กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 933

ซุน​เติง​เซียน​ยิ้ม​เอ่ย​ “ปี​นั้น​เป็น​เช่นนี้​ เพียงแต่​ไม่รู้​ว่า​ทุกวันนี้​หาก​ได้​เจอกัน​ ยัง​จะพูดคุย​กัน​ได้​อีก​หรือไม่​”

เซียว​หลวน​ลังเล​เล็กน้อย​ ก่อน​พูด​ด้วย​สีหน้า​ไม่พอใจ​ว่า​ “ถ้าอย่างนั้น​ข้า​ให้​เจ้าไป​เป็น​แขก​ที่​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ ทำไม​เจ้าถึงไม่เคย​ยอม​ไป​ ทาง​ฝั่งของ​จวน​วารี​ไม่คิด​จะให้​เจ้าต้อง​ทำ​อะไร​สักหน่อย​ ก็​แค่​เหมือน​การ​แวะเวียน​ไป​เยี่ยมเยือน​กัน​ใน​วัน​ปีใหม่​ ดื่มเหล้า​พูดคุย​เรื่อง​น่าสนใจ​ใน​ยุทธ​ภพ​กับ​อิ่น​กวาน​เท่านั้น​”

ทั้ง​บอกเป็นนัย​และ​บอก​อย่าง​ชัดเจน​ เซียว​หลวน​เคย​ทดลอง​มาหมด​แล้ว​ ทว่า​ผู้​ถวายงาน​อันดับ​หนึ่ง​ของ​จวน​วารี​บ้าน​ตน​ท่าน​นี้​กลับ​ไม่ยอม​พยักหน้า​ตอบ​ตกลง​ ไม่เคย​บอกกล่าว​สาเหตุ​ ดื้อ​ยิ่งนัก​

ซุน​เติง​เซียน​หัวเราะ​ ยังคง​ไม่ได้​อธิบาย​อะไร​

ถึงอย่างไร​เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​ก็​ไม่ใช่คนใน​ยุทธ​ภพ​ ยาก​จะพูดคุย​ภาษายุทธ​ภพ​อย่าง​แท้จริง​ได้​

เป็น​ฝ่าย​ไป​ขอ​เหล้า​ดื่ม​ก่อน​ นั่น​เป็นเรื่อง​ปกติ​ทั่วไป​ของ​มนุษย์​

สุรา​ที่​เป็น​เช่นนั้น​ ต่อให้​เป็น​เหล้า​หมัก​ตระกูล​เซียน​ก็​ดื่มได้​ไม่เมา รสชาติ​ก็​ไม่เหมือน​เหล้า​ชั้นเลว​ใน​ตลาด​ที่​พบ​เจอกัน​โดยบังเอิญ​

ใต้​หล้า​มีคน​ฉลาด​มากมาย​ขนาด​นั้น​แล้ว​ ถ้าอย่างนั้น​ขาด​ข้า​ซุน​เติง​เซียน​ไป​สัก​คน​ก็​ไม่เป็นไร​หรอก​

เซียว​หลวน​เอง​ก็​แค่​พูด​ไป​ตามเนื้อผ้า​เท่านั้นเอง​ ไม่มีทาง​จะคิด​จะให้​ซุน​เติง​เซียน​ไป​ตีสนิท​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ผู้​นั้น​เพื่อ​ตัวเอง​หรือ​จวน​วารี​แม่น้ำ​ป๋า​ย​หู​จริงๆ​

เพียงแต่​เซียว​หลวน​เอง​ก็​ยัง​มีเรื่อง​ลับ​ที่​ยาก​จะเอื้อนเอ่ย​อยู่​เรื่อง​หนึ่ง​ ทุกครั้งที่​นึกถึง​ก็​แทบ​อยาก​จะขุด​รู​มุด​ลง​ไป​

เรื่อง​นี้​ถือว่า​เป็น​จุดอ่อน​ที่​หล่น​ไป​อยู่​ใน​มือ​ของ​อู๋​อี้​แล้ว​

ซุน​เติง​เซียน​เอ่ย​ขอตัว​ลา​กับ​เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​ ออก​มาจาก​ห้อง​ เตรียม​ไป​จะฝึก​เดิน​นิ่ง​อยู่​ใน​เรือน​เพื่อ​ยืดเส้นยืดสาย​

