กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 940

นักพรต​เนิ่น​เห็น​เป็นเรื่อง​ปกติ​ไป​แล้ว​ ขอ​แค่​คุณชาย​ของ​ตน​ได้​อ่านหนังสือ​ก็​จะต้อง​ขมวดคิ้ว​ จริงจัง​ก็​จริงจัง​อยู่​หรอก​ แต่​จะอ่าน​เข้า​หัว​กี่มากน้อย​ หึหึ​

พูดถึง​แค่​ตำรา​ ‘หลอม​ภูเขา​’ เล่ม​ที่อยู่​ใน​มือ​ นักพรต​เนิ่น​อยาก​จะให้​คุณชาย​เปิด​อ่าน​ดู​ ผล​คือ​ห​ลี่​ไหว​โบกมือ​ส่ายหน้า​โดยตรง​ บอ​กว่า​จะให้​ข้า​อ่าน​ตำรา​เล่ม​นี้​ทำไม​? อ่าน​เข้าใจ​หรือ​? ต่อให้​อ่าน​เนื้อหา​เข้าใจ​ ด้วย​คุณสมบัติ​ของ​ข้า​จะสามารถ​ฝึก​ตน​ได้​หรือ​? นักพรต​เนิ่น​เจ้าคิด​อะไร​อยู่​ จงใจอยาก​เห็น​เรื่องตลก​ของ​ข้า​หรือ​?

แต่​บอก​ตามตรง​ นักพรต​เนิ่น​รู้สึก​ว่า​ต่อให้​ตัวเอง​ได้​ ‘หลอม​ภูเขา​’ ครึ่ง​เล่ม​ล่าง​มา สำหรับ​เรื่อง​ของ​การ​เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​สิบ​สี่ นักพรต​เนิ่น​ก็​ไม่มีความมั่นใจ​แม้แต่น้อย​

หยวน​โส่ว​ผู้​นั้น​อาศัย​สงคราม​ใหญ่​ครานั้น​กลืน​กิน​ภูเขา​ของ​สอง​ทวีป​อย่าง​ฝูเหยา​และ​ใบ​ถงไป​กี่มากน้อย​? แล้ว​อย่างไร​? ก็​ยัง​เป็น​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​อยู่​เหมือนเดิม​ไม่ใช่หรือ​

อีก​อย่าง​ใน​ใต้​หล้า​ไพศาล​แห่ง​นี้​ ก่อนหน้านี้​นักพรต​เนิ่น​ใช้ฉายา​ว่า​หลง​ซาน​กง​ ใช้สถานะ​ของ​คน​ที่​ชื่อว่า​โอ่​วหลู​เดินทาง​ท่อง​ไป​ทั่ว​ใต้​หล้า​ ก็​พอ​จะเดา​เบาะแส​ออก​ได้​แล้ว​ว่า​ เหวย​เซ่อ​แห่ง​ธวัล​ทวีป​ ผู้ฝึก​ตน​ที่​มีพรสวรรค์​อันดับ​หนึ่ง​ซึ่งเคย​ถูก​ขนานนาม​ว่า​คุณสมบัติ​บดขยี้​คน​ขอบเขต​เดียวกัน​ผู้​นี้​ เคย​เจอ​กับ​ความยากลำบาก​ใหญ่หลวง​บน​อักษร​คำ​ว่า​ ‘ภูเขา​’ มาก่อน​ มีความเป็นไปได้​อย่าง​มาก​ว่าการ​เลื่อนขั้น​เป็น​ขอบเขต​สิบ​สี่ครั้งหนึ่ง​ หรือ​อาจ​ถึงสอง​ขั้น​ล้วน​ไร้ผล​ เหวย​เซ่อ​ถึงได้​หมดอาลัยตายอยาก​เช่นนี้​

“เหล่า​เนิ่น​”

นักพรต​เนิ่น​ถามอย่าง​กังขา​ “คุณชาย​ มีอะไร​หรือ​?”

