กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 978

สรุปบท บทที่ 978.3 ศิษย์พี่ศิษย์น้องที่รักใคร่ปรองดอง: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

สรุปเนื้อหา บทที่ 978.3 ศิษย์พี่ศิษย์น้องที่รักใคร่ปรองดอง – กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet

บท บทที่ 978.3 ศิษย์พี่ศิษย์น้องที่รักใคร่ปรองดอง ของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ชุยตงซานปวดหัวแปลบทันใด “ไม่คุยแล้ว ไม่คุยแล้ว หลังจากนี้ ข้าจะคุยเรื่องการค้ากับคนอื่น เจ้าก็คอยดูสีหน้าศิษย์พี่ก่อนจะทา อะไรก็แล้วกัน”

อันที่จริงจนถึงเมื่อครู่นี้ เฉาฉิงหล่างก็ยังไม่รู ้ว่าตัวเองถูกศิษย์พี่ ชุยเรียกมาพบใครที่นี่กันแน่

ชุยตงซานใช ้สองมือถูใบหน้า รอให้พวกหวังจูพลิ้วกายลงบนพื้น แม้ว่าซีหมานผู้นั้นจะเป็ นผู้ฝึกยุทธเต็มตัว ไม่ใช่ผู้ฝึกตน แต่ขอแค่ เขาเผยร่างจริงของมังกรดินออกมา พูดถึงแค่เรี่ยวแรงในการย้าย ภูเขาถอนเทือกเขาออก ก็ยอดเยี่ยมอย่างถึงที่สุด

ส่วนนักพรตหยกหวงม่าน เดิมทีการเรียกลมได้ลม เรียกฝนได้ ฝนก็เป็ นความช านาญของเขาอยู่แล้ว ผู้ฝึกตนทั่วไปมิอาจไปมีเรื่อง กับจางเถียวเสียได้ ผู้ฝึกยุทธเฒ่าที่ยึดครองเก้าอี้อันดับหนึ่งบนวิถีวร ยุทธในใต้หล้ามานานหลายปีผู้นี้ไม่เคยเกิดความขัดแย้งกับใครง่ายๆ แต่ขอแค่ลงมือก็ไม่มีทางออมแรงอย่างแน่นอน

ขยับเข้าใกล้อารามที่อยู่ในภูเขา หวงม่านก็พลันใช ้เสียงในใจ ถามว่า “หลี่ป๋ า เจ้ากับข้าร่วมมือกัน บวกกับซีหมานที่คอยให้การ ช่วยเหลืออยู่ข้างๆ สามต่อหนึ่ง พอได้ไหม?”

ส่วนกงเยี่ยนนั้นก็ช่างเถิด ต่อให้ชวนนางก็คงไม่มา สตรีผู้นี้ นอกจากหาเงินแล้ว ไม่ว่าเรื่องไหนนางก็ไม่สนใจทั้งนั้น

หลี่ป๋ าส่ายหน้า “อย่าวู่วาม กับคนผู้นี้อย่าได้ผูกปมแค้นกับเขาจะ ดีกว่า”

ซีหมานไม่ชอบเจ้าสานักชุยที่ทาตัวลับๆ ล่อๆ ผู้นี้จริงๆ เขารู ้สึก ตะครั่นตะครอไม่สบายตัว สายตาของเด็กหนุ่มชุดขาวคล้ายแม่เล้าที่ มองหญิงนางโลมอย่างไรอย่างนั้น

แต่หากจะให้ถามหมัดกับอีกฝ่ าย ซีหมานไม่เคยคิดถึงจริงๆ ดังนั้นหลี่ป๋ าไม่ได้ตอบรับค าเชิญของนักพรตหญิงจึงท าให้ซีหมาน โล่งใจ

คนทั้งกลุ่มมาถึงหน้าประตูภูเขา

ชุยเหวยยังคงทาหน้าตาย ไม่สะทกสะท้านเหมือนที่ผ่านๆ มา

เฉาฉิงหล่างประสานมือคารวะด้วยสีหน้าอบอุ่น “เฉาฉิงหล่างแห่ง ยอดเขาจึงชิงส านักกระบี่ชิงผิง คารวะสุ่ยจวินแห่งทะเลบูรพา คารวะผู้ อาวุโสเซียนซือทุกท่าน”

หวังจูพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม “ตอนที่ข้าอยู่เมืองหลวงต้าหลีก็ เคยได้อ่านกระดาษข้อสอบเคอจวี่ของเจ้ามาหลายฉบับ เขียนได้ดี มาก จรดพู่กันดุจบุปผาผลิบาน บทความมีความหมายลึกซึ้งชัดแจ้ง”

