กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 957

สำหรับ​เถาถิงแล้ว​ ชิงเจีย​แห่ง​นคร​จิน​ชุ่ย​ก็​คือ​แม่นาง​น้อย​คน​หนึ่ง​ ถือเป็น​ผู้เยาว์​ใน​บ้าน​ตัวเอง​ครึ่งตัว​

เพราะ​หาก​สืบ​ย้อน​ไป​ยัง​ต้นกำเนิด​ นคร​จิน​ชุ่ย​ก็​มีสาย​สืบทอด​อยู่​สอง​สาย​ สาย​หนึ่ง​คล้ายคลึง​กับ​ระบบ​สืบทอด​ดั้งเดิม​ อีก​สาย​หนึ่ง​ถือเป็น​วิชา​ลับ​สาย​นอก​ และ​ผู้​ถ่ายทอด​มรรคา​บางคน​ของ​เถาถิงกับ​ชิงเจีย​ที่​สถานะ​ที่​ถูก​ปิดบัง​ไว้​ก็​มีเรื่องราว​ความเป็นมา​ ไม่ถือเป็น​คู่​บำเพ็ญ​เพียร​ แต่​หาก​จะพูดว่า​เป็น​ชู้รัก​ก็​ไม่น่าฟัง​อีก​

และ​ผู้​ถ่ายทอด​มรรคา​ของ​ชิงเจีย​ที่​ไม่ได้รับ​การ​บันทึก​ลง​ใน​ทำเนียบ​นคร​จิน​ชุ่ย​ก็​เคย​ทิ้ง​คำ​สั่งเสีย​ข้อ​หนึ่ง​ไว้​ให้​กับ​นคร​จิน​ชุ่ย​ บอ​กว่า​ใน​ดวงจันทร์​เฮ่าไฉ่มีบุคคล​เก่าแก่​ที่​หาก​อิง​ตามลำดับ​อาวุโส​แล้ว​ชิงเจีย​สามารถ​เรียก​ว่า​บรรพ​จารย์ไท่​ซ่างได้​อยู่​คน​หนึ่ง​ แต่​จะได้​พบ​กับ​บรรพ​จารย์​ท่าน​นี้​เมื่อไหร่​ เวลา​ใด​ กลับ​ไม่ได้​บอก​แน่ชัด​ แค่​อดทน​รอคอย​ไป​ก็​พอ​

เดิมที​ชิงเจีย​นึก​ว่า​นคร​จิน​ชุ่ย​จะสามารถ​มีภูเขา​ที่พึ่ง​ยิ่งใหญ่​โอฬาร​เพิ่ม​มาอีก​ลูก​หนึ่ง​ ผล​คือ​ดวงจันทร์​ดวง​หนึ่ง​ที่อยู่​บน​ฟ้าถูก​ผู้ฝึก​กระบี่​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ที่​เป็น​เหมือน​วิญญาณ​ตามติด​ไม่ยอม​ไป​ผุด​ไป​เกิด​กลุ่ม​นั้น​ร่วมมือ​กัน​เคลื่อนย้าย​ไป​ไว้​ที่​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​โดยตรง​ นี่​ทำให้​ชิงเจีย​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​หัวเราะ​หรือ​ร้องไห้​ดี​ แล้ว​จะให้​นาง​นับ​ญาติ​กลับ​เข้า​ตระกูล​อย่างไรเล่า​? เพียงแต่ว่า​นอกจาก​ความผิดหวัง​แล้ว​นาง​ก็​ยัง​รู้สึก​ผ่อนคลาย​ได้​หลาย​ส่วน​ เพราะ​ถึงอย่างไร​ใน​นคร​จิน​ชุ่ย​ก็​มีอาจารย์​เจิ้งที่​ตน​ยินดี​จะฝาก​ความเป็นความตาย​ไว้​ให้​เขา​ แค่นี้​ก็​เพียง​พอแล้ว​ หาก​จะให้​บรรพ​จารย์​ที่​อายุขัย​ใน​การ​ฝึก​ตน​ยาวนาน​ผู้​นั้น​หวน​กลับคืน​มายัง​โลก​มนุษย์​แล้ว​มาเยือน​นคร​จิน​ชุ่ย​ ไม่แน่​ว่า​นั่น​กลับ​จะกลายเป็น​หายนะ​อย่างหนึ่ง​ก็​เป็นได้​

