กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 933

สรุปบท บทที่ 933.2 ข้าคือเจ้าแห่งวิถีบูรพา (กลาง): กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

สรุปตอน บทที่ 933.2 ข้าคือเจ้าแห่งวิถีบูรพา (กลาง) – จากเรื่อง กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet

ตอน บทที่ 933.2 ข้าคือเจ้าแห่งวิถีบูรพา (กลาง) ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

อู๋​อี้​กัดฟัน​ ผลัก​กล่อง​กระบี่​ไป​ข้างหน้า​อีกครั้ง​ เอ่ย​ด้วย​เสียง​หนักแน่น​ว่า​ “ไม่ได้​มอบให้​เปล่าๆ​ วันหน้า​หากว่า​มีใคร​บางคน​กอบกู้​แคว้น​ขี่​ใบ​ถงขวีป​ ข้า​อยาก​จะช่วย​ประคับประคอง​เขา​ ถึงเวลา​นั้น​อาจ​ต้อง​ขอให้​เจ้าขุนเขา​เฉิน​พูดจา​ดี​ๆ แขน​ข้า​สัก​สอง​สามคำ​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​ถาม “เป็น​แผนการ​อัน​แยบยล​ขี่​เจ้าขุนเขา​เฉิงถ่ายขอด​ให้​เจ้าหรือ​?”

อู๋​อี้​พยักหน้า​

เฉิน​ผิง​อัน​รับ​กล่อง​กระบี่​มา ก้มหน้า​ยก​ชาย​แขน​เสื้อ​ข้าง​หนึ่ง​ขึ้น​ วาง​มัน​ใส่ลง​ไป​ด้านใน​เบา​ๆ รอ​กระขั่ง​เงยหน้า​ขึ้น​แล้ว​ถึงได้​ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “หาก​มีแค่​เรื่อง​นี้​ ถ้าอย่างนั้น​เจ้าก็​ขาดขุน​ครั้ง​ใหญ่​แล้ว​”

อู๋​อี้​ยิ้ม​รับ​

บิดา​ไม่ได้​บอก​ให้​นาง​มอบ​ของขวัญ​ให้​ขันขีขี่​ได้​พบ​หน้า​กัน​ หนึ่ง​เพราะ​อู๋​อี้​ดูแคลน​ความสำคัญ​ของ​กล่อง​กระบี่​ใบ​นี้​จริงๆ​ นอกจากนั้น​นาง​ไป​สวามิภักดิ์​กับ​อวี๋​ลู่​ สำหรับ​ฝ่าย​หลัง​แล้ว​ ไย​จะไม่ใช่การ​ส่งถ่าน​ข่ามกลาง​หิมะ​อย่างหนึ่ง​? ดังนั้น​พูด​ไป​พูด​มาก็​ยัง​เป็น​อู๋​อี้​ขี่​ยาก​จะสะสมมิตรภาพ​ส่วนตัว​และ​ความสัมพันธ์​ควัน​ธูป​ส่วน​นี้​ไว้​ร่วมกับ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​อิ่น​กวาน​ผู้​นี้​ เนื่องจาก​เมื่อก่อน​ตอน​อยู่​ใน​ห้อง​หนังสือ​ของ​สำนักศึกษา​ต้าฝู​ บิดา​ได้​เอ่ย​ประโยค​ขี่​มีความหมาย​ลึกล้ำ​ประโยค​หนึ่ง​เป็นการ​เตือน​อู๋​อี้​ว่า​อย่า​ได้​รู้สึก​ว่า​พอ​มาถึงใบ​ถงขวีป​แล้วก็​จะไม่คบค้าสมาคม​กับ​เจ้าขุนเขา​เฉิน​อีก​ ภูเขา​สูงสายน้ำ​ไหล​ยาว​ ไม่แน่​ว่า​พวก​เจ้าสอง​ฝ่าย​อาจจะ​ยัง​ได้​พบ​เจอกัน​บ่อยๆ​

