กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 944

สรุปบท บทที่ 944.3 ผลักดันสิ่งเก่าแนะนำสิ่งใหม่: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

ตอน บทที่ 944.3 ผลักดันสิ่งเก่าแนะนำสิ่งใหม่ จาก กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 944.3 ผลักดันสิ่งเก่าแนะนำสิ่งใหม่ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

หมี่​อวี้​เอา​สอง​มือ​ไพล่หลัง​ ยิ้ม​ตาหยี​ “หลักการ​เหตุผล​ข้อ​นี้​ ข้า​รู้สึก​ว่า​ต่อให้​เป็น​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​ก็​ยัง​พูด​ออกมา​ไม่ได้​”

หมี่​ลี่​น้อย​หัวเราะ​หึหึ​ “เผย​เฉียน​มักจะ​บอ​กว่า​ข้า​คือ​ตัว​ขี้​ประจบ​ เซียน​กระบี่​ใหญ่​หมี่​ท่าน​เลียนแบบ​ข้า​ทำไม​กัน​”

หมี่​อวี้​ย่อม​รู้​อยู่แล้ว​ว่า​หลาย​วัน​มานี้​หมี่​ลี่​น้อย​จะต้อง​รอคอย​อยู่​ข้างนอก​ตลอดเวลา​แน่นอน​

เพราะ​หวัง​ให้​หมี่​อวี้​ได้​เห็น​ว่า​มีคน​รอคอย​เขา​อยู่​เมื่อ​เปิด​ประตู​ออกมา​

บน​ภูเขา​ของ​ใต้​หล้า​ไพศาล​ นี่​ไม่ได้​มีให้​เห็น​บ่อย​นัก​

บ้านเกิด​ที่​ผู้ฝึก​กระบี่​ตาย​ไป​ก็​ไร้​สุสาน​ให้​ฝังศพ​แห่ง​นั้น​ก็​ยิ่ง​เป็น​เช่นนี้​

อีก​ทั้ง​หมี่​ลี่​น้อย​ยัง​เป็น​ข้อยกเว้น​อีก​อย่าง​ นั่น​คือ​นาง​ไม่ได้​รอคอย​เซียน​กระบี่​ใหญ่​หมี่​ให้​ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​

นาง​แค่​รอ​คอ​ยอ​วี๋​หมี่​ เรียบง่าย​เพียง​แค่นี้​เท่านั้น​

หมี่​อวี้​ทรุดตัว​ลงนั่ง​ยอง​ด้วย​สีหน้า​อ่อนโยน​ เอ่ย​เสียง​เบา​ว่า​ “หมี่​ลี่​น้อย​ ขอบคุณ​นะ​”

หมี่​ลี่​น้อย​ยิ้ม​กว้าง​ “ขอบคุณ​ข้า​ทำไม​กัน​ เซียน​กระบี่​ใหญ่​หมี่​เกรงใจ​จน​เกือบจะ​ทำให้​ข้า​โกรธ​แล้ว​นะ​”

แม่นาง​น้อย​ชุด​ดำ​ตีหน้า​เคร่ง​ โคลง​ศีรษะ​ไปมา​ “หาก​ข้า​โกรธ​ขึ้น​มาก​็ดุร้าย​มาก​เลย​นะ​ ขนาด​เจ้าขุนเขา​คนดี​ยัง​กลัว​เลย​!”

หมี่​ลี่​น้อย​กด​เสียง​ลง​ต่ำ​เอ่ย​ว่า​ “อวี๋​หมี่​ อันที่จริง​ข้า​ก็​ต้อง​ขอบคุณ​ท่าน​เหมือนกัน​”

“ทำไม​ล่ะ​?”

“ถ้าข้า​บอก​ไป​แล้ว​ท่าน​ต้อง​เก็บ​ไว้​เป็นความลับ​นะ​”

“อืม​ รับรอง​ว่า​แม้แต่​เจ้าขุนเขา​คนดี​ก็​จะไม่เล่า​ให้​ฟัง”

“เมื่อก่อน​อยู่​ที่​บ้าน​ ข้า​มักจะ​ไป​เป็น​เทพ​ทวารบาล​ให้​เผย​เฉียน​เป็นประจำ​ เฮ้อ​ ทุกครั้งที่​เผย​เฉียน​เห็น​ข้า​ นาง​ไม่ดีใจ​เหมือน​ท่าน​หรอก​นะ​”

