กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 931

สรุปบท บทที่ 931.4 ยืมพันภูเขาหมื่นสายน้ำจากท่านทั้งหลาย (สิบเอ็ด): กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

สรุปตอน บทที่ 931.4 ยืมพันภูเขาหมื่นสายน้ำจากท่านทั้งหลาย (สิบเอ็ด) – จากเรื่อง กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet

ตอน บทที่ 931.4 ยืมพันภูเขาหมื่นสายน้ำจากท่านทั้งหลาย (สิบเอ็ด) ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

เฉาหย่ง​ใช้ความคิด​เล็กน้อย​ก็​ถามหยั่งเชิง​ว่า​ “คือ​ชุยเฉิง​ผู้​นั้น​หรือ​?”

เดา​ได้​ไม่ยาก​ ขุนเขา​สายน้ำ​ใน​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ ผู้ฝึก​ยุทธ​เต็มตัว​ที่​สามารถ​สอน​หมัด​ให้​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​และ​เผย​เฉียน​ได้​ หาก​ไม่ใช่ซ่งจ่างจิ้งก็​ต้อง​เป็น​ชุยเฉิง​ที่​หายตัว​ไป​นาน​หลาย​ปี​ บวก​กับ​ความสัมพันธ์​สาย​เห​วิน​เซิ่งของ​เฉิน​ผิง​อัน​ และ​หลานชาย​ของ​ชุยเฉิง​ ซิ่ว​หู่​ชุย​ฉาน​ก็​เคย​มีสถานะ​เป็น​ลูกศิษย์​คน​แรก​ของ​สาย​เห​วิน​เซิ่ง ความเป็นไปได้​จึงมากกว่า​ซ่งจ่างจิ้ง แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​พูด​แล้ว​ว่า​ คน​ผู้​นี้​ถือว่า​หาก​ไม่ตี​กับ​ตน​ก็​ไม่ได้​รู้จัก​กัน​ ถ้าอย่างนั้น​ก็​มีแค่​ชุยเฉิง​แล้ว​

แล้วก็​จริง​ดัง​คาด​ เฉิน​ผิง​อัน​พยัก​หน้ายิ้ม​รับ​

อันที่จริง​เจียว​เฒ่าเฉียน​ถังฉางอย่าง​เฉาหย่ง​ เดิมที​สามารถ​เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​หยก​ดิบ​ได้​ตั้งแต่​เมื่อ​ร้อย​ปีก่อน​แล้ว​ แต่​เพียงแค่​เพราะ​ตอนนั้น​น่านน้ำ​ของ​เฉียน​ถังเจอ​กับ​ภัยแล้ง​ใหญ่​ที่​พันปี​ก็​ยาก​จะพานพบ​สักครั้ง​ เฉาหย่ง​หมดสิ้น​หนทาง​จึงได้​แต่​เผย​ร่าง​จริง​ ชักนำ​น้ำ​ของ​ทะเล​ให้​เข้ามา​ใน​แม่น้ำ​เฉียน​ถัง นี่​ถึงได้​ก่อให้เกิด​ฝน​รส​หวาน​ครั้งหนึ่ง​ การกระทำ​เช่นนี้​ไม่ต่าง​จาก​การ​ละเมิด​มหา​มรรคา​ของ​ตัวเอง​ แล้วก็​เพราะ​ตัวเอง​ไม่มีผู้บังคับบัญชา​เหนือ​หัว​แล้ว​ เจียว​เฒ่าจึงมีจุดจบ​เพียง​ ‘แค่​’ ถูก​ลดทอน​ตบะ​ไป​สามร้อย​ห้า​ร้อย​ปี​เท่านั้น​ หากว่า​เป็น​เมื่อ​สามพัน​ปีก่อน​หรือ​เมื่อ​หมื่น​ปีก่อน​ เฉาหย่ง​สามารถ​เดิน​ตรง​ไป​ที่​แท่น​สังหาร​มังกร​แล้ว​โดน​ถลก​หนัง​ดึง​เส้นเอ็น​ได้​เลย​

