กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 942

ฮ่องเต้​หนุ่ม​ของ​แคว้น​เมิ่งเหลียง​ เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​แซ่สอง​พยางค์​น่า​ห​ลัน​ เหมย​ซาน​จวิน​ ยังคง​หนึ่ง​นั่ง​สอง​ยืน​ รอคอย​อยู่​ใน​ศาลา​

หวง​ชงกลับ​หวัง​ให้​พวกเขา​สอง​คน​ทำตัว​ตามสบาย​กว่า​นี้​อีก​สักหน่อย​ ทว่า​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​แห่ง​ภูเขา​สายน้ำ​ทั้งสอง​กลับ​เคารพ​กฎ​ปฏิบัติ​ระหว่าง​จักรพรรดิ​และ​ขุนนาง​อย่าง​เคร่งครัด​ อันที่จริง​ใน​วงการ​ขุนนาง​ภูเขา​สายน้ำ​ นี่​ถือ​เป็นเรื่อง​ที่​พบเห็น​ได้​ไม่บ่อย​นัก​ ซาน​จวิน​ห้า​มหา​บรรพต​ของ​หนึ่ง​แคว้น​กับ​เทพ​วารี​ตำแหน่ง​สูงอันดับ​หนึ่ง​ใน​แคว้น​ ได้​เจอ​กับ​ฮ่องเต้​ ก็​ไม่จำเป็นต้อง​ทำ​เช่นนี้​เลย​

แต่​เหมย​ซาน​จวิน​ที่​มีชาติกำเนิด​จาก​วิญญาณ​วีรบุรุษ​แม่ทัพ​บู๊​ของ​ราชวงศ์​ก่อน​ ยอมรับ​นับถือ​ใน​ตัว​ฮ่องเต้​หนุ่ม​พระองค์​นี้​จาก​ใจจริง​ เหมย​ซาน​จวิน​ไม่ยอม​นั่ง​ น่า​ห​ลัน​อวี้จือ​ที่​มีระดับ​ขั้น​บน​ทำเนียบ​หยก​ทอง​เท่ากัน​ก็ได้​แต่​ทำตาม​เท่านั้น​

จู่ๆ ก็​มีนักพรต​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​โผล่​มา น่า​ห​ลัน​อวี้จือ​ใช้นิ้ว​ทำ​มุทรา​เงียบๆ​ ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “ใจกล้า​ไม่น้อย​ บังอาจ​บุก​เข้ามา​ใน​ที่พัก​ส่วนตัว​โดยพลการ​”

เห็น​เพียง​ว่า​นักพรต​หนุ่ม​คน​นั้น​แสร้ง​ทำเป็น​ไขสือ​ “หา​? หรือว่า​เสี่ยว​เต้า​เดิน​มาผิดทาง​? แบบนี้​ก็ได้​หรือ​ ดูท่า​เสี่ยว​เต้า​จะมีโชควาสนา​กับ​พี่สาว​ท่าน​นี้​”

สวม​กวาน​หางปลา​ นั่น​ก็​ต้อง​เป็น​นักพรต​ที่​ได้รับ​หนังสือรับรอง​การ​ออกบวช​จาก​สำนัก​โองการ​เทพ​แล้ว​

ใน​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ ใคร​กล้า​ไม่เห็น​กฎ​ทอง​บัญญัติ​หยก​ของ​สำนัก​โองการ​เทพ​อยู่​ใน​สายตา​ กล้า​สวมรอย​เป็น​นักพรต​ของ​สำนัก​โองการ​เทพ​

