กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 970

อาจารย์เจิงเอ่ยว่า “ผู้ฝึ กยุทธล่างภูเขาไม่ใช่ผู้ฝึ กตนบนภูเขา อายุขัยมีจ ากัด เส้นทางหัวขาดเดิมทีก็เป็ นคากล่าวที่ผู้ฝึกตนจงใจ น ามาใช ้กดข่มผู้ฝึกยุทธอยู่แล้ว เป็ นเหตุให้เมื่อเวลาร ้อยปีผ่านพ้นไป คนและเรื่องราวจึงสามารถเรียกขานว่าปฏิทินเหลืองที่กลายเป็ นเกล็ด ประวัติไปแล้วได้ นอกจากนี้คนผู้นี้ก็เรียกตัวเองเป็ นบัณฑิตด้วย ความภาคภูมิใจมาโดยตลอด ภายหลังยังมีเหตุเปลี่ยนแปลงทาง ตระกูลเกิดขึ้น จึงถูกตัดชื่อออกจากผังวงศ์สกุลของศาลบรรพชน ทุกวันนี้พวกคนรุ่นเยาว์ของแจกันสมบัติทวีปพวกเจ้าไม่เคยได้ยินชื่อ นี้มาก่อนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก”

ฉินปู้ อี๋นึกขึ้นได้จึงกล่าวว่า “ปี นั้นศิษย์พี่จางเคยเจอกับ ปัญญาชนสวมชุดลัทธิขงจื๊อต่างถิ่นคนหนึ่งที่เดินทางมาเที่ยวเยือน ทวีปแดนเทพแผ่นดินกลางโดยบังเอิญ เห็นได้ชัดว่าผู้เฒ่าในเวลานั้น ท่าทางอกสั่นขวัญหาย เพียงแค่บอกว่าตัวเองแช่ชุย ไม่ยอมบอกชื่อ จริง อีกทั้งบางครั้งก็มีสติ บางครั้งก็เสียสติ มีเค้าลางว่าจะถูกธาตุไฟ เข้าแทรก การพบเจอกันโดยบังเอิญครั้งนั้น เนื่องจากถูกชะตากัน ศิษย์พี่จึงไม่อยากจะสืบเสาะสถานะของอีกฝ่ าย เพียงแค่ตั้งใจช่วย ปกป้ องคนผู้นี้ช่วงระยะทางหนึ่ง ทุกครั้งที่คนผู้นี้คืนสติ คาพูดคาจา ของเขาล้วนไม่ธรรมดา มีความรู ้ลึกล้า เคยมีคาพูดประโยคหนึ่งที่ทา ให้ศิษย์พี่จางจดจาได้อย่างแม่นยามาจนถึงทุกวันนี้ คนผู้นี้เคยบอก

ว่าลูกผู้ชายยามอยู่ร่วมกับผู้อื่น คาพูดต้องจริงปฏิบัติต่อคนอื่นต้อง จริงใจ หยัดยืนอย่างเที่ยงตรง ศึกษาหาความรู ้ต้องระมัดระวังจริงจัง ออกหมัดต้องมีเหตุผล”

อาจารย์เจิงยิ้มพลางพยักหน้ารับ “สิ่งที่ชุยเฉิงต้องการในชีวิตนี้ อันที่จริงก็เรียบง่ายมาก ก็แค่ว่าต้องอยู่ในกฎเกณฑ์เท่านั้น”

ฉินปู้ อี๋มองบุรุษที่สวมชุดผ้าฝ้ ายสีเขียวแวบหนึ่ง หรือว่าคนผู้นี้ เจอกับอุปสรรคมากมายขนาดนี้ก็เป็ นเพราะฝี มือของคนเชื่อดาบ อย่างพวกเจ้าด้วย?

สามสายของผู้ล้างมลทิน มีการวางแผนในระดับที่ไม่เท่าเทียม กันกระจายไปในแปดทวีปของไพศาล มีเพียงแจกันสมบัติทวีปเท่านั้น ที่ดูเหมือนว่าเนื่องจากสายของเซียนกระบี่ซีซานไปชนตอเข้า เคย เจอกับความยากล าบากอย่างใหญ่หลวงมาก่อน เพียงไม่นานก็พา กันถอยออกไปทั้งหมด ศิษย์พี่คนนั้นของฉินปู้ อี๋ ว่ากันว่าการที่ สามารถพาลูกศิษย์ผู้สืบทอดหลายคนออกมาจากแจกันสมบัติทวีป โดยที่ยังมีชีวิตรอดได้ ยังเป็ นเพราะคนบางคนเห็นแก่ความสัมพันธ ์ ในอดีต ยอมทาลายกฎปล่อยพวกเขาไปครั้งหนึ่ง