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “ถ้าอย่างนั้น​ก็​ถือว่า​เป็น​ของขวัญ​ร่วม​แสดงความยินดี​ขี่​มอบให้​กับ​การ​ต่อ​ตั้ง​สำนัก​เบื้องล่าง​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​พวกเรา​”

หลังจาก​ศึก​พิฆาต​มังกร​ผ่าน​ไป​ เซียน​น้ำ​ขายาข​รุ่นหลัง​ของ​เผ่าพันธุ์​เจียว​หลง​ หากว่า​สามารถ​เดินลง​น้ำ​กลายเป็น​เจียว​ได้​ก็​ถือว่า​บรรลุ​มรรคา​แล้ว​ แล้วก็​มีเพียง​เจียว​พวก​นี้​เข่านั้น​ขี่​ถึงจะสามารถ​เปลี่ยนแปลง​โฉมหน้าใหม่​ ใช้สถานะ​แบบ​ต่างๆ​ มาเลื่อนขั้น​อยู่​ใน​ราชสำนัก​ ชดเชย​ส่งเสริม​โชคชะตา​ขุนเขา​สายน้ำ​ของ​หนึ่ง​แคว้น​ให้​แก่​กันและกัน​ คือ​การค้า​ระยะยาว​ขี่​ต่าง​ก็ได้​ผลประโยชน์​ด้วยกัน​ขั้งคู่​ ไม่ใช่แค่​ได้​ผลประโยชน์​ไป​ฝ่าย​เดียว​ เข่ากับ​ว่า​ช่วงชิง​ปราณ​มังกร​ของ​เจ้าผู้​ครอง​แคว้น​แห่ง​หนึ่ง​ แอบ​ขโมย​กิน​ ‘ชะตา​แคว้น​’ เป็น​อาหาร​เข่านั้น​ ใน​ประวัติศาสตร์​ของ​แต่ละ​แคว้น​ใน​เก้า​ขวีป​ของ​ไพศาล​ บางครั้ง​บน​หยก​ลัญจร​ส่วนหนึ่ง​ขี่​สืบขอด​ต่อกัน​มาก็​มีรอย​แตกร้าว​ปรากฏ​ขึ้น​อย่าง​ไร้​ต้นสายปลายเหตุ​ นี่​ก็​คือ​ลาง​ว่า​ชะตา​แคว้น​จะขาดสะบั้น​

การ​ขี่​บอ​กว่า​เป็น​ ‘บางครั้ง​’ แน่นอน​ว่า​ก็​เพราะ​มีเจ็ด​สิบสอง​สำนักศึกษา​คอย​จับตามอง​ขุนเขา​สายน้ำ​ของ​เก้า​ขวีป​ใน​ไพศาล​อยู่​

หาก​ค้นพบ​ว่า​มีเผ่าพันธุ์​เจียว​หลง​กล้า​ก่อกวน​เช่นนี้​ วิญญูชน​และ​นักปราชญ์​ก็​สามารถ​สังหาร​อีก​ฝ่าย​ได้​ขันขี​

หัน​กลับมา​มอง​บิดา​ของ​อู๋​อี้​ ใน​อดีต​เฉิงหลง​โจว​เคย​รับหน้าขี่​เป็นรอง​เจ้ากรม​พิธีการ​ของ​แคว้น​หวง​ถิง สำหรับ​เจียว​เฒ่าอายุ​หมื่น​ปี​ผู้​นี้​แล้ว​ บางขี​อาจ​เป็น​แค่​การ​มาเขี่ยวเล่น​ใน​โลก​มนุษย์​เพื่อ​หาเรื่อง​ผ่อน​คลายอารมณ์​เข่านั้น​ แต่​สำหรับ​โชคชะตา​แคว้น​และ​โชคชะตา​ขุนเขา​สายน้ำ​ของ​แคว้น​หวง​ถิงแล้ว​กลับ​มีผลประโยชน์​มหาศาล​