อันที่จริง​เขา​พัก​อยู่​ใน​ห้อง​ด้าน​ข้าง​ของ​เรือน​นี่เอง​

ชายหนุ่ม​หญิงสาว​อยู่​กัน​ตามลำพัง​ หญิง​ชาย​ไม่ควร​ใกล้ชิด​? ไม่ได้​จัด​ให้​พวก​เจ้าสอง​คน​อยู่​ใน​ห้อง​เดียวกัน​ก็​ถือว่า​จวน​จื่อ​หยาง​มีมารยาท​ใน​การ​รับรอง​แขก​มาก​แล้ว​

พอดี​กับ​ที่​นอก​เรือน​หลัง​เล็ก​มีเสียงเคาะ​ประตู​ดัง​ขึ้น​

เดิน​ไป​เปิด​ประตู​ ซุน​เติง​เซียน​ก็​ต้อง​อึ้ง​ตะลึง​ไป​ทันใด​ นอกจาก​อู๋​อี้​จะมาเยือน​ด้วยตัวเอง​แล้ว​

ข้าง​กาย​อู๋​อี้​ยังมี​คนหนุ่ม​คน​หนึ่ง​ยืน​อยู่​ด้วย​ เขา​สวม​ชุดก​ว้า​ตัว​ยา​วสี​เขียว​ บุคลิก​สง่างามอ่อนโยน​ ทั่ว​ร่าง​เปี่ยม​ไป​ด้วย​กลิ่นอาย​แห่ง​มรรคา​

เซียว​หลวน​เอง​ก็​เดิน​เร็ว​ๆ ออก​มาจาก​ห้อง​แล้ว​ ดวงตา​เรียว​ยาว​ทอ​ประกาย​เหมือน​สายน้ำ​ฤดู​สารท​คู่​นั้น​มีแวว​เขินอาย​วูบ​ผ่าน​ ทว่า​ไม่นาน​ก็​กลับคืน​มาเป็นปกติ​ดังเดิม​

คน​ผู้​นั้น​กุมมือ​คารวะ​ คลี่​ยิ้ม​เจิดจ้า​เอ่ย​ว่า​ “จอม​ยุทธ​ใหญ่​ซุน​ เซียว​ฮูหยิน​ เจอกัน​อีกแล้ว​นะ​”

ซุน​เติง​เซียน​เป็น​แค่​ผู้​ถวายงาน​ของ​จวน​เทพ​วารี​ เซียว​หลวน​กลับเป็น​เทพ​วารี​ที่​ได้รับ​การ​แต่งตั้ง​อย่าง​ถูกต้อง​ ทว่า​คน​ตรงหน้า​ผู้​นี้​กลับ​จงใจเรียก​ซุน​เติง​เซียน​ก่อน​แล้ว​ค่อย​เรียก​เซียว​หลวน​คล้าย​ตั้งใจ​คล้าย​ไม่เจตนา​

เซียว​หลวน​หรือ​จะกล้า​ถือสา​ใน​เรื่อง​เล็กน้อย​แค่นี้​ รีบ​ย่อเข่า​ยอบ​กาย​คารวะ​อย่าง​สำรวม​ทันที​ หลุบ​ตา​ลง​ต่ำ​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​อ่อนโยน​ว่า​ “เซียว​หลวน​แห่ง​แม่น้ำ​ป๋า​ย​หู​คารวะ​เจ้าขุนเขา​เฉิน!”​

อู๋​อี้​เบ้​ปาก​ เซียว​หลวน​ผู้​นี้​ช่างโชคดี​จริงๆ​ ดูเหมือนว่า​มักจะ​ได้​เจอ​เจ้าคน​ข้าง​กาย​ตน​ผู้​นี้​อยู่​เสมอ​ สตรี​ผู้​นี้​ถือว่า​มาเร็ว​ไม่สู้มาได้จังหวะ​บังเอิญ​หรือไม่​?

ทำไม​ หรือว่า​ใน​จวน​วารี​แม่น้ำ​ป๋า​ย​หู​แอบ​ตั้ง​ป้าย​วิญญาณ​ไม้เอาไว้​?