พูด​มาถึงตรงนี้​ หมี่​ลี่​น้อย​ก็​เชิด​ศีรษะ​ขึ้น​สูง “ห้าม​เข้าใจผิด​นะ​ ข้า​ไม่ได้​บอ​กว่า​เผย​เฉียน​ไม่ดี​ เผย​เฉียน​ดีมาก​เลย​ล่ะ​ ดี​สุด​ๆ ไป​เลย​ หาก​จะให้​ข้า​ร่าย​ข้อดี​ของ​เผย​เฉียน​ออกมา​ทีละ​ข้อ​ เฮอะ​ ข้า​ไม่ได้​ขี้โม้​จริงๆ​ นะ​ พูด​ไป​จนถึง​เรือน​พัก​ที่​ยอดเขา​มี่เซวี่ย​ข้า​ก็​ยัง​พูด​ไม่จบ​เลย​ มีเพียง​เรื่อง​เล็กน้อย​เท่า​เล็บมือ​นี้​เท่านั้น​ที่​นาง​ไม่ดี​เท่า​ท่าน​อวี๋​หมี่​ ฮ่า วันหน้า​ทุกคน​ต่าง​ก็​ต้อง​เรียก​ท่าน​ว่า​เซียน​กระบี่​ใหญ่​หมี่​เหมือนกับ​ข้า​แล้ว​”

หมี่​อวี้​อึ้ง​งัน​ไร้​คำพูด​

มารดา​มัน​เถอะ​ แม้แต่​บุรุษ​เสเพล​ที่​คลุกคลี​อยู่​ใน​หมู่​มวล​บุปผา​อย่าง​หมี่​อวี้​ นา​ทีนี้​ก็​เริ่ม​นึก​อยาก​จะตัดสินใจ​รีบ​ไปหา​แม่นาง​ดี​ๆ สัก​คน​ แต่ง​นาง​มาเป็น​ภรรยา​ จากนั้น​ให้กำเนิด​บุตรสาว​น่ารัก​ๆ อย่าง​หมี่​ลี่​น้อย​สัก​คน​แล้ว​

ยอดเขา​มี่เซวี่ย​ เรือน​หลัง​หนึ่ง​

เด็กหนุ่ม​ชุด​ขาว​นั่ง​อยู่​บน​ราว​รั้ว​คล้าย​เมฆขาว​ก้อน​หนึ่ง​ที่​หยุด​ลอย​นิ่ง​

ใต้​ชายคา​ของ​หอ​เรือน​สูงมีแผ่น​ไม้แขวน​เรียงราย​กัน​เป็นแถว​เหมือน​กระดิ่ง​ลม​ เขียน​ชื่อ​ท่วงทำนอง​โคลง​ประกอบ​ดนตรี​ (สือ​ไผ​) ไว้ชื่อ​แล้ว​ชื่อ​เล่า​ เมื่อ​ลม​พัดผ่าน​ แผ่น​ไม้ก็​จะกระทบ​กัน​เบา​ๆ

มีฟ้าสารท​ งามเย้ายวน​ คว้า​ชัย​ ขุนเขา​เริ่ม​เขียวขจี​ ลำนำ​มังกร​น้ำ​ ดวงตา​เปี่ยม​เสน่ห์​ ยาม​ราตรี​ ลำนำ​ทำนอง​วารี​ ทำนาย​ อายุ​ยืนยาว​ หิมะ​กอง​เต็ม​ภูเขา​ ใบ​บัว​ปู​แผ่​ทั่ว​ผืนน้ำ​ วสันต์​มาจาก​ฟากฟ้า​ เข้ามา​เยือน​ความฝัน​ คลื่น​ลม​สงบ​ เรื่องราว​ดี​ๆ ใกล้​เข้ามา​…

