กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 979

เฉินผิงอันเอ่ยเนิบช ้าว่า “ตอนที่ข้าอยู่บนยอดเขาเจ๋อเซียนภูเขา เซียนตู ได้ถามหมัดกับเย่อวิ๋นอวิ๋นไปรอบหนึ่ง และนางเองก็ไม่ได้จง ใจเก็บออมฝี มือเอาไว้ ดังนั้นวิชาหมัดอันลี้ลับของเรือนอวิ๋นฉ่าวผู ซานที่จาแลงมาจากภาพเซียนเหรินพวกนั้น ข้าจึงพอจะเข้าใจอยู่ บ้างหลายส่วน อีกอย่างเรือนอวิ๋นฉ่าวของเย่อวิ๋นอวิ๋น แต่ไหนแต่ไร มาก็เปิดประตูอ้ากว้างนอกจากวิชาหมัดที่ถ่ายทอดให้ลูกศิษย์ศาล บรรพจารย์ซึ่งมิอาจแพร่งพรายได้แล้ว วิชาหมัดที่เหลือก็ยินดีจะสอน ให้กับผู้ฝึ กยุทธทุกคนของในทวีปอย่างใจกว้าง นอกจากนี้ยังมี ความรู ้ความเข้าใจบางอย่างที่ช่วงนี้ข้าคิดว่าจะเขียนรวบรวมเป็ นเล่ม วันหน้าอาจจะมอบฉบับส าเนาให้กับเย่อวิ๋นอวิ๋นอีกทั้งสานักกระบี่ชิง ผิงของพวกเราทุกวันนี้ก็เป็ นพันธมิตรกับผูซานแล้ว เชื่อว่าขอแค่ลูก ศิษย์บนท าเนียบของผูซานมาท่องเที่ยวที่แจกันสมบัติทวีปก็จะต้องมา เยี่ยมเยือนภูเขาลั่วพั่วแน่นอน เมื่อมีสะพานนี้คอยเชื่อมโยงเอาไว้ สัจ ธรรมแห่งหมัดใกล้ชิดกันอย่างเป็ นธรรมชาติ ทั้งสองฝ่ายก็จะสามารถ เรียนรู ้วิชาหมัดจากกันและกัน ตอนนี้ช ้ากังวลว่าเฉาอินเรียนวรยุทธ ช ้าเกินไป สัจธรรมวิชาหมัดที่ข้าใคร่ครวญมาได้ชุดนี้ ถึงอย่างไรก็ไม่ สมบูรณ์แบบ หากเฉาอินเรียนเอาแก่นแท้ของมันไปไม่ได้ก็จะเหมือน คนที่เดินเข้าศาลบรรพจารย์จากประตูข้าง ง่ายที่จะแกะสลักหงส์แต่

ได้ออกมาเป็ นเป็ ด วาดเสือกลับกลายเป็ นแมว ไม่ทันระวังกลับจะ กลายเป็ นว่าหน่วงเหนี่ยวให้ต้นกล้าที่ดีต้นหนึ่งต้องเสียเวลาเปล่า”

จูเหลี่ยนยิ้มกล่าว “คุณชายวางใจสอนหมัดได้เลย เรื่องหลัง จากนั้น ข้าจะคอยจับตามองให้เอง”

เฉินผิงอันชูชามเหล้า “หมดชาม”

อันที่จริงเฉินยวนจีได้เดินบนทางสายนี้มานานแล้ว เพียงแต่ว่าจู เหลี่ยนทั้งสอนหมัดทั้งถ่ายทอดวิชา เส้นทางที่ใช ้คลุมเครือเกินไป นางจึงถูกปิดหูปิดตามาโดยตลอด

และนี่ก็คือเหตุผลที่ว่าทาไมทั้งๆ ที่คุณสมบัติของเฉินยวนจีไม่ ธรรมดา อีกทั้งยังตั้งใจฝึกตนถึงเพียงนั้น แต่กลับฝ่ าทะลุขอบเขตได้ ไม่เร็ว

ต้องรู ้ว่าวิชาหมัดในตระกูลของจูเหลี่ยน อยู่ในพื้นที่มงคล ดอกบัว เดิมทีก็มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วใต้หล้าว่าฝ่ าทะลุขอบเขต ว่องไวอยู่แล้ว

และเวลานี้เฉินผิงอันที่มองออกก็ไม่ได้พูดออกมา ถึงอย่างไรก็ เป็ นเรื่องดีสาหรับเฉินยวนจี ผู้ฝึกยุทธเต็มตัวคนหนึ่ง ยิ่งปรากฐานมา ดีเท่าไร ผลสาเร็จก็จะยิ่งสูงมากเท่านั้น