ก่อนหน้า​นั้น​ชุยเฉิง​ไม่ค่อย​เห็น​เฉียน​ถังฉางที่​นิสัย​ฉุนเฉียว​ดุร้าย​อยู่​ใน​สายตา​มาก​นัก​ แล้วก็​เพราะ​มรสุม​ครั้งหนึ่ง​จึงเคย​มาหา​เฉาหย่ง​ถึงที่​ เคย​มีการ​ถามหมัด​ที่​พลัง​อำนาจ​เฉียบคม​ต่อกัน​

หลัง​จากนั้นมา​ชุยเฉิง​ถึงได้​เปลี่ยน​ความประทับใจ​ที่​มีต่อ​เฉาหย่ง​ เป็น​ฝ่าย​มาเยือน​ถึงบ้าน​อีกครั้ง​ ไม่ได้​ถามหมัด​ แค่​ทำ​เห​มือ​น.​..ถามสุรา​เท่านั้น​

แต่​ปี​นั้น​ชุยเฉิง​ที่​สอน​หมัด​อยู่​บน​เรือน​ไม้ไผ่​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​กลับ​ไม่เคย​เล่าเรื่อง​ใน​อดีต​ใดๆ​ ให้​เฉิน​ผิง​อัน​ฟัง ดูเหมือนว่า​จะไม่เคย​แม้แต่​ครั้ง​เดียว​

กลับ​กลายเป็น​ว่า​พอ​เจอห​น่วน​ซู่กับ​หมี่​ลี่​น้อย​ เขา​ถึงวางมาด​ลง​ ยินดี​เป็น​ฝ่าย​เล่า​เรื่องราว​ใน​อดีต​ตอนที่​ตัวเอง​ออก​ท่อง​ยุทธ​ภพ​ให้​กับ​แม่นาง​น้อย​ทั้งสอง​ฟัง

ได้ยิน​เผย​เฉียน​เล่า​ว่า​ ทุกครั้ง​พี่​หญิง​หน่วน​ซู่จะต้อง​ตั้งใจฟัง​ หมี่​ลี่​น้อย​กลับ​ยิ่ง​ร้ายกาจ​ พอได้​ฟังเรื่องเล่า​บางอย่าง​ที่​เคย​เล่า​มาแล้ว​รอบ​สอง​รอบ​ก็​จะส่ายหน้า​อย่าง​แรง​ ไม่ไว้หน้า​กัน​แม้แต่น้อย​ พูดโพล่ง​ออก​ไป​โดยตรง​ว่า​ เล่า​แล้ว​ๆ เปลี่ยน​เรื่องเล่า​ขุนเขา​สายน้ำ​ที่​มีสีสัน​ตระการตา​ ฟังแล้ว​น่า​ตกใจ​ยิ่งกว่า​นี้​เถอะ​…เรื่องเล่า​ต่อจากนั้น​ ผู้เฒ่า​ก็​ไม่เคย​ทำให้​หมี่​ลี่​น้อย​ต้อง​ผิดหวัง​ แน่นอน​ว่าการ​ช่วย​ให้การ​สนับสนุน​ของ​หมี่​ลี่​น้อย​ก็​ร้ายกาจ​อย่าง​มาก​ ฟังไป​พร้อม​ทำท่า​ตกอกตกใจ​ แล้ว​ยัง​ทอดถอนใจ​หลาย​ต่อ​หลายครั้ง​

เฉิน​ผิง​อัน​แนะนำ​สหาย​ข้าง​กาย​ให้​เฉาหย่ง​รู้จัก​ ชื่อ​ชิงถง มาจาก​ใบ​ถงทวีป​

เฉาหย่ง​ย่อม​ไม่เคย​ได้ยิน​ชื่อ​ของ​คน​ผู้​นี้​มาก่อน​ จึงคิด​แค่​ว่า​อีก​ฝ่าย​เป็นยอด​ฝีมือ​นอก​โลก​ที่​ไม่ค่อย​เปิดเผย​หน้าตา​ง่ายๆ​ เท่านั้น​

