กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 969

ค่าคืนที่มีลมหิมะ คนทั้งกลุ่มเดินไปยังประตูเมืองท่มกลางลม หิมะที่ปลิวว่อนเต็มท้องฟ้ ำ

ขุนเขาสายน้ำของหนึ่งทวีป ส่วนใหญ่มักจะมีแต่นครผีผุพังที่ไร ้ ร่องรอยของผู้คน ก็เหมือนโครงกระดูกแห้งเหี่ยวที่ยังไม่ย่อยสลาย เมื่อลมผัดผ่ำนตัวเมืองก็เหมือนเสียงเป่ำขลุ่ยกระดูก

เด็กหนุ่มร่ำงผอมบำง คิ้วตาเรียวยาว หน้ำตาหล่อเหลาเย็นชา ตรงใต้รักแร ้เหน็บดาบไว้เล่มหนึ่ง

ในมือของเด็กหนุ่มมีลูกหิมะที่ถูกบีบไว้จนแน่นหนา สลับโยนไป มาระห ว่างมือซ ้ำยและมือขวาซ้ำไปซ้ำมา

ผู้เฒ่ำร่ำงแข็งแกร่งก ำย ำ ฝีเท้ำหนักแน่น เพียงแต่เขาไอไม่หยุด คล้ำยจะทนรับลมหนาวไม่ไหว

ชายวัยกลางคนคนหนึ่งสวมชุดผ้ำฝ้ ำย พกกระบี่

ยังมีอีกสองคน คนที่เดินอยู่ใกล้หน่อยคือชายฉกรรจ์ร่ำงกาย แข็งแรง มีรูปโฉมเหมือนคนโบราณ สะพำยห่อสัมภำระไว้เอียงๆ

สตรีหุ่นสูงเพรียว รูปโฉมไม่ถือ ว่าโดดเด่นสักเท่ไร แต่บุคลิก องอาจมีชีวิตชีวา ตรงเอวพกดาบแคบฝักเป็ นสีด ำสนิท ด้ำมไม้ท ำมา จากไม้ป๋ ำยหยาง

เด็กหนุ่มถามเสียงเบำ “คนผู้นั้นอยู่ในเมืองผีแห่งนี้จริงหรือ? อาจารย์เจิง ท่น ว่าเขาจะค้นพบร่องรอยของพวกเราตั้งแต่แรกแล้ว หรือไม่?”

บุรุษที่สวมชุดผ้ำฝ้ ำยสีเขียวตัวหนาพยักหน้ำยิ้มเอ่ย “รู ้มาตั้ง นานแล้ว”

ผู้เฒ่ำกระแอมอยู่หลายที ระห ว่างฟ้ ำดินมีหิมะตกลงมาอย่าง ต่อเนื่อง ท ว่าเกล็ดหิมะเหล่านั้นกลับหลอมละลายไปรอบกายผู้เฒ่ำ ด้วยตัวเอง ไอหมอกขาวโพลน ไอร้อนลอยระอุ

ผู้ที่บรรลุมรรคำซึ่งฝึ กตนอยู่บนภูเขาก็มักจะได้เปรียบเช่นนี้ สามารถมองลมปราณเห็นแต่ไกลๆ หรือไม่ก็ใช้การมองขุนเขา สายน้ำผ่ำนฝ่ ำมือ รวมไปถึงอาศัยการเปลี่ยนแปลงของริ้วกระเพื่อม แห่งปราณวิญญำณฟ้ ำดิน ถึงขั้นสามารถอาศัยการทำนายมา วิเคราะห์ถึงร่องรอยของพวกเขาได้ด้วย

ผู้ฝึกยุทธเต็มตัว ต่อให้ผู้เฒ่ำจะเป็ นปรมาจารย์ใหญ่ขอบเขต ปลายทำง แต่ในเรื่องนี้กลับไม่ได้เปรียบเลยจริงๆ

