กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 943

‘ทำ​อย่าง​ที่​ข้า​อยาก​ทำ​’ ช่างกล่าว​ได้ดี​นัก​

สมกับ​เป็น​การกระทำ​ของ​ผู้ฝึก​กระบี่​ ฟ้าดิน​ไร้​พันธนาการ​อย่าง​แท้จริง​

และ​ในขณะที่​เฉิน​ผิง​อัน​เตรียม​จะออก​ไป​จาก​ศาลา​นั้น​เอง​ ลู่​เฉิน​ก็​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “ได้ยิน​มาว่าที่​สำนัก​กระบี่​ชิงผิง​ของ​พวก​เจ้ามีภูเขา​โฉว​โหม​วอ​ยู่​ด้วย​หรือ​”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ “ภูเขา​เซียน​ตู​คือ​ภูเขา​หลัก​ ภูเขา​โฉว​โหม​ว​และ​ภูเขา​อวิ๋นเจิง​คือ​ภูเขา​รอง​ เป็น​สถานการณ์​ของ​สามภูเขา​ ใน​เมื่อ​ชุยตง​ซาน​คือ​เจ้าสำนัก​ของ​สำนัก​เบื้องล่าง​ก็​ย่อม​ต้อง​มีแผนการ​เป็น​ของ​ตัวเอง​”

ตาม​คำกล่าว​ของ​ชุยตง​ซาน​ ใน​เมื่อ​ฟ้ากำลังจะ​เปลี่ยนสี​ก็​ควรจะ​เตรียมการ​ล่วงหน้า​ (ภาษาจีน​คือ​เว่ยอวี่​โฉว​โหม​ว)​ ควร​ต้อง​มีการวางแผน​แต่​เนิ่นๆ​

ลู่​เฉิน​พยักหน้า​รับ​ “ก่อนหน้านี้​ไม่ได้​ไป​เยือน​ใบ​ถงทวีป​ ผิน​เต้า​แค่​เห็น​ไกลๆ​ จาก​บน​มหาสมุทร​ ตั้ง​ป้าย​ศิลา​บน​ยอดเขา​เป็น​คำ​ว่า​ ‘อู๋​เฉาปู้​ชู’ (หาก​คน​อย่าง​พวกเรา​ไม่ออกแรง​ ถ้าอย่างนั้น​ชาวบ้าน​จะทำ​อย่างไร​) และ​ ‘เทียน​ตี้จื่อ​ชี่’ (ปราณ​ม่วง​ใน​ฟ้าดิน​) ลายมือ​บน​ป้าย​ แค่​มอง​ก็​รู้​ว่า​เป็น​ลายมือ​ของ​ชุยตง​ซาน​ แม้รูปลักษณ์ภายนอก​จะไม่เหมือน​ลายมือ​ของ​ซิ่ว​หู่​อีกแล้ว​ แต่กลับ​รักษา​ความเหมือน​ทาง​จิตวิญญาณ​เอาไว้​ได้​หลาย​ส่วน​ หลุดพ้น​จาก​รูปแบบ​ตายตัว​ ตาม​คำกล่าว​ของ​บน​ภูเขา​ นี่​ก็​คือ​คราบ​ร่าง​เซียน​อย่างหนึ่ง​แล้ว​”

ลู่​เฉิน​หันหน้า​มายิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “ผิน​เต้า​อยู่​ที่นี่​ต้อง​ขอ​อวยพร​ล่วงหน้า​ให้​เฉาฉิงหล่า​งลูกศิษย์​ผู้​เป็นที่​ภาคภูมิใจ​ของ​เจ้าปิด​ด่าน​ได้​สำเร็จ​ สร้าง​โอสถ​ได้​ระหว่าง​ขั้น​ที่หนึ่ง​กับ​ขั้น​ที่สอง​ นี่​ดีมาก​แล้ว​ ไม่ต้อง​ฉาย​ประกาย​เฉียบคม​มากเกินไป​ ทั้ง​ยัง​รักษา​ความเป็นไปได้​ไว้​ได้​อีก​นับไม่ถ้วน​”

