กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 941

สรุปบท บทที่ 941.4 ทะยานฟ้าหมื่นลี้ต้องมีกระบี่ยาว: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

อ่านสรุป บทที่ 941.4 ทะยานฟ้าหมื่นลี้ต้องมีกระบี่ยาว จาก กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet

บทที่ บทที่ 941.4 ทะยานฟ้าหมื่นลี้ต้องมีกระบี่ยาว คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เฉิน​ผิง​อัน​เอา​มือ​กด​ศีรษะ​ของ​อีก​ฝ่าย​แล้ว​ผลัก​ออก​เบา​ๆ ถลึงตา​ใส่ “วันหน้า​อย่า​ยุยง​ให้​ป๋า​ย​เสวียน​ไป​เข้าร่วม​งานเลี้ยง​ท่อง​ราตรี​ กด​ข่ม​ความมีหน้ามีตา​ของ​เว่ย​ซาน​จวิน​อะไร​อีก​? เจ้าก็ช่าง​คิดได้​นะ​!”

เฉินห​ลิง​จวิน​ร้อง​อ้อ​หนึ่ง​ที​

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “เข้าร่วม​งานเลี้ยง​ท่อง​ราตรี​ ของขวัญ​แสดงความยินดี​ไม่ต้อง​ใช้เงิน​หรือ​?”

เฉินห​ลิง​จวิน​กระจ่างแจ้ง​ทันใด​ คลี่​ยิ้ม​กว้าง​สดใส​ “ยังคง​เป็น​นาย​ท่าน​ที่​คิดอ่าน​รอบคอบ​!”

หลังจากนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​บอ​กว่า​จะไป​พบ​หวง​ชงฮ่องเต้​แคว้น​เมิ่งเหลียง​ ถามกวอ​จู๋จิ่ว​ว่า​อยาก​ไป​ด้วยกัน​หรือไม่​ กวอ​จู๋จิ่ว​ส่ายหน้า​บอ​กว่า​ไม่ไป​ ดูเหมือน​จะไม่น่าสนุก​ตรงไหน​ เฉินห​ลิง​จวิน​ยืดอก​นำเสนอ​ตัวเอง​ ผล​คือ​นาย​ท่าน​ไม่ตอบ​ตกลง​

หลังจาก​เฉิน​ผิง​อัน​จากไป​ อีก​ทั้ง​ลู่​เฉิน​ยัง​ไม่อยู่​ เด็กชาย​ชุด​เขียว​จึงสะบัด​ชาย​แขน​เสื้อ​ เริ่ม​มอง​ประเมิน​สหาย​ชิงถงที่​สวม​หมวก​คลุม​หน้า​ด้วย​ความสงสัย​ใคร่รู้​

เฉินห​ลิง​จวิน​เริ่ม​พูด​ตีสนิท​อย่าง​ระมัดระวัง​ว่า​ “สหาย​ชิงถง หาก​ข้า​เดา​ไม่ผิด​ล่ะ​ก็​ เจ้าต้อง​มีขอบเขต​บิน​ทะยาน​เป็น​อย่าง​ต่ำ​”

ชิงถงปลด​หมวก​คลุม​หน้า​ลง​ รู้สึก​ประหลาดใจ​อยู่​บ้าง​เล็กน้อย​ สายตา​ของ​เจียว​น้ำ​ขอบเขต​ก่อกำเนิด​ตน​นี้​ดี​ขนาด​นี้​เชียว​หรือ​?

ไม่พูดถึง​ตบะ​ตื้น​ลึก​หรือ​พลัง​พิฆาต​สูงต่ำ​ของ​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ พูดถึง​แค่​การ​อำพราง​ภาพ​บรรยากาศ​รอบกาย​ ชิงถงมีความภาคภูมิใจ​ใน​ตัวเอง​อย่าง​มาก​ คิดไม่ถึง​ว่า​จะถูก​เด็กชาย​ชุด​เขียว​ผู้​นี้​มอง​ทะลุปรุโปร่ง​ได้​ใน​ปราด​เดียว​