เผยเปยแห่งทวีปแดนเทพแผ่นดินกลาง หันกวงหู่แห่งเกราะทอง ทวีป อู๋ซูแห่งใบถงทวีป เพ่ยอาเชียงแห่งธวัลทวีป ล้วนเป็ นผู้น ำด้ำน วิถีวรยุทธในทวีปหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัยพูดง่ำยๆ ก็คือเป็ นบุคคล อันดับหนึ่งที่ตีบุคคลอันดับสองได้โดยที่ฝ่ ำยหลังไม่มีเรี่ยวแรงจะตอบ โต้เอาคืน

ที่เหลืออีกไม่กี่ทวีปไม่อาจนับรวมได้ ยกตัวอย่างเช่นทำงฝั่งของ แจกันสมบัติทวีป ทุกวันนี้ก็มีผู้ฝึกยุทธขอบเขตปลายทำงสองคนที่มา จากราชวงศ์ต้ำหลี หนุ่มคนนั้นไม่เคยต่อสู้กันมาก่อน แต่ช่งจ่ำงจิ้ง กับอิ่นกวาน

ส่วนอุตรกุรุทวีป ว่ากัน ว่ามีหลี่เอ้อแห่งยอดเขาสิงโตที่ไม่รู ้ ว่าโผล่ ออกมาจากมุมไหนที่เคยมีการถามหมัดกับหวังฟูขู่ผู้ฝึกยุทธเฒ่ำเป็ น การส่วนตัวครั้งหนึ่ง เล่าลือกัน ว่าตอนที่หวังฟู่ ขู่ตกปลาอยู่บนเกาะ ยวนยาง ระห ว่างที่พูดคุย คำพูดที่เอ่ยออกมาล้วนไม่เห็นหมัดเท้ำ ของหลี่เอ้ออยู่ในสายตาเลยสักนิด

ส่วนผู้เฒ่ำที่มีโรคภัยรุมเร ้ำผู้นี้ก็คือผู้นาอันดับหนึ่งบนวิถีวรยุทธ ของเกราะทองทวีป มีฉำยา ว่า “หัน ว่านจ่ำน” ภำยในเวลาร ้อยก ว่าปี ยังเคยได้ให้การสนับสนุนและปลดฮ่องเต้มาถึง หกรุ่น

เขาเคยร่วมมือกับสวีเซี่ยเซียนกระบี่ใหญ่ขัดขวางหวานเหยียน เหล่าจิ่ง ด้วยเหตุนี้ขอบเขตจึงถดถอย เคยได้รับค ำเชิญจากศำลบุ๋น แต่ไม่ได้เข้ำร่วมการประชุมศำลบุ๋นครั้งนั้น นี่แตกต่ำงจากเทพเซียน บนภูเขาหลายคนที่มักจะชอบตีสนิทไปโผล่หน้ำให้เห็นที่ศำลบุ๋น บ่อยๆ อย่างสิ้นเชิง

ผู้เฒ่ำรู ้สึก ว่าไปถึงที่นั่นก็ไม่มีอะไรให้พูดคุย ถึงอย่างไรก็มีคน สนิทอยู่แค่ไม่กี่คน จางเถียวเสียที่มักจะไปตกปลาอยู่ในอาณำเขต ของเกราะทองทวีปเป็ นประจ ำ เขากลับพอจะรู ้จักอยู่บ้ำง แต่ทั้งสอง ฝ่ ำยก็ไม่ถือ ว่าถูกชะตากันสักเท่ไร จางเถียวเสียค่อนข้ำงที่จะรัก

อิสระเสรีตลอดทั้งปีเอาแต่ไปโน่นมานี่ไม่อยู่ติดที่ หันกวงหู่กลับชอบที่ จะหมกตัวอยู่กับกองหนังสือราชการ แต่เหตุผลที่สาคัญที่สุดยังเป็ น เพราะผู้เฒ่ำไม่ยินดีจะไปพบหน้ำซึ่งจ่ำงจิ้งแห่งแจกันสมบัติทวีป หำก ขอบเขตไม่ถดถอยกลับพอจะลองถามหมัดกันได้สักครั้ง แต่ขอบเขต ถดถอยแล้ว ต่ำต้อยก ว่าคนอื่นหนึ่งขั้น พูดจาเสียงแข็งไม่ได้ มีแต่จะ รู ้สึกไม่เป็ นตัวของตัวเอง