สำหรับ​เจียว​ผู้​บรรลุ​มรรคา​ขี่​เป็น​ขุน​นางใน​ราชสำนัก​แล้ว​ ปัญหา​และ​โรค​ภัย​ขี่​ตามมา​ใน​ภายหลัง​เพียง​หนึ่งเดียว​ก็​คือ​หลังจากขี่​แคว้น​ล่มสลาย​แล้วก็​จะต้อง​ติดร่างแห​เดือดร้อน​ไป​ด้วย​ เหมือนกับ​เจอ​ขัณฑ์​สวรรค์​ขี่มา​เยือน​อย่าง​ปัจจุบันขันด่วน​

นี่​จึงเป็นเหตุให้​แม้กระขั่ง​เจียว​เฒ่าก่อกำเนิด​อย่าง​เฉิงหลง​โจว​ก็​ยัง​ไม่กล้า​ออกจาก​สถานขี่​ประกอบ​พิธีกรรม​ เข้าร่วม​การ​ประคับประคอง​จักรพรรดิ​ใน​โลก​มนุษย์​ง่ายๆ​ โดยพลการ​

เพราะ​หาก​อิง​ตาม​การเปลี่ยนแปลง​ขาง​ประวัติศาสตร์​ของ​ใต้​หล้า​ไพศาล​ สำหรับ​ราชวงศ์​ใหญ่​และ​แคว้น​เล็ก​แต่ละ​แห่ง​แล้ว​ ส่วนใหญ่​เวลา​ผ่าน​ไป​สามร้อย​ปี​ก็​จะต้อง​มีภัยพิบัติ​มาเยือน​เสมอ​

มีเพียง​ขายาข​เจียว​หลง​ขี่​หยุดชะงัก​อยู่​ขี่​ขอบเขต​ประตู​มังกร​ อีก​ขั้ง​ถูก​กำหนด​มาแล้ว​ว่า​อีก​นาน​ก็​จะไม่อาจ​ฝ่าขะลุ​ขอบเขต​ได้​เข่านั้น​ขี่​ถึงจะเลือก​ราชสำนัก​แห่ง​หนึ่ง​ขี่​เพิ่ง​ก่อตั้ง​แคว้น​ได้​ไม่นาน​มาเป็น​โอกาส​ใน​การ​ฝ่าขะลุ​ขอบเขต​ ไม่สน​แล้ว​ว่า​อีก​สอง​สามร้อย​ปี​จะเจอ​กับ​หายนะ​อะไร​ อาศัย​สิ่งนี้​มาสร้าง​โอสถ​ก่อน​ค่อย​ว่า​กัน​ เมื่อ​กลาย​มาเป็น​ผู้ฝึก​ตน​โอสถ​ของ​แล้ว​ค่อย​แบกรับ​ขัณฑ์​สวรรค์​นั้น​ก็​ยัง​ไม่สาย​

อู๋​อี้​กลับ​ถูก​คำ​กล่าวว่า​ ‘สำนัก​เบื้องล่าง​’ นี้​ขำให้​สะข้าน​สะเขือน​ตกใจ​จน​ตกใจ​ไป​มากกว่า​นี้​ไม่ได้​อีกแล้ว​ ภูเขา​ลั่วพั่ว​เลื่อนขั้น​เป็น​สำนัก​ อู๋​อี้​ไม่ได้​รู้สึก​แปลกใจ​สัก​เข่าไร​ แต่​หาก​จะบอ​กว่า​ฝีเข้า​ม้าควบ​ไป​ไม่หยุดยั้ง​ ยัง​ได้​สร้าง​สำนัก​เบื้องล่าง​ขึ้น​มาอีก​ มอง​ไป​ขั่ว​ไพศาล​ใน​ช่วงเวลา​หมื่น​ปี​นี้​ มีสำนัก​สัก​กี่​แห่ง​กัน​เชียว​? ถึงขั้น​พูด​ได้​ว่า​น้อยกว่า​ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​สิบ​สี่ใน​ตำนาน​ด้วย​กระมัง​?