ใน​สนามรบ​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ ราชวงศ์​ต้า​หลี​เคย​กว้าน​ริบ​ชุด​คลุม​อาคม​ที่​มาจาก​นคร​จิน​ชุ่ย​ไป​จน​หมด​ น่าเสียดาย​ที่​ไม่อาจ​จับตัว​ผู้ฝึก​ตน​ที่​เป็น​ผู้สืบทอด​ของ​นคร​จิน​ชุ่ย​ซึ่งเชี่ยวชาญ​วิชาการ​หล่อหลอม​มาได้​สำเร็จ​

เมื่อ​สามปีก่อน​ยวน​หู​เจ้านคร​ได้​จัด​พิธี​เฉลิมฉลอง​เลื่อนขั้น​เป็น​เซียน​เห​ริน​

นอก​จากห​ย่าง​จื่อ​ที่มา​เข้าร่วม​งานพิธี​ด้วยตัวเอง​แล้ว​ เถาถิงเอง​ก็​เคย​แอบ​ดอด​ออก​มาจาก​ภูเขาใหญ่​แสน​ลี้​เหมือนกัน​

ใน​เอกสารลับ​คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​ สำหรับ​เรื่อง​นี้​ต่าง​ก็​มีบันทึก​ระบุ​ไว้​อย่าง​ชัดเจน​

เห็นได้ชัด​ว่า​ใต้​หล้า​ไพศาล​กับ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ต่าง​ก็​อยู่​ใน​สถานการณ์​ที่​ลูกธนู​ขึ้นสาย​แล้ว​ สงคราม​ใหญ่​จึงสามารถ​ระเบิด​ขึ้น​ได้​ทุกเมื่อ​ และ​นคร​จิน​ชุ่ย​ที่​หาก​ไม่ใช่เพราะ​อาจารย์​เจิ้ง อันที่จริง​ก็​ไม่มีทางเลือก​ใดๆ​ ให้​พูดถึง​แล้ว​ หาก​ไม่เป็น​ฝ่าย​ไป​ขอ​พึ่งพา​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ ไม่อย่างนั้น​ก็​จะต้อง​ถูก​ใต้​หล้า​ไพศาล​โจมตี​ กลาย​ไป​เป็น​นักโทษ​ของ​อีก​ฝ่าย​

ชิงเจีย​สังเกตเห็น​ว่า​ดูเหมือน​อาจารย์​ท่าน​นี้​จะใจลอย​ไป​เล็กน้อย​ นาง​ไม่กล้า​รบกวน​การ​ปล่อย​ดวงจิต​ท่อง​ไป​หมื่น​ลี้​ของ​อีก​ฝ่าย​ เพียง​รอคอย​ประโยค​ถัดไป​อย่าง​ใจเย็น​

เพียง​ครู่เดียว​เจิ้งจวี​จงก็​คืนสติ​กลับมา​ เอ่ย​แค่​ประโยค​ที่​กระชับ​เรียบง่าย​กับ​นาง​ว่า​ “ก็​หนี​ไม่พ้น​ว่า​เปลี่ยน​ซิน​จวง​แห่ง​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​เป็น​ศาล​บุ๋น​แผ่นดิน​กลาง​ นคร​จิน​ชุ่ย​เป็น​ฝ่าย​ลดราคา​ลง​ครึ่งหนึ่ง​ ขอ​ไป​ตั้งรกราก​อยู่​ที่​ฝูเหยา​ทวีป​ แล้วก็​เลือก​ทวีป​อื่น​อีก​สัก​แห่ง​ ยกตัวอย่างเช่น​ธวัล​ทวีป​ เลือก​ให้​มาเป็นที่ตั้ง​ของ​สำนัก​เบื้องล่าง​”

เห็นได้ชัด​ว่า​ชิงเจีย​ไม่มีความเห็น​ต่าง​กับ​เรื่อง​นี้​ ไม่มีสีหน้า​ตกตะลึง​ใดๆ​ สำนัก​ของ​เปลี่ยว​ร้าง​ที่​สามารถ​ปรับตัว​เข้ากับ​ดิน​และ​น้ำ​ของ​ไพศาล​ได้​มีจำนวน​น้อย​นิด​ บังเอิญ​ที่​นคร​จิน​ชุ่ย​เป็นหนึ่ง​ใน​นั้น​พอดี​ นาง​ถามอย่าง​ระมัดระวัง​ว่า​ “จะย้าย​ทรัพย์สมบัติ​ทั้งหมด​ของ​นคร​จิน​ชุ่ย​อย่างไร​? แล้ว​ควรจะ​เลือก​ผู้ฝึก​ตน​อย่างไร​?”