อันดับแรกก็มีเฉินยวนจี ตามมาด้วยเฉาอิน จูเหลี่ยนจึงคิดจะใช ้ กรณีตัวอย่างที่ประสบผลสาเร็จมากยิ่งขึ้นนี้มาช่วยปูเส้นทางเดินขึ้น

เขาใหม่เอี่ยมเส้นหนึ่งให้กับภูเขาลั่วพั่ว บนเส้นทางมีด่านน้อย ยิ่ง ธรณีประตูต่าเท่าไร เส้นทางก็จะยิ่งเดินยิ่งกว้างขวางมากเท่านั้น

จะคิดว่าเขาเป็ นแค่พ่อครัวเฒ่าที่ดีแต่ผูกผ้ากันเปื้อนไว้บนเอว ลงมือท าอาหารสามมื้อในหนึ่งวันซึ่งใช ้เวลาไม่มาก ก็เลยต้องหาเรื่อง บางอย่างมาท าไม่ได้จริงๆ

เซียนเว่ยถามอย่างใคร่รู ้ “เจ้าขุนเขาเฉิน เย่อวิ๋นอวิ๋นที่ท่านพูด ถึง ใช่หวงอือวิ๋นแห่งใบถงทวีปหรือไม่?”

เฉินผิงอันพยักหน้ารับ “นางนั่นแหละ ทาไมหรือ นักพรตเซียน เว่ยเคยได้ยินชื่อนางมาก่อนหรือ?”

เซียนเว่ยยิ้มกว้าง “เคยไปเตร็ดเตร่ที่ท่าเรือตระกูลเซียนแห่งหนึ่ง แล้วได้ยินมา ต่างก็พูดกันว่าปรมาจารย์ใหญ่แห่งวิถีวรยุทธท่านนี้ ชอบสวมเสื้อผ้าสีเหลืองออกท่องใต้หล้า วิชาหมัดสูงส่ง ตัวคนก็ยิ่ง งดงาม เจ้าขุนเขาเฉิน การประลองฝีมือครั้งนี้ แพ้หรือชนะล่ะ?”

เมื่อหลายปีก่อนตอนที่ยังร่อนเร่พเนจรอยู่ในยุทธภพ ค้นพบว่า เกี่ยวกับใบถงทวีปซึ่งมีคาประเมินที่ไม่ดีก็มีแค่คนไม่กี่คนเท่านั้นที่ผู้ ฝึกตนของแจกันสมบัติทวีปยอมพูดถึงในแง่ดีได้แก่เจียงซ่างเจินอดีต เจ้าสานักของสานักกุยหยก เหวยอิ๋งเซียนกระบี่ใหญ่เจ้าสานักคน ใหม่ เทพเซียนผู้เฒ่าลู่ ลู่ยงแห่งภูเขาชิงจิ้ง จากนั้นก็เป็ นเหยาจิ้นจือ ฮ่องเต้หญิงต้าเฉวียนที่เพียบพร ้อมทั้งสติปัญญาและความสามารถ นอกจากนี้ก็เป็ นหวงอือวิ๋นที่เล่าลือกันว่าเป็ นโฉมสะคราญคนหนึ่ง

เฉินผิงอันยิ้มกล่าว “เสมอกัน”

เด็กชายชุดสีชาดกล่าวอย่างเข้าใจกระจ่างแจ้ง “นั่นก็แสดงว่า ชนะแล้ว”

เซียนเว่ยถามอย่างสงสัย “ทาไมถึงได้ข้อสรุปเช่นนี้ล่ะ?”

เด็กชายชุดสีขาดใช้สายตามองคนปัญญาอ่อนมองเซียนเว่ย “ใต้เท้าเจ้าขุนเขาชอบถ่อมตนยกย่องแต่ผู้อื่นมาโดยตลอด นี่ยัง จ าเป็ นต้องถามอีกหรือ? นักพรตเซียนเว่ย เจ้านี่อย่างไรกันนะ? ไม่อย่างนั้นเขาจะสอนลูกศิษย์ดีๆ ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในยุทธภพอย่าง หัวหน้าใหญ่เผยออกมาได้อย่างไร?”