ประโยค​แรก​ที่​ชิงถงเปิดปาก​พูด​ก็​ทำให้​เฉาหย่ง​ยิ่ง​มอง​คน​ผู้​นี้​สูงขึ้น​อีก​ขั้น​

“หลิน​หลี​ป๋อ​ ดูเหมือนว่า​จะเคย​มีวาสนา​ที่​ไม่ตื้นเขิน​กับ​นักพรต​ฉุน​หยาง​มาก่อน​”

เฉาหย่ง​ไม่รู้สึก​ว่า​นี่​เป็นความลับ​ที่​เล่า​ให้​ใคร​ฟังไม่ได้​อะไร​ จึงพยักหน้า​เอ่ย​ว่า​ “ข้า​เคย​โชคดี​ได้​ฟังการอธิบาย​ ‘คัมภีร์​อัคคี​’ ของ​เจิน​เห​ริน​ลัทธิ​เต๋า​ฉายา​ว่า​ฉุน​หยาง​มาครั้งหนึ่ง​ ข้า​อาศัย​สิ่งนี้​มาพิสูจน์​มรรคา​จน​ประสบผลสำเร็จ​เล็กน้อย​ ได้​เลื่อน​เป็น​ก่อกำเนิด​ น่าเสียดาย​ที่​ไม่เคย​ได้​ตอบแทน​บุญคุณ​การ​ถ่ายทอด​มรรคา​ของ​นักพรต​ฉุน​หยาง​ใน​ส่วน​นี้​เสียที​”

นักพรต​ต่างถิ่น​ผู้​นั้น​ ปี​นั้น​ตอนที่​ช่วย​ถ่ายทอด​ความรู้​ให้​กับ​เฉาหย่ง​ใน​ถ้ำเฟิงสุ่ย​ การ​จำแลง​มหา​มรรคา​ของ​เขา​คือ​ถ้อยคำ​มหัศจรรย์​ที่​พรั่งพรู​ราวกับ​ไข่มุก​ที่​ร้อย​เรียง​กัน​เป็น​สาย​ มีฝน​เพลิง​ตก​ลงมา​ครั้งหนึ่ง​

เมื่อ​ผ่าน​การ​หล่อหลอม​จาก​ฝน​ไฟครั้งนี้​ หลังจากนั้น​เมื่อ​เฉาหย่ง​เดินลง​น้ำ​ก็​ราบรื่น​ผ่อนคลาย​อย่าง​ถึงที่สุด​ เหมือนกับ​นาย​ท่าน​จิ้น​ซื่อ​ที่​มีชื่อ​ติด​กระดาน​ทองคำ​คน​หนึ่ง​ที่​ย้อนกลับ​ไป​เข้าร่วม​การ​สอบ​ระดับ​จังหวัด​หรือ​แม้กระทั่ง​การ​สอบ​ระดับ​อำเภอ​ แน่นอน​ว่า​ต้อง​เป็น​เรื่องเล็ก​ที่​ง่ายดาย​ราวกับ​ยกมือ​คว้า​จับ​มา

เฉาหย่ง​รู้​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​กับ​ชุยเฉิง​แล้วก็​ตอบ​ตกลง​กับ​เรื่อง​ธูป​ทางจิต​ก้าน​นั้น​ทันที​อย่าง​ไม่มีลังเล​

เฉาหย่ง​พลัน​ถามว่า​ “มีแขก​มาเยือน​ถึงบ้าน​อีกแล้ว​ เรือ​หนึ่ง​ลำ​คน​สอง​กลุ่ม​ ล้วน​เป็น​สหาย​เก่า​ของ​จวน​วารี​ข้า​ เจ้าขุนเขา​เฉิน​จะถือสา​หรือไม่​หาก​จะต้อง​ไป​พบ​พวกเขา​ด้วยกัน​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “เอา​ตามที่​ท่าน​ว่า​เถิด​”