เหมย​ซาน​จวิน​เหลือบมอง​นักพรต​แล้ว​ใช้เสียง​ใน​ใจเอ่ย​ “ฝ่าบาท​ นักพรต​ผู้​นี้​มาจาก​สำนัก​โองการ​เทพ​จริงๆ​ เพราะ​ด้านหลัง​มีโคม​ดวง​หนึ่ง​ลอย​อยู่​ เขียน​ตัวอักษร​ที่​ทำ​ด้วย​กรรมวิธี​ลับ​ของ​อาราม​ชิวหา​ว​ คือ​คน​ที่​ได้รับ​การปกป้อง​จาก​ทาง​สำนัก​ มองดู​ภายนอก​เหมือน​จะเป็น​ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​ประตู​มังกร​คน​หนึ่ง​ แต่​แท้จริง​แล้ว​กลับเป็น​เซียน​ดิน​โอสถ​ทอง​ แต่​ก็​น่าจะ​เพิ่ง​สร้าง​โอสถ​ได้​แค่​ไม่กี่​ปี​ ภาพ​บรรยากาศ​จึงไม่มั่นคง​นัก​”

น่า​ห​ลัน​อวี้จือ​ขมวดคิ้ว​ “ไอ้​หมอ​นี่​เข้ามา​ที่นี่​ได้​อย่างไร​? ทำไม​ถึงไม่มีริ้ว​ลมปราณ​กระเพื่อม​เลย​แม้แต่น้อย​?”

เหมย​ซาน​จวิน​หัวเราะ​หยัน​ “ผี​เท่านั้น​ที่​รู้​”

หวง​ชงบอกเป็นนัย​แก่​พวกเขา​ว่า​ไม่ต้อง​ตึงเครียด​ ผู้​ที่มา​เยือน​ล้วน​ถือเป็น​แขก​ พวก​ผู้ฝึก​ตน​บน​ภูเขา​ที่​ดื่ม​น้ำค้าง​กิน​แสงอรุโณทัย​มีมาด​แห่ง​เซียน​กลิ่นอาย​แห่ง​มรรคา​ คือ​คน​ส่วนใหญ่​ แต่​พวก​ที่​นิสัย​ประหลาด​ วิชา​คาถา​แปลก​ไม่เหมือน​ใคร​ ชอบ​ออกมา​เที่ยวเล่น​ใน​โลก​มนุษย์​ก็​มีจำนวน​ไม่น้อย​เหมือนกัน​

“ใน​เมื่อ​มาผิดที่​ ผิน​เต้า​ก็​จะแก้ไข​ความผิด​แล้วกัน​”

นักพรต​หนุ่ม​วิ่งเหยาะๆ​ ขึ้น​บันได​มา พอ​หยุด​ยืน​นิ่ง​ก็​เอา​สอง​มือ​ไพล่หลัง​ ก้มหน้า​ลง​มอง​สถานการณ์​หมากล้อม​ที่​ผล​แพ้ชนะ​ชัดเจน​ พยักหน้า​เอ่ย​ว่า​ “ฝั่งที่​ถือ​หมาก​สีขาว​คือ​ยอด​ฝีมือ​ขั้นสูง​สุดคน​หนึ่ง​”

เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​ยื่น​นิ้ว​มาดัน​หว่าง​คิ้ว​ เจ้าหมอ​นี่​มรรค​กถา​สูงหรือไม่​บอก​ได้​ยาก​ แต่​ฝีมือ​เล่น​หมากล้อม​ต้อง​ห่วยแตก​แน่นอน​

หวง​ชงยังคง​มีสีหน้า​ผ่อนคลาย​เป็นปกติ​ ยิ้ม​ถามว่า​ “ขอ​ถามท่าน​นักพรต​ว่า​ทำไม​ถึงพูด​เช่นนี้​? ทำไม​ข้า​ถึงรู้สึก​ว่า​เม็ด​หมาก​สีดำ​ต้อง​ชนะ​ได้​แน่นอน​?”