เฉินผิงอันรู ้สึกว่าหากมีโอกาสคงต้องเอ่ยเตือนลูกศิษย์ใหญ่เปิด ขุนเขาสักสองสามค าว่าคุยโวถึงอาจารย์ตัวเองเช่นนี้ เจ้าไม่หน้าแดง แต่ข้าอายมากนะ

แม้ว่าหมี่ลี่น้อยจะไม่ได้พูดคุยเท่าไร แต่นางต้องเป็ นคนที่มี ความสุขมากที่สุดแน่นอน

ช่วงเวลาที่เจ้าขุนเขาคนดีไม่อยู่บ้าน มารวมตัวกันกินข้าวที่เรือน ของพ่อครัวเฒ่าครึกครื้นก็ครึกครื้นอยู่ ไม่รู ้สึกเงียบเหงา แต่เจ้า ขุนเขาคนดีไม่อยู่ ดูเหมือนว่าจะขาดอะไรไปบางอย่าง อธิบายไม่ถูก เหมือนกัน เอาเป็ นว่ามีเจ้าขุนเขาคนดีอยู่บ้านก็ดีที่สุดเลยล่ะ

เสี่ยวโม่พลันเอ่ยว่า “ทางฝั่งของเซี่ยโก่ว ข้าจะจัดการเอง”

จูเหลี่ยนยิ้มประหลาด

เซียนเว่ยเคยชินที่จะยกชามข้าวหุ้ยข้าวกินแล้ว พอได้ยินจึงเงย หน้าขึ้น จัดการ? ท าไมฟังแล้วแปลกๆ นะ หากไม่เป็ นเพราะอาจารย์ เสี่ยวโม่เปิดปากพูดเอง เปลี่ยนมาเป็ นคนอื่นที่เอ่ยประโยคนี้ เซียนเว่ ยคงนึกว่าเป็ นคาสั่งลับในยุทธภพที่มีกลิ่นอายสังหารเดือดพล่านแล้ว

เฉินผิงอันเอ่ยสัพยอก “เจ้าน่ะไม่ต้องเลย สู้ก็สู้ไม่ชนะคนเขา จะ ไล่ก็คงไล่ไม่ไป หากทาให้นางร ้อนใจขึ้นมาจริงๆ แม่นางเซี่ยคิดตัด ขาดความสัมพันธ ์กับเจ้าและภูเขาลั่วพั่วตัดใจควักกระเป๋ าเงินของ ตัวเอง ทุ่มเงินซื้อบ้านในเมืองเล็กลงหลักปักฐานอย่างจริงจัง หรือไม่ หากนางอามหิตกว่านี้อีกสักหน่อย ซื้อหนึ่งในภูเขาสามลูกอย่าง ภูเขาเที่ยวอวี๋ เชิงเขาฝูเหยาและยอดเขาเทียนตูที่อยู่ใกล้กับภูเขาลั่ว พั่วเอาไว้ เป็ นเพื่อนบ้านกับพวกเรา จากนั้นนางก็สามารถนั่งอยู่บน หลังคา เบิกตากว้างมองมายังทิวทัศน์ของภูเขาลั่วพั่วทุกวันได้แล้ว เมื่อเป็ นเช่นนี้ เจ้าคิดว่าเข้าท่าแล้วหรือ?”

เสี่ยวโม่สะอึกอึ้งพูดไม่ออกไปทันที ด้วยพฤติกรรมของป๋ ายจิ่ง แล้ว ไม่ใช่อาจจะอะไรด้วยซ้า แต่เป็ นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว

หมี่ลี่น้อยคว้าจับกุญแจสาคัญไว้ได้ทันที “ที่แท้แม่นางเซี่ยที่เพิ่ง มาถึงก็มีเงินมากขนาดนี้เลยหรือ?”

ทุกวันนี้ใครคิดจะซื้อภูเขาลูกใดในภูเขาใหญ่ทิศตะวันตก ราคา ก็ไม่ใช่ถูกๆ เลยนะ!

เมื่อก่อนตอนที่เผยเฉียนยังเป็ นถ่านดาน้อย วันๆ เอาแต่คิด อยากจะเก็บเงิน เก็บเงินหวังว่าสักวันหนึ่งจะซื้อยอดเขาเทียนตูมาได้ หากทาได้จริง นางจะไม่ขมวดคิ้วสักครั้ง เชิญอีกฝ่ ายเปิดราคามาได้ เลย

สะสมเงินเทพเซียนได้มากพอก็จะแอบซื้อยอดเขาเทียนตูมาก่อน จากนั้นวันใดวันหนึ่งในปีใดปีหนึ่งถึงจะเล่าเรื่องนี้ให้อาจารย์พ่อฟัง ต้องการสร ้างเรื่องประหลาดใจที่น่ายินดีซึ่งใหญ่ยิ่งกว่าให้กับอาจารย์ พ่อ

ส่วนจะเป็ นวันไหน แล้วทาไมถึงต้องใหญ่ยิ่งกว่า เผยเฉียนกลับ ไม่เคยบอกโจวหมี่ลี่

บทที่ 979.3 วันนี้ไร ้เรื่องใด 1

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!