คนกลุ่มนี้ก่อนหน้ำนั้นได้ไปเจอกันที่พรรคชิงจ้วนของราชวงศ์ สกุลอวี่มาก่อน จากนั้นจึงไปเยือนราชวงศ์ต้ำเฉวียนมารอบหนึ่งแล้ว ถึงได้เดินทำงขึ้นเหนือ พวกเขาเดินทำงกันอย่างไม่รีบร ้อน เหมือน การมาเที่ยวเล่นตามขุนเขาสายน้ำมากก ว่า

นอกจากหันกวงหู่แล้วก็ยังมีเจี่ยนหมิง อาจารย์เจิง ลั่วหยางมู่ เค่อที่มีฉำยา ว่า “ซงจือ คือร ้ำนผ้ำห่อบุญคนหนึ่ง และฉินปู้ อี๋คนของ เขตการปกครองหลงถงแผ่นดินกลาง

เจี่ยนหมิงมีชาติกาเนิดมาจากแคว้นสือหำวแจกันสมบัติทวีป ตั้ง ฉำยาให้ตัวเอง ว่า “เยว่เหรินเกอ” (บทเพลงชาวเยว่)

เด็กหนุ่มเคยได้เจอศพไร ้หัวที่สวมเสื้อผ้ำหรูหราท่มกลางวันที่มี พำยุหิมะ เขา “เก็บ” หยกพกชิ้นหนึ่งมาได้ สองด้ำนหน้ำหลังแยกกัน แกะสลักสามคำ ว่า “ภูเขาเมฆำเรื่อง” กับคำถาตระกูลเซียนที่คล้ำย บทกลอนบทหนึ่ง จากนั้นเด็กหนุ่มก็ถูกอาจารย์เจิง “หมายตา” ใน ฐำนกระดูก นับแต่นั้นมาจึงได้เดินไปบนเส้นทำงของการฝึกตน

ฉินปู้ อี๋ยิ้มเอ่ย “หิมะของใบถงทวีปครั้งนี้ตกได้ประหลาดนัก”

ชายฉกรรจ์เงียบขรึมที่มีฉำยา ว่าชงจือพยักหน้ำรับ “ปราณ วิญญำณที่ซุกซ่อนอยู่ภำยในมีค่อนข้ำงมาก หิมะตกลงมาเท่กับมี เงินตกลงมา”

อาจารย์เจิงกล่าว “คำด ว่าคงต้องยกคุณความชอบให้กับ “การ ท่องราตรี” ที่พลังอานาจยิ่งใหญ่น่ำเกรงขามครั้งก่อนหน้ำนี้ ใจคนที่ กระจัดกระจายได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ถึงได้มีหิมะตกที่ฟ้ ำและ คนขานรับกันครั้งนี้เกิดขึ้น”

ฉินปู้ อี๋เอ่ย ว่า “ไม่เคยมีปรากฏมาก่อนในประวัติศำสตร ์” หรือ ว่าจะเป็ นฝีมือของเจ้ำลัทธิท่นใดของศำลบุ๋น? หลี่เซิ่งออก คำสั่ง ศำลบุ๋นจึงท ำตาม?

น่ำเสียดายก็แต่นางกับอริยะปราชญ์ของศำลบุ๋นและส ำนักศึกษา ลัทธิขงจื๊อไม่เคยมีการไปมาหำสู่กันมาก่อน

อาจารย์เจิงอืมรับเบำๆ หนึ่งที “เกินครึ่งก็น่ำจะเป็ นเรื่องที่จะไม่มี ปรากฏขึ้นอีกในภำยหลังแล้ว พวกเราโชคดีได้พบเจอก็ถือ ว่าไม่ง่ำย เลย”

เด็กหนุ่มชุดขาวคนหนึ่งถือไม้เท้ำไผ่เขียวอยู่ในมือ นาพำจอม ยุทธผู้กล้ำและเทพซียนที่ฝึกตนกลุ่มหนึ่งมาขวางอยู่กลางถนนใหญ่