เฉิน​ผิง​อัน​โล่งอก​ พยักหน้า​เอ่ย​ว่า​ “ดีมาก​จริงๆ​”

เล่าลือ​กัน​ว่า​ขั้น​หนึ่ง​ของ​การ​สร้าง​โอสถ​คือ​คุณสมบัติ​ของ​บิน​ทะยาน​ที่​ได้รับ​การ​ยอมรับ​โดย​ทั่วกัน​ มีน้อย​ยิ่งกว่า​น้อย​ ขั้น​สอง​ก็​คือ​คุณสมบัติ​ของ​ห้า​ขอบเขต​บน​ แต่​โดยมาก​แล้ว​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​บน​ยอดเขา​ของ​ใต้​หล้า​ไพศาล​ใน​ทุกวันนี้​ ระดับ​ขั้น​ของ​โอสถ​ทอง​ใน​ช่วงแรก​ อันที่จริง​ก็​เป็น​แค่​ขั้น​สอง​เท่านั้น​

ลู่​เฉิน​ถาม “เกี่ยวกับ​ข้า​ ฉีจิ้งชุน​ ชุย​ฉาน​ และ​ยังมี​ชุยตง​ซาน​ พวกเขา​ต่าง​ก็​พูด​อะไร​บางอย่าง​กับ​เจ้าใช่หรือไม่​ ยกตัวอย่างเช่น​เตือน​เจ้าเรื่อง​การคบค้าสมาคม​กับ​ข้า​?”

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “อาจารย์​ฉีเอ่ย​แค่​ประโยค​เดียว​ว่า​ ‘วิญญูชน​สามารถ​รังแก​ได้​ด้วย​วิธีการ​ที่​สมเหตุสมผล​’ ไม่ควร​จงใจเล่นงาน​เจ้า แค่​เผชิญหน้า​กับ​เรื่อง​นั้น​เท่านั้น​”

ความนัย​ใน​ประโยค​นี้​ก็​คือ​ เจ้าลู่​เฉิน​ หรือ​ควรจะ​พูดว่า​เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงในเวลานั้น​ยัง​ไม่ถึงขั้น​ทำให้​อาจารย์​ฉีต้อง​จงใจเอ่ย​สั่งความ​อะไร​กับ​เด็กหนุ่ม​แห่ง​ตรอก​หนี​ผิง​ในเวลานั้น​เป็นพิเศษ​

แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​ประโยค​นี้​ ความตั้งใจ​แรก​สุด​ที่​ใหญ่​ที่สุด​ หรือ​ควรจะ​พูดว่า​ความหวัง​ของ​อาจารย์​ฉี ก็​คือ​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​ที่​ได้​รู้​ความจริง​ในอนาคต​ อย่า​ได้​ดึงดัน​ อย่า​ได้​ละอายใจ​เกินไป​

ลู่​เฉิน​พึมพำ​ว่า​ “เรื่อง​ที่​ฉีจิ้งชุน​ยัง​ไม่ใส่ใจ แล้ว​เจ้าเฉิน​ผิง​อัน​จะคิดเล็กคิดน้อย​ไป​ทำไม​ หาก​ไม่เป็น​เพราะ​เจ้ามอง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงเป็น​ศัตรู​เช่นนี้​ ด้วย​การกระทำ​ที่​เจ้าทำ​ไป​ใน​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ไป​เยือน​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ มีที่ไหน​ที่จะ​ไม่ใช่แขก​ผู้สูงศักดิ์​บ้าง​? ถอย​ไป​พูด​หมื่น​ก้าว​ ขอ​แค่​เจ้าไม่ตั้งตัว​เป็น​ปรปักษ์​กับ​ศิษย์​พี่​อวี๋​ของ​ผิน​เต้า​ ต่อให้​แค่​สู้ตาย​กับ​เจียง​จ้าว​หมอ​และ​ผัง​ติ่ง​ให้​รู้แล้วรู้รอด​ วันหน้า​เจ้าไป​เยือน​ป๋า​ยอ​วี้​จิงก็​ยัง​ได้​เป็น​แขก​ผู้สูงศักดิ์​ของ​สี่นคร​สิบเอ็ด​หอ​เรือน​ที่​เหลือ​อยู่ดี​ไม่ใช่หรือ​ เจ้าไม่รู้​อะไร​ ไม่รู้​หรอ​กว่า​มีพี่สาว​เทพธิดา​กี่มากน้อย​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิงที่​สงสัย​ใคร่รู้​และ​เลื่อมใส​ใน​ตัว​ของ​ ‘อิ่น​กวาน​เฉินสือ​อี​’ ที่​อายุ​น้อยที่สุด​ใน​บรรดา​ผู้​ที่​ได้​แกะสลัก​ตัวอักษร​ลง​บน​หัว​กำแพงเมือง​ใน​ประวัติศาสตร์​หมื่น​ปี​”