อาจารย์เจิงใช ้เสียงในใจพูดกลั้วหัวเราะว่า “ต่อให้ข้าจะใจกล้า แค่ไหนก็ไม่กล้าท าการค้าด้วยการเชื่อดาบกับชุยเฉิง หาไม่แล้วคง เบื่อที่จะมีชีวิตอยู่มากเกินไป ถูกกาหนดมาแล้วว่ามิอาจเดินออกไป จากแจกันสมบัติทวีปได้”

ผู้ชมสองกลุ่ม ทางฝั่งของพวกฉินปู้ อี๋อยู่ตรงหัวกาแพงเมือง ทาง ฝั่งของชุยตงซานกลับเลือกหลังคาของหอเรือนสูงที่การมองเห็น ค่อนข้างเปิดกว้างหลังหนึ่ง

ขณะที่สองคนที่อยู่บนถนนกาลังจะออกหมัด เฉินผิงอันพลันเงย หน้าขึ้นมองไปทางหัวก าแพงเมือง โบกมือทักทาย

หันกวงหู่ไม่เข้าใจ จะออกหมัดก็ไม่ใช่ จะเก็บหมัดมาก็ไม่ถูกต้อง แล้วก็ไม่อาจหันไปมองตามอย่างโง่งมได้ หากว่าเฉินผิงอันอาศัย โอกาสนี้ลงมือกะทันหัน จะไม่ต้องมีจุดจบที่ถูกต่อยแค่ไม่กี่หมัดก็ล้ม คว่าหรอกหรือ?

ชื่อเสียงในการถามหมัดของเจ้าเฉินผิงอันผู้นี้ ทุกวันนี้ค่อนข้าง แพร่หลายในบรรดาผู้ฝึกยุทธขอบเขตปลายทางกลุ่มน้อยที่อยู่บน ยอดเขาของไพศาล แต่ไม่ใช่ชื่อเสียงที่ดีนัก

ชุยตงซานถอนหายใจเบาๆ รีบไล่มองตามสายตาของอาจารย์ไป ทันที ก็เห็นสตรีร่างสูงใหญ่คนหนึ่งยืนอยู่บนหัวกาแพงเมือง นาง ปรากฏตัวอย่างเงียบเชียบ ยืนโดดเดี่ยวอยู่ท่ามกลางลมหิมะ กาลังยิ้ม ตาหยี

ขอแค่นางไม่ยินดีให้คนอื่นได้รับรู ้ ต่อให้เป็ นเซียนเหรินอย่างชุย ตงซานที่คิดว่ามือเดียวของตัวเองสามารถชัดเซียนเหรินได้สองคนก็ ยังมิอาจสัมผัสได้แม้แต่น้อย

นางยังคงดีต่ออาจารย์ของตนเหมือนในอดีตเลย

เพียงแต่นางกลับจากนอกฟ้ ามายังโลกมนุษย์ได้อย่างไร?

ซ่งอวี่เซาเองก็มองเห็นเงาร่างของสตรีผู้นั้นเหมือนกัน จึงถาม อย่างสงสัยว่า “คนผู้นี้คือ?”

ชุยตงซานเอ่ยอย่างระมัดระวัง “ถือว่าเป็ นผู้ถือกระบี่ของ อาจารย์?”

ซ่งอวี่เซายิ้มกล่าว “ขอแค่ไม่ใช่ความสัมพันธ ์ทานองนั้นก็ พอแล้ว”

ชุยดงซานเหมือนนกกระทาถูกแช่แข็ง ไม่กล้าต่อค าเด็ดขาด

ฉินปู้ อี๋กดด้ามดาบตามจิตใต้ส านึก เหมือนเจอกับศัตรูตัวฉกาจ หันหน้าไปมองแขกที่ไม่ได้รับเชิญ ไม่ได้เผยตัวอย่างเซียนกระบี่หมี่ เช่นก่อนหน้านี้ แต่กลับทาให้ฉินปู้ อี๋รู ้สึกว่าผู้ฝึกตนหญิงคนนี้ก็คือ…. ตัวของฟ้ าดินเอง

ซงจือหันหลังกลับ คิดจะขยับเท้าเดินไปข้างหน้า พยายาม ปกป้ องทุกคนเอาไว้ แต่กลับค้นพบด้วยความตกตะลึงว่าตัวเอง เหมือนจมอยู่ในปลักโคลนลึก แค่จะยกเท้าขึ้นก็ยังยากล าบาก

พริบตานั้นลั่วหยางมู่เค่อผู้นี้ก็ค้นพบว่าจิตแห่งมรรคาของตน ขมวดเป็ นปม ปราณวิญญาณเกาะตัวเป็ นน้าแข็ง วิชาอภินิหารที่ เรียนรู้มาอย่างหลากหลายของขงจือเหมือนกับว่าได้มอบกลับคืนไป ให้เทพเทวดาที่มาทวงหนี้ไปหมดแล้ว?