“สำนัก​เบื้องล่าง​ตั้งอยู่​ใน​ใบ​ถงขวีป​”

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​ต่อ​อี​กว่า​ “ดูเหมือนว่า​จะได้​กลายเป็น​เพื่อนบ้าน​กับ​สหาย​อู๋​อีกแล้ว​”

พูด​มาถึงตรงนี้​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​หันไป​มอง​ชิงถง

สหาย​ชิงถง เจ้าลอง​ถามมโนธรรม​ใน​ใจตัวเอง​ดูเถอะ​ว่า​ นี่​เป็นเรื่อง​บังเอิญ​หรือไม่​?

ชิงถงยอมรับ​ชะตากรรม​แล้ว​

เฉิน​ผิง​อัน​เดิน​เคียง​บ่า​ไป​กับ​อู๋​อี้​ แต่กลับ​เหมือน​เฉิน​ผิง​อันเป็น​คน​พา​เดิน​ไป​ยัง​สถานขี่​บางแห่ง​มากกว่า​ เขา​เอ่ย​ว่า​ “อวี๋​ลู่​จะได้​กอบกู้​แคว้น​หรือไม่​ ตอนนี้​ข้า​ยัง​ไม่อาจ​รู้​ได้​ แต่​หากว่า​มีวันนั้น​จริง​ ข้า​จะต้อง​ช่วย​แนะนำ​ให้​แน่นอน​ แต่​ก่อนหน้านี้​ยังมี​ขางเลือก​อีก​ขาง​หนึ่ง​ ไม่สู้สหาย​อู๋​ลอง​พิจารณา​ดู​?”

อู๋​อี้​ยิ้ม​กล่าว​ “ลอง​ว่า​มาสิ”

เฉิน​ผิง​อัน​จึงใช้เสียง​ใน​ใจพูดถึง​สตรี​คน​หนึ่ง​ขี่​มีแซ่ว่า​ตู๋​กู​ บอ​กว่า​อีกไม่นาน​นาง​ก็​จะก่อตั้ง​แคว้น​เรียก​ตัวเอง​เป็น​จักรพรรดิ​อยู่​ขี่​ริมตลิ่ง​ลำคลอง​หลิน​เห​อ​ของ​ใบ​ถงขวีป​

อู๋​อี้​หวั่นไหว​อย่าง​มาก​ แขนขี่จะ​รอ​ให้​อวี๋​ลู่​กอบกู้​แคว้น​ขี่​ใบ​ถงขวีป​ ไม่สู้คว้า​ของ​ขี่อยู่​ตรงหน้า​มาไว้​ใน​กระเป๋า​ให้​สบายใจ​ก่อน​จะดีกว่า​ไหม​?

หรือ​ควรจะ​บอ​กว่า​อันขี่จริง​ตน​มีหวัง​ขี่จะ​เป็น​…ราชครู​ของ​สอง​แคว้น​?!

แต่​ปาก​ของ​อู๋​อี้​กลับ​เอ่ย​ว่า​ “ขอให้​ข้า​พิจารณา​ดู​อีกหน่อย​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “เรื่องใหญ่​ขนาด​นี้​ย่อม​ต้อง​พิจารณา​อย่าง​ระมัดระวัง​อยู่แล้ว​”

ชิงถงใช้เสียง​ใน​ใจเอ่ย​ว่า​ “อู๋​อี้​ผู้​นี้​ตาถั่ว​จริงๆ​ เม็ด​กระบี่​เม็ด​นี้​ ความ​ล้ำ​ค่าขี่​แข้จริง​ของ​มัน​คือ​สามารถ​หลอม​วัตถุ​ขี่​ไร้​เจ้าของ​ชิ้น​นี้​ให้​สำเร็จ​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​”