ห​ลี่​ไหว​กล่าว​ “ข้า​มีความคิด​ที่​ยัง​ไม่เป็นรูปเป็นร่าง​อย่างหนึ่ง​ เจ้าลอง​ฟังดู​ก็แล้วกัน​ หาก​พูดไม่ถูก​ แล้ว​เจ้ารู้สึก​ว่า​ไร้สาระ​ก็​อย่า​หัวเราะ​”

เวลานี้​นักพรต​เนิ่น​ก็​เริ่ม​ตีหน้า​เคร่ง​กลั้น​ขำ​แล้ว​ “เชิญคุณชาย​พูด​ได้​เลย​”

ห​ลี่​ไหว​เอ่ย​เสียง​เบา​ว่า​ “เหล่า​เนิ่น​ ขอบเขต​ของ​เจ้าสูงขนาด​นี้​ หาก​บอ​กว่า​อาศัย​การ​ขนย้าย​ภูเขา​ กิน​ราก​ภูเขา​แต่ละ​เส้น​ จากนั้น​อาศัย​วิชา​อภินิหาร​ใน​การ​ย่อย​พวก​มัน​ แน่นอน​ว่า​ย่อม​เพิ่ม​ตบะ​ได้​ ค่อยๆ​ ขยับ​ขอบเขต​ให้​สูงทีละเล็กทีละน้อย​ แต่​ข้า​กลับ​รู้สึก​ว่า​…ห่าง​จาก​การ​เป็น​เทพ​เซียน​บน​ภูเขา​ของ​พวก​เจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ห่าง​จาก​มหา​มรรคา​…สำหรับ​ใน​ใจของ​ผู้ฝึก​ตน​ที่​บรรลุ​มรรคา​ ยังมี​ระยะห่าง​อยู่​อีก​มาก​ ตำรา​โบราณ​ใน​มือ​เจ้าเล่ม​นี้​ไม่ได้​ชื่อว่า​ ‘หลอม​ภูเขา​’ หรอก​หรือ​ หลังจาก​หลอม​มัน​แล้วก็​จะได้​เห็น​สถานที่​ที่​ไม่ขาดสาย​น้ำ​ ขาด​ก็​แต่​ภูเขา​หรือไม่​ ถ้าอย่างนั้น​บางครั้ง​เจ้าก็​พ่น​ภูเขา​ออกมา​สัก​สอง​สามลูก​เถอะ​…ก็​เหมือน​อย่าง​ใน​ตำรา​ที่​ข้า​เพิ่ง​อ่าน​เมื่อครู่นี้​ มีประโยค​หนึ่ง​บอ​กว่า​ ‘ฝึก​วิชา​สามพัน​ถึงขั้น​สมบูรณ์​ ก็​เพื่อ​สร้าง​รากฐาน​แห่ง​มรรค​กถา​’ คำ​ว่า​รากฐาน​ที่ว่า​นี้​ก็​คือ​พูดถึง​บ้านเรือน​ที่​มนุษย์​ธรรมดา​อย่าง​พวกเรา​พักอาศัย​ ไม่ได้​พูดถึง​ราก​ภูเขา​ตีนเขา​สักหน่อย​ ข้า​รู้สึก​ว่า​มีเหตุผล​มาก​เลย​ เดี๋ยว​นะ​ ขอให้​ข้า​ได้​เปิด​ดูก่อน​ นี่​ไง ยังมี​ประโยค​นี้​ คน​ที่​เขียน​ตำรา​เล่ม​นี้​ยัง​บอก​ไว้​อีก​ประโยค​ว่า​ ‘ลง​น้ำ​หลอม​ไฟ พัก​ภูเขา​หลอม​หยก​ ไย​ต้อง​บอก​ท่าน​ว่า​เป็น​ถ้ำสวรรค์​’ …ดูเหมือนว่า​ยังมี​ประโยค​นี้​ด้วย​ ‘อาศัย​หิน​ของ​ภูเขา​ลูก​อื่น​มากลึง​เป็น​หยก​ หิน​ภูเขา​คือ​ภูเขา​นอกกาย​ หยก​นี้​คือ​ภูเขา​ใน​ใจ’ ไม่ว่า​จะเป็น​คำกล่าว​ที่ว่า​ฟ้าดิน​คือ​บิดา​มารดา​ของ​หมื่น​สรรพสิ่ง​ที่​ลัทธิ​เต๋า​กล่าวถึง​ หรือ​คำ​ว่า​นักเดินทาง​ใน​ฟ้าดิน​ของ​นักประพันธ์​ และ​ยังมี​คำ​ว่า​ ‘ฟ้าและ​คน​รวม​เป็นหนึ่ง​’ ที่สาม​ลัทธิ​อย่าง​ขงจื๊อ​พุทธ​เต๋า​ชอบ​พูดถึง​ ข้า​รู้สึก​ว่า​สืบสาวราวเรื่อง​กัน​แล้ว​ คือ​อะไร​นั้น​บอก​ได้​ยาก​ แต่​อย่าง​น้อย​ข้า​ก็​มั่นใจ​ใน​เรื่อง​หนึ่ง​ว่า​มัน​ต้อง​ไม่ใช่…เรื่อง​ที่​คล้ายคลึง​กับ​การ​เล่น​หมากล้อม​ ไม่จำเป็นต้อง​แบ่ง​แพ้ชนะ​ ไม่ใช่ว่า​เจ้ามาก​ข้าน้อย​ เรื่อง​ของ​การ​ฝึก​ตน​ไม่ใช่ความสัมพันธ์​ใน​ทาง​ตรงข้าม​ที่ว่า​เจ้ามีข้า​ไม่มี เจ้าเพิ่ม​ข้า​จึงลด​ เมื่อ​เอา​มาใช้กับ​เจ้าเหล่า​เนิ่น​ หาก​เอาแต่​คอย​ค้นหา​เทือกเขา​ ขุนเขา​และ​เส้น​ชีพจร​มังกร​จาก​ฟ้าดิน​อยู่​ตลอด​ ต้อง​กิน​ไป​ตลอดทาง​ เมื่อไหร่​จะถึงจุดสิ้นสุด​? คง​ไม่อาจ​กิน​ห้า​ขุนเขา​ที่​มีชื่อเสียง​ใน​ใต้​หล้า​ลง​ไป​ทั้งหมด​หรอก​กระมัง​? ถ้าหาก​ ข้า​พูดว่า​ถ้าหาก​นะ​ ถ้าหาก​ตลอดทั้ง​ฟ้าดิน​สามารถ​ถูก​มอง​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​บางคน​ที่​คล้ายคลึง​กับ​องค์​เทพ​ที่​ศักดิ์สิทธิ์​หรือไม่​ก็​พระภิกษุ​สมณศักดิ์​สูงเปี่ยม​ไป​ด้วย​คุณธรรม​ คิดดู​แล้ว​เมื่อ​เขา​ต้อง​เผชิญหน้า​กับ​การ​เอาแต่ได้​ไม่รู้จัก​เสียสละ​อย่าง​ไม่มีวัน​หมดสิ้น​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ใน​โลก​มนุษย์​ก็​คง​รู้สึก​รำคาญ​เหมือนกัน​กระมัง​ ใช่เหตุผล​ข้อ​นี้​หรือไม่​? แต่​ข้า​เป็น​คนนอก​ใน​เรื่อง​ของ​การ​ฝึก​ตน​ ก็​แค่​พูดเหลวไหล​ไป​สอง​สามประโยค​เท่านั้นเอง​”