เพียงแต่​อู๋​อี้​ก็​จำต้อง​ยอมรับ​ว่า​ เซียว​หลวน​ที่อยู่​ตรงหน้า​ผู้​นี้​คือ​โฉมสะคราญ​คน​หนึ่ง​ที่​ ‘โฉมงามเลิศ​ล้ำ​ มาก​พอ​จะทำให้​คน​หลงใหล​ จิตใจ​หวั่นไหว​ มองตาม​ตา​ไม่กะพริบ​’ จริงๆ​

สตรี​เห็น​แล้วก็​ยัง​รู้สึก​ว่า​น่ารัก​น่า​ถนอม​

ก็​ไม่แปลกที่​ใน​อาณาเขต​ของ​แคว้น​หวง​ถิงจะมีหนังสือ​มากมาย​ที่​สร้างชื่อเสียง​ให้​นาง​อย่าง​อ้อม​ๆ เอ่ย​ชื่นชม​นาง​ไม่ซ้ำรูปแบบ​ อะไร​ที่​บอ​กว่า​บน​แม่น้ำ​มีเทพ​หญิง​ บน​ศีรษะ​โพก​ผ้า​สีม่วง​ดอกบัว​ ใต้​ฝ่าเท้า​สวม​รองเท้า​ลาย​ใย​บัว​ เดิน​แหวก​คลื่น​น้ำ​ฝุ่น​มิอาจ​แปดเปื้อน​

เหอะ​ บทกวี​ที่​คล้ายคลึง​กัน​นี้​ ก็​ไม่รู้​ว่า​เป็น​ฝีมือ​ของ​เซียว​หลวน​ที่​ไหว้วาน​ให้​คน​มาช่วย​เขียน​แทน​หรือไม่​

อู๋​อี้​มอง​เซียว​หลวน​แล้ว​ถามอย่าง​ตรงไปตรงมา​ว่า​ “เซียว​ฮูหยิน​ ว่า​มาเถอะ​ มาหา​ข้า​มีธุระ​อะไร​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “พวก​เจ้าคุย​ธุระ​กัน​ไป​เถอะ​ ข้า​กับ​จอม​ยุทธ​ใหญ่​ซุน​จะไป​ดื่มเหล้า​กัน​”

ซุน​เติง​เซียน​มีสีหน้า​ลำบากใจ​ ตน​ออกจาก​บ้าน​ไม่ได้​พก​สุรามา​ ใน​เรือน​หลัง​นี้​ก็​ไม่ได้​เตรียม​สุรา​ไว้​ให้​ แต่​เฉิน​ผิง​อัน​กลับ​ช่วย​คลี่คลาย​สถานการณ์​ให้​เขา​แล้ว​ “ที่​ข้า​มีเหล้า​หมัก​ถ้ำสวรรค์​จู๋ไห่​ที่​หมัก​เอง​อยู่​สอง​กา​”

ไป​ถึงใน​ห้อง​ของ​ซุน​เติง​เซียน​ ริน​เหล้า​ลง​ชามใหญ่​สอง​ชาม อันที่จริง​ซุน​เติง​เซียน​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​พูด​อะไร​ เฉิน​ผิง​อัน​กลับ​ถามจอม​ยุทธ​ใหญ่​ซุน​ว่า​เคย​เดินทาง​ไปเที่ยว​เยือน​อำเภอ​สุ้ย​อัน​หรือไม่​ เมื่อ​มีหัวข้อ​สนทนา​เช่นนี้​ ทั้งสองฝ่าย​ก็​เริ่ม​พูดคุย​กัน​ได้​แล้ว​ และ​พอ​มีเหล้า​สอง​ชามลงท้อง​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ถอด​รองเท้า​ผ้า​นั่งขัดสมาธิ​บน​เก้าอี้​เสีย​เลย​ ซุน​เติง​เซียน​ก็​เอาอย่าง​ ร่าง​ทั้ง​ร่าง​ไม่แข็ง​เกร็ง​อีกต่อไป​ คน​เก่าแก่​ใน​ยุทธ​ภพ​ ขอ​แค่​ไม่ต้อง​ระมัดระวัง​ตัว​มาก​นัก​ อันที่จริง​ก็​ล้วน​พูดคุย​กัน​ได้​ ไม่ต้อง​ให้​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​หาเรื่อง​มาชวน​คุย​ ซุน​เติง​เซียน​ก็​เป็น​ฝ่าย​เล่าเรื่อง​ที่​น่าสนใจ​เรื่อง​หนึ่ง​ให้​ฟัง ถามเจ้าขุน​เข​เฉิน​ว่า​ยัง​จำพวก​คน​ที่​เจอ​บน​เทือกเขา​สัน​ตะขาบ​ใน​ปี​นั้น​ได้​หรือไม่​ เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ต้อง​จำได้​อยู่แล้ว​ ซุน​เติง​เซียน​เช็ด​ปาก​ ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​เจ้าแก่​พวก​นั้น​ ขอ​แค่​ได้มา​รวมตัวกัน​ก็​มักจะ​พูดคุย​ถึงเจ้าขุนเขา​เฉิน​เสมอ​ แต่​ตน​น่ะ​ไม่กล้า​บอ​กว่า​รู้จัก​เจ้า บางครั้ง​สอด​ปาก​พูด​ไป​สอง​สามประโยค​ก็​จะต้อง​ถูก​คน​เถียง​กลับมา​ทันที​ว่า​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​บอก​เจ้าหรือ​? หรือไม่​ก็​พูดว่า​ตอนนั้น​เจ้าอยู่​ใน​เหตุการณ์​ด้วย​หรือ​ไร​?

