กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 966

บทที่ 966.1 ทายก่อน

หอจื้อวิ๋น ป๋ายอวี้จิง ถ้ําแยนเสีย ตําหนักเจิ้นเยว่

มีผู้ฝึกตนรูปโฉมอ่อนเยาว์คนหนึ่งเรือนกายผอมบาง ใบหน้า

แห้งตอบ เวลานี้สีหน้า

กังวล

เห็นได้ชัดว่ามีเรื่องในใจให้ต้อง
เขานั่งขัดสมาธิอยู่บนยอดเขา ก้มหน้าลงมองแผ่นดินเหนียวทรง ยาวแผ่นหนึ่ง ด้าน บนคล้ายใช้ตะปูตอกไว้เป็นคําทํานาย

สิบนิ้วสองมือของเขามีเลือดโชกไหลเปรอะ

สมกับคํากล่าวที่ว่าตอกตะปูบนแผ่นกระดาน (เปรียบเปรยถึง เรื่องที่แน่นอนแล้ว ไม่มี การเปลี่ยนแปลงแล้ว) อย่างจริงแท้

เพราะเพิ่งจะได้รับคําทํานายที่ประหลาดอย่างหนึ่ง ตัวอักษรบน

เซียมซีก็ยิ่งยากจะ แยกแย

มรรคาเสื่อมถอยสามร้อยปี ยังได้มีท่านผู้นี้

น่าเสียดายก็แต่เขาอนุมานอย่างยากลําบากมาหลายครั้ง คําว่า

“นี้” ให้ตายอย่างไรก็มิ

อาจเปลี่ยนไปเป็นชื่อแช่ของใครบางคนได้

ถ้าอย่างนั้นคนผู้นี้คือใคร? ชื่อแซ่อะไร? ในอดีตเคยเป็นใคร? อยู่ ในสายเต๋าสายไหน? แล้วจะเผยตัวเมื่อไหร่? คือผู้วิเศษที่เคยปรากฏตัวในช่วงเริ่มต้นของกลียุค หรือคือคน มหัศจรรย์ที่คล้ายคลึงกับผู้ ริเริ่มก่อตั้งแคว้น?

หรือจะบอกว่าใต้หล้ามืดสลัวที่สงบสุขมาเนิ่นนาน กําลังจะเจอ กับการเปลี่ยนแปลงที่ ไม่เคยมีมาก่อนในรอบหมื่นปี ถูกกําหนด มาแล้วว่าจะเกิดความวุ่นวายโกลาหล จากนั้นคน ผู้นี้ก็จะเผยกาย หลังผ่านไปห้าร้อยปี? หรือจะบอกว่าก็เพราะการปรากฏตัวของคนผู้ นี้ถึงได้ ก่อให้เกิดกลียุคไปทั่วหล้านานถึงห้าร้อยปี?

คือลูกศิษย์ปิดสํานักของมรรคาจารย์เต๋าที่มีฉายาว่าชิงซาน? ดังนั้นจึงถือเป็นการ เตรียมการล่วงหน้าของลู่เฉิน มีกลยุทธรับมือรอ ไว้เรียบร้อยแล้ว?

หรือจะบอกว่าเจ้าลัทธิใหญ่ท่านนั้นจะหวนกลับมายังป๋ายอวี้จิง

หลังผ่านไปห้าร้อยปี ช่วยคลี่คลายความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในใต้หล้า

มืดสลัว?

หรือจะบอกว่าเป็นสวีเจวี้ยนผู้ฝึกตนผีของสํานักต้าเฉาคนนั้น?

ว่าคือหวังหยวนคู่คนของสายโจรขโมยข้าวหย่งโจวที่

หลงเหลืออยู่ อีกทั้ง ยังมีความหวังอย่างยิ่งที่จะได้กลายเป็นผู้ที่ รวบรวมมรรคกถาอันหลากหลายได้สําเร็จซึ่งอยู่ ดีๆ ก็ชื่อเสียงโด่งดัง

ขึ้นมา?

เขาเงยหน้ามองม่านฟ้า น่าเสียดายที่ตนออกไปไม่ได้

ก็ไม่ถูกนะ หากว่าออกไปก็มีแต่จะทําให้ชะตาฟ้าวุ่นวายในเสี้ยว วินาที เกรงว่าทุก อย่างก็คงจะไม่แน่นอนอีกต่อไป จะยิ่งซับซ้อนยาก

จะแยกแยะมากกว่าเดิม

เขาพ่นลมหายใจยาวเหยียด ดึงตะปูพวกนั้นออกมาจากแผ่นดิน เหนียว เก็บใส่ไว้ในถุง ผ้าฝ้ายที่ผูกห้อยไว้ตรงเอว นิ้วทั้งสิบที่เดิมทีก็ เลือดโชกอยู่แล้ว คราวนี้บาดแผลลึกจนเห็น