เห็น​ว่า​สหาย​ชิงถงไม่ได้​ยอมรับ​แต่​ก็​ไม่ได้​ปฏิเสธ​ ใน​ใจเฉินห​ลิง​จวิน​ก็​มั่นใจ​ได้​แล้ว​ จึงรู้สึก​แอบ​ลำพองใจ​กับ​ตัวเอง​อยู่​บ้าง​ ดู​สิดู​ อะไร​ที่​เรียก​ว่า​รอบคอบ​รัดกุม​แม้แต่​น้ำ​สัก​หยด​ก็​ไม่มีหลุด​รอดไป​ได้​ ก็​คือ​อย่างนี้​นี่เอง​ เดา​ขอบเขต​ของ​ผู้ฝึก​ตน​แปลกหน้า​ อันที่จริง​ก็​เหมือน​เดา​ตัวเลข​นั่นแหละ​ ขอ​แค่​ประสบการณ์​โชกโชน​มาก​พอ​ นั่น​ก็​ง่ายดาย​อย่าง​มาก​แล้ว​

เฉินห​ลิง​จวิน​โอภาปราศรัย​กับ​สหาย​ชิงถงที่​บอ​กว่า​ตัวเอง​มาจาก​ใบ​ถงทวีป​อยู่​สอง​สามประโยค​ คล้าย​จะนึก​อะไร​ขึ้น​ได้​จึงวิ่ง​ออกจาก​ลานบ้าน​ไปหา​คน​

ด้านนอก​เรือน​ที่พัก​แห่ง​หนึ่ง​ของ​ภูเขา​โหล​ว​ซาน​มีต้นสน​โบราณ​สอง​ต้น​อยู่​หน้า​ประตู​ แต่ละ​ต้น​ล้วน​มีดอก​ห​ลิง​เซียว​เลื้อย​พัน​อยู่​

ลม​ภูเขา​เย็น​สดชื่น​ ดอกไม้​ใหญ่​เท่า​ชามข้าว​ พ้น​ออกจาก​กิ่ง​ก็​ไม่แยก​บ้าน​ พา​กัน​ร่วงหล่น​ลง​พสุธา​

ลู่​เฉิน​นั่ง​ยอง​อยู่​ใต้​ต้นไม้​มอง​ดอก​ไม้ดอก​หนึ่ง​ที่​หล่น​ลง​บน​พื้น​ ยังคง​ไม่ยินดี​จะลุกขึ้น​ คล้าย​กับ​รอคอย​ให้​มีดอกไม้ร่วง​ลงมา​อีกครั้ง​

มีผู้ฝึก​ตน​หญิง​กลุ่ม​หนึ่ง​เดิน​ทางผ่าน​มา พอ​เห็นภาพ​นี้​เข้า​ อีก​ทั้ง​เห็น​ว่า​นักพรต​หนุ่ม​หน้าตา​หล่อเหลา​ก็​รู้สึก​ว่า​น่าสนใจ​ พวก​นาง​หลุบ​คิ้ว​ที่​วาด​เข้ม​ลง​ต่ำ​ ดวงตา​คลอ​ประกาย​น้ำ​เหลือบมอง​มา แอบ​หัวเราะ​คิกคัก​

ลู่​เฉิน​ลุกขึ้น​ยืน​ ก้มหัว​คารวะ​ตาม​ขนบ​ลัทธิ​เต๋า​กับ​พี่สาว​น้องสาว​ทั้งหลาย​ เตรียม​จะบอกกล่าว​ชื่อ​แซ่ตัวเอง​ พวก​นาง​ยังมี​งาน​ต้อง​ทำ​จึงแค่​คารวะ​กลับคืน​แล้ว​พา​กัน​เดิน​นวยนาด​จากไป​

หลังจากนั้น​ลู่​เฉิน​ก็​เดินเล่น​ไป​ตลอดทาง​ นึกถึง​มาด​ของ​พวก​ลูกหลาน​คน​เสเพล​ที่​เดินเที่ยว​อยู่​ตาม​ตลาด​

รอ​กระทั่ง​ในที่สุด​เด็กชาย​ชุด​เขียว​ก็​มองเห็น​แผ่น​หลัง​ของ​เจ้าลัทธิ​ลู่​อยู่​ไกลๆ​ เห็น​เพียง​ว่า​นักพรต​หนุ่ม​นั่ง​ยอง​อยู่​ข้างทาง​ กำลัง​ยื่น​นิ้วชี้​ไป​ที่​ก้อนหิน​ สบถ​ด่าว่า​ “คน​กินข้าว​ร้อน​ สุนัข​ยัง​กิน​อาจม​ร้อน​ๆ แต่​เจ้ากลับ​ดี​นัก​ ละโมบ​กิน​ดื่ม​ขี้เกียจ​ทำงาน​ ชอบ​เป็น​หินขัด​เท้า​ที่​ก่อเรื่อง​นัก​ใช่ไหม​ ทำให้​ข้า​โมโห​ขึ้น​มา ไม่ตี​เจ้าจะให้​ไป​ตี​หมา​ที่ไหน​?”