เฉาฉิงหล่างคลี่ยิ้มอ่อนจาง “เกี่ยวกับความรู ้ในสายการสอบ เคอจวี่ อาจารย์ของข้าให้คาชี้แนะค่อนข้างมาก”

หวังจูไม่ยอมรับและไม่ปฏิเสธในเรื่องนี้ แต่เมื่อเทียบกับท่าทีเย็น ชาเฉยเมยยามอยู่กับชูยตงซานแล้ว เผชิญหน้ากับ “ผู้เยาว์” อย่าง เฉาฉิงหล่าง เวลานี้บนใบหน้าของนางดูอ่อนโยนกว่าหลายส่วน

กงเยี่ยนหันมองสบตากับซีหมาน มารดามันเถอะ ในที่สุดก็ได้ เจอกับคนปกติเสียทีนะ?

เดินไปที่ห้องโถงของอารามเต๋าด้วยกัน ด้านในจัดเตรียมอาหาร ไว้เรียบร ้อยแล้ว รอกระทั่งหวังจูและชุยตงซานหยิบตะเกียบขึ้นมา พร ้อมกัน ทุกคนก็เริ่มลงมือกินอาหาร

ชุยตงซานยกเรื่องการขุดเจาะลาน้าใหญ่สายหนึ่งในใบถงทวีป มาพูด บอกว่าส านักกระบี่ชิงผิงถือเป็ นหนึ่งในผู้ริเริ่ม ขอเชื้อเชิญให้ หวังจูและจวนวารีทะเลบูรพาร่วมแรงร่วมใจมีส่วนร่วมกับงานนี้อย่าง จริงใจ

หวังจูตอบตกลงเร็วมาก ผิดจากการคาดการณ์ของพวกกงเยี่ย นอยู่ไม่น้อย

นิสัยของนายท่าน พวกนางรู ้ชัดเจนดียิ่งกว่าใคร เพราะเรื่องที่ เทพวารีต้องให้การคุ้มกันทางน้า เทพวารีตาแหน่งสูงในใต้หล้าต่างก็ ปรากฏตัวกันแทบทั้งหมด อย่าว่าแต่หลี่เย่โหวเพื่อนบ้านใกล้เคียงที่ มักไปมาหาสู่กันเป็ นประจาเลย ต่อให้เป็ นตั้นตั้นฮูหยินที่ปรากฏตัว

เป็ นบางครั้ง หวังจูได้เจอนางแล้วก็ยังไม่เคยท าสีหน้าดีๆ ให้เห็น ระหว่างนั้นมีสองครั้งที่ร่วมประชุมพร ้อมกับหวังจู ส่วนใหญ่ล้วนเป็ น ตั้นตั้นฮูหยินที่มีใบหน้ายิ้มแย้มเอาใจ ไม่รู ้สึกกระอักกระอ่วนว่าตัวเอง ต้องเอาหน้าร ้อนๆ ไปแนบกันเย็นๆ ของคนอื่นแม้แต่น้อย

แต่นี่กลับอยู่ในการคาดการณ์ของชุยตงซาน ก่อนหน้านี้ได้ พูดคุยเรื่องนี้กับอาจารย์ อาจารย์ได้เอ่ยประโยคหนึ่งที่เข้าเป้ าตรงเผง บอกว่าหากชุยตงซานออกหน้า พูดถึงแค่เรื่องส่วนรวม ไม่พูดถึง มิตรภาพส่วนตัว เป็ นพ่อค้าที่พูดภาษาการค้า ถ้าอย่างนั้นโอกาสที่ เรื่องนี้จะสาเร็จก็มีถึงแปดส่วนขึ้นไป แต่หากให้เขาเฉินผิงอันมา “ร าลึกความหลัง” กับหวังจู ก็จะกลายมาเป็ นว่าความเป็ นไปได้ที่จะ ไม่สาเร็จมีเกินแปดส่วนขึ้นไป นี่แสดงให้เห็นว่าเฉินผิงอันรู ้จักนิสัย ของหวังจูเป็ นอย่างดี