เฉิน​ผิง​อัน​แสร้ง​ทำเป็น​ไม่ได้ยิน​ เพียงแค่​พูด​กับ​ตัวเอง​ว่า​ “ชุยตง​ซาน​เอ่ย​ประโยค​หนึ่ง​บอ​กว่า​ หาก​ในอนาคต​อาจารย์​จะตั้งตัว​เป็น​ศัตรู​กับ​ป๋า​ยอ​วี้​จิงจริงๆ​ ก็​จะต้อง​เรียนรู้​การ​เลือก​ผัก​จาก​พ่อครัว​เฒ่าด้วย​การ​เด็ด​ลู่​เฉิน​ออก​ก่อน​”

เห็นได้ชัด​ว่า​ความหมาย​ของ​ชุยตง​ซาน​เรียบง่าย​อย่างยิ่ง​ หาก​อาจารย์​อยาก​จะถามกระบี่​กับ​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ทาง​ที่​ดี​ที่สุด​ก็​ให้​อ้อม​ผ่าน​ลู่​เฉิน​ไป​ ตัด​แบ่ง​เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงออกจาก​ป๋า​ยอ​วี้​จิงทั้ง​แห่ง​ก่อน​

มีเพียง​ชิงลงมือ​เช่นนี้​ถึงจะมีโอกาส​คว้า​ชัยชนะ​ใน​ช่วง​ท้าย​

“ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​ คน​ที่​เป็น​กุญแจ​สำคัญ​ที่สุด​ผู้​นั้น​ เจ้าไม่อาจ​ละเลย​ไป​ได้​นะ​”

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “ฉีจิ้งชุน​คือ​วิญญูชน​ผู้​เที่ยงตรง​ ต่อให้​มรรค​กถา​ของ​เขา​จะสูงแค่​ไหน​ ความรู้​จะยิ่งใหญ่​แค่​ไหน​ ก็​ไม่มีทาง​กระทำการ​อย่าง​คน​ถ่อย​ได้​ แต่​ศิษย์​พี่​ชุย​ฉาน​ของ​พวก​เจ้ากลับ​ไม่เหมือนกัน​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​ถาม “นอกจาก​บรรพ​จารย์​สามลัทธิ​แล้ว​ ลู่​เฉิน​ก็​มีคน​ที่​กริ่งเกรง​ด้วย​หรือ​? ถึงขั้น​กริ่งเกรง​ว่า​คน​ผู้​นี้​เอ่ย​ประโยค​ใด​ไป​บ้าง​แล้วด้วย​?”