อันที่จริง​เฉิน​ผิง​อัน​สัมผัส​ถึงร่องรอย​ของ​คน​กลุ่ม​นั้น​ได้​เร็ว​กว่า​เฉาหย่ง​เสีย​อีก​

ใน​เรือ​เล็ก​ลำ​หนึ่ง​ที่อยู่​บน​แม่น้ำ​มีผู้ฝึก​ลมปราณ​ทวีป​อื่น​สามคนโดยสาร​มาพร้อมกับ​เทพ​วารี​ใน​ท้องถิ่น​สอง​องค์​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​

เห็น​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​มีมารยาท​นอบน้อม​ต่อ​เจียว​น้ำ​ตน​นี้​เช่นนี้​ ใน​ใจชิงถงก็​อด​บ่นพึมพำ​ไม่ได้​ว่า​ ที​ตอน​อยู่​กับ​ตน​ ทำไม​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​ถึงไม่มีท่าทาง​ว่า​จะเป็น​แขก​ที่​ตามใจ​เจ้าบ้าน​บ้าง​เลย​ล่ะ​

เฉาหย่ง​ย่อม​ไม่รู้เรื่อง​วงใน​พวก​นี้​ ยังคง​แนะนำ​สถานะ​ของ​ผู้โดยสาร​บน​เรือ​ลำ​นั้น​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​ได้​รู้จัก​

เทพ​วารี​สอง​องค์​ต่าง​ก็​เป็น​หู​จวิน​ที่​มีคุณสมบัติ​จะเปิด​จวน​ คน​หนึ่ง​ที่ว่าการ​อยู่​ที่​ทะเลสาบ​ชิงฉ่าว​ซึ่งอยู่​ใกล้​กับ​แม่น้ำ​เฉียน​ถัง ตั้งอยู่​ใกล้​กับ​อำเภอ​หลง​โหย​ว​และ​อำเภอ​อู​ซาง สุ่ยจ​วิน​หญิง​มีนาม​ว่า​จู๋เซียง​

หู​จวิน​อีก​ท่าน​หนึ่ง​นาม​ว่า​หวัง​เซี่ยง​จิ้น​ ที่ว่าการ​ตั้งอยู่​ที่​ทะเลสาบ​ปี้​หลัว​ของ​อำเภอ​ตัง​ถู

อีก​สามคน​ที่​เหลือ​ต่าง​ก็​ไม่ใช่ผู้ฝึก​ตน​ใน​ท้องถิ่น​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ คน​หนึ่ง​นั้น​คือ​เฉินเจินหรง​ที่​มาจาก​สกุล​เฉิน​ผู้รอบรู้​ของ​ทัก​ษินา​ตย​ทวีป​ เชี่ยวชาญ​การ​วาด​มังกร​

อีก​สอง​คน​มาจาก​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​ ผู้ฝึก​ตน​หญิง​ชื่อว่า​ฉิน​ปู้​อี๋​ ชายฉกรรจ์​อีก​คน​หนึ่ง​เรียก​ตัวเอง​ว่า​ลั่ว​หยาง​มู่เค่อ​ คือ​ร้าน​ผ้า​ห่อ​บุญ​คน​หนึ่ง​

ผู้ฝึก​ตน​ต่างถิ่น​สามคน​ อันที่จริง​ก่อนหน้านี้​เคย​มาเป็น​แขก​ที่นี่​แล้ว​ เพียงแต่ว่า​เฉินเจินหรง​เกิด​ความคิด​กะทันหัน​ บอ​กว่า​อยาก​จะไปเที่ยว​เยือน​อำเภอ​หลง​โหย​ว​สักหน่อย​ สถานที่​ที่​ใน​ยุค​บรรพกาล​เรียก​ว่า​กู​เมี่ย​มาหลาย​สมัย​ ก่อตั้ง​อำเภอ​ไท่​โม่ ภายหลัง​เปลี่ยน​ชื่อ​อยู่​หลายครั้ง​ สุดท้าย​ถึงตั้ง​ชื่อว่า​หลง​โหย​ว​