ขุดเจาะลาน้าใหญ่ เรื่องนี้สาหรับหวังจูแล้วมีแต่ผลประโยชน์ไม่มี ผลเสีย คือการค้าที่ได้แต่ก าไรไม่มีขาดทุน แต่ส าหรับหวังจูแล้ว ใน เมื่อลาน้าใหญ่ต้องเกิดขึ้นแน่นอน นางลงมือหรือไม่ เต็มใจหรือไม่ ก็ ต้องดูแค่อารมณ์ของนางอย่างเดียวเท่านั้น การเลือกเช่นนี้ เมื่อเทียบ กับชิงถงของหอสยบปี ศาจที่อยากแต่จะนอนเสวยสุขอย่างเดียว ภายนอกมองดูเหมือนคล้ายคลึงกัน แต่กลับยังมีความต่างอยู่บ้าง เนื่องจากชิงถงมีความเห็นแก่ตัว ไม่ยินดีจะให้ผู้ฝึกกระบี่คนหนึ่งสอด มือเข้ายุ่งเกี่ยวกับใบถงทวีปที่นางมองว่าเป็ นพื้นที่อิทธิพลของบ้าน ตัวเองมากเกินไป ส่วนหวังจูนั้นกลับเป็ นแค่เพราะ….ขี้เกียจ

อาศัยลาน้าใหญ่ใหม่เอี่ยมเส้นหนึ่งเชื่อมโยงพื้นดินของใบถง ทวีปกับน่านน้าของมหาสมุทรตะวันออกเข้าด้วยกัน เทพวารีแต่ละ ฝ่ ายทั่วทั้งใบถงทวีป หากว่ากันในพื้นฐานดั้งเดิมแล้วก็ต้องมีระดับต่า กว่าสุ่ยจวินแห่งมหาสมุทรตะวันออกอย่างนางระดับหนึ่ง

เมื่อก่อนสถานะของสองฝ่ ายแตกต่างกัน จึงจาต้องเคารพหวังจู แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีความต่างระหว่างทะเลกับบนบก ภายหลังเป็ น ชะตาน้าที่บ้างมากบ้างน้อยซึ่งล้วนถูกกุมอยู่ในมือของหวังจูหมดแล้ว พูดง่ายๆ ก็คือขอแค่ลาน้าใหญ่เกิดขึ้นมา หวังจูสามารถอาศัย กระแสน้าไหลเชี่ยวกรากที่ลอดทะลุผืนแผ่นดินสายนี้ตัดแบ่งอาณา เขตภาคกลางของใบถงทวีปไปอยู่ในเขตอ านาจของทะเลบูรพาได้ เลย

เว่ยป้ อ จิ้นชิง ฟ่ านจวิ้นเม่าเป็ นหนึ่งในนั้น แล้วนับประสาอะไรกับที่ พื้นที่ครึ่งหนึ่งของทวีปล้วนเป็ นอาณาเขตของราชวงศ์ต้าหลี…

หันกลับมามองใบถงทวีป เห็นได้ชัดว่าจวนวารีทะเลบูรพา สามารถด าเนินการได้อย่างเต็มที่ สถานที่แห่งนี้ยิ่งภูเขาสายน้าภินท์ พังมากเท่าไร จวนเซียนเก่าพากันเสื่อมโทรมกระจัดกระจาย บ้างก็ ย้ายไปอยู่ใต้หล้าห้าสี บ้างก็เป็ นภูเขาเก่าที่ยากจะกอบกู้คืนมา หรือไม่ก็ต้องเลือกที่ตั้งใหม่อีกครั้ง…สานักที่สามารถลงมือได้อย่าง แท้จริง อันที่จริงก็มีแค่งูเจ้าถิ่น อย่างสานักกุยหยกและมังกรข้าม แม่น้าอย่างสานักกระบี่ชิงผิงเท่านั้นแล้ว หวังจูและจวนวารีสอดมือเข้า แทรกเรื่องกิจธุระของโชคชะตาน้าบนบก ไม่เพียงแต่ไม่ละเมิดกฏที่ ศาลบุ๋นตั้งไว้ กลับกันยังสามารถสะสมคุณความชอบได้อีกด้วย ดังนั้นเมื่อครู่นี้หวงม่านและซีหมานจึงไม่จ าเป็ นต้องถามความเห็น ของหวังจู เพราะรู ้แน่อยู่แล้วว่าพวกเขาสองคนต้องได้ไปเป็ นกรรมกร ออกแรงอย่างแน่นอน