ลู่​เฉิน​พยักหน้า​รับ​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ “หาก​ชุย​ฉาน​ไม่แบ่ง​สมาธิไป​สนใจ​เรื่อง​ใน​ใต้​หล้า​ ให้​เขา​พุ่ง​เป้า​เล่นงาน​ใคร​บางคน​โดยเฉพาะ​ ถ้าอย่างนั้น​คน​ที่​เขา​จะเล่นงาน​นี้​ ต่อให้​เป็น​เจิ้งจวี​จงก็​ต้อง​เจอ​กับ​เรื่อง​ยากลำบาก​เหมือนกัน​ อย่าง​น้อย​ก็​ต้อง​เป็น​อุปสรรค​ขัดขวาง​กันและกัน​ เพราะ​ชุย​ฉาน​ทำ​อะไร​มัก​ใช้แนวทาง​ที่​ไม่ต่าง​จาก​การ​ปฏิบัติตัว​ของ​ผิน​เต้า​”

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​จน​ตาหยี​ สอง​มือ​กุม​หมัด​เขย่า​เบา​ๆ “ขอร้อง​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​โปรด​ไขข้อข้องใจ​ให้​ผิน​เต้า​ที​ ไม่อย่างนั้น​กลับ​ไป​ถึงป๋า​ยอ​วี้​จิงแล้ว​ ผิน​เต้า​ก็​คงจะ​ยัง​กิน​ไม่ได้​นอนไม่หลับ​อยู่​เหมือนเดิม​”

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “เจ้าเอง​ก็​เดา​ออก​แล้ว​ ไย​ต้อง​ให้​ข้า​เปลือง​น้ำลาย​พูด​ด้วย​”

“ชุย​ฉาน​อำมหิต​ยิ่งนัก​!”

ลู่​เฉิน​ลูบ​กวาน​ดอกบัว​เหนือศีรษะ​ “เฉิน​ผิง​อัน​ เจ้าด้อย​กว่า​ชุย​ฉาน​เยอะ​เลย​นะ​”

แผนการ​ของ​ชุย​ฉาน​ก็​คือ​หลังจากที่​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​นำพา​คน​ไป​เยือน​พื้นที่​ใจกลาง​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ได้​สำเร็จ​แล้ว​ ยกตัวอย่างเช่น​หลังจากที่​เฉิน​ผิง​อัน​ใช้กระบี่​ฟัน​เปิด​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ ก่อน​จะย้าย​ดวงจันทร์​เฮ่าไฉ่ไป​ไว้​ที่​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​

อยู่ดีไม่ว่าดี​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​พลัน​ร่วมมือ​กับ​หนิง​เหยา​ ฉีถิงจี้ สิงกวาน​หาว​ซู่ ลู่​จือ!​

ร่วมกัน​จัดการ​ลู่​เฉิน!​

บวก​กับ​กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​เล่ม​นั้น​ของ​ลู่​จือ​ พูดถึง​แค่​ศักยภาพ​ที่​แท้จริง​ใน​การ​โจมตี​ก็​สามารถ​มอง​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​คน​หนึ่ง​ได้​เลย​

ถ้าอย่างนั้น​ก็​เท่ากับ​มีเฉิน​ผิง​อัน​บวก​กับ​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​อีก​สี่คน​ ทั้ง​ยัง​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ด้วย​!

อยู่​นอก​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​และ​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ล้อม​สังหาร​ลู่​เฉิน​ที่​เป็น​ขอบเขต​สิบ​สี่คน​หนึ่ง​

ลู่​เฉิน​พูด​อย่าง​สะท้อนใจ​ “ชุย​ฉาน​เล่า​แผนการ​นี้​ให้​เจ้าฟังใน​ครั้งสุดท้าย​ที่​เขา​ปราก​ฎตัว​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​กระมัง​? อีก​ทั้ง​ด้วย​ขอบเขต​ของ​เจ้าในเวลานั้น​ก็​ยาก​มาก​ที่จะ​ปิด​ฟ้าข้าม​มหาสมุทร​ ชุย​ฉาน​ต้อง​ใช้เวท​ลับ​เฉพาะ​บางอย่าง​ล่วงหน้า​ก่อน​แล้ว​ พูด​เรื่อง​นี้​ให้​เจ้าฟังก่อน​ จากนั้น​ก็​ให้​เจ้าลืม​มัน​ไป​ สุดท้าย​ยัง​สามารถ​ทำให้​เจ้าจำเรื่อง​นี้​ได้​ใน​ช่วงเวลา​ใด​เวลา​หนึ่ง​ ถึงจะทำให้​เจ้าแตกหัก​กับ​ข้า​ใน​ชั่วพริบตา​ ข้าม​แม่น้ำ​รื้อ​สะพาน​ เกิด​ใจสังหาร​”