ฝน​เท​กระหน่ำ​ลงมา​ไม่ขาดสาย​ สีท้องฟ้า​มืด​สลัว​ ผู้​ที่​ล่องเรือ​นั่ง​ตัวตรง​ เดินทาง​กลับ​เพียงลำพัง​

ใน​แม่น้ำ​มีเรือ​อู​เผิง​ลำ​เล็ก​ลำ​หนึ่ง​โยกคลอน​ตาม​กระแสน้ำ​ขึ้นๆ ลงๆ​ ฝน​เม็ด​ขาว​ตก​กระทบ​ลง​บน​ลำ​เรือ​รุนแรง​ มองดู​แล้ว​น่า​กังวล​ว่า​เรือ​อาจ​คว่ำ​ได้​ทุกเมื่อ​

บน​เรือ​มีคน​ห้า​คน​กำลัง​ร่ำสุรา​ พูดคุย​แย้มยิ้ม​กัน​อย่าง​ผ่อนคลาย​ พวกเขา​ย่อม​ต้อง​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​ เป็น​คนใน​กลุ่ม​เทพ​เซียน​

เรื่อง​ที่​พูดคุย​กัน​เกี่ยวข้อง​กับ​การ​ฝึก​ตน​ แต่ละคน​ต่าง​ก็​มีความคิดเห็น​เป็น​ของ​ตัวเอง​ พูดถึง​สิบสอง​ขอบเขต​ที่​ต่ำกว่า​บิน​ทะยาน​ลงมา​ว่า​ขอบเขต​ใด​กัน​แน่​ถึงจะเป็น​กุญแจ​สำคัญ​ที่สุด​

มีคน​บอ​กว่า​คือ​ขอบเขต​ถ้ำสถิต​ชั้นแรก​ของ​ห้า​ขอบเขต​กลาง​ เหตุผล​คือ​การ​ฝึก​ตน​ของ​พวกเรา​ หาก​พูด​ให้​ยาก​ เส้น​ทางใต้​ฝ่าเท้า​ก็​ไม่ได้​มีแค่​ร้อย​พัน​เส้น​เท่านั้น​ ทาง​นอกรีต​ ทาง​สาย​อธรรม​ มีทางแยก​แตก​ออก​ไป​มากมาย​ แต่​หาก​สืบสาวราวเรื่อง​กัน​แล้วก็​มีแค่​สอง​เรื่อง​อย่าง​การ​เปิด​ปิดประตู​เท่านั้น​ ปิดประตู​ ร่างกาย​และ​จิต​แห่ง​มรรคา​ล้วน​อยู่​ใน​ป่า​ลึก​เงียบสงบ​ หาก​เปิดประตู​ ฝุ่น​แดง​หมื่น​จั้งคลุ้ง​ตลบอบอวล​ ก็​ยิ่ง​เป็นการ​ฝึก​ตน​ มีความคล้ายคลึง​กับ​มหายาน​หินยาน​ของ​ลัทธิ​พุทธ​

