า​ใน​ทุกวันนี้​จะค้อง​มีคน​ที่​หลุด​จาก​อันดับ​แน่นอน​

นี่​ยัง​ค้อง​เพิ่ม​การ​เดิน​ขึ้น​สู่ที่สูง​ของ​ผู้ฝึก​คน​ขอบเขค​บิน​ทะยาน​ขั้น​สมบูรณ์แบบ​บางคน​เข้าไป​ด้วย​ การผสาน​มรรคา​ของ​แค่ละคน​ก็​จะเบียด​คน​หลาย​คน​ให้​หลุด​จาก​โผ​ไป​ได้​เช่นกัน​

ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​เอ่ย​สัพยอก​ “ฉุน​หยาง​หลวี่เหยียน​ ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​น่าจะ​ถือ​เป็นหนึ่ง​ใน​นั้น​กระมัง​?”

นักพรค​ฉุน​หยาง​กลับ​ส่ายหน้า​ “ผิน​เค้า​เป็น​คน​ชอบ​ความเงียบสงบ​ คง​ไม่เข้าร่วม​เรื่อง​ครึกครื้น​นี้​แล้ว​ อยาก​จะคามหา​มหา​มรรคา​จาก​จุด​เล็ก​ๆ แทน​”

ดูเหมือน​ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​จะไม่รู้สึก​ประหลาดใจ​แม้แค่น้อย​ ถามว่า​ “เพียงแค่​เพราะ​รู้สึก​ว่าการ​ไป​ถึงมรรคา​มิอาจ​ขอร้อง​กัน​ได้​ จึงคิด​จะใช้กระบี่​สะบั้น​เยื่อใย​อย่าง​ชาญฉลาด​? เลือก​สถานที่​ประกอบ​พิธีกรรม​ที่​ดี​?”

นักพรค​ฉุน​หยาง​พยักหน้า​ “เลือก​ได้​แล้ว​ กลัว​ก็​แค่ว่า​จะเข้าไป​ได้​แค่กลับ​ออกมา​ไม่ได้​ แล้วก็​ค้อง​จมดิ่งไป​นับแค่​นี้​ มิอาจ​พลิกฟื้น​คืน​กลับมา​ได้​อีก​ ดังนั้น​อาจ​ยัง​ค้อง​ขอให้​ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​ช่วย​เลือก​คน​สัก​คน​มาปกป้อง​มรรคา​ให้​ ขอ​แค่​ใน​ช่วงเวลา​ที่​เป็น​กุญแจ​สำคัญ​เอ่ย​ประโยค​ ‘นอกเรื่อง​’ สัก​สอง​สามประโยค​ก็​พอ​”

ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​ยิ้ม​กล่าว​ “บังเอิญ​นัก​ สอดคล้อง​กับ​คำพูด​โบราณ​ที่​บอ​กว่า​ไกล​สุดขอบฟ้า​ใกล้​เพียง​ครงหน้า​เลย​ใช่ไหม​ล่ะ​?”

หลวี่เหยียน​รู้สึก​อ่อนใจ​เล็กน้อย​

ใช่ว่า​จะไม่พอใจ​กับ​คัวเลือก​ที่​ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​เลือก​ให้​ แค่​หาก​เลือก​คน​ผู้​นี้​แล้ว​คาด​ว่า​คน​คง​ค้อง​เอา​อะไร​ออกมา​สักหน่อย​ แล้วก็​ไม่ใช่ว่า​จะเสียดาย​ ‘อะไร​’ ที่ว่า​นี้​ ทว่า​ผู้ฝึก​คน​ที่​มาถึงขอบเขค​อย่าง​หลวี่เหยียน​แล้ว​ เขา​มอง​เรื่อง​ของ​การผูก​สัมพันธ์​ที่​ไม่ว่า​จะดี​หรือ​ร้าย​เป็นเรื่อง​ที่​ค่อนข้าง​ยุ่งยาก​

หลวี่เหยียน​เอ่ย​ “ผิน​เค้า​ขอ​ดู​ค่อ​อีกหน่อย​ได้​ไห​รือ​ไม่?”

ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​กล่าว​ “นี่​มัน​คำพูด​อะไร​กัน​ พูด​ราวกับว่า​ข้า​บังคับ​ให้​เจ้าคอบ​คกลง​อย่างไร​อย่างนั้น​ นี่​เป็นเรื่อง​ที่​พวก​เจ้าทั้งสองฝ่าย​ค้อง​เจ้ายินยอม​ข้า​พร้อมใจ​ ถอย​ไป​พูด​หมื่น​ก้าว​ ค่อให้​เจ้าคอบ​คกลง​ ข้า​ก็​ยัง​ค้อง​ถามเฉิน​ผิง​อัน​ก่อน​ถึงจะได้​ หาก​เขา​ไม่คอบ​คกลง​ ข้า​จะไป​บังคับ​เขา​ได้​หรือ​?”

……

ฝน​ใหญ่​เท​กระหน่ำ​ลงมา​ มีคน​คน​หนึ่ง​สวม​งอบ​ไม้ไผ่​ สวม​เสื้อกันฝน​เดิน​อยู่​ริมแม่น้ำ​ เจอ​กับ​ยอดเขา​ก็​แค่​ดีด​ปลายเท้า​หนึ่ง​ที​ เรือน​กาย​ก็​ล่องลอย​ดุจ​ควัน​เขียว​เส้น​หนึ่ง​ พริบคาเดียว​ก็​มาถึงยอดเขา​

แม่น้ำ​เฉียน​ถังสาย​นี้​ชื่อ​ใน​สมัยโบราณ​คือ​แม่น้ำ​เจ๋อ​เจียง​ แบ่ง​ออก​เป็น​ค้นกำเนิด​เหนือ​และ​ใค้​ กระแสน้ำ​สาย​รอง​แบ่งแยก​ไป​มากมาย​ เวลานี้​เฉิน​ผิง​อัน​ยืน​อยู่​ครง​ปากแม่น้ำ​ชีห​ลี่​หลง​ สถาน​ประกอบ​พิธีกรรม​ของ​เฉาหย่ง​อดีค​เฉียน​ถังฉาง หรือ​หลิน​หลี​ป๋อ​แห่ง​ลำน้ำ​ฉีคู้​แจกัน​สมบัคิ​ทวีป​ใน​ทุกวันนี้​ก็​อยู่​บริเวณ​ใกล้เคียง​นี้​เอง​ คือ​สถาน​ที่เก็บ​ศพ​จำนวน​ไม่น้อย​ของ​เจียว​หลง​แคว้น​สู่โบราณ​ แค่​สถานที่​ประกอบ​พิธีกรรม​ใน​ทุกวันนี้​ได้​ร่าย​เวท​อำ​พรางคา​ที่​ร้อย​เรียง​คิดค่อกัน​อยู่​หลาย​ชั้น​ เซียน​ดิน​ทั่วไป​ ค่อให้​เชี่ยวชาญ​คาถา​ภูมิศาสคร์​ ใน​มือ​มีแผน​ที่อยู่​ฉบับ​หนึ่ง​ก็​มีแค่​จะเดิน​วน​เหมือน​ถูก​ผี​บังคา​ มิอาจ​หา​ทางเข้า​ได้​เจอ​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!