ซุน​เติง​เซียน​ดื่มเหล้า​แล้วก็​แสดงออก​ทาง​ใบหน้า​ได้​ง่าย​ เพียง​ไม่นาน​หน้า​ทั้ง​หน้า​ก็​แดงก่ำ​ แต่​อันที่จริง​เขา​แค่​เพิ่งจะ​ดื่ม​พอ​กรึ่ม​ๆ เท่านั้น​ ถามว่า​ “ขอ​ถามเรื่อง​หนึ่ง​ได้​ไหม​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “จอม​ยุทธ​ใหญ่​ซุน​อยาก​ถามว่า​วิชา​หมัด​ของ​เฉาสือ​เป็น​อย่างไร​หรือ​?”

ซุน​เติง​เซียน​ถาม “ใช่ว่า​เรื่อง​ไหน​ไม่ควร​พูด​ดัน​พูด​เรื่อง​นั้น​หรือไม่​?”

“นี่​จะมีอะไร​กัน​เล่า​ ก็​แค่​ถามหมัด​กับ​เฉาสือ​แล้ว​แพ้​ติดต่อกัน​สี่ครั้ง​ไม่ใช่หรือ​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยก​ชามเหล้า​ชน​กับ​อีก​ฝ่าย​เบา​ๆ ต่าง​ฝ่าย​ต่าง​ดื่ม​อึก​ใหญ่​ ยก​หลัง​มือ​เช็ด​ปาก​ “วิชา​หมัด​ของ​เฉาสือ​ประหนึ่ง​เกิดขึ้น​มาตาม​ธรรมชาติ​ ทุกครั้งที่​ลงมือ​ก็​ราวกับว่า​ทำนาย​ได้​ล่วงหน้า​มาก่อน​ ร้ายกาจ​มาก​เลย​ล่ะ​ ข้า​สู้เขา​ไม่ได้​จริงๆ​”

แต่​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​เอ่ย​เสริม​อีก​ประโยค​หนึ่ง​กลับมา​อย่าง​รวดเร็ว​ “แน่นอน​ว่า​แค่​ชั่วคราว​ เปรียบเทียบ​กับ​ปี​นั้น​ที่​ข้า​อยู่​บน​หัว​กำแพงเมือง​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​แล้ว​ไร้​เรี่ยวแรง​ให้​ต่อสู้​ตลอด​การ​ถามหมัด​ทั้ง​สามครั้ง​ การต่อสู้​ที่​สวน​กง​เต๋อ​ครานั้น​ก็​ถือว่า​ดีกว่า​เดิม​มาก​แล้ว​”

ซุน​เติง​เซียน​ถามอย่าง​สงสัย​ “เจ้าขุนเขา​เฉิน​เรียน​วิชา​หมัด​ได้​อย่างไร​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ครุ่นคิด​อย่าง​จริงจัง​ ก่อน​ตอบ​ว่า​ “ใน​อดีต​มีอาจารย์​คอย​สอน​หมัด​ป้อน​หมัด​ให้​ ข้า​เอง​ก็​ถือว่า​อดทน​กับ​ความยากลำบาก​ได้​ บวก​กับ​ที่​ตลอด​หลาย​ปี​มานี้​ไม่เคย​เกียจคร้าน​ หาก​จะบอ​กว่า​สถานะ​ของ​ผู้ฝึก​กระบี่​ที่​ได้มา​ภายหลัง​คือ​เส้น​ทางการ​เดิน​ขึ้น​สู่ที่สูง​ ถ้าอย่างนั้น​การ​ฝึก​วิชา​หมัด​เรียน​วร​ยุทธ​ใน​ช่วงแรก​ก็​คือ​รากฐาน​ใน​การ​หยัดยืน​ จะขาด​อย่างใดอย่างหนึ่ง​ไป​ไม่ได้​”

ซุน​เติง​เซียน​ยิ้ม​ถาม “คิด​อย่างไร​ถึงหมัก​เหล้า​เอง​?”

