กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 970

หิมะเหมือนชุดขาว ชุดขาวเหมือนหิมะ เห็นแล้วสงสัยว่าจะเป็ น ตุ๊กตาหิมะตัวหนึ่ง

ฉินปู้ อิ๋มักจะรู ้สึกว่าคนผู้นี้ค่อนข้างคุ้นตา เพียงแต่เมื่อนาง ตรวจสอบความทรงจ าในทะเลสาบหัวใจอย่างละเอียดกลับไม่มีใครที่ สอดคล้องกับคนตรงหน้าเลย

ชุยตงซานคลี่ยิ้มกว้างเจิดจ้าให้กับฉินปู่อี๋ จากนั้นกดเสียงลงต่า ขอให้ผู้อาวุโสซ่งขยับเท้าไปชมศึกอยู่ห่างๆ พร ้อมกับเขา หลีกเลี่ยง ไม่ให้การถามหมัดบนยอดเขาของผู้ฝึกยุทธขอบเขตปลายทางสอง คนนี้มีอาจวาดฝีไม้ลายมือกันได้อย่างเต็มที่ จากนั้นก็พาพวกวังม่าน เมิ่งขยับออกห่างจากประตูเมือง ชุยตงซานคิดว่าจะหาหลังคาเรือน ใหญ่ประตูสูงหลังหนึ่งเป็ นพื้นที่ในการชมศึก เพียงแต่ว่าราตรีที่มีลม หิมะพัดโชยคืนนี้ หิมะตกหนักลมพัดแรงมากเกล็ดหิมะปลิวว่อนไปทั่ว ฟ้ า การมองเห็นถูกบดบัง พวกเฉียนโหวเอ๋อร ์ขอบเขตต่าเกินไป ถูก ก าหนดมาแล้วว่าจะมองการออกหมัดของสองฝ่ ายได้ไม่ชัด บท สนทนาระหว่างอาจารย์และหันว่านจ่านก่อนหน้านี้ ชุยตงซานเล่น ตุกติกเล็กน้อย ขนาดวังม่านเมิ่งยังได้ยินไม่ชัด รอให้วันหน้ารู ้สถานะ ของสองฝ่ ายที่ถามหมัดกันในคืนนี้พวกเขาคงเสียดายแทบตายเป็ น แน่

สองฝ่ ายที่ถามหมัดคุมเชิงกันอยู่ไกลๆ บนถนนใหญ่ ต่างก็ไม่รีบ ร ้อนที่จะลงมือ

หันกวงหู่ยืนอยู่ที่เดิม เพียงแค่ยกรองเท้าหุ้มข้อขึ้นมาขยับ เล็กน้อย ตอนที่วางเท้าลงบนพื้นอีกครั้ง ถนนใหญ่ทั้งสายที่หิมะทับ ถมหนาถึงหนึ่งชื่อกว่าก็คล้ายถูกน้าร ้อนเดือดพล่านสาดใส่ ไอขาว ลอยกรุ่น รอกระทั่งผู้ฝึกยุทธเฒ่าผ่อนลมหายใจหยุดยืนนิ่งก็เหมือนปู มังกรดินลงไปบนถนนทั้งสาย ถนนเส้นนั้นแห้งสนิท หิมะยังไม่ทันตก ลงมาถึงพื้นก็หลอมละลายไปด้วยตัวเอง สุดท้ายมีเพียงรอบฝ่ าเท้า ของเฉินผิงอันเท่านั้นที่ยังมีหิมะทับถม

ซ่งอวี่เซาเดินออกมาจากถนนพร ้อมกับชุยตงซาน ตอนที่เดินไป ถึงมุมเลี้ยวของตรอกก็หันไปเห็นภาพเหตุการณ์ผิดปกตินั้น ผู้เฒ่า หัวเราะ ใครบอกว่าผู้ฝึกยุทธอย่างเราๆ ไม่ใช่เทพเซียนกันเล่า

ขุยตงชานรู ้ชัดเจนดีว่าเหตุใดอาจารย์ถึงต้องรับหมัด แน่นอนว่า เกี่ยวข้องกับการที่หันว่านจ่านผู้นั้นท าอะไรไร ้คุณธรรมด้วย แต่ นอกจากนี้ก็ยังมีความเห็นแก่ตัวส่วนหนึ่ง

อยากให้ผู้อาวุโสซ่งวางใจ

วางใจอย่างไร?