เรือข้ามฟาก​ตระกูล​เซียน​ลำ​หนึ่ง​ที่​เป็น​ของ​เชื้อพระวงศ์​แคว้น​เมิ่งเหลียง​ค่อยๆ​ ลอย​ขึ้น​กลางอากาศ​ช้าๆ ใน​ประวัติศาสตร์​พรรค​หวง​เหลียง​มีท่าเรือ​จวน​เซียน​ส่วนตัว​อยู่​แห่ง​หนึ่ง​ หรือ​ก็​คือ​อดีต​ของ​ท่าเรือ​เซียน​ฉงของ​ภูเขา​เมฆาเรือง​ใน​ทุกวันนี้​ ตอนที่​ภูเขา​เมฆาเรือง​ยัง​ไม่ได้​เปลี่ยน​ชื่อ​ท่าเรือ​เก่า​ อันที่จริง​ท่าเรือ​มีชื่อว่า​โถว​จู้ ปี​นั้น​เมื่อ​ควัน​ธูป​ของ​พรรค​หวง​เหลียง​เสื่อมถอย​ลง​ อันดับ​แรก​ก็​เป็น​ท่าเรือ​โถว​จู้ที่​เนื่องจาก​รายรับ​ไม่พอ​รายจ่าย​ จึงค่อยๆ​ ถูก​ทิ้ง​ร้าง​ ภายหลัง​จึงให้​ภูเขา​เมฆาเรือง​เช่า หลัง​จากนั้นมา​อีก​ก็​ถูก​ภูเขา​เมฆาเรือง​จ่าย​เงิน​ซื้อ​ไป​ ทุกวันนี้​หาก​คิด​จะซื้อ​ท่าเรือ​โถว​จู้มาจาก​ภูเขา​เมฆาเรือง​ก็​เป็นเรื่อง​เพ้อฝัน​ของ​คนปัญญาอ่อน​ไป​เสียแล้ว​ ดังนั้น​พรรค​หวง​เหลียง​จึงคิด​อยาก​จะบุกเบิก​ท่าเรือ​ใหม่​แห่ง​หนึ่ง​มาโดยตลอด​ ทว่า​นี่​เป็นเรื่อง​ยาก​เกินไป​ ใน​แคว้น​แห่ง​หนึ่ง​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ใน​อาณาเขต​ของ​แคว้น​เมิ่งเหลียง​นี้​ ไม่ค่อย​มีความเป็นไปได้​ที่จะ​ได้​ครอบครอง​ท่าเรือ​ตระกูล​เซียน​ขนาดใหญ่​ยักษ์​ไว้​พร้อมกัน​ เพราะ​ง่าย​ที่จะ​ทำให้​ภูเขา​เมฆาเรือง​และ​พรรค​หวง​เหลียง​เกิด​การช่วงชิง​กัน​บน​ภูเขา​

ดังนั้น​ก่อนหน้านี้​ฮ่องเต้​เอง​ก็​ลำบากใจ​อย่าง​มาก​ จะหน้า​มือ​หลัง​มือ​ล้วน​เป็น​เนื้อ​ ถึงอย่างไร​ตน​ก็​ไม่ควร​ลำเอียง​เข้าข้าง​พรรค​หวง​เหลียง​มากเกินไป​ แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​ภูเขา​เมฆาเรือง​ยัง​เป็น​ภูเขา​ตัวสำรอง​สำนัก​อักษร​จงด้วย​ ก็​เหมือน​ความ​ลำบากใจ​ของ​เจ้าประมุข​เกา​เจิ่น​ก่อนหน้านี้​ ที่​แม้ใน​ใจจะรู้​ชัดเจน​ดี​ แต่​ก็ได้​แค่​แกล้ง​โง่เท่านั้น​

