กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 980

เฉินผิงอันอธิบายว่า “เฉายาง ปณิธานหมัดไม่เพียงแต่ได้มาจาก กระบวนท่าที่ฝึกฝนวันแล้ววันเล่าปีแล้วปีเล่าเท่านั้น หมัดที่ดีที่แท้จริง ในใต้หล้านี้ ต้องมาจากนอกตาราหมัดอย่างแรกสอนให้พวกเราปู พื้นฐานของวรยุทธอย่างแน่นหนา อย่างหลังกลับสอนให้หมัดของ พวกเราสูงส่งเพียงหนึ่งเดียวบนเส้นทางการเรียนวรยุทธ ก็เหมือน อย่างอักษรภาพนี้ มีครบทั้งรูปลักษณ์และจิตวิญญาณ บางทีใน สายตาของปัญญาชนหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการเขียนพู่กันจีน หากดู จากเจตนารมณ์ของปลายพู่กันแล้ว อย่างมากก็เป็ นได้แค่ส าเนาของ เทียบอักษรเท่านั้น แต่หากเปลี่ยนมาเป็ นผู้ฝึ กยุทธอย่างพวกเราที่ มอง กลับสามารถมองเห็นความหมายได้มากกว่าเดิม ถึงขั้นสามารถ สร ้างกระบวนท่าหมัดของตัวเองออกมาได้ ผ่านไปอีกพักหนึ่ง ข้าจะ สอนหมัดนี้ให้พวกเจ้าเอง แล้วพวกเจ้าก็จะรู ้ว่าที่ข้าพูดนั้นไม่ใช่คา ลวง”

จูเหลี่ยนช่วยเก็บม้วนภาพ เฉินผิงอันพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “นอกจากหลักการเหตุผลแล้วก็ได้โอ้อวดของสะสมที่ข้ามีอยู่ให้พวก เจ้าได้ดูด้วย”

เด็กหนุ่มเด็กสาวหันมามองหน้ากัน

จูเหลี่ยนพันเชือกไว้บนม้วนภาพเรียบร ้อยแล้วก็ยื่นส่งให้เฉินผิง อันเบาๆ พลางเอ่ยว่า“ของสะสมมีมากมายไม่นับเป็ นอะไรได้ ขอแค่ ในกระเป๋ ามีเงินอยู่บ้างก็พอแล้ว แต่