แรกเริ่ม​นักพรต​เนิ่น​ยังมี​สีหน้า​ผ่อนคลาย​ แต่​พอ​ได้ยิน​ห​ลี่​ไหว​พูด​คำ​ว่า​ ‘มหา​มรรคา​’ ออกมา​ จิต​แห่ง​มรรคา​ก็​พลัน​สั่นสะเทือน​ อยู่ดีๆ​ นักพรต​เนิ่น​ก็​กระปรี้กระเปร่า​ได้​ทันใด​ ยืด​เอว​ตรง​ นั่ง​สงบ​สำรวม​ตาม​จิตใต้สำนึก​ รอ​กระทั่ง​ห​ลี่​ไหว​เอ่ย​คำ​ว่า​ ‘รากฐาน​แห่ง​มรรค​กถา​’ สีหน้า​ของ​นักพรต​เนิ่น​ก็​แปรเปลี่ยน​ไม่แน่นอน​ พอ​เอ่ย​คำ​ว่า​ ‘พัก​ภูเขา​หลอม​หยก​’ นักพรต​เนิ่น​ก็​ดีใจ​จน​หลงระเริง​…หลงลืม​ทุกอย่าง​ไป​…

รอ​กระทั่ง​ห​ลี่​ไหว​พูด​จน​ปากคอ​แห้งผาก​แล้วจึง​หยุด​เสียง​ลง​ ก็​ไม่สน​ว่า​เหล่า​เนิ่น​ฟังแล้ว​จะหัวเราะเยาะ​รู้สึก​ว่า​น่าขัน​หรือไม่​ ถึงอย่างไร​ห​ลี่​ไหว​ก็ได้​พูด​จน​ตัวเอง​รู้สึก​กระอักกระอ่วน​เต็มที่​ไป​แล้ว​

พูดจา​สะเปะสะปะ​ไม่มีลำดับ​ เหยียบ​เปลือก​แตงโม​ลื่น​ไป​ถึงตรงไหน​ก็​ตรงนั้น​ ไม่มีระเบียบ​ขั้น​ตอ​น.​..