ฝ่าย​ที่​ถือ​เม็ด​หมาก​สีขาว​ก็​คือ​ตน​

“การ​เล่น​หมากล้อม​คือ​เรื่อง​ที่​น่าเบื่อ​ที่สุด​ใน​ใต้​หล้า​ เดิมพัน​สูงอาจ​แพ้​ แต่​ฝีมือ​สูงไม่มีทาง​แพ้​อย่างไร​ล่ะ​”

นักพรต​หนุ่ม​คีบ​เม็ด​หมาก​สีขาว​มือหนึ่ง​ อีก​มือหนึ่ง​ถือ​เม็ด​หมาก​สีดำ​ ช่วย​วางหมาก​ลง​บน​กระดาน​ดัง​เพี๊ยะๆๆ​ เสียง​ใสกังวาน​ ด้าน​หนึ่ง​วาง​เม็ด​หมาก​ อีก​ด้าน​หนึ่ง​ก็​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ด้วยว่า​ “หาก​เป็น​บน​โต๊ะ​พนัน​ เว้น​เสีย​จากว่า​เจ้าใช้กลโกง​เอาเปรียบ​ หาไม่​แล้ว​ต่อให้​เจ้าเป็นยอด​ฝีมือ​ล้ำเลิศ​แค่​ไหน​ แต่​โชคไม่ดี​ ต่อให้​เจอ​กับ​เด็กน้อย​อ่อนหัด​ที่​เพิ่ง​ลงสนาม​ อีก​ฝ่าย​โชคดี​ ยกตัวอย่างเช่น​โยน​ลูกเต๋า​ได้​หก​หก​หก​ทุกครั้ง​ ยอด​ฝีมือ​ก็​ยังมี​ช่วงเวลา​ที่​แพ้​ได้​อยู่ดี​ แต่​วิถี​แห่ง​หมากล้อม​ บางครั้ง​ยอด​ฝีมือ​ก็​พลาด​ปล่อย​ให้​เกิด​ช่องโหว่​ วางหมาก​โง่ๆ ฝีมือ​ย่ำแย่​ ล้วน​เป็น​เพราะ​ทักษะ​การ​เล่น​หมากล้อม​ยัง​ไม่ชำนาญ​เข้า​ขั้นสูงสุด​ ทว่า​ต่อให้​เป็น​เช่นนี้​ เมื่อ​เจอ​กับ​ยอด​ฝีมือ​ตัวฉกาจ​ ฝีมือ​แย่​กว่า​อยู่​บ้าง​ แต่​ที่​พลาด​ไป​ก็​แค่​หมากเม็ด​ครึ่ง​เม็ด​ ไม่มีทาง​ที่​บน​กระดาน​หมาก​ หมาก​ดำ​จะตาย​สิ้น​ หมาก​ขาว​จะรอด​ได้​ทั้งหมด​”

“ส่วน​ยอด​ฝีมือ​ด้าน​การ​เล่น​หมากล้อม​ที่​แท้จริง​พวก​นั้น​ เผชิญหน้า​กับ​คน​ที่​ฝีมือ​อ่อนด้อย​กลับ​ไม่มีเหตุผล​ที่จะ​ต้อง​พ่ายแพ้​ ยกตัวอย่างเช่น​ซิ่ว​หู่​ชุย​ฉาน​ หรือ​อย่างเช่น​เจิ้งจวี​จง หรือ​อย่างเช่น​…”

นักพรต​หนุ่ม​ยืด​เอว​ตรง​ กระตุก​คอเสื้อ​ชุด​คลุม​เต๋า​ “ผิน​เต้า​เอง​…”

หยุดชะงัก​ไป​เล็กน้อย​ก็​เอ่ย​ต่อ​อี​กว่า​ “ที่​มีศิษย์​พี่​อยู่​คน​หนึ่ง​”

เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​หลุด​หัวเราะ​พรืด​ “ชื่อ​ของ​ราชครู​ชุย​ เจ้าก็​เรียก​ได้​ตามใจชอบ​หรือ​?”