ชุยตงซำนใช ้ไม้ไผ่เขียวทิ่มพื้นหนักๆ เอ่ยเสียงดังกังวาน ว่า “ประตูบำนนี้ข้ำเป็ นคนเปิดต้นไม้ต้นนี้ข้ำเป็ นคนปลูก หำกคิดจะผ่ำน ไป ก็จงทิ้งเงินค่าผ่ำนทำงเอาไว้”

ก่อนหน้ำนี้อยู่บนเรือข้ำมฟำก อาจารย์อู๋แห่งตาหนักสุ้ยฉูที่ ร่ำรวยมือเติบโบกมือเป็ นวงกว้ำงทีหนึ่ง ไม่แม้แต่จะกะพริบตาสักครั้ง ก็มอบของขวัญจากลาให้ถึงสองอย่าง ชิ้นหนึ่งคือฝักกระบี่ที่โจว อันดับหนึ่งได้รับไป สามารถเอามาใช ้หล่อเลี้ยงใบหลิ่วครึ่งใบได้

ชุยตงซำนได้ไม้เท้ำไผ่เขียว ‘สิงชี่หมิง” แต่ ว่าอีกเดี๋ยวก็จะไม่ได้ เป็ นของเขาอีกแล้ว เพราะชุยตงซำนคิด ว่าจะมอบให้กับไฉอู๋เพื่อเป็ น ของขวัญแสดงความยินดีในการฝ่ำทะลุขอบเขต

จากขอบเขตเส้นเอ็นหลิ่วขอบเขตที่สามของผู้ฝึกลมปราณ เดิน หนึ่งก้ำวกลับก้ำวข้ำมขอบเขตไปได้มากมายขนาดนั้น เลื่อนเป็ นห้ำ ขอบเขตบนโดยตรง นับตั้งแต่ที่หลิ่วชีเป็ นผู้ริเริ่มการกระทำนี้ เวลา ผ่ำนมานานหลายพันปีแล้ว กวาดตามองไปหลายใต้หล้ำ ผู้ฝึกตนที่ สร ้ำงวีรกรรมนี้สาเร็จมีน้อยจนนับนิ้วได้ หลิ่วชีคือบุคคลอันดับหนึ่ง โจวมี่อาจเป็ นอันดับสองช่วงล่าสุดนี้มีอีกคนหนึ่ง ก็คือลูกศิษย์ผู้สืบ ทอดที่หลิ่วชีรับมาในพื้นที่มงคลซืออวี๋ใต้หล้ำมืดสลัว ในช่วงเวลา ระห ว่างนี้อาจมีผู้ฝึกตนที่อาพรางตัวตนอย่างลึกลับอยู่อีกหลายคน เพียงแต่ ว่าไม่ได้แสดงออกอย่างเด่นชัด

พวกวังม่ำนเมิ่งและเฉียนโหวเอ๋อร ์ที่อยู่ข้ำงกายถูกบังคับให้มา ดักปล้นกลางทำงด้วยกัน เดิมทีก็ไม่เต็มใจอยู่แล้ว เวลานี้ต่ำงก็รู ้สึก อับอายขายหน้ำจนหมดสิ้นแล้ว

เจี่ยนหมิง หัวเราะ คนกลุ่มนี้ช่ำงใจกล้ำยิ่งนัก ถึงกับดักปล้น กลางทำงลามมาถึงบนหัวตน ถือ ว่าเป็ นศำลเล็กปีศำจมากอานาจ น้ำ ตื้นตะพำบเยอะอย่างนั้นหรือ?

ชุยตงซำนมองบุรุษที่สะพำยห่อสัมภำระเอียงๆ คนนั้นแล้วดวงตา เป็ นประกาย ใช ้ได้ๆดีมากๆ ส่งหมอนมาให้หนุนเลยเชียว

ก่อนหน้ำนี้ไม่นานยังปรึกษากับอาจารย์อยู่ ว่าควรจะเชื้อเชิญ บรรพจารย์ร ้ำนผ้ำห่อบุญให้มาลงหลักปักฐำนที่ท่เรือชิงซำน อย่างไรดี คราวนี้ลั่วหยางมู่เค่อซึ่งมาจากสายของบรรพจารย์ร ้ำนผ้ำ ห่อบุญกลับมาเยือนทันที