มีคน​บอ​กว่า​ขอบเขต​ชมมหาสมุทร​สำคัญ​ที่สุด​ ผู้ฝึก​ตน​เริ่ม​เดิน​ขึ้น​เขา​ ขอบเขต​นี้​ก็​เหมือน​การ​ขึ้น​หอ​เรือน​ชมมหาสมุทร​ที่​กว้างใหญ่​ไพศาล​ ขอบเขต​ไม่สูง แต่​กลับเป็น​ชั้น​ที่​ต้อง​ใช้ความ​เด็ดขาด​กล้าหาญ​มาก​ที่สุด​ พูดถึง​แค่​ครึ่ง​ประโยค​ที่​ใคร​ก็​ไม่รู้​กล่าว​ไว้​แล้ว​สืบทอด​ต่อกัน​มาซึ่งบอ​กว่า​ ‘ใน​เก้า​ทวีป​ ประหนึ่ง​งูรัด​พัน​ใน​คันฉ่อง​’ เป็นการ​มองเห็น​ที่​กว้างขวาง​ยิ่งใหญ่​เพียงใด​ ขอบเขต​มากมาย​ต่อจากนั้น​ ต่อให้​เป็น​สอง​ขั้น​อย่าง​หยก​ดิบ​และ​เซียน​เห​ริน​ที่​เป็น​ห้า​ขอบเขต​บน​ ตำแหน่ง​อยู่​สูงก็​จริง​ แต่​อันที่จริง​กลับ​ยังคง​มิอาจ​ทัดเทียม​ได้​

เห็น​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ปฏิเสธ​เรื่อง​นี้​ เฉาหย่ง​จึงพา​เขา​กับ​สหาย​ชิงถงออก​ไป​จาก​ถ้ำด้วยกัน​ มาถึงที่​ริม​ชายฝั่ง​รอ​รับ​เรือ​ลำ​เล็ก​ที่​กำลังจะ​จอด​เทียบท่า​

ลม​พัด​กระโชก​สายฝน​เท​กระหน่ำ​ เวลากลางวัน​ราวกับ​ยามค่ำคืน​ กลุ่ม​ของ​พวกเขา​สามคน​ไม่ต้อง​ร่าย​เวท​อำ​พรางตา​อะไร​ด้วยซ้ำ​

และ​บทกวี​ที่​ถูก​บันทึก​อยู่​ใน​อักขรานุกรม​พวก​นั้น​ ตัวอักษร​มากหลาย​แสน​ตัว​ก็​เหมือน​ได้รับ​อภัยโทษ​ ถูก​ ‘ดึง​ออกมา​’ จาก​ใน​ตำรา​เล่ม​แล้ว​เล่ม​เล่า​

เฉาหย่ง​เห็นภาพ​เหตุการณ์​ประหลาด​นี้​ ต่อให้​เฉิน​ผิง​อัน​กับ​ชิงถงจากไป​แล้ว​ เขา​ก็​ยังคง​ยืน​อยู่​ที่​เดิม​ เนิ่นนาน​ก็​ยัง​ไม่คืนสติ​ ใน​ใจทอดถอนใจ​ไม่หยุด​ คิดไม่ถึง​เลย​ว่า​นอกจาก​เวท​กระบี่​และ​วิชา​หมัด​แล้ว​ อิ่น​กวาน​หนุ่ม​จะยังมี​มรรค​กถา​ที่​ไม่ธรรมดา​เช่นนี้​ด้วย​

……

ใน​ระเบียง​ หลวี่เหยียน​ถามว่า​ “ก่อนหน้านี้​ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​ได้​ไป​เจอ​โจว​จื่อ​มาแล้ว​หรือ​?”

“เจอกัน​แล้ว​ คุย​กัน​สอง​สามประโยค​ สุดท้าย​โจว​จื่อ​พูด​กับ​ข้า​ด้วย​น้ำเสียง​แข็งกระด้าง​ว่า​ ‘กินข้าว​โต๊ะ​เดียวกัน​ ต่าง​คน​ต่าง​ยก​ชาม’”

ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​ผงกศีรษะ​ “เพราะ​ก่อนหน้านี้​ข้า​พูด​เสียงอ่อน​กับ​โจว​จื่อ​ก่อน​ว่า​ “‘เจ้าที่​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​สำนัก​หยิน​หยาง​ซึ่งดูดวง​ได้​คน​หนึ่ง​ ก็​อย่า​ได้มา​รังแก​ลูกศิษย์​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ของ​พวกเรา​เลย​’”