นักพรต​หนุ่ม​ส่าย​หน้ายิ้ม​กล่าว​ “ชื่อ​ไม่เอา​มาเรียก​ แล้ว​ยัง​เอาไว้​ทำ​อะไร​ได้​อีก​”

“เอ๊ะ​ แนวโน้ม​บน​กระดาน​หมาก​นี้​ ทำไม​ถึงไม่ค่อย​เหมือน​ที่​ผิน​เต้า​คาดการณ์​ไว้​เลย​ล่ะ​”

ผล​คือ​คน​สามคนใน​ศาลา​เห็น​เจ้าหมอ​นั่น​ยื่นมือ​มากวาด​เม็ด​หมาก​บน​กระดาน​จน​เละเทะ​ไป​หมด​

“ผิน​เต้า​ขอ​เอา​คำพูด​ทั้งหมด​ก่อนหน้านี้​กลับคืน​มา ฮ่าๆ เอา​กลับคืน​มา”

หวง​ชงอดไม่ไหว​พูด​กลั้ว​หัวเราะ​ “ท่าน​นักพรต​ช่างเป็น​คน​มหัศจรรย์​เสีย​จริง​ ไม่ทราบ​ว่า​ท่าน​มีนาม​ว่า​อะไร​?”

“ลู่​ฝูแห่ง​อาราม​ชิวหา​ว​สำนัก​โองการ​เทพ​ ตอนนี้​ยัง​ไม่มีฉายา​ ฉีเทียน​จวิน​ยัง​เคย​ได้​เห็น​หน้า​ของ​ผิน​เต้า​แค่​ไม่กี่​ครั้ง​เอง​”

น่า​ห​ลัน​อวี้จือ​ปิดปาก​หัวเราะ​คิก​ “มีเหตุผล​ ท่าน​นักพรต​ลู่​ได้​พบ​ฉีเทียน​จวิน​แค่​ไม่กี่​ครั้ง​ แน่นอน​ว่า​ท่าน​นักพรต​ลู่​ต้อง​ได้​พบ​ฉีเทียน​จวิน​แค่​ไม่กี่​ครั้ง​จริงๆ​”

นักพรต​หนุ่ม​หัวเราะ​คิกคัก​ “พี่สาว​คน​นี้​พูดจา​น่าฟัง​จริงๆ​ น้ำเสียง​ไพเราะ​คล้าย​เสียง​ก้อน​น้ำแข็ง​กระทบ​กัน​ใน​ชามกระเบื้อง​ขาว​ที่​ใส่น้ำ​บ๊วย​เย็น​ๆ ใน​ฤดูร้อน​ ทั้ง​ยัง​เข้า​อก​เข้าใจ​คนอื่น​เป็น​อย่าง​ดี​ ช่างสมกับ​คำ​กล่าวว่า​ดอกไม้​เข้าใจ​ภาษา (เปรียบเปรย​ถึงหญิง​งามที่​เฉลียวฉลาด​เข้าใจ​ผู้อื่น​) ที่​มีเสียงทอง​ทำนอง​หยก​ ปราดเปรื่อง​เฉียบแหลม​จริงๆ​”

“เอ๊ะ​ การ​แต่งกาย​ของ​พี่​หญิง​เหมือนกับ​ผิน​เต้า​อย่าง​ไม่มีผิดเพี้ยน​เลย​ หรือ​จะเป็น​ผู้​ที่​เลื่อมใส​ซูจื่อ”​

“บังเอิญ​ยิ่งนัก​ ผิน​เต้า​เคย​โชคดี​ได้​เดินทาง​ท่องเที่ยว​ไป​ร่วมกับ​ซูจื่อ​อยู่​หลาย​เดือน​ ร่ำ​กวี​ขับร้อง​บทเพลง​ ถก​มรรคา​พูดถึง​ญาณ เบิกบาน​สำราญใจ​อย่าง​มาก​”

หวง​ชงกระแอม​อยู่​หลาย​ที​ ไม่รู้​จะเกลี้ยกล่อม​ไม่ให้​นักพรต​ลู่​ผู้​นี้​พูดจา​สนิทสนม​เกินไป​ได้​อย่างไร​

น่า​ห​ลัน​อวี้จือ​เอ่ย​สัพยอก​ “โอ้โห​ นี่​จะถือว่า​หมา​เลิก​ผ้าม่าน​ต้อง​อาศัย​ปาก​ของ​ตัวเอง​หรือไม่​?” (เปรียบเปรย​ถึงคน​ที่​ดีแต่​ปาก​ ไร้ความสามารถ​ที่​แท้จริง​)