เฉินห​ลิง​จวิน​ปลุก​ความกล้า​เดิน​ไปหา​ลู่​เฉิน​ จากนั้น​ก็​นั่ง​ยอง​ลง​ด้าน​ข้าง​ แล้วก็​ไม่เอ่ย​อะไร​

ลู่​เฉิน​หันหน้า​มามอง​ ยิ้ม​ถาม “มีอะไร​?”

เฉินห​ลิง​จวิน​สูด​ลม​หายใจเข้า​ลึก​ พูด​ด้วย​สีหน้า​หนักแน่น​ “เจ้าลัทธิ​ลู่​ เรื่อง​ของ​พวกเรา​สอง​คน​ อย่า​ให้​เกี่ยวพัน​ไป​ถึงนาย​ท่าน​และ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ของ​ข้า​ ได้​หรือไม่​?”

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​กล่าว​ “ประหลาด​จริง​ พวกเรา​สอง​คน​มีเรื่อง​อะไร​กัน​หรือ​?”

เฉินห​ลิง​จวิน​เอ่ย​ประโยค​นี้​ออกมา​ ดูเหมือนว่า​จะใช้ความกล้า​ที่​มีไป​จน​หมดสิ้น​แล้ว​ ขอให้​ข้า​ได้​พัก​หาย​ใจหาย​คอ​สักครู่​ เอ่ย​เรียก​นาย​ท่าน​ใน​ใจสัก​สอง​สามรอบ​ก่อน​ค่อย​อธิบาย​เหตุผล​กับ​เจ้า

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​กล่าว​ “ไม่พ่น​น้ำลาย​เต็ม​ใบหน้า​ข้า​แล้ว​หรือ​?”

เฉินห​ลิง​จวิน​กลอกตา​อย่าง​ร้อนรน​ ต้องหา​วิธี​ชดเชย​แก้ไข​สักหน่อย​แล้ว​

ลู่​เฉินจุ๊​ปาก​พูด​ “ได้ยิน​มาว่า​สหาย​จิ่งชิงได้​รู้จัก​กับ​สหาย​คน​ใหม่​แซ่เจิ้งที่​ภูเขา​ลั่วพั่ว​หรือ​?”

เฉินห​ลิง​จวิน​เอ่ย​อย่าง​กระอักกระอ่วน​ “ไม่มีเสียหน่อย​!”

ก่อนหน้านี้​อยู่​ที่​ประตู​ภูเขา​บ้าน​ตน​ มีคน​แซ่เจิ้งผู้​หนึ่ง​มาเยือน​ มอง​ดูเหมือน​จะเป็น​บัณฑิต​ที่​มีเงินทอง​อยู่​บ้าง​เล็กน้อย​ แรกเริ่ม​บอ​กว่า​ตัวเอง​เป็น​ลูกศิษย์​ของ​เฉินจั๋ว​หลิว​พี่น้อง​บ้าน​ตน​ เฉินห​ลิง​จวิน​จึงไม่ได้คิด​อะไร​มาก​นัก​

เพียงแต่​ภายหลัง​เจอ​กับ​อาจารย์​ผู้เฒ่า​เห​วิน​เซิ่งและ​ห่าน​ขาวใหญ่​ คน​ทั้งสอง​ต่าง​ก็​มีท่าทาง​เกรงใจ​ต่อ​บัณฑิต​แซ่เจิ้งผู้​นั้น​มาก​ ถึงขั้น​ที่ว่า​ห่าน​ขาวใหญ่​ยัง​สะอึก​อึ้ง​เมื่อ​เจอ​กับ​คนนอก​ผู้​นั้น​ เฉินห​ลิง​จวิน​จึงสัมผัส​ได้​ถึงความผิดปกติ​ทันที​