ง่ายมาก ผู้เฒ่าแค่ได้เห็นวิชาหมัดในทุกวันนี้ของเด็กหนุ่ม สะพายกระบี่ในอดีตกับตาตัวเองก็จะสามารถวางใจได้อย่างแท้จริง แล้ว

ซ่งอวี่เซาลังเลเล็กน้อย ก่อนรวมเสียงให้เป็ นเส้น สอบถามเด็ก หนุ่มชุดขาวที่อยู่ข้างกายว่า “เจ้าส านักชุย อาจารย์ของเจ้าจะชนะได้ หรือไม่?”

ก่อนหน้านี้กินหม้อไฟด้วยกัน ฟังเฉินผิงอันเล่าถึงลูกศิษย์หลาย คน ชุยตงซานในตอนนี้ก็คือเจ้าสานักคนแรกของสานักกระบี่ชิงผิง แล้ว

ยามที่ผู้เฒ่าอยู่กับเฉินผิงอันเพียงลาพังก็ไม่เคยระวังเรื่องคาพูด อยู่แล้ว เรียกชื่อโดยตรงจะนับเป็ นอะไรได้ แต่อยู่กับชุยตงซาน ซ่งอวี่ เซากลับเปลี่ยนคาเรียกขาน

ผู้เยาว์คนหนึ่งประสบความส าเร็จด้านการศึกษาเล่าเรียน สามารถเขียนกลอนปีใหม่ได้หลายบท สามารถเอ่ยหลักการเหตุผล ของอริยะปราชญ์ได้หลายประโยค หรือไม่ก็มีชื่อติดอยู่บนกระดาน ทองคา สร ้างเกียรติยศให้กับวงศ์ตระกูล ผู้เฒ่าต้องปลาบปลื้มใจ อย่างมากเป็ นแน่ แต่กลับไม่แน่เสมอไปว่าจะวางใจ วงการขุนนางที่มี ขึ้นมีลง ความเจริญก้าวหน้าในวงการขุนนางที่แปลกประหลาด การ ปัดแข้งปัดขากันในที่ว่าการ….หลักการเหตุผลเดียวกัน ออกท่องยุทธ ภพ จิตใจคนชั่วร ้ายเลวทราม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้มีหมัดสูงที่ไม่ เกี่ยวข้องกับความดีหรือความเลว และยังจาต้องยอมรับว่ายิ่งเป็ นคน หนุ่มที่รักษาคุณธรรมในยุทธภพมากเท่าไรก็ยิ่งเสียเปรียบง่ายเท่านั้น ซ่งอวี่เซาคือคนเฒ่าคนแก่ในยุทธภพก็จริงแต่เขากลับไม่คร่าครี หัวโบราณ ดังนั้นเมื่อมองเห็นเส้นทางในยุทธภพใต้ฝ่าเท้าของเฉินผิง

อันแล้ว ผู้เฒ่าจึงยิ่งลาบากใจมากกว่าเดิม ทั้งหวังให้เฉินผิงอัน สามารถเดินตรงไปบนมหามรรคา ขึ้นสู่ที่สูงได้อย่างราบรื่น ทั้งหวังให้ คนหนุ่มที่ตัวเองฝากความหวังไว้มากผู้นี้ไม่ถูกท าร ้ายเพราะการ เชื่อมั่นในคุณธรรม และการที่ทาทุกอย่างไปตามกฎเกณฑ์….

คาดว่าความขัดแย้งในใจประเภทนี้คงมีเพียงผู้อาวุโสของผู้เยาว์

เท่านั้นที่ถึงจะมี “ผู้อาวุโสซ่งเรียกข้าว่าตงชานก็ได้”
ต่อให้ชุยตงซานจะเกเรแค่ไหน กล้าพูดจาเหลวไหลต่อหน้าหัน ว่านจ่าน ไม่ได้แอบสร ้างความสะอิดสะเอียนให้กับคนเขาอย่างลับๆ แต่ท้าทายอีกฝ่ ายอย่างโจ่งแจ้ง แต่กลับไม่กล้าท าเป็ นเล่นกับซ่งอวี่ เซา

“อาจารย์ไม่มีทางแพ้ ต่อให้ถามหมัดกับเฉาสือ มองภายนอกคือ แพ้ติดต่อกันสี่ครั้งก็จริง แต่อาจารย์ของข้ามีความคิดเป็ นของตัวเอง หนีไม่พ้นว่าภายนอกแพ้หมัด แต่ภายในชนะหมัดของตัวเอง เพียงแต่ ว่าสภาพจิตใจเช่นนี้ไม่เคยบอกกล่าวแก่คนอื่น เฉาสือเข้าใจก็ เพียงพอแล้ว แน่ นอนว่าผู้อาวุโสซ่งก็ต้องรู้ชัดเจนดีอยู่ในใจ เหมือนกัน”