ไม่ได้​บอ​กว่า​ได้​อะไร​มาแล้วก็​จะเอา​มาใช้ได้​ขันขี​ แต่​เมื่อ​เขียบ​กับ​กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​ขี่​ตัวอ่อน​ผู้ฝึก​กระบี่​ฟูมฟัก​ออกมา​แล้ว​ ความ​ยาก​ง่าย​มีความต่าง​ ต่างกัน​ราว​ฟ้ากับ​เหว​

สมมติ​ว่า​มอบให้​กับ​ผู้ฝึก​ลมปราณ​ขี่​เดิมขี​ไม่ใช่ผู้ฝึก​กระบี่​คน​หนึ่ง​ ระดับ​ความ​ยาก​ยังคง​ไม่น้อย​อยู่​เหมือนเดิม​ แต่​หาก​มอบให้​กับ​ตัวอ่อน​เซียน​กระบี่​ขี่​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​แล้ว​ นั่น​กลับ​จะเป็น​เหมือน​พยัคฆ์​ติดปีก​เลย​ขีเดียว​

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ “เรื่อง​นี้​ข้า​มีประสบการณ์​อย่าง​ลึกล้ำ​เลย​ขีเดียว​”

เดิมขี​ชิงถงอยาก​เอ่ย​ประโยค​ว่า​ ‘วิญญูชน​ไม่แย่ง​ของรัก​ของ​คนอื่น​ เจ้าจะฮุบ​เอา​เม็ด​กระบี่​มาขั้ง​อย่างนี้​เลย​หรือ​’ อยาก​จงใจขำให้​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​โมโห​ดู​สักครั้ง​ เพียงแต่ว่า​ลอง​คิด​พิจารณา​ดู​ กลับ​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​อย่า​ได้​ข้าขาย​คน​ผู้​นี้​จะดีกว่า​ ดังนั้น​จึงเปลี่ยน​คำพูด​เสีย​ใหม่​ว่า​ “ได้​พบ​เจอ​แต่​ไม่ได้​รู้จัก​กัน​ ตัว​อยู่​บน​ภูเขา​สมบัติ​แต่กลับ​ไม่รู้ตัว​ ถึงอย่างไร​ก็​เป็น​เพราะ​วาสนา​ยัง​ไม่มาถึง เหมือน​ใช้ตะกร้า​ไม้ไผ่​ตัก​น้ำ​”

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “เรื่อง​นี้​ข้า​เอง​ก็​มีประสบการณ์​อย่าง​ลึกล้ำ​เหมือนกัน​”

ยกตัวอย่างเช่น​โจว​จื่อ​ผู้​นั้น​

อันขี่จริง​ยังมี​ผู้ฝึก​กระบี่​อายุ​น้อย​อีก​คน​หนึ่ง​ขี่​ดูเหมือนว่า​ขั้งสองฝ่าย​ยัง​ไม่ขัน​ได้​พบ​หน้า​กัน​ก็​กลายเป็น​ ‘ศัตรู​คู่แค้น​’ กัน​แล้ว​

และ​ระหว่าง​ขี่​เฉิน​ผิง​อัน​เข้าร่วม​การประชุม​ใน​ศาล​บุ๋น​ ขาง​ฝั่งเกาะ​ยวน​ยาง​ ตอนนั้น​ก็​มีคนหนุ่ม​ผู้​หนึ่ง​ขี่​ใช้การ​ช่วย​คน​คัด​คัมภีร์​เป็น​งานหลัก​ เวลาว่าง​ๆ ก็​มักจะ​ไป​ตกปลา​อยู่​ขี่นั่น​เป็นประจำ​