คิดไปคิดมา​ก็​รู้สึก​เพียง​ว่า​คน​แซ่เจิ้งผู้​นั้น​ ถึงอย่างไร​ก็​ไม่ใช่ยักษ์​ใหญ่​ผู้นำ​เหล่า​มาร​ของ​นคร​จักรพรรดิ​ขาว​ ถ้าอย่างนั้น​ไม่ว่า​เรื่อง​อะไร​ก็​ปรึกษา​พูดคุย​กัน​ได้​

“แล้ว​ก็เพราะว่า​นักพรต​เนิ่น​ไม่รู้​ถึงคุณูปการ​อัน​เกริกก้อง​ที่​มีเป็น​พรวน​ของ​เจ้า ไม่อย่างนั้น​เขา​ต้อง​ยอม​ก้มหัว​ศิโรราบ​ให้​เป็นแน่​”

ลู่​เฉิน​ลุกขึ้น​ยืน​พร้อม​รอยยิ้ม​ เท้า​เตะ​ก้อนหิน​ก้อน​นั้น​จน​มัน​กระเด็น​ออก​ไป​เหมือน​ลูกธนู​หลุด​ออกจาก​แล่ง​ พุ่ง​ผ่าน​ระหว่าง​กิ่ง​ต้นสน​ต้น​หนึ่ง​ สุดท้าย​ลอย​ไปนอก​หน้าผา​ ทำให้​ฝูงนก​บน​ท้องฟ้า​ตกใจ​ พยักหน้า​เอ่ย​ว่า​ “ระหว่าง​นก​และ​ไม้ รู้จัก​เปลี่ยนแปลง​ดุจ​งูดุจ​มังกร​”

เฉินห​ลิง​จวิน​ลุกขึ้น​ตาม​ เอ่ย​เสียง​เบา​ว่า​ “เรื่อง​ที่​ข้า​พูด​ก่อนหน้านี้​ เจ้าลัทธิ​ลู่​ตอบ​ตกลง​แล้ว​หรือ​?”

ลู่​เฉิน​เอา​สอง​มือ​ไพล่หลัง​ สาวเท้า​เดิน​เนิบ​ช้า เอ่ย​ว่า​ “ไม่ใช่เรื่อง​เลวร้าย​อะไร​สักหน่อย​ เจ้าจะกลัว​อะไร​? เดินลง​น้ำ​กลายเป็น​เจียว​ก็​แค่​เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​ก่อกำเนิด​ ไม่ได้​เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​หยก​ดิบ​ แล้ว​คราวหน้า​เจ้าจะทำ​อย่างไร​? เดิน​เลียบ​ลำน้ำ​ฉีตู้​ลง​มหาสมุทร​? กลายเป็น​ขอบเขต​หยก​ดิบ​แล้ว​อย่างไร​ ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​ล่ะ​? ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ล่ะ​? ทุกวันนี้​ใต้​หล้า​ไพศาล​มีมังกร​ที่​แท้จริง​ตัว​หนึ่ง​แล้ว​ จุด​แห่ง​การผสาน​มรรคา​ของ​คน​พิฆาต​มังกร​ผู้​นั้น​สามารถ​ยอมรับ​มังกร​ได้​หนึ่ง​ตัว​ แต่​ไม่แน่​เสมอไป​ว่า​จะยอมรับ​ได้​สอง​ตัว​ แต่​หาก​เจ้าไป​อยู่​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ ก็​จะมีทัศนียภาพ​อย่าง​ใหม่​ที่​แตกต่าง​ออก​ไป​ ถึงเวลา​นั้น​ข้า​ก็​แค่​ต้อง​มอบ​ยันต์​คุ้มกัน​กาย​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิงให้​เจ้าหนึ่ง​แผ่​น.​..”

เฉินห​ลิง​จวิน​ส่ายหน้า​ “ข้า​ไม่อยาก​ไป​อยู่​ห่าง​จาก​บ้านเกิด​ไกล​ขนาด​นั้น​”

จากนั้น​เฉินห​ลิง​จวิน​ก็​ถามคำถาม​ที่​สะสมมานาน​หลาย​ปี​ซึ่งคิด​อย่างไร​ก็​ไม่เข้าใจ​ “เจ้าลัทธิ​ลู่​ มรรค​กถา​ของ​ท่าน​สูงถึงเพียงนั้น​ สถานะ​ก็​โดดเด่น​ถึงเพียงนั้น​ ทำไม​ถึงต้อง​มางัดข้อ​กับ​ข้า​ใน​เรื่อง​นี้​ด้วย​?”