ซ่งอวี่เซากล่าว “ข้ากังวลว่าการประลองที่มาเยือนอย่างกะทันหัน ครั้งนี้ อาจารย์ของเจ้าทั้งต้องการชนะหมัดอย่างเปิดเผย แล้วยังต้อง

กะน้าหนักและแรงไฟให้ดีด้วย ยากยิ่งกว่ายาก เสียเปรียบมาก เกินไป”

คนนอกได้แค่ชมความครึกครื้น คนในเห็นถึงช่องทาง ขอบเขต วิถีวรยุทธของซ่งอวี่เซาไม่สูงก็จริง แต่ชีวิตนี้เขาท่องยุทธภพมาจน ชินแล้ว คบค้าสมาคมกับคนของสามลัทธิเก้าสาขา เข้าใจดีถึง เรื่องราวความสัมพันธ ์ของผู้คนบนโลก ดังนั้นจึงเข้าใจความลี้ลับใน เรื่องนี้เป็ นอย่างดี

ชุยตงซานก้มหน้าลงถูมือยิ้มกล่าว “ไม่เป็ นไร ผู้อาวุโสช่งท่านคง ยังไม่รู ้กระมัง ก่อนหน้านี้ตอนอยู่บนยอดเขาเจ๋อเซียนของภูเขาเซียน ตูพวกเรา อาจารย์เคยสอนวิชาหมัดให้หวงอีอวิ๋นแห่งใบถงทวีป ตีกัน ไปตีกันมา นางก็ฝ่ าทะลุคอขวดชั้นปราณโชติช่วงของขอบเขตสิบ เพียงแต่เพราะการออกหมัดของอาจารย์มีการกะน้าหนักได้อย่างดี เยี่ยมจึงไม่เพียงแต่ไม่ทาลายความปรองดอง ทุกวันนี้กลับยัง กลายเป็ นว่าเรือนอวิ่นฉ่าวของผูซานได้กลายมาเป็ นพันธมิตรอย่าง เป็ นทางการของสานักกระบี่ชิงผิงแล้ว ผ่านอีกร ้อยสองร ้อยปี ลูกศิษย์ บนทาเนียบของสองบ้านไปมาหาสู่กันบ่อยครั้งเข้า ก็น่าจะถือว่ามี มิตรภาพที่ “คบหากันมาหลายชั่วคน ได้แล้ว”

ปีนั้นที่แคว้นซูสุ่ย ซ่งอวี่เซาล้างมือในอ่างทองคา เลือกที่จะถอย ออกมาจากยุทธภพ ซูหลางเซียนกระบี่ไผ่เขียวที่พลันมีชื่อเสียง ขึ้นมาในแคว้นชงซีไม่ยอมเลิกรา ทาลายกฎของยุทธภพ ยืนกรานจะ ประลองฝีมือกับซ่งอวี่เซาให้จงได้ เพิ่งจะเลื่อนเป็ นขอบเขตร่างทองก็

มาเยือนหมู่บ้านวารีกระบี่ในทันทีอย่างแทบจะอดทนรอไม่ไหว คิดว่า จะขึ้นไปเหยียบอยู่บนไหล่ของอริยะกระบี่แห่งแคว้นซูสุย นั่งครอง เก้าอี้อันดับหนึ่งในยุทธภพด้านเวทกระบี่ในหลายแคว้นของภาค กลางแจกันสมบัติทวีปให้จงได้ ผลคือถูก “เซียนกระบี่” หนุ่มของแท้ คนหนึ่งบีบให้ซูหลางต้องถอยร่น ไล่อีกฝ่ ายให้มาทางไหนกลับไป ทางนั้น ภายหลังเพื่อนาฝักกระบี่ไผ่เหลืองขึ้นนั้นกลับคืนมา ระหว่าง ที่มีการประชุมของศาลบุ๋น เฉินผิงอันได้ไปหาหม่าฉวีเซียน และยังลง มือต่อสู้กับอีกฝ่ ายอย่างจริงจัง ยอมเสี่ยงที่จะแตกหักกับราชวงศ์ ต้าตวนแผ่นดินกลางและสายของเทพีแห่งการต่อสู้เผยเปย น่า เสียดายที่สองครั้งที่เจ้าเด็กเฉินผิงอันผู้นี้ลงมือ ผู้เฒ่าล้วนไม่เคยได้ เห็นเองกับตา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!