เจิ้งจวี​จงกล่าว​ “ตาม​ข้า​ไป​ก็​พอ​”

คง​เป็น​เพราะ​กังวล​ว่า​อีก​ฝ่าย​จะฟังไม่เข้าใจ​ เจิ้งจวี​จงจึงยิ้ม​อธิบาย​ว่า​ “ตลอดทั้ง​นคร​จิน​ชุ่ย​ได้​ถูก​ข้า​หลอม​เป็น​วัตถุ​แห่ง​ชะตาชีวิต​แล้ว​ เพื่อ​ปิดบัง​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ ไม่ให้​เผย​พิรุธ​จน​เดือดร้อน​ไป​ถึงสหาย​ยวน​หู​ เรื่อง​นี้​ก็​ต้อง​เสียเวลา​ข้า​ไป​หลาย​วัน​เลย​จริงๆ​”

เมื่อครู่นี้​การ​ที่​เจิ้งจวี​จงแบ่ง​สมาธิไป​คิด​เรื่อง​อื่น​เพราะ​กำลัง​พิจารณา​เรื่อง​หนึ่ง​ที่​ไม่เกี่ยวข้อง​กับ​เรื่อง​ที่​ทั้งสอง​กำลัง​พูดคุย​กัน​อยู่เลย​

และ​เรื่อง​นี้​ เจิ้งจวี​จงก็​เคย​พูดคุย​กับ​ชุย​ฉาน​แค่​คนเดียว​เท่านั้น​

ทัศนคติ​ของ​ทั้งสองฝ่าย​ไม่ต่างกัน​สัก​เท่าไร​ สรรพ​ชีวิต​ที่​มีสติปัญญา​ ภายใต้​การนำ​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ ปู​ถนน​สร้าง​สะพาน​ เดิน​ไป​ยัง​นอก​ฟ้า คือ​ทางออก​เส้น​หนึ่ง​ที่​มองเห็น​ได้​ด้วย​ตาเปล่า​ จะต้อง​เอา​ดวงดาว​ของนอก​ฟ้าเหล่านั้น​มาเป็น​สะพาน​เชื่อมโยง​ หรือไม่​ก็​เป็น​ ‘แดน​บิน​ของ​สำนัก​’ ขอ​แค่​กระดาน​หมาก​ใหญ่​มาก​พอ​ ก็​สามารถ​หลุด​พ้นไป​จาก​การช่วงชิง​แพ้ชนะ​ ลดทอน​ความเสียหาย​ภายใน​ของ​ฟ้าดิน​ที่​กำหนด​ไว้​ บางที​เผ่า​มนุษย์​อาจ​เป็น​ผู้นำ​ ร่วมมือ​กับ​ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ต่างๆ​ อย่าง​จริงใจ​ เลือก​สถาน​ที่อยู่อาศัย​ตาม​ดวงดาว​ทั้งหลาย​นอก​ฟ้า ขยาย​เผ่าพันธุ์​ให้​เจริญเติบโต​…

แต่ลำพัง​เพียงแค่​ ‘ทาง​ไป​’ ใหม่เอี่ยม​ที่​ตอนนี้​ยัง​บอก​ได้​ยาก​เส้น​นี้​ หรือ​เส้นทาง​เชื่อมโยง​ที่​เป็น​ ‘ทาง​มา’ เส้น​เก่า​ ยังอยู่​ห่างไกล​เกิน​กว่า​จะพอ​มาก​นัก​ เพื่อ​ป้องกัน​เรื่อง​ไม่คาดฝัน​ก็​ยัง​ต้อง​ใช้เส้นทาง​บางอย่าง​ที่​ไม่เคย​มีมาก่อน​ ‘เดิน​ไป​ข้างใน​’ ให้​สรรพ​ชีวิต​ใน​ฟ้าดิน​มีวิธีการ​เอาชีวิต​รอด​อีก​รูปแบบ​หนึ่ง​ นั่น​ก็​คือ​ทาง​ถอย​ที่​จำเป็นต้อง​เตรียม​การวางแผน​ล่วงหน้า​แต่​เนิ่นๆ​