ทว่า​วันนี้​ก่อน​จะลง​จาก​ภูเขา​ ฮ่องเต้​หนุ่ม​กลับ​ไม่รู้สึก​ลำบากใจ​แม้แต่น้อย​ เขา​รับปาก​เกา​เจิ่น​เรื่อง​หนึ่ง​ว่า​จะเอา​ที่นา​ส่วนหนึ่ง​นอก​เมืองหลวง​แบ่ง​ให้​พรรค​หวง​เหลียง​สร้าง​ท่าเรือ​ตระกูล​เซียน​แห่ง​หนึ่ง​ โดย​ในนาม​จะบอ​กว่า​ ‘ให้เช่า​’ ถึงอย่างไร​หาก​อิง​ตาม​กฎ​ของ​ศาล​บุ๋น​ ที่นา​ที่ว่า​นี้​ก็​แค่​มีข้อกำหนด​และ​ข้อ​พิถีพิถัน​ใน​ด้าน​แนวทาง​ว่า​จำเป็นต้อง​อยู่​ทาง​ ‘ทิศตะวันออก​’ ของ​เมืองหลวง​เท่านั้น​ ส่วน​ที่นา​ที่ว่า​นี้​จะใหญ่​หรือ​เล็ก​ ขอ​แค่​รักษา​พื้นที่​พัน​ไร่​ไว้​ได้​ก็​สามารถ​ยืดหยุ่น​กัน​ได้​ แต่​เกา​เจิ่น​กลับ​ไม่ตอบ​ตกลง​กับ​เรื่อง​นี้​ บอ​กว่า​การกระทำ​นี้​จะชวน​ให้​คน​อิจฉา​และ​รังเกียจ​มากเกินไป​ เขา​ยิ้ม​เอ่ย​ประโยค​หนึ่ง​ว่า​ หาก​ผู้คุม​กฎ​ผู้เฒ่า​ของ​ภูเขา​เมฆาเรือง​ที่มา​เข้าร่วม​งานพิธี​รู้​เข้า​ จะไม่ถลก​แขน​เสื้อ​เดิน​จากไป​ทันที​เลย​หรือ​? ด้วยเหตุนี้​เกา​เจิ่น​จึงทำ​เพียงแค่​ขอร้อง​เหมย​ซาน​จวิน​ให้​แบ่ง​อาณาเขต​แห่ง​หนึ่ง​ของ​ขุนเขา​ประจิม​ที่​พอ​จะมีปราณ​วิญญาณ​สมบูรณ์​ให้​พวกเขา​ใช้บุกเบิก​เป็น​ท่าเรือ​

ใน​ห้อง​แห่ง​หนึ่ง​ของ​เรือข้ามฟาก​ การ​ตกแต่ง​ธรรมดา​เรียบง่าย​ ฮ่องเต้​หนุ่ม​กำลัง​อ่าน​ฎีกา​ บางครั้ง​ก็​ด่า​ขำ​ๆ ไป​สอง​สามประโยค​

น่า​ห​ลัน​อวี้จือ​พูด​สัพยอก​ว่า​ “หากว่า​เจ้าประมุข​เกา​อยู่​ใน​วงการ​ขุนนาง​ ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​น่าจะ​ได้​เป็น​เจ้ากรม​ของ​หก​กรม​แน่​”

เหมย​ซาน​จวิน​ถลึงตา​ใส่นาง​ ฝ่าบาท​กำลัง​จัดการ​กิจธุระ​ เจ้ามาขัดจังหวะ​อะไร​

หวง​ชงวาง​พู่​กันลง​ นวด​คลึง​ข้อมือ​ เหลือบตา​มอง​ฎีกา​ที่​กอง​กัน​เป็น​ภูเขา​ลูก​เล็ก​ซึ่งรอ​ให้​เขา​จัดการ​แวบ​หนึ่ง​ แล้วจึง​มอง​ภูเขา​ลูก​ที่สูง​กว่า​ ครั้น​จึงส่ายหน้า​อย่าง​อ่อนใจ​ ทั้ง​เป็นงาน​ที่​ต้อง​ใช้พลัง​สมอง​ แล้ว​ยัง​ต้อง​ใช้พละกำลัง​ด้วย​

น่า​ห​ลัน​อวี้จือ​ยิ้ม​ถาม “ฝ่าบาท​ ได้​เจอ​กับ​อิ่น​กวาน​ผู้​นั้น​แล้ว​รู้สึก​เป็น​อย่างไร​?”

หวง​ชงยิ้ม​บาง​ๆ “ความรู้สึก​ค่อนข้าง​ขัดแย้ง​กันเอง​ ยาม​ที่​อาจารย์​เฉิน​นั่ง​ตัวตรง​อย่าง​สำรวม​พูดคุย​กับ​คนอื่น​อย่าง​จริงจัง​จะรู้สึก​เหมือน​ฤดูร้อน​แผดเผา​ที่​มิอาจ​หลบเลี่ยง​ได้​ แต่​เมื่อ​อาจารย์​เฉิน​คุย​เล่น​ด้วย​กลับ​เหมือน​อาบ​ไล้​อยู่​ท่ามกลาง​ลม​วสันต์​ รู้สึก​ผ่อนคลาย​สบายอารมณ์​อย่าง​มาก​”

น่า​ห​ลัน​อวี้จือ​กล่าว​ “ข้า​กลับ​มีความรู้สึก​อย่าง​เดียว​”

หวง​ชงถามอย่าง​ประหลาดใจ​ “ลอง​ว่า​มาสิ”

น่า​ห​ลัน​อวี้จือ​ตอบ​ “ดูเหมือนว่า​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​จะกลัว​ข้า​อยู่​บ้าง​?”