กลับไม่เปลี่ยนสี

กระดูกขาทั้งส

หากว่าไม่ได้อยู่ที่นี่ บาดแผลเช่นนี้ไม่นับเป็นอะไรได้เลยจริงๆ แต่ ปัญหานั้นอยู่ที่ว่าที่นี่ คือถ้ําแยนเสียตําหนักเจิ้นเยว่ ไม่ว่าก่อนหน้านี้ เจ้าจะเป็นผู้บรรลุมรรคาที่มีขอบเขตอะไร ก็ตาม จิตแห่งมรรคาไม่จิต แห่งมรรคาอะไร ตบะล้วนไม่อาจเอามากินแทนข้าวได้ หากเจ็บ ปวด ที่กายเนื้อก็คือความเจ็บปวดอย่างจริงแท้ ถ้าโดนกระบองฟาดก็ต้อง สะดุ้งโหยง ก่อน หน้านี้ไม่นานมีคนโดนแทงไปหนึ่งที ไส้ไหลทะลัก พลั่กๆ ลงมากองกับพื้น คนผู้นั้นนึกจะตาย ก็ตายไปเสียอย่างนั้น ดู

เหมื ามาอยู่ในถ้ําแยนเสียตําหนักเจิ้นเยว่จะเป็นเซียน

เหรินที่เชี่ยวชาญด้านยันต์คนหนึ่งด้วย

และคนที่สามารถยึดครองภูเขาทั้งหลายของที่แห่งนี้ได้ มีชื่อว่า

จางเฟิงไห่ เคยเป็น อดีตว่าที่เจ้านครคนต่อไปของนครอวี่ซูอย่าง…. แน่นอนเหมือนตอกตะปูบนแผ่นไม้

กวอเจี๋ยและเส้าเซี่ยงศิษย์พี่สองคนของเขา ปีนั้นมองเรื่องนี้เป็น เรื่องที่ถูกต้องตาม หลักฟ้าดิน และตัวจางเฟิงไห่เองก็คิดแบบนี้

เหมือนกัน

อันที่จริงในอดีตตลอดทั้งป๋ายอวี้จิงและใต้หล้ามืดสลัวต่างก็คิด

กันเช่นนี้

ขอบเขตบินทะยานอายุเก้าสิบปี

จากข่าวลือเล็กๆ บางอย่าง เจ้านครผู้เฒ่าที่ยังเป็นเจ้านครของ นครอวี้ชูจงใจช่วยบอก อายุปลอมของลูกศิษย์ปิดสํานัก อันที่จริง ตอนที่จางเฟิงไห่ฝ่าทะลุคอขวดขอบเขตเซียนเหริน เขาเพิ่งจะแปด

สิบเอ็ดปีเท่านั้น

ประเด็นสําคัญคือจางเฟิงไห่คือผู้มีความสามารถครอบคลุมด้าน การฝึกตนอย่างสม ชื่อคนหนึ่ง ทั้งยันต์ หลอมโอสถ ค่ายกล วิชา คาถา ฯลฯ ล้วนเชี่ยวชาญทุกสิ่งอย่าง ห้านคร สิบสองหอเรือน ของป๋ายอวี้จิง ไม่ว่าจะยกเอาด้านใดมา จางเฟิงไห่ก็ล้วนโดดเด่น ทั้งสิ้น

นอกจากนี้จางเฟิงไห่ที่หากไม่เป็นเพราะได้รับคําสั่งจากอาจารย์ อย่างลับๆ จึงจงใจ ชะลอความเร็วในการฝ่าทะลุขอบเขตอยู่ตลอด บางทีตอนอายุสี่สิบหรือมากสุดห้าสิบปีก็คง เป็นผู้ฝึกตนขอบเขตบิน

ทะยานไปแล้ว

ดูเหมือนว่านอกจากจะไม่ใช่ผู้ฝึกกระบี่เต็มตัวแล้ว ในชีวิตการ ฝึกตนของจางเพิ่งไห่ก็เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบไร้ข้อบกพร่อง

น่าเสียดายก็แต่ต้องมาเจอกับเจ้าลัทธิรองอวี่โต้ว จางเฟิงไห่ที่ ป่าวประกาศว่าจะออก จากทําเนียบเต๋าของป๋ายอวี้จิง ผลกลับ

กลายเป็นว่ามิอาจอาศัยความสามารถเดินออกไปจากป้ายอวี้จึงได้

ถูกขังอยู่ในถ้ําแยนเสียตําหนักเจิ้นเยว่ที่มีไว้เพื่อขังผู้ฝึกตนใหญ่ โดยเฉพาะ ขังทีหนึ่งก็ เป็นเวลาเกือบแปดร้อยปีแล้ว

ที่นี่ถือถ้ําปราบเซียน คือไปทั่วใต้หล้า คล้ายคลึง

กับสวนกงเต๋อของศาลบุ๋นในใต้หล้าไพศาล และอารามหัวหมาย (ฝัง

ทั้งเป็น)