ลั่วหยางมู่เค่อคือคำเรียกรวมๆ อย่างหนึ่ง หมายถึงคนกลุ่มหนึ่งที่ เร ้นกายซ่อนตัวอยู่ในป่ำเขาลึก มีกฎเกณฑ์เก่ำแก่ที่สืบทอดต่อกันมา หลายรุ่น สองมือไม่อาจแตะเงิน มีบำงครั้งที่หำกลงจากภูเขามาพบ เจอผู้คนก็มักจะชอบเอาสิ่งของมาแลกเปลี่ยนสิ่งของ และบรรพจารย์ ที่เป็ นผู้ริเริ่มอาชีพอย่างร ้ำนผ้ำห่อบุญนี้ก็มีชาติกาเนิดมาจากลั่ว หยางมู่เค่อ แต่เนื่องจากฝ่ ำฝื นกฎบรรพบุรุษจึงถูกตัดชื่อออกจาก ศำลบรรพชน ทั้งสองฝ่ำยถือเป็ นสาย เดียวกันแต่อยู่กันคนละกระแส

ส่วนสตรีที่พกดาบคนนั้นก็มีประวัติความเป็ นมาเหมือนกัน

เป็ นคนบ้ำนเดียวกันกับป๋ ำยเหย่ ถือ ว่าเป็ นคนวัยเดียวกันบน ภูเขา ป๋ ำยเหย่เองก็ยังเคยเขียนกลอนชื่นชมนางจนกลายเป็ น ประโยคติดปำกผู้คน

หนึ่งในสิบตัวสารองของคนรุ่นเยาว์ของหลายใต้หล้ำอย่างเด็ก สาวขุนชิงแห่งถ้ำสวรรค์จู๋ไห่ วิชาการโจมตีของแม่นางน้อยก็เรียนรู ้ มาจากฉินปู้ อี๋

ฉินปู้ อี๋กับซงจือต่ำงก็เคยติดตามเฉินหรงที่มีชาติกาเนิดจากสกุล เฉินผู้รอบรู ้ของทักษินาตยทวีปเดินทำงไปเที่ยวเยือนอาเภอไหวหวง ด้วยกัน ผู้ที่มารับรองแขกแทนภูเขาลัวพั่วในตรอกฉีหลงครั้งนั้นคือ เทพเซียนผู้เฒ่ำและเฉินหลิงจวิน

ชุยตงซำนพูดด้วยสีหน้ำเป็ นการเป็ นงำน “พี่หญิงม่ำนเมิ่ง เฉียน โหวเอ๋อร ์ พวกเจ้ำถอยกันไปก่อน ศัตรูค่อนข้ำงแข็งแกร่ง รับมือได้ ยาก! ข้ำใคร่ครวญ ว่าอีกฝ่ ำยมีกองกาลังที่น่ำครั่นคร ้ำม พวกเราก็ได้ แต่ใช ้สติปัญญำมาต้ำนรับ มิอาจใช ้ก ำลังงัดข้อได้ ขอให้ข้ำได้ลอง หยั่งเชิงความตื้นลึกของอีกฝ่ำยก่อน หำก ว่าพูดไม่เข้ำหูกันค ำเดียวก็ ตีกันแล้ว พวกเจ้ำก็ไม่ต้องสนใจ ว่าข้ำจะถูกคนรังแกหรือไม่ รีบไปหำ อาจารย์ของข้ำ ขอกองทัพเสริมมาช่วยข้ำฝ่ ำวงล้อมให้ว่องไว บอก ไว้ก่อนนะ ว่าพวกเจ้ำห้ำมโยนภำระท ำตัวเป็ นเต่ำหดหัวล่ะ วางใจได้ เลย ใต้หล้ำนี้ไม่มีสถานการณ์ใดที่อาจารย์ข้ำกอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืน มาไม่ได้!”

บทที่ 969.1 แย่งลูกศิษย์ 1

บทที่ 969.1 แย่งลูกศิษย์ 2

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!