ซิ่ว​หู่​ชุย​ฉาน​ศึกษา​ความรู้​จนถึง​ขีดสุด​ สุดท้าย​สร้าง​คน​กระเบื้อง​ขึ้น​มา ก็​เพื่อ​พิสูจน์​ให้​เจิ้งจวี​จง และ​บรรพ​จารย์​สามลัทธิ​ได้​เห็น​เรื่อง​ไม่คาดฝัน​ที่​น่าหวาดกลัว​ของ​ ‘หนึ่ง​ใน​หมื่น​’ นี้​

ตัวอย่าง​ใน​ตอนนี้​ก็​วาง​อยู่​ตรงหน้า​ พวก​ท่าน​ทั้ง​สามคงจะ​ไม่แสร้ง​ทำเป็น​ว่า​มองไม่เห็น​หรอก​กระมัง​

เจิ้งจวี​จงมั่นใจ​เลย​ว่า​ หาก​เผ่า​มนุษย์​ทั้ง​ไม่อาจ​หา​ทางออก​ แล้วก็​ไม่อาจ​หาทาง​ถอย​ที่​สามารถ​รักษาตัว​รอด​อย่าง​สมบูรณ์​ได้​เจอ​ ถ้าอย่างนั้น​ไม่ช้าก็เร็ว​สักวันหนึ่ง​จะต้อง​ถูก​ตัวเอง​ทำลาย​ลง​เป็นแน่​

ก็​เหมือน​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ที่​เคย​อยู่​สูงเหนือ​ใคร​ที่​ทำลาย​สรรพ​ชีวิต​บน​พื้นดิน​ที่​ตัวเอง​สร้าง​ขึ้น​มาเอง​กับ​มือ​

ตัวเอง​ทุกคน​ที่​พวกเรา​ไม่กล้า​ยอมรับ​

ก็​คือ​สัตว์​ที่​ถูก​ขัง​ที่​ได้​แต่​เดิน​วน​ไป​วน​มาอยู่​ใน​กรง​ ก็​คือ​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ที่นั่ง​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​สูงของ​ตำหนัก​ใหญ่​

ผู้ฝึก​ตน​ผู้​บรรลุ​มรรคา​ส่วนใหญ่​ไม่รู้​สักนิด​เลย​ว่า​คำ​ว่า​ก่อ​สำนัก​ตั้งตัว​เป็น​บรรพ​จารย์​ รากฐาน​ของ​การ​ก่อ​สำนัก​นั้น​ต้อง​ทำ​อะไร​ ตั้งตัว​เป็น​บรรพ​จารย์​ไป​เพื่อ​อะไร​

ดวงตา​ไม่สูงพอ​ มือ​ก็​ย่อม​ต่ำ​ยิ่งกว่า​ ถูก​กำหนด​มาแล้ว​ว่า​ยื่นมือ​ไป​ไม่โดน​ ‘ผ้าม่าน​ผืน​นั้น​’

ใน​ศาลา​ คน​ผู้​หนึ่ง​คิดถึง​ความเป็นความตาย​ของ​นคร​จิน​ชุ่ย​

คน​ผู้​หนึ่ง​พิจารณา​ถึงความเป็นความตาย​ของ​สรรพ​ชีวิต​ทั้งหมด​

นี่​ก็​คงจะ​เป็น​ความต่าง​ของ​พวกเขา​

มิน่าเล่า​นักพรต​ซุน​แห่ง​อาราม​เสวียน​ตู​ถึงได้​ยิ้ม​เอ่ย​ประโยค​หนึ่ง​ว่า​ ความต่าง​ระหว่าง​คน​กับ​คน​ มาก​ยิ่งกว่า​ความต่าง​ระหว่าง​คน​กับ​หมู​

เจิ้งจวี​จงโบก​ชาย​แขน​เสื้อ​เก็บ​ภาพ​เหตุการณ์​ผิดปกติ​ใน​ศาลา​ส่วน​นั้น​มา งอ​สอง​นิ้ว​เคาะ​ลง​บน​เสาศาลา​เบา​ๆ

งาน​ไม้ใน​โลก​มนุษย์​ รู​บาก​และ​เดือย​คือ​กุญแจ​สำคัญ​

อยู่​ใน​บ้าน​ อยู่​ใน​โรงเรียน​ด้านนอก​ ฝึก​ตน​อยู่​บน​ภูเขา​

อาศัย​สิ่งใด​มาเชื่อมโยง​ใจคน​?