เฉิน​ผิง​อัน​พูด​หยอกล้อ​ “หาเงิน​อย่างไร​ล่ะ​ ตอน​เด็กยากจน​จน​กลัว​ ใน​มือ​มีเงิน​อยู่​แค่​ไม่กี่​แดง​ ใน​ใจก็​มักจะ​ว่าง​โหวง​อยู่​เสมอ​ ทรัพย์สิน​ของ​คนยากจน​ก็​คือ​เหงื่อ​บน​ฝ่ามือ​ หาก​ไม่เหนื่อย​ก็​ไม่มี แต่​เหนื่อย​แล้วก็​ยัง​ไม่มี”

จิบ​เหล้า​หนึ่ง​อึก​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​พูด​ต่อ​อี​กว่า​ “ทุกวันนี้​แน่นอน​ว่า​ไม่ขาดเงิน​แล้ว​ แต่​เรื่อง​อย่าง​การ​หาเงิน​ก็​เหมือนกับ​การ​ดื่มเหล้า​ ทำให้​เสพติด​ได้​ง่าย​ อย่าง​มาก​สุด​ก็​แค่​มักจะ​เตือน​ตัวเอง​บ่อยๆ​ ว่า​อย่า​ได้​หาเงิน​ที่​ผิด​ต่อ​มโนธรรม​ใน​ใจ คิดถึง​เงินทอง​ที่​ไม่ชอบธรรม​ให้​น้อย​หน่อย​ เพราะ​พวก​มัน​มักจะ​รั้ง​ไว้​ไม่อยู่​ นอกจากนี้​ก็​คือ​พอ​มีเงิน​บ้าง​แล้วก็​ต้อง​พยายาม​ทำ​สิ่งที่​ตัวเอง​สบายใจ​ เพราะ​เคย​ได้ยิน​คนเก่าคนแก่​ของ​บ้านเกิด​บอ​กว่า​ เก็บ​สะสมเงิน​ให้​กับ​ลูกหลาน​ ไม่แน่​เสมอไป​ว่า​จะเป็น​ความสุข​ รับ​ไว้​ไม่อยู่​ก็​คือ​รับ​ไว้​ไม่อยู่​ มีเพียง​ทำ​ความดี​สะสมบุญ​กุศล​ ทิ้ง​ความโชคดี​ไว้​ให้​กับ​ลูกหลาน​เท่านั้น​ พวกเขา​ไม่อยาก​จะรับ​ไว้​ก็​ไม่ได้​ ที่​สำคัญ​ที่สุด​ก็​คือ​ คำพูด​โบราณ​กล่าว​ไว้​ว่า​ ทุก​บ้าน​ทุก​ครัวเรือน​ล้วน​มีผืน​นา​แห่ง​หนึ่ง​ที่​เรียก​ว่า​ผืน​นา​แห่ง​ความสุข​ ด้านใน​ผืน​นา​แห่ง​ความสุข​ง่าย​ที่จะ​มีราก​แห่ง​ปัญญา​เติบโต​ ดังนั้น​ผืน​นา​แห่ง​ความสุข​ที่​ทิ้ง​ไว้​ให้​กับ​ลูกหลาน​จึงดี​ยิ่งกว่า​อะไร​ทั้งหมด​ ดีกว่า​ทรัพย์สิน​เงินทอง​ ถึงขั้นดี​ยิ่งกว่า​ตำรา​ด้วยซ้ำ​”

ซุน​เติง​เซียน​พยักหน้า​ “น่าเสียดาย​ที่​ตอนนี้​คน​มากมาย​ไม่คิด​แบบนี้​ ใจเอาแต่​คิด​ว่า​หาก​ไม่เด็ดขาด​มาก​พอ​ก็​จะหา​เงินก้อน​ใหญ่​ไม่ได้​”

เฉิน​ผิง​อัน​ลังเล​อยู่​เล็กน้อย​ ก่อน​เอ่ย​ว่า​ “เพียงแต่​จำต้อง​ยอมรับ​ว่า​ ใน​หลาย​ๆ ครั้ง​ก็​ดูเหมือนว่า​จะเป็น​แบบนี้​จริงๆ​ พวก​คน​ที่​จิตใจ​เด็ดขาด​มักจะ​มีชีวิต​ที่​มีหน้ามีตา​ได้​มากกว่า​”

ซุน​เติง​เซียน​ถอนหายใจ​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!