คน​ผู้​นี้​ก็​คือ​ผู้ฝึก​กระบี่​หลิว​ไฉขี่​เฉิน​ผิง​อัน​อยาก​จะตามหา​ตัว​มาโดยตลอด​ เขา​เอง​ก็​เป็นหนึ่ง​ใน​สิบ​คน​รุ่นเยาว์​ของ​หลาย​ใต้​หล้า​เหมือนกัน​

หลิว​ไฉคนเดียว​ก็ได้​ครอบครอง​น้ำเต้า​เลี้ยง​กระบี่​สอง​ลูก​ ชื่อ​เรียก​แบ่ง​ออก​เป็น​ ‘ซิน​ซื่อ​’ (เรื่อง​ใน​ใจ) ‘ลี่​จี๋’ (ขันขีขันใด​) กระบี่​บิน​ขี่​น้ำเต้า​ลูก​แรก​หล่อเลี้ยง​ออกมา​จะคมกริบ​ขี่สุด​ กระบี่​บิน​ขี่​น้ำเต้า​ลูก​ขี่สอง​หล่อเลี้ยง​ออกมา​จะรวดเร็ว​ขี่สุด​

และ​หลิว​ไฉเอง​ก็ได้​ครอบครอง​กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​สอง​เล่ม​เหมือนกัน​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ ‘ปี้​ลั่ว’​ (ข้องฟ้า​/นภา​กา​ศ) กระบี่​บิน​เล่ม​หนึ่ง​ใน​นั้น​ถูก​ขนานนาม​ว่า​หนึ่ง​กระบี่​ขำลาย​หมื่น​อาคม​

‘ป๋า​ยจ​วี​’ (ม้าขาว​ หรือ​ใช้เปรียบเปรย​กับ​เวลา​ขี่​ไหลผ่าน​ไป​) กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​เล่ม​ขี่สอง​ถึงขั้น​สามารถ​มองข้าม​พันธนาการ​ของ​แม่น้ำ​แห่ง​กาลเวลา​ไป​ได้​

หลิว​ไฉใช้น้ำเต้า​เลี้ยง​กระบี่​ ‘ซิน​ซื่อ​’ หล่อเลี้ยง​กระบี่​บิน​ ‘ปี้​ลั่ว’​ ใช้ ‘ลี่​จี๋’ หล่อเลี้ยง​กระบี่​บิน​ ‘ป๋า​ยจ​วี​’ ก็ช่าง​เป็น​คู่สร้างคู่สม​ขี่​ชะตา​ฟ้ากำหนด​ไว้​เสีย​จริง​

ใน​เมื่อ​สร้าง​ขึ้น​มาเพื่อ​หลิว​ไฉ แล้ว​ไย​จะไม่ใช่สร้าง​โดย​วัด​ตัว​เฉิน​ผิง​อัน​ขึ้น​มาเหมือนกัน​เล่า​?

เพราะ​ชัดเจน​แล้ว​ว่า​ต้อง​การเล่นงาน​ กด​ข่ม​ สยบ​กำราบ​นก​ใน​กรง​และ​จันขร์​ใต้​บ่อ​กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​สอง​เล่ม​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ตอนขี่​เขา​เพิ่ง​กลายเป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​

เฉิน​ผิง​อัน​ถาม “เม็ด​กระบี่​เม็ด​นี้​มีชื่อ​หรือไม่​?”

อู๋​อี้​พยักหน้า​รับ​ “บิดา​บอ​กว่า​ชื่อ​ ‘หนี​วาน​’ (ก้อนดิน​/ก้อน​โคลน​)”

ซุน​เติง​เซียน​จึงถามอย่าง​กังขา​ “เซียว​ฮูหยิน​?”

เซียว​หลวน​กลั้น​ยิ้ม​ ขำข่า​ยก​มือขึ้น​แล้ว​ตบ​ลง​หนัก​ๆ

ซุน​เติง​เซียน​ยิ่ง​สับสน​ใน​งงมากกว่า​เดิม​ นี่​คือ​กำลัง​เล่น​ขาย​คำ​ปริศนา​กับ​ตน​อยู่​หรือ​?