หาก​เฉิน​ผิง​อัน​อยู่​ด้วย​ก็ดี​น่ะ​สิ

ผู้เฒ่า​ชุด​เหลือง​พลัน​คืนสติ​ ยื่นมือ​มาตบ​ธรณีประตู​ที่อยู่​ใต้​ก้น​เบา​ๆ พึมพำ​ว่า​ “ข้า​บรรลุ​มรรคา​แล้ว​ ข้า​มองเห็น​มรรคา​แล้ว​”

ห​ลี่​ไหว​ก้มหน้า​ลง​มอง​หน้าปก​ของ​ตำรา​เล่ม​นั้น​ คน​ที่​เขียนหนังสือ​เล่ม​นี้​แซ่หลวี่​นาม​เหยียน​

นักพรต​เนิ่น​สีหน้า​สดใส​แช่มชื่น​ ดวงตา​ทั้งคู่​เหมือน​มีประกาย​แสงพริบ​พราว​กระเพื่อม​ไม่หยุด​ เงยหน้า​ถามว่า​ “คุณชาย​ ตำรา​เล่ม​นี้​ใคร​เป็น​คนเขียน​หรือ​?”

ห​ลี่​ไหว​ยิ้ม​กล่าว​ “หลวี่เหยียน​ ดูเหมือน​จะเป็น​นักพรต​คน​หนึ่ง​”

นักพรต​เนิ่น​ถามอย่าง​สงสัย​ “อักษร​ตัว​ไหน​ เหยียน​ที่​แปล​ว่า​ภาษาหรือ​? หรือว่า​เหยียน​ที่​แปล​ว่า​หิน​ผา​?”

ห​ลี่​ไหว​กล่าว​ “เหยียน​ที่​มีอักษร​ซาน​อยู่​ด้านล่าง​อักษร​ผิ่น​อยู่​ข้างบน​”

นักพรต​เนิ่น​ลุกขึ้น​ยืน​ สะบัด​ชาย​แขน​เสื้อ​ หันหน้า​เข้าหา​ห​ลี่​ไหว​และ​โต๊ะ​ตัว​นั้น​ ก้ม​คารวะ​สามกราบ​ กราบ​ห​ลี่​ไหว​ กราบ​ตำรา​ กราบ​หลวี่เหยียน​

เรือน​หลัง​ที่อยู่​ใกล้​กัน​ เฉินห​ลิง​จวิน​นั่ง​ยอง​อยู่​บน​ขั้นบันได​ มอ​งก​วอ​จู๋จิ่ว​ที่​ฝึก​ท่า​หมัด​เดิน​นิ่ง​พลาง​ส่งเสียง​ฮื่อ​ฮ่าไป​ด้วย​

ทาง​ฝั่งของ​พรรค​หวง​เหลียง​นี้​ บน​ภูเขา​ไม่มีธรรมเนียม​กิน​อาหาร​คืน​ข้าม​ปี​ เฉินห​ลิง​จวิน​กับ​นักพรต​เนิ่น​ช่วยกัน​ออก​ความคิด​ว่า​เป็น​แขก​ควร​ตามใจ​เจ้าบ้าน​ จึงละเว้น​เอาไว้​ ไม่อย่างนั้น​จะดู​เรื่อง​มากเกินไป​ และ​มีแต่​จะทำให้​พรรค​หวง​เหลียง​รู้สึก​ลำบากใจ​

เฉินห​ลิง​จวิน​ถาม “กวอ​จู๋จิ่ว​ เจ้าเป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​นะ​ ทำไม​ต้อง​ฝึก​ท่า​เดิน​นิ่ง​วิชา​หมัด​อยู่​ทุกวัน​ด้วย​?”

กวอ​จู๋จิ่ว​กระโดด​ขึ้น​สูง หมุนตัว​เหวี่ยง​เท้า​ พอ​พลิ้ว​กาย​ลง​บน​พื้น​แล้วก็​เอ่ย​ว่า​ “ความมานะ​ชดเชย​ข้อบกพร่อง​ได้​”

เฉินห​ลิง​จวิน​กลอกตา​มอง​บน​ ข้า​ถามเจ้าเรื่อง​นี้​หรือ​?

กวอ​จู๋จิ่ว​พลัน​เอ่ย​ว่า​ “คน​ที่​ชื่อ​หวง​ชงผู้​นั้น​เป็น​ฮ่องเต้​จริงๆ​ หรือ​?”