เหมย​ซาน​จวิน​เอ่ย​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​ “เจ้าก็​ช่างพูด​ออกมา​ได้​นะ​”

หวง​ชงหัวเราะ​ฮ่าๆ เสียงดัง​ “เรื่อง​นี้​ข้า​ยืน​อยู่​ฝ่าย​เดียว​กับ​เหมย​ซาน​จวิน​ อย่าง​อาจารย์​เฉิน​นั่น​ต้อง​เรียก​ว่า​ปราณ​เที่ยงธรรม​ขับไล่​กลิ่น​เครื่อง​ประทิน​โฉม”

เหมย​ซาน​จวิน​พูด​อย่าง​ตรงไปตรงมา​ว่า​ “ฝ่าบาท​ จะต้อง​ให้​กอง​ตรวจสอบ​ของ​กรม​อาญา​ไป​ตรวจสอบ​ความเป็นมา​ของ​ลู่​ฝูแห่ง​อาราม​ชิวหา​ว​ผู้​นั้น​หรือไม่​? หาก​ผู้ฝึก​ตน​ผู้​ถวายงาน​ของ​กรม​อาญา​ไม่สะดวก​จะออกหน้า​ก็​สามารถ​ให้​สายลับ​ของ​จวน​ซาน​จวิน​ข้า​ลงมือ​แทน​ได้​ ข้า​มักจะ​รู้สึก​ว่า​ไอ้​หมอ​นี่​ทำ​อะไร​เหลวไหล​ ไม่เห​มือ​น.​..”

น่า​ห​ลัน​อวี้จือ​เห็น​ว่า​เหมย​ซาน​จวิน​พยายาม​คิด​หา​ถ้อยคำ​เหมาะ​ๆ ก็​พูด​ต่อ​คำ​ว่า​ “ไม่เหมือน​คน​เป็นการเป็นงาน​”

เหมย​ซาน​จวิน​พยักหน้า​รับ​ “แต่​ก็​ไม่เหมือน​จะเป็น​คน​ชั่วร้าย​อะไร​ เพราะ​ถึงอย่างไร​ก็​ติดตาม​เฉินอิ่น​กวาน​ขึ้น​เขา​มาร่วม​งานพิธี​”

หวง​ชงส่ายหน้า​ เอนหลัง​พิง​พนักเก้าอี้​ ยืด​แขน​สอง​ข้างออก​ แล้วก็​เพราะ​มีเหมย​ซาน​จวิน​อยู่​ด้วย​ หาก​มีแค่​เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​แม่น้ำ​วั่ง​เย​ว่​ ฮ่องเต้​หนุ่ม​ก็​นึก​อยาก​จะยก​สอง​ขา​ขึ้น​มาวาง​พาด​บน​โต๊ะ​เลย​ด้วยซ้ำ​ เขา​โบกมือ​เอ่ย​ว่า​ “ไม่จำเป็นต้อง​สร้าง​ปัญหา​แทรกซ้อน​ ก็​แค่​คน​ที่​เจอกัน​บน​ภูเขา​เท่านั้น​ เดินสวน​ไหล่​กัน​ผ่าน​ไป​ก็​ยาก​ที่จะ​ได้​พบ​เจอกัน​อีกครั้ง​แล้ว​”

น่า​ห​ลัน​อวี้จือ​อดไม่ไหว​ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “เหตุใด​เซียน​กระบี่​เฉิน​ถึงมีสหาย​ไม่เป็น​โล้​ไม่เป็น​พาย​แบบนี้​ได้​นะ​?”

น่าสนใจ​ก็​น่าสนใจ​อยู่​หรอก​ ไม่ว่า​อะไร​ก็​กล้า​พูด​ คุยโว​ไม่ต้อง​เปลืองเงิน​

หวง​ชงคิด​ก่อน​จะเอ่ย​ว่า​ “ข้า​มัก​รู้สึก​ว่า​พวกเขา​ไม่เหมือน​สหาย​กัน​ แต่​นี่​ก็​เป็น​แค่​ความรู้สึก​ของ​ข้า​เท่านั้น​”