สุขาวดี

จางเพิ่งไห่อยู่ที่นี่มาเกือบจะแปดร้อยปีแล้ว ทั้งมิอาจฝึกตนได้ สิ่ง ที่พอจะเรียกว่า เป็นการเป็นงานก็มีแค่เรื่องเดียว ในเมื่อเต๋ามิอาจใช้ ถ้อยคํามาบรรยายได้ ถ้าอย่างนั้นตนก็ เหมือนต้องยืนยันก่อนว่าอะไร ไม่ใช่เต๋า เมื่อยืนหยัดต่อไปไม่ลดละ สุดท้ายแล้วก็จะขยับเข้า ใกล้

เต๋า”

การนิมิตมาใช้ร่วมกับวิถีแห่งการอนุมาน

สร้างกายนอกกายที่เป็นมายาซึ่งถือกําเนิดจากความว่างเปล่า หล่อ หลอมเรือนกาย สร้างยันต์ใหญ่ขึ้นมา นํามา หล่อหลอม สังหารสาม อสุภะแล้วผสานรวมเข้าด้วยกันใหม่ ครั้นจึงสังหารอีกครั้ง…เรื่องพวก

นี้ล้วนเป็นเรื่องเล็ก

หากจะบอกว่านี่คือความหวังดีของอวี้โต้ว จงใจอยากขัดเกลา ประกายเฉียบคมของ จางเพิ่งไห่ เพื่อที่จะให้ “เจ้าลัทธิน้อย” ตั้งใจขัด เกลาจิตใจฝึกตนให้ดี ใช้สิ่งนี้มาเลื่อนเป็น ขอบเขตสิบสี่ เมื่อถึงคราว ที่ทั้งสองฝ่ายได้กลับมาพบเจอกันอีกครั้งก็ละทิ้งอคติที่เคยมีต่อ กัน

ในกาลก่อน เจอหน้าแล้วแย้มยิ้มสลายความแค้นต่อกันไป….ถ้าอย่าง

นั้นก็ดูแคลนจิตแห่งมรรคาของผู้ไร้เทียมทานที่แท้จริงคนนั้นเกินไป

แล้ว

อวีโต้วดูแคลนที่จะทํา

ส่วนจางเพิ่งไห่เองก็รู้สึกซาบซึ้งจากใจจริงที่อวี่โต้วไม่ได้ทํา

เช่นนี้ และไม่มีทางทําเช่นนี้

จางเพิ่งไห่ทอดสายตามองไปไกล กระตุกมุมปาก ก็ดีเหมือนกัน

จางเพิ่งไปพอเห็นว่าหากอยากจะเลิกดื่มให้ได้ก็ง่ายดาย

แค่ไม่มีเหล้าให้ดื่มก็พอแล้ว

นอกจากเต้ากวานแห่งนครอวี่ซูที่เคยถูกขนานนามว่า “เจ้าลัทธิ น้อยแห่งป๋ายอวี้จิง อย่างเขาแล้ว คนที่ตายอยู่ที่นี่อย่างเงียบเชียบยังมี รองเจ้าหอสองท่านของสิบสองหอเรือนในป่ายอวี่จิง พวกเขาเคยเป็น

คู่บําเพ็ญเพียรกัน เนื่องจากทําผิดกฎทองบัญญัติหยกของป๋าอวี้จิง เหมือนกัน จึงถูกหวงเจี้ยโส่วนําตัวเข้ามาปิดประตูทบทวนความผิด อยู่ที่นี่ด้วยตัวเอง ได้ยินมาว่าในบรรดานักพรตสามพันคนที่เดินทาง ไปยังใต้หล้าห้าสี มีผู้ฝึกตนผู้หนึ่งที่เป็น ผู้นําของตําหนักชิงสือหนึ่ง ในศาลบรรพจารย์ของสายยันต์ ขอบเขตก่อกําเนิด มีชื่อว่าหนัน

ซาน ความสัมพันธ์กับภูเขาไฉ่โซ่วก็เหมือนความสัมพันธ์ระหว่าง

ภูเขาเหลี่ยงจิงและสํานักต้าเฉาในอดีต มีผู้ฝึกตนหญิงนามว่าโยว หรานคนหนึ่ง นางกับหนันซาน เซียนดินวัยเยาว์คู่นี้เกิดเดือนเดียวปี เดียวกัน แม้แต่เวลาเกิดก็เหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน ไม่คลาดไปแม้สัก เสี้ยว ประหนึ่งคู่สร้างคู่สมที่สวรรค์สรรค์สร้าง ก็จริงนะ ที่อินโจว ขนาดเจาเกอยังผูกสมัครเป็นคู่บําเพ็ญเพียรกับสวีเจวี้ยนได้เลย ชาติ

นี้ไยพวกเขาจะทําบ้างไม่ได้เล่า?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!