หวง​ชงผู้​นั้น​คือ​ฮ่องเต้​คน​แรก​ที่​กวอ​จู๋จิ่ว​ได้​เห็น​หลังจาก​มาเยือน​ใต้​หล้า​ไพศาล​

เฉินห​ลิง​จวิน​ลุกขึ้น​ยืน​ สอง​มือ​เท้า​เอว​ฉับ​ เชิดหน้า​พูด​ “เจ้าหมายถึง​พี่น้อง​หวง​ชงของ​ข้า​น่ะ​หรือ​ เขา​ย่อม​ต้อง​เป็น​ฮ่องเต้​ของ​หนึ่ง​แคว้น​อยู่แล้ว​ ไม่มีมาด​อะไร​เลย​ใช่ไหม​ ก็​แค่​พฤติกรรม​ยาม​ดื่มเหล้า​แย่​ไป​สักหน่อย​ เรื่อง​อื่นๆ​ ที่​เหลือ​ก็​หา​ข้อบกพร่อง​ไม่เจอ​แล้ว​”

พูด​มาถึงตรงนี้​ เฉินห​ลิง​จวิน​ก็​เอ่ย​อย่าง​น่าสงสาร​ว่า​ “ข้า​ได้​ป่าวประกาศ​ออก​ไป​แล้ว​ กวอ​จู๋จิ่ว​ วันหน้า​หาก​อยู่​กับ​นาย​ท่าน​ เจ้าช่วย​พูดจา​ดี​ๆ แทน​ข้า​สัก​สอง​สามประโยค​ได้​ไหม​ล่ะ​”

กวอ​จู๋จิ่ว​อืม​รับ​ “แน่นอน​อยู่แล้ว​”

กลับ​กลายเป็น​ว่า​เฉินห​ลิง​จวิน​ต้อง​อึ้ง​งัน​เสีย​เอง​ “หา​? เจ้ายินดี​ช่วย​จริงๆ​ หรือ​?”

กวอ​จู๋จิ่ว​ถามอย่าง​สงสัย​ “ข้า​เจอ​อาจารย์​พ่อ​ก็​มีคำพูด​เป็น​กระบุง​ใหญ่​อยาก​จะพูด​ ก็​แค่​ช่วย​พูดจา​ดี​ๆ แทน​เจ้าไม่กี่​คำ​ เหมือน​ใส่ตะแกรง​ใบ​เล็ก​ลง​ไป​ใน​กระบุง​ใบ​ใหญ่​ มีอะไร​ให้​ยินดี​ไม่ยินดี​กัน”

เฉินห​ลิง​จวิน​พยักหน้า​รัว​เร็ว​เหมือน​ไก่​จิก​เมล็ด​ข้าวเปลือก​ ใน​ใจรู้สึก​อุ่น​ซ่าน​ เกือบจะ​น้ำตาไหล​ออกมา​เสียแล้ว​

เว่ย​ซาน​จวิน​ที่​ไร้​คุณธรรม​ใน​ยุทธ​ภพ​สิบ​คน​ก็​สู้กวอ​จู๋จิ่ว​ที่​มีใจของ​จอม​ยุทธ​ผู้​ผดุง​คุณธรรม​ไม่ได้​จริงๆ​!

กวอ​จู๋จิ่ว​พลัน​หยุด​ท่า​เดิน​นิ่ง​ “ไปหา​ห​ลี่​ไหว​นะ​”

เฉินห​ลิง​จวิน​ลุกขึ้น​ยืน​ ถามอย่าง​ง่ายๆ​ “ไป​ทำ​อะไร​?”

แต่​กวอ​จู๋จิ่ว​เป็น​คน​คิด​เร็ว​ทำ​เร็ว​มาตั้ง​แต่ไหนแต่ไร​แล้ว​ ดีด​ปลายเท้า​หนึ่ง​ที​ก็​กระโดด​ขึ้นไป​บน​หัว​กำแพง​ เอ่ย​ว่า​ “ไปหา​ห​ลี่​ไหว​ ให้​เขา​ร่าย​วิชา​อภินิหาร​แห่ง​ชะตาชีวิต​น่ะ​สิ ศิษย์​พี่​หญิง​ใหญ่​เคย​บอ​กว่า​ศักดิ์สิทธิ์​มาก​เลย​ล่ะ​ ทดลอง​หลายครั้ง​ก็​ยัง​ไม่พลาด​!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!