ชุยตงซานยิ้มตาหยีเอ่ยว่า “มีอะไรก็พูดกันให้ชัดเจนก่อน หนึ่ง เพราะทะเลกับบนบกมีความแตกต่าง นอกจากนี้ขนบธรรมเนียมก็ไม่ เหมือนกัน วันหน้าร่วมมือกันขุดเจาะลาน้าใหญ่ ข้อพิพาทบางอย่าง เป็ นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว วันหน้าขุนนางของจวนวารีขึ้นฝั่งมาเข้า ร่วมการประชุม ต่างคนต่างยึดความเห็นของตัวเองเป็ นหลัก จะ ทะเลาะกันแค่ไหนก็ไม่เป็ นปัญหา ถึงขั้นที่ว่าออกไปต่อยตีกันข้าง

นอกก็ยังได้ แต่ทางที่ดีที่สุดอย่าให้มีคนตาย หาไม่แล้วก็ยากที่จะ คลี่คลายเรื่องราวได้”

สกุลหลิวแห่งธวัลทวีป ร ้านผ้าห่อบุญของจางจื๋อ อันที่จริงล้วน พูดง่าย มีป้ ายอักษรทองคาที่เป็ นหนึ่งไม่เป็ นสองในใต้หล้าอย่าง อาจารย์อยู่ แล้วนับประสาอะไรกับที่วิถีแห่งการควบคุมคนของหลิวจ อี้เป่าและจางจื๋อก็ขึ้นชื่อในใต้หล้า เชื่อว่าคงไม่มีทางเกิดเรื่องอะไรขึ้น ได้ มีเพียงจวนวารีของหวังจูเท่านั้นที่มีตัวแปรมากที่สุด

หวังจูกล่าว “ถ้าอย่างนั้นก็ให้เฉาฉิงหล่างรับหน้าที่ประสานงาน กับทางจวนวารี หากเกิดปัญหาก็จะได้พูดคุยกันก่อนได้ จากนั้นค่อย เอาไปทะเลาะกันในห้องประชุม”

เฉาฉิงหล่างรู ้สึกรับมือไม่ทันอยู่บ้าง จึงหันไปมองชุยตงซาน

ชุยตงซานพยักหน้ายิ้มรับ “ไม่มีปัญหา ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตาม นี้ เฉาชิงหล่างเพิ่งจะสร ้างโอสถทอง เป็ นเซียนดินคนหนึ่งแล้ว เรื่อง การลงภูเขาไปหาประสบการณ์ก็สามารถยกมาเป็ นระเบียบวาระการ ประชุมได้แล้ว นี่ก็บังเอิญเลย ต่อจากนี้เฉาฉิงหล่างก็จะได้แวะไปที่ จวนวารีมหาสมุทรบูรพาได้บ่อยๆ ท าความคุ้นเคยกับสถานการณ์ ของที่นั่นให้มาก เพียงแต่ว่าระยะทางบนทะเลยาวไกล คาดว่ายังต้อง ขอยืมยันต์เทพมังกรข้ามทะเลในต านานแผ่นหนึ่งจากจวนวารีมาให้ เฉาฉิงหล่างใช ้ชั่วคราว หลีกเลี่ยงไม่ให้เขาต้องเสียเวลาในการ เดินทางมากเกินไป”

หวังจูพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม หยิบเอา “ยันต์แผ่นหนึ่ง” ซึ่งหาย สาบสูญไปนานแล้วออกมาจากชายแขนเสื้อ บอกว่าเป็ นยันต์ แต่อัน ที่จริงกลับเป็ นมังกรจิ๋วสีทองตัวหนึ่ง หวังจูสะบัดมือง่ายๆ ก็สลายตรา ผนึกของยันต์ทิ้งไปได้แล้ว ครั้นจึงโยนไปให้เฉาฉิงหล่างเบาๆ “ไม่ ต้องเกรงใจ มอบให้เจ้าแล้ว ถือเสียว่าเป็ นของขวัญแสดงความยินดีที่ เจ้าสร ้างโอสถได้ส าเร็จ”

ผู้ฝึกตนถือยันต์นี้อยู่ในมือ ลงน้าเหมือนขี่มังกร ออกแม่น้าท่อง ทะเล ความเร็วเท่ากับการเร่งเดินทางอย่างเต็มก าลังของเซียนเหริน คนหนึ่ง

เฉาฉิงหล่างใช ้สองมือรับ “ยันต์” แผ่นนั้นมา สอดไว้ในชายแขน เสื้อแล้วก็ลุกขึ้นขอบคุณ

หวังจูไม่ได้ลุกขึ้น แค่พยักหน้ารับ มองผู้ฝึ กตนหนุ่มที่แผ่กลิ่น อายบัณฑิตคร่าครือยู่บ้างคนนี้ นางพลันคลี่ยิ้ม

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!