จู่ๆ ฮ่องเต้​หนุ่ม​ก็​เอ่ย​อย่าง​หงุดหงิด​ว่า​ “หาก​รู้​อย่างนี้​แต่แรก​ ตอน​ที่อยู่​บน​ภูเขา​โหล​ว​ซาน​ก็​น่าจะ​ให้​อาจารย์​เฉิน​ช่วย​เขียน​ ‘รูปแบบ​หนังสือ​’ ที่​เป็น​ถ้อยคำ​มงคล​อวยพร​ให้​กับ​วัน​เริ่ม​ฤดูใบไม้ผลิ​ของ​แคว้น​เมิ่งเหลียง​ใน​ปี​นี้​สักหน่อย​แล้ว​”

จักรพรรดิ​ของ​แต่ละ​แคว้น​ใน​ใต้​หล้า​ไพศาล​ต่าง​ก็​มีธรรมเนียม​ที่​ต้อง​หยิบ​พู่กัน​เขียน​ต้อนรับ​ฤดูใบไม้ผลิ​ ฮ่องเต้​จำเป็นต้อง​ช่วย​เฝ้าคืน​รอ​วัน​ปีใหม่​ให้​กับ​ใต้​หล้า​

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​ถาม “หาก​ผิน​เต้า​ต้องการ​ให้​เจ้าเล่นงาน​เฉิน​ผิง​อัน​ล่ะ​? ไม่ว่า​จะสำเร็จ​หรือไม่​ก็​จะมอบ​ความร่ำรวย​สูงศักดิ์​ใหญ่​เทียมฟ้า​ให้​กับ​เจ้า เป็น​อย่างไร​?”

หวง​ชงเพียงแค่​ส่ายหน้า​

ลู่​เฉิน​ถามอี​กว่า​ “ถ้าอย่างนั้น​ผิน​เต้า​ก็​จะเปลี่ยน​คำพูด​ใหม่​ สามารถ​ทำให้​ชาวบ้าน​ของ​แคว้น​เมิ่งเหลียง​มีชีวิต​อย่าง​สงบสุข​ได้​นาน​หลาย​ร้อย​ปี​ล่ะ​?”

หวง​ชงยังคง​ส่ายหน้า​

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​เอ่ย​ “ไม่ต้อง​เครียด​ขนาด​นี้​ ผิน​เต้า​แค่​พูด​ไป​อย่างนั้น​เอง​”

ร่าง​ของ​หวง​ชงยังคง​เกร็ง​แน่น​ โดย​ไม่ทัน​รู้ตัว​เหงื่อ​ก็​ไหล​เปียก​เต็ม​แผ่น​หลัง​แล้ว​

ลู่​เฉิน​เอ่ย​ว่า​ “คราวหน้า​เจ้าจงไปหา​เฉาหรง​ บอก​เขา​ไป​ว่า​ลู่​เฉิน​ผู้​เป็น​อาจารย์​มีคำสั่ง​ ให้​เขา​ดูแล​แคว้น​เมิ่งเหลียง​ให้​มาก​หน่อย​ กำหนด​เวลา​เป็น​สามร้อย​ปี​ก็แล้วกัน​”

หวง​ชงทำ​ท่าจะ​พูด​แต่​ก็​ไม่พูด​

ลู่​เฉิน​สอด​สอง​มือ​ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​เฉยเมย​ว่า​ “เจ้าแค่​ทำตาม​ไป​ก็​พอ​”

หวง​ชงพยักหน้า​ กุม​หมัด​คารวะ​ “ขอบพระคุณ​สำหรับ​คำสั่ง​นี้​ของ​เจ้าลัทธิ​ลู่​”

ลู่​เฉิน​ยื่นมือ​ออก​มาจาก​ชาย​แขน​เสื้อ​ ฟุบ​ตัว​ลง​บน​ราว​รั้ว​ “เด็กหนุ่ม​เดิน​ยิ้ม​ออก​นอก​ประตู​ไป​ สายลม​พัด​ดอกไม้​ร่วงโรย​พัน​ลี้​ วันนี้​คน​ชุด​เขียว​พก​กระบี่​กลับคืน​ ขุนเขา​สายน้ำ​เต็มไปด้วย​สายลม​วสันต์​ ไม่รู้​ว่า​ตอน​เป็น​หนุ่ม​ฉกรรจ์​และ​คน​วัยชรา​ จะเป็น​ทัศนียภาพ​แบบ​ใด​”