อันที่จริง​เฉินห​ลิง​จวิน​เคย​ถามนาย​ท่าน​เป็นการ​ส่วนตัว​ แต่​คำตอบ​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ค่อนข้างจะ​ ‘บน​ภูเขา​’ บอ​กว่า​ต้อง​มีสัก​วันที่​น้ำลด​หิน​ผุด​ ยัง​บอก​กับ​เฉินห​ลิง​จวิน​ว่า​ไม่ต้อง​คิดมาก​ใน​เรื่อง​นี้​ จะต้อง​มีคราว​ที่​น้ำ​มาคู​คลอง​ก่อเกิด​ ใน​เมื่อ​นาย​ท่าน​พูด​ขนาด​นี้​แล้ว​ เฉินห​ลิง​จวิน​ก็​ไม่คิดมาก​อีกแล้ว​จริงๆ​ หาก​ไม่เป็น​เพราะ​วันนี้​ได้​เจอ​กับ​ลู่​เฉิน​ เฉินห​ลิง​จวิน​ก็​จะคิด​แค่​ว่า​ไม่มีเรื่อง​นี้​อยู่​ จะต้อง​เปลือง​สมอง​ไป​คิด​เรื่อง​เร้นลับ​ซับซ้อน​พวก​นั้น​ให้​มากความ​ไป​ไย​

“งัดข้อ​กับ​เจ้า? ไม่ถึงขนาด​นั้น​ ก็​แค่​บัญชี​เก่า​ค้างปี​ที่​มิอาจ​เปิด​ได้​เสียที​ ไม่ถ่วง​รั้ง​การ​ฝึก​ตน​ ก็​แค่​มักจะ​คิดถึง​ จะต้อง​จัดการ​ให้​เรียบร้อย​”

ลู่​เฉิน​ประกบ​สอง​นิ้ว​เคาะ​ไป​บน​ศีรษะ​ของ​เด็กชาย​ชุด​เขียว​ ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “เจ้าไม่คิด​จะเรียนรู้​อะไร​ดี​ๆ มาจาก​นาย​ท่าน​ของ​เจ้าบ้าง​เลย​หรือ​ เจ้าลองดู​เฉิน​ผิง​อัน​สิ ตลอด​ทั้งปี​ล้วน​ออก​เดินทางไกล​อยู่​ข้างนอก​ เรื่อง​ของ​การ​ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​ก็​ทะยาน​ขึ้น​สูงพรวด​ๆๆ ใคร​บ้าง​ไม่อิจฉา​?”

เฉินห​ลิง​จวิน​ลูบคลำ​ศีรษะ​ แล้วก็​ไม่เงยหน้า​ขึ้น​ เพียง​เดินเล่น​ไปเป็นเพื่อน​ลู่​เฉิน​ พูด​เสียง​งึมงำว่า​ “แต่​นาย​ท่าน​ก็​ไม่ใช่ว่า​อยาก​จะอยู่​ข้างนอก​ตลอด​ทั้งปี​ไม่เคย​ได้​อยู่​บ้าน​นี่​นา​ แล้วก็​ยัง​ต้อง​คิดถึง​ฮูหยิน​เจ้าขุนเขา​มาก​ด้วย​ จากนั้น​ก็​อยาก​ออก​ไป​ท่อง​ยุทธ​ภพ​ให้​มาก​แทน​อาจารย์​ฉี ท่าน​คิด​ว่า​นาย​ท่าน​ไม่อยาก​อยู่​เฉย​ๆ อย่าง​สงบ​หรือ​”

ลู่​เฉิน​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​ตกตะลึง​ “สหาย​จิ่งชิง เมื่อก่อน​ผิน​เต้า​ตาถั่ว​ไป​ ที่แท้​เจ้าก็​ไม่ใช่คนโง่​นี่​นา​?”