เจิ้งจวี​จงลุกขึ้น​ยืน​ ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “พวกเรา​ต่าง​ก็​เป็น​ตะเกียง​ดวง​หนึ่ง​ที่​เดี๋ยว​สว่าง​เดี๋ยว​หม่น​แสงอยู่​ใน​ฟ้าดิน​”

คำพูด​และ​การกระทำ​คือ​รู​บาก​และ​เดือย​ จิตใจ​ของ​มนุษย์​ร่วมกัน​สร้าง​ตะเกียง​

สร้างบ้าน​ก่อ​เรือน​ รวมกลุ่ม​กัน​เพื่อ​หา​ความอบอุ่น​

จากนั้น​เจิ้งจวี​จงก็​เดิน​นำ​ออก​ไป​จาก​ศาลา​เย​ว่​เหมย​ก่อน​ พา​ชิงเจีย​เดินเล่น​ไป​ใน​นคร​จิน​ชุ่ย​ ฤดูหนาว​ที่​หิมะ​ตก​โปรยปราย​ ตำหนัก​หอ​เรือน​ของ​นคร​จิน​ชุ่ย​โอ่อ่า​งามตระการตา​ สวยงาม​ประดุจ​ดินแดน​แห่ง​แก้ว​ใส

ชิงเจีย​ที่​ติดตาม​อยู่​ข้าง​กาย​เจิ้งจวี​จิงมิอาจ​ร่าย​เวท​คาถา​ได้​ จึงอำพราง​ตัวตน​ไป​ด้วย​เลย​ ใน​ตำหนัก​ใหญ่​ที่​ลักษณะ​คล้าย​ตำหนัก​ใน​วังหลวง​แห่ง​หนึ่ง​มีเด็กสาว​ที่​มวยผม​ทรง​วิญญาณ​งู นาง​กำลัง​เขย่ง​ปลายเท้า​ เอวบาง​จึงยืด​ตาม​ ใน​มือถือ​ท่อน​ไม้ยาว​ทุบตี​แผ่น​น้ำแข็ง​ ยาม​ที่​แผ่น​น้ำแข็ง​หล่น​กระทบ​พื้น​ก็​เกิด​เสียงดัง​เหมือน​เสียง​หยก​แตก​เป็น​ระลอก​ เสียงหัวเราะ​ของ​พวก​เด็กสาว​แว่ว​หวาน​ดุจ​เสียง​สกุณา​ขับร้อง​

เดิน​ออก​ไป​จาก​ตำหนัก​ เจิ้งจวี​จงพา​ชิงเจีย​มาถึงลำคลอง​สาย​หนึ่ง​ที่​โอบล้อม​นคร​จิน​ชุ่ย​อยู่​ด้านนอก​ พื้นผิว​ของ​ลำคลอง​กว้างขวาง​ น้ำ​ใต้​สะพาน​เกาะ​ตัว​เป็น​น้ำแข็ง​ มีเด็กน้อย​หลาย​คน​กำลัง​วิ่งไล่​จับ​กัน​อยู่​บน​แผ่น​น้ำแข็ง​อย่าง​สนุกสนาน​

เจิ้งจวี​จงเดิน​เลียบ​กระแสน้ำ​ตอน​บน​ของ​ลำคลอง​ไป​เรื่อยๆ​ กระทั่ง​มาหยุด​อยู่​ตรง​ทำนบ​กั้น​ริม​ลำคลอง​ ใต้​ฝ่าเท้า​คือ​ก้อนหิน​ลักษณะ​เรียว​ยาว​ที่​ถูก​ก่อ​ขึ้น​มา เกาะกลุ่ม​กัน​อยู่​ทั่ว​พื้นที่​ ระหว่าง​ร่อง​หิน​ราด​น้ำ​แป้ง​ข้าวเหนียว​ลง​ไป​ จากนั้น​ใช้ตะปู​ก้าม​หนีบ​ที่​ทำ​จาก​เหล็ก​และ​เดือย​ยึด​ไว้​ให้​แน่นหนา​ เหมือน​เกล็ดปลา​ที่​ทับซ้อน​กัน​เป็นชั้นๆ​ แล้วก็​เหมือน​กระดูกสันหลัง​ที่​โค้ง​โก่ง​ของ​คนแก่​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!