ใต้​หล้า​คือ​กรงขัง​ นก​ใน​กรง​ไร้​ที่​ให้​หลบหนี​

เด็กหนุ่ม​แห่ง​ขุนเขา​สายน้ำ​ของ​โลก​มนุษย์​ ผู้​ที่​จิต​บริสุทธิ์​ไร้​นิวรณ์​

คน​งามมอบ​ดาบ​จิน​ฉว่อ​ให้​ข้า​

กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ปราณ​กระบี่​ใกล้​

ผลัด​หลง​เข้าไป​ใน​จุด​ลึก​ของ​ดอกบัว​ อาราม​กวาน​เต๋า​ นักพรต​พิศ​มรรคา​

วาด​พื้นที่​เป็น​กรงขัง​ให้​ตัวเอง​ ตัว​ข้า​รับมือ​กับ​ตัว​ข้า​

ความรู้​ใน​ใต้​หล้า​มีแค่​เรือ​ราตรี​ที่​จัดการ​ได้​ยาก​ที่สุด​ ชีวิต​คน​คือ​การ​เดินทาง​ เดิน​ถือ​เทียน​ท่อง​ไป​ยาม​ราตรี​

ผู้ฝึก​กระบี่​ซ่อมแซม​แผ่นดิน​ที่​มีรูรั่ว​ โอรส​สวรรค์​เลือก​ขุนนาง​

มอง​ชีวิต​ของ​คนอื่น​เหมือน​เปิด​หน้า​หนังสือ​ ถ้าอย่างนั้น​เล่ม​ถัดไป​เล่า​?

ลู่​เฉิน​ควัก​กา​เหล้า​กา​หนึ่ง​ออกมา​ แกะ​ผนึก​ดิน​ออก​ จิบ​เหล้า​เซียน​หนึ่ง​อึก​ เงยหน้า​มอง​ไป​ทาง​ใบ​ถงทวีป​ที่อยู่​ทิศใต้​ แล้ว​มอง​ไป​ยัง​สถานที่​แห่ง​หนึ่ง​ที่อยู่​ใน​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ พึมพำ​กับ​ตัวเอง​ว่า​ “ชีวิต​แสน​สั้น​เลื่อนลอย​ พวกเรา​เหมือน​อยู่​ใน​ความฝัน​ ร่ำสุรา​เต็มคราบ​ ท่าน​จากลา​ ข้า​ก็​จากไป​ ไป​ล่ะ​ๆ”

สุดท้าย​ลู่​เฉิน​ก็​มอง​ไป​ยัง​ภาค​กลาง​ของ​ใบ​ถงทวีป​ที่อยู่​ทางทิศใต้​อีกครั้ง​ เรือน​กาย​จำแลง​เป็น​รุ้ง​ทะยาน​ไป​ยัง​ม่าน​ฟ้า เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงท่าน​นี้​ถึงกับ​ไม่ผ่าน​ประตู​ใหญ่​ที่​มีอริยะ​ปราชญ์​ของ​ลัทธิ​ขงจื๊อ​เฝ้าพิทักษ์​ก็​แหวก​ม่าน​ฟ้าของ​ใต้​หล้า​ไพศาล​ตรง​กลับ​ไป​ยัง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงใต้​หล้า​มืด​สลัว​ทันที​ จากนั้น​ก็​ไป​หยุด​อยู่​ตรงจุด​ที่สูง​ที่สุด​ สอดส่าย​สายตา​ไป​รอบด้าน​อยู่​พัก​หนึ่ง​ มองเห็น​ลาน​ประกอบ​พิธีกรรม​ทุกแห่ง​หรือไม่​ก็​เรือน​กาย​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​สิบ​สี่ทุกคน​ ไม่ว่า​จะหลบซ่อน​อำพราง​ตัว​ หรือ​เปิดเผย​ตัวตน​อย่าง​เต็มที่​ ลู่​เฉิน​ก็​ล้วน​มองเห็น​อยู่​ใน​สายตา​ เขา​ยืด​แขน​บิดขี้เกียจ​ พึมพำ​ว่า​ “เบิก​ใช้ความคิด​ใหม่​มาก่อน​ล่วงหน้า​ห้า​ร้อย​ปี​ พอ​ผ่าน​ไป​พันปี​ก็​รู้สึก​ว่า​มัน​เก่า​คร่ำครึ​ ฮ่า ช่างเป็น​การผลักดัน​สิ่งเก่า​แนะนำ​สิ่งใหม่​ที่​ดี​จริงๆ​”

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!