แต่ว่า​ก่อน​จะทำ​เช่นนั้น​คง​ต้อง​พูดคุย​กับ​ผู้อาวุโส​ท่าน​หนึ่ง​สัก​สอง​สามประโยค​เสีย​ก่อน​

ทาง​ลานบ้าน​ อันที่จริง​นักพรต​เนิ่น​ร่าย​วิชา​อภินิหาร​มอง​ขุนเขา​สายน้ำ​ผ่าน​ฝ่ามือ​มาโดยตลอด​ ดังนั้น​จึงมองเห็น​ความเคลื่อนไหว​ของ​นักพรต​ลู่​ฝูแห่ง​อาราม​ชิวหา​ว​ผู้​นั้น​อยู่​ไกลๆ​

รอ​กระทั่ง​นักพรต​หนุ่ม​คน​นี้​นั่ง​ยอง​ข้างทาง​ หันหน้า​เข้าหา​ก้อนหิน​ด่า​หม่อน​กระทบ​ไหว​ นักพรต​เนิ่น​ก็​ไม่รู้​ว่า​โทสะ​ผุด​มาจาก​ไหน​

ข้า​ทำ​อะไร​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ไม่ได้​ ยัง​ต้อง​กลัว​นักพรต​บน​ทำเนียบ​ของ​อาราม​ชิวหา​ว​แห่ง​สำนัก​โองการ​เทพ​อย่าง​เจ้าอีก​หรือ​ไร​?

เพียงแต่ว่า​ถึงอย่างไร​นักพรต​เนิ่น​ก็​เป็น​ขิง​ที่​ยิ่ง​แก่​ยิ่ง​เผ็ด​ เขา​ไม่ได้​ส่งเสียง​ออกมา​ หนึ่ง​เพราะ​ติดตาม​อยู่​ข้าง​กาย​คุณชาย​ได้​ฝึกอบรม​บ่ม​เพาะ​จิต​ใจมามาก​แล้ว​ นอกจากนี้​นักพรต​เนิ่น​ก็​เกิด​ใจระแวดระวัง​อยู่​หลาย​ส่วน​ หรือว่า​นักพรต​น้อย​ที่​บรรพ​จารย์​บ้าน​ตัวเอง​คือ​เต๋า​เหล่า​เอ้อ​ซึ่งอยู่​ไกล​ถึงป๋า​ยอ​วี้​จิงผู้​นี้​สัมผัส​ได้​แล้ว​ว่า​ตน​ลอบมอง​อยู่​? หาก​เป็น​เช่นนี้​จริง​ ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​น่าจะเป็น​ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​คน​หนึ่ง​แล้ว​ แต่​คน​ผู้​นี้​ถูก​กำหนด​มาแล้ว​ว่า​ต้อง​ไม่ใช่ฉีเจิน​เทียน​จวิน​แน่นอน​ หรือว่า​จะเป็น​บรรพ​จารย์​ผู้เฒ่า​บาง​คนใน​สำนัก​โองการ​เทพ​ที่​ไม่เคย​เปิดเผย​หน้าตา​? อยู่​ใน​ใต้​หล้า​ไพศาล​แห่ง​นี้​ อะไร​ก็​ไม่เลวร้าย​ แค่​ว่า​ยุ่งยาก​อยู่​สักหน่อย​ ไม่รวดเร็ว​ฉับไว​แม้แต่น้อย​ จะต้อง​คำนึงถึง​ที่พึ่ง​ คำนึงถึง​สาย​การสืบทอด​ คำนึงถึง​บรรพ​จารย์…​

ลู่​เฉิน​ดู​ลายมือ​ให้​พี่สาว​พลาง​ใช้เสียง​ใน​ใจยิ้ม​เอ่ย​ไป​ด้วยว่า​ “ผู้อาวุโส​จะยัง​มอง​อีก​นาน​แค่​ไหน​?”

นักพรต​เนิ่น​หัวเราะ​ฮ่าๆ “นักพรต​ลู่​มีพลังจิต​ที่​เฉียบคม​ยิ่งนัก​ ไม่ธรรมดา​เลย​จริงๆ​”

ลู่​เฉิน​ทอดถอนใจ​ ดูเหมือน​จะกลัว​ว่า​อีก​ฝ่าย​สัมผัส​ได้​ไม่ถึงความคิด​ของ​ตัวเอง​จึงพูด​เสียง​ใน​ใจของ​ตัวเอง​ออกมา​ ยัง​กระทืบเท้า​พร้อมกับ​พูด​ไป​ด้วยว่า​ “ผิน​เต้า​โมโห​จริงๆ​ แล้ว​นะ​นี่​”

แต่ละคน​ต่าง​ก็​รังแก​ที่​ผิน​เต้า​เป็น​คน​นิสัย​ดี​ใช่ไหม​?

เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ช่างเถิด​ เพราะ​ถึงอย่างไร​ผิน​เต้า​ก็​เป็น​ผู้เฒ่า​จันทรา​ครึ่งตัว​ที่​ผูก​ด้าย​แดง​ให้​ไอ้​หมอ​นี่เอง​กับ​มือ​ แต่​เจ้านักพรต​เนิ่น​กลับ​กล้า​ทำตัว​กำเริบเสิบสาน​ไร้​ยำเกรง​เช่นนี้​ ไม่มีเหตุผล​เอา​เสีย​เลย​

พริบตา​นั้น​

เส้นเอ็น​หัวใจ​ของ​นักพรต​เนิ่น​ก็​พลัน​ขึง​ตึง​

นาที​ถัดมา​ นักพรต​เนิ่น​ถึงกับ​มีเหงื่อ​ซึมออก​มาจาก​หน้าผาก​

ร่าง​ไป​อยู่​ท่ามกลาง​ฟ้าดิน​ที่​มีแต่​หมอก​ขาวโพลน​ เงยหน้า​มอง​ไป​ เห็น​เพียง​ว่า​จุด​ที่​ห่าง​ไป​ไกล​อย่าง​ถึงที่สุด​ปรากฏ​เป็น​…ป๋า​ยอ​วี้​จิงที่ตั้ง​ตระหง่าน​โอฬาร​!

นักพรต​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​ที่​สวม​กวาน​ดอกบัว​กระโดด​ลง​มาจาก​ชั้น​ที่สูง​ที่สุด​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิง เรือน​กาย​เท่า​เมล็ด​งาพลัน​ขยาย​ใหญ่​เท่า​เขา​พระ​สุเมร​ ตอนที่​พลิ้ว​กาย​ลงพื้น​ก็​แทบจะ​ตัว​สูงทัดเทียม​กับ​ป๋า​ยอ​วี้​จิงทั้ง​แห่ง​ หลุบ​ตา​มอง​ต่ำ​จาก​ที่สูง​ มอง​มายัง​นักพรต​เนิ่น​ที่อยู่​บน​พื้นดิน​

นักพรต​เนิ่น​กัดฟัน​ ขณะที่​กำลังจะ​เผย​ร่าง​จริง​ประลอง​เวท​คาถา​กับ​ลู่​เฉิน​เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงผู้​นี้​ เปิดฉาก​เข่นฆ่า​กัน​ดี​ๆ ดู​สักครั้ง​ ต่อให้​ต้อง​ตาย​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​ ถึงอย่างไร​ก็​ไม่มีเหตุผล​ให้​ต้อง​ยื่น​คอ​ไป​ให้​อีก​ฝ่าย​ฟัน​เฉย​ๆ

เพียงแต่ว่า​ฟ้าดิน​กลับ​ไม่มีกาย​ธรรม​ของ​ลู่​เฉิน​อยู่แล้ว​ แล้วก็​มองไม่เห็น​ป๋า​ยอ​วี้​จิงด้วย​ นักพรต​เนิ่น​ยืน​นิ่ง​ไม่ขยับ​ เพราะ​ไม่รู้​ว่า​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​ ร่างกาย​ของ​ลู่​เฉิน​ถึงได้​หด​เล็ก​ลง​เท่า​เมล็ด​งา เวลานี้​มายืน​อยู่​บน​ไหล่​ข้าง​หนึ่ง​ของ​นักพรต​เนิ่น​ คล้าย​กับ​กำลัง​มอง​ไป​ยัง​คน​บางคน​ที่อยู่​ใน​บาง​สถานที่​ห่าง​ออก​ไป​ไกล​

ทะยาน​ฟ้าหมื่น​ลี้​ต้อง​มีกระบี่​ยาว​

‘ท่าน​นักพรต​มรรคา​ยาว​ไกล​’ ช่างกล่าว​ได้ดี​จริงๆ​

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!