ต่อให้​ไม่พูดถึง​เฉิน​ผิง​อัน​ที่​ได้​ขอบเขต​กลับคืน​ พูดถึง​แค่​การ​ร่วมมือ​กัน​ล้อม​สังหาร​ของ​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​สี่คน​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​เซียน​กระบี่​ผู้อาวุโส​ท่าน​หนึ่ง​ที่​เคย​แกะสลัก​ตัวอักษร​ลง​บน​หัว​กำแพงเมือง​ และ​ยังมี​ผู้​ครอง​ใต้​หล้า​แห่ง​ใหม่​…บวก​กับ​กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​ ‘เป่ย​โต้​ว’​ เล่ม​นั้น​ของ​ลู่​จือ​ สิงกวาน​หาว​ซู่ที่​ไม่สน​ความเป็นความตาย​ยาม​ถามกระบี่​กับ​คนอื่น​ ทั้ง​ยัง​เป็น​ช่วงเวลา​ที่​สำคัญ​บางอย่าง​ กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​สอง​เล่ม​นั้น​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ไม่แน่​ว่า​อาจจะ​เป็นตัว​ที่​ตัดสิน​ผล​แพ้ชนะ​ได้​

ใคร​เจอ​แล้ว​รับได้​ไหว​บ้าง​?

เฉิน​ผิง​อัน​เงียบงัน​ไม่ตอบ​ ไม่ปฏิเสธ​ อันที่จริง​ก็​คือ​การ​ยอมรับ​อย่างหนึ่ง​แล้ว​

ส่วน​ข้อ​ที่ว่า​ทำไม​เฉิน​ผิง​อัน​ถึงตัดสินใจ​ไม่ทำ​เรื่อง​นี้​ นั่น​ก็​เพราะ​เขา​เคย​ทำการ​หยั่งเชิง​ไป​ครั้งหนึ่ง​ สุดท้าย​เฉิน​ผิง​อัน​ได้​ผลลัพธ์​ที่​เหนือ​จาก​การคาดการณ์​

ตอนนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​ประโยค​หนึ่ง​ว่า​

การ​เดินทาง​มาเยือน​พื้นที่​ใจกลาง​ของ​เปลี่ยว​ร้าง​ครั้งนี้​ ผู้​ปกป้อง​มรรคา​ที่​เดินทาง​ร่วมกับ​อิ่น​กวาน​เฉิน​ผิง​อัน​ คือ​ลู่​เฉิน​แห่ง​ไพศาล​

และ​ลู่​เฉิน​ก็​มีสีหน้า​จริงจัง​เคร่งขรึม​อย่าง​ที่​ไม่เคย​เป็นมา​ก่อน​ ตอบรับ​ด้วย​ประโยค​หนึ่ง​อย่าง​จริงใจ​ว่า​

ลู่​เฉิน​แห่ง​ไพศาล​ เป็นเกียรติ​ที่​ได้​เดินทาง​ร่วมกัน​

นาที​นั้น​เฉิน​ผิง​อัน​มั่นใจ​อย่าง​ถึงที่สุด​ว่า​ลู่​เฉิน​ไม่ได้​มีการเสแสร้ง​ใดๆ​ คน​ผู้​หนึ่ง​ที่​เป็น​เจ้าลัทธิ​สามของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิงมาหลาย​พันปี​ ยอมรับ​ใน​สถานะ​คน​ของ​ ‘ไพศาล​’ ของ​ตัวเอง​อย่าง​จริงใจ​ ยินดี​มอง​ใต้​หล้า​ไพศาล​เป็น​บ้านเกิด​ที่​แท้จริง​ของ​ตัวเอง​

ลู่​เฉิน​เหลือบมอง​เฉิน​ผิง​อัน​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!