นักพรต​ฉุน​หยาง​ค้นพบ​ว่า​ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​ที่อยู่​ข้าง​กาย​คล้าย​จะอารมณ์​ไม่เลว​ ใบหน้า​เต็มไปด้วย​รอยยิ้ม​ กว่า​จะกลั้น​เสียงหัวเราะ​เอาไว้​ได้​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​

นักพรต​ฉุน​หยาง​ถามว่า​ “ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​เห็น​อะไร​หรือ​…เห็นภาพ​เหตุการณ์​ในอนาคต​หรือ​ไร​?”

“เห็น​อดีต​บางอย่าง​ เห็น​ผู้ฝึก​ตน​ทุกคน​ มนุษย์​ธรรมดา​ทุกคน​ พวกเรา​ทุกคน​ต่าง​ก็​ยืน​อยู่​บน​พื้นดิน​เหมือนกับ​…ยอดเขา​หลาย​ต่อ​หลาย​ยอด​ พวกเรา​ทุกคน​ต่าง​ก็​อยู่​ใน​ท่วงท่า​ค้ำฟ้า​ยัน​ดิน​เหมือนกัน​หมด​อย่าง​ไม่มีข้อยกเว้น​ แค่​ว่า​มีสูงต่ำ​ต่างกัน​ก็​เท่านั้น​ ไม่ว่า​พวกเรา​เจอ​กับ​เรื่อง​อะไร​ ต่อให้​ก้มหน้า​ลง​ ค้อม​เอว​ลง​ ก็​ยังคง​เหยียบ​อยู่​บน​พื้นดิน​ หลัง​แบก​ฟ้าคราม​”

ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “ส่วน​เรื่อง​ในอนาคต​ เห็น​แล้วแต่​ไม่พูด​ออกมา​ พูด​ออกมา​แล้​วจะ​ไม่ศักดิ์สิทธิ์​”

นั่น​คือ​วิถี​เส้นทาง​เล็ก​ละเอียด​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ สร้าง​เป็น​ภาพ​ที่​พร่า​เลือน​เห็น​ไม่ชัด​เกิน​จะนับ​ได้​ไหว​ สุดท้าย​กลับมา​ทับซ้อน​รวมตัวกัน​เป็นหนึ่งเดียว​ใน​จุด​จุด​หนึ่ง​

เมฆหมอก​ระหว่าง​ฟ้าดิน​สลาย​หาย​ไป​ พอ​จะมองเห็น​ได้​อย่าง​เลือนราง​ว่า​มีคน​ผู้​หนึ่ง​เดิน​นำ​ เงาร่าง​อีก​มากมาย​ตามติด​มาด้านหลัง​ ค่อยๆ​ เดิน​ขึ้น​สู่ที่สูง​

ทว่า​ก่อนหน้านี้​ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​กลับ​เห็น​บาง​จุด​ที่​ไม่ธรรมดา​

ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​ตบ​ราว​รั้ว​กลั้น​ขำ​

ภาพ​เหตุการณ์​นั้น​ผุด​มาวูบ​เดียว​แล้วก็​หาย​ไป​ คือ​ซาก​ปรัก​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูที่​บรรพ​จารย์​สามลัทธิ​จับมือ​กัน​ไป​เยือน​ ตอนนั้น​ใน​เมือง​เล็ก​ ใน​บรรดา​คน​ทั้ง​สามมีเพียง​มรรคา​จารย์​เต๋า​ที่​ได้​พบ​เฉิน​ผิง​อัน​

มรรคา​จารย์​เต๋า​เดิน​เคียง​บ่า​ไป​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ เดิน​ไป​ยัง​ตรอก​หนี​ผิง​เส้น​นั้น​ด้วยกัน​

สุดท้าย​มรรคา​จารย์​เต๋า​หยุด​เท้า​อยู่​นอก​ตรอก​เล็ก​

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!