นักพรต​หนุ่ม​ไม่โมโห​แม้แต่น้อย​ กลับกัน​ยัง​เอ่ย​ประโยค​หนึ่ง​อย่าง​ไม่มีต้นสายปลายเหตุ​ “หาก​รู้​ว่า​จะเป็น​อย่างนี้​ตั้งแต่แรก​ข้า​ก็​คง​ให้​ผู้อาวุโส​คน​หนึ่ง​ตามมา​ที่นี่​ด้วย​แล้ว​ นั่น​จึงจะเหมาะกับ​สถานการณ์​”

สีหน้า​ของ​เหมย​ซาน​จวิน​ขึง​เกร็ง​ ใช้เสียง​ใน​ใจเอ่ย​ว่า​ “ฝ่าบาท​ ข้า​ทนไม่ไหว​แล้ว​ สามารถ​ไล่​แขก​ ขับไล่​ไอ้​หมอ​นี่​ออก​ไป​ได้​หรือไม่​?”

“อย่า​นะ​ บรรพบุรุษ​บุกเบิก​ภูเขา​แห่ง​การออกคำสั่ง​ไล่​แขก​ของ​โลก​มนุษย์​ ผิน​เต้า​ก็​พอ​จะคุ้นเคย​อยู่​บ้าง​…”

ใน​ใจเหมย​ซาน​จวิน​สั่นสะเทือน​ นักพรต​ผู้​นี้​ถึงกับ​ลอบฟัง​เสียง​ใน​ใจของ​ตน​ได้​?

ไม่รอ​ให้​เหมย​ซาน​จวิน​เอ่ย​เตือน​ฮ่องเต้​และ​น่า​ห​ลัน​อวี้จือ​ เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​ก็​หันหน้า​ไป​มอง​ทาง​ประตู​ ใช้เสียง​ใน​ใจเตือน​ฮ่องเต้​หนุ่ม​ว่า​ “ฝ่าบาท​ มีคน​มาเยี่ยมเยือน​ คือ​…เจ้าขุนเขา​เฉิน​แห่ง​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ผู้​นั้น​!”

นักพรต​หนุ่ม​ทำท่า​ลับๆ ล่อๆ​ ดูท่า​แล้ว​น่าจะ​เตรียม​เผ่นหนี​

แต่กลับ​ถูก​น่า​ห​ลัน​อวี้จือ​คว้า​แขน​เอาไว้​ “นักพรต​ลู่​ จะไป​ไหนล่ะ​? ตาม​คำกล่าว​ของ​เจ้า เดินผ่าน​ทาง​มาแล้วก็​อย่า​ได้​เดิน​คลาดไป​เลย​”

นักพรต​หนุ่ม​สะบัด​ข้อมือ​ แต่​ดูเหมือน​จะสลัด​ไม่หลุด​ จึงตบหลัง​มือ​ของ​เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​เบา​ๆ พูด​ด้วย​สีหน้า​จริงใจ​ว่า​ “มาจาก​ที่ไหน​ก็​จะกลับ​ไป​ที่นั่น​ ภูเขา​สูงสายน้ำ​ไหล​ยาว​ วันหน้า​ค่อย​พบกัน​ใหม่​”

เหมย​ซาน​จวิน​ไม่ใช้เสียง​ใน​ใจพูดคุย​อีกต่อไป​ แต่​พูด​ออกมา​ตรงๆ​ ว่า​ “นักพรต​ลู่​คือ​ยอด​ฝีมือ​ผู้​บรรลุ​มรรคา​ ใน​เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​ใน​ใจของ​ข้า​ผู้​แซ่เหมย​แล้ว​ ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​น่าจะเป็น​เทพ​เซียน​ก่อกำเนิด​คน​หนึ่ง​กระมัง​?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!