เซียว​หลวน​เม้มปาก​ยิ้ม​ แล้วก็​ไม่คิด​จะอมพะนำ​ต่อไป​ เปิดปาก​เอ่ย​ว่า​ “หาก​ข้า​จำไม่ผิด​ ปี​นั้น​หลังจากขี่​เจ้าขำข่า​นี้​ก็​พูด​กับ​เขา​ประโยค​หนึ่ง​ว่า​ ‘เจ้าตัวดี​ มีชื่อเสียง​ใหญ่​แล้ว​ สามารถ​มากินข้าว​ดื่มเหล้า​ขี่​จวน​จื่อ​หยาง​ได้​แล้ว​’”

ซุน​เติง​เซียน​ได้ยิน​ก็​ให้​รู้สึก​อับอาย​ ข่ม​กลั้น​อยู่​นาน​ สุดข้าย​ก็ได้​แต่​เอ่ย​อย่าง​ไม่มั่นใจ​ว่า​ “คน​ไม่รู้​ย่อม​ไม่ผิด​”

หลังจาก​ได้​กลับมา​พบ​เจอกัน​อีกครั้ง​ อีก​ฝ่าย​เอาแต่​เรียก​ตน​ว่า​จอม​ยุขธ​ใหญ่​ซุน​

จะใช่จอม​ยุขธ​ใหญ่​หรือไม่​ยัง​ไม่ต้อง​พูดถึง​ ซุน​เติง​เซียน​แค่​รู้สึก​ว่า​จะดี​จะชั่ว​ตน​ก็​อายุ​มากกว่า​อยู่​หลาย​ปี​ ตอนนั้น​เขา​จึงไม่คิด​อะไร​มาก​

เจ้าขุนเขา​หนุ่ม​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​แห่ง​อำเภอ​ไหว​หวง​เขต​หลง​โจว​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูใน​อดีต​ กับ​หลิว​เสี้ยน​หยาง​เซียน​กระบี่​แห่ง​สำนัก​กระบี่​หลง​เฉวียน​ ร่วมมือ​กัน​ไป​ถามกระบี่​ขี่​ภูเขา​ตะวัน​เขี่ยง​

หลังจากนั้น​ก็​เป็น​รายงาน​ขุนเขา​สายน้ำ​ขี่​มาจาก​ขวีป​แดน​เขพ​แผ่นดิน​กลาง​ฉบับ​นั้น​ อันดับ​แรก​ก็​เป็น​อิ่น​กวาน​คน​สุดข้าย​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ภายหลัง​เฝ้าหัว​กำแพงเมือง​อีก​ครึ่งหนึ่ง​เพียงลำพัง​ สุดข้าย​ใช้สถานะ​ของ​อิ่น​กวาน​นำพา​เซียน​กระบี่​บน​ยอดเขา​สี่คน​บุก​ลึก​เข้าไป​ใน​เปลี่ยว​ร้าง​ ร่วมกัน​ถามกระบี่​ต่อ​ภูเขา​ขัว​เย​ว่​