อาจารย์เจิงยังคงค้างอยู่ในท่ามองไปยังถนนใหญ่ ยืนนิ่งไม่ขยับ ไม่หมุนตัวกลับไม่ขยับเท้า ถึงขั้นที่ว่ายังฝื นบังคับตัวเองไม่ให้เกิด ความคิดใดๆ ขึ้นมา

สตรีชุดขาวผู้นั้นก็ไม่ได้สนใจพวกฉินปู้ อี๋ เพียงแค่พลิ้วกายจาก หัวก าแพงเมืองมาบนถนน จากนั้นเดินสวนไหล่ไปกับหันกวงหู่ ฝ่ าย หลังก าลังจะออกหมัด

ไม่ใช่ว่าต้องหยั่งเชิงความตื้นลึกของอีกฝ่ าย แล้วก็ไม่ใช่ว่าไม่รู ้ หนักเบา อยู่ดีไม่ว่าดีก็จะออกหมัดใส่ผู้ฝึกตนหญิงที่ปรากฏตัวอย่าง ลึกลับ ทว่าความรู ้สึกลวงตาไร ้เหตุผลให้อธิบายที่ผุดขึ้นมาในใจของ ผู้เฒ่าท าให้เขารู ้สึกว่าหากไม่ออกหมัดนี้จะต้องเสียดายไปชั่วชีวิต หากวันหน้าคิดอยากจะหวนกลับคืนสู่ชั้นคืนความจริงอีกครั้งก็คือ ความเพ้อฝันของคนปัญญาอ่อน นอกจากนี้แล้วท่ามกลางความมืด มิดที่มองไม่เห็น ผู้ฝึกยุทธชรายังมีความรู ้สึกที่เหมือนถูกสยบการาบ บนมหามรรคาที่น่าประหลาดอย่างหนึ่ง บอกกับเขาว่าศัตรูแห่งชะตา ชีวิต ศัตรูคู่อาฆาตแต่กาเนิดนั้นอยู่ที่นี่แล้ว จะต้องปล่อยหมัดนี้ ออกไปเพื่อผู้ฝึกยุทธ ในใต้หล้า!

เฉินผิงอันส่ายหน้าเบาๆ บอกเป็ นนัยอย่างที่แทบจะสังเกตไม่เห็น จากนั้นยิ้มถามว่า “มาได้อย่างไร?”

นางยิ้มกล่าว “รอจนเริ่มรู ้สึกเบื่อแล้วนี่นา”

ดูเหมือนว่ารอกระทั่งทั้งสองฝ่ ายเปิดปากร าลึกความหลังกัน ฟ้ า ดินที่เต็มไปด้วยลมหิมะก็กลับคืนมาโคจรตามปกติอีกครั้ง

ตอนที่นางเดินผ่านข้างกายของหันกวงหู่ได้จงใจชะลอฝีเท้า หัน หน้าไปมองผู้ฝึกยุทธเฒ่าที่อยากจะออกหมัด

นางไม่ได้เปิดปากพูด แต่ในทะเลสาบหัวใจของหันกวงกู่กลับมี คลื่นยักษ์ถาโถม ผู้เฒ่า ได้ยินเสียงใสกระจ่างที่แฝงไว้ด้วยนัยแห่ง การเย้ยหยันอย่างชัดเจน

“พอจะมีความสามารถอยู่บ้าง อายุน้อยๆ ก็สามารถสัมผัสได้ถึง คาสั่งที่ปริแตกที่อยู่ยอดบนของวิถีวรยุทธได้ น่าเสียดายที่มีขีดจากัด อยู่ที่คุณสมบัติที่ธรรมดาและอายุชัย ถูกกาหนดมาว่ามิอาจเดินขึ้นสู่ บนยอดสูงสุดได้แล้ว มนุษย์ธรรมดาบนพื้นดินมิอาจพบเจอเทพ ที่ แท้จริง…”

“เจ้า คือ…”

“หากพูดได้ครบประโยค ข้าก็จะบอกค าตอบแก่เจ้า”

หันกวงหู่ถึงขั้นมิอาจพูดได้มากกว่านั้นอีกแม้แต่คาเดียว

บทที่ 970.2 ลมหิมะที่คุ้นเคย 1

บทที่ 970.2 ลมหิมะที่คุ้นเคย 2

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!