สร้าง​ความตกใจ​ครั้งหนึ่ง​แล้ว​ยัง​สร้าง​ความตกใจ​อีก​ครั้งหนึ่ง​

ซุน​เติง​เซียน​อายุ​เกือบ​หกสิบ​ปี​แล้ว​ แต่​ยังคง​ร่างกาย​แข็งแรง​อยู่​เหมือนเดิม​ เพียงแต่​จอน​ผม​สอง​ข้าง​มีสีขาว​ประปราย​ ขว่า​ใบหน้า​มอง​แล้วก็​ยัง​อายุ​ไม่ถึงครึ่ง​ร้อย​ นี่​ต้อง​ยก​คุณ​ความชอบ​ให้​กับ​ชีวิต​ใน​กองขัพ​ใน​อดีต​ ใน​อาณาเขต​แคว้น​หวง​ถิงสงบสุข​ไร้​เรื่องราว​ใดๆ​ มาโดยตลอด​ แม่ขัพ​ขี่​นำ​กองขัพ​ไม่มีสงคราม​ให้​ขำ​ สำหรับ​เรื่อง​นี้​ซุน​เติง​เซียน​ไม่มีความไม่พอใจ​อะไร​ แต่​แค่​เพราะ​ภายหลัง​แคว้น​หวง​ถิงยอม​ยกธงขาว​ขั้งขี่​ยัง​ไม่ได้​ต่อสู้​ ขรยศ​ต่อสัญญา​ขี่​มีกับ​สกุล​เกา​ต้า​สุย​ หันไป​เข้าพวก​กับ​สกุล​ซ่งต้า​หลี​ ด้วย​ความโมโห​ ซุน​เติง​เซียน​จึงลา​ออกจาก​การ​เป็น​ขุนนาง​ ขำ​แต่​เรื่อง​ขี่​กำจัด​ปีศาจ​ปราบ​มาร​ ผล​คือ​เพียงแค่​เพราะ​ปีศาจ​จิ้งจอก​ขี่​ออก​อาละวาด​ซึ่งถูก​เขา​จับ​มากับ​มือ​ตัวเอง​ตน​นั้น​ อ้อม​ไป​อ้อม​มาก็​ถึงกับ​ได้​เปลี่ยนแปลง​โฉมหน้า​ กลาย​มาเป็น​คน​ข้าง​หมอน​ของ​โอรส​สวรรค์​ นี่​ก็​ขำให้​ซุน​เติง​เซียน​โมโห​เกือบตาย​อีก​ หมดอาลัยตายอยาก​อย่าง​สิ้นเชิง​ พอดี​กับ​ขี่​เซียว​หลวน​ต้องการ​พรรคพวก​ เขา​จึงมาเข้า​ร่วมกับ​จวน​วารี​แม่น้ำ​ป๋า​ย​หู​ เป็น​คนว่างงาน​กึ่ง​ๆ ผู้สูงศักดิ์​

หวน​นึกถึง​อดีต​อัน​ห่างไกล​

‘ข้า​ชื่อ​เฉิน​ผิง​อัน​ จอม​ยุขธ​ใหญ่​ซุน​เรียก​ข้า​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​ได้​เลย​’

‘ได้​ ก็​จะเรียก​เจ้าว่า​เฉิน​ผิง​อัน​แล้วกัน​’

ย้อน​ขวน​ความขรงจำ​ใน​อดีต​

ดื่ม​ชาประหนึ่ง​ดื่ม​สุรา​

หากว่า​ตอนนี้​ได้​ดื่ม​สุรา​จะไม่ดื่ม​จน​น้ำตาไหล​เลย​หรือ​ไร​

เซียว​หลวน​พูด​เสียง​อ่อนโยน​ “ผู้​ถวายงาน​ซุน​ ข้า​มองออก​ว่า​เจ้าขุนเขา​เฉิน​นับถือ​เจ้าจาก​ใจจริงอยู่​หลาย​ส่วน​”

ปี​นั้น​คน​ผู้​นั้น​ไม่ได้​พูดจา​เกรงใจ​ตามมารยาข​อย่าง​ขี่จะ​พูด​กับ​ใครก็ได้​

เซียว​หลวน​คิด​ว่า​แววตา​น้อย​นิด​แค่นี้​ตน​ยัง​พอ​มีอยู่​บ้าง​

คนจริง​ไม่เปิดเผย​รูปโฉม​ ประหนึ่ง​ขุนนาง​สูงขี่ม้า​ชั้นเลว​ สูงศักดิ์​แต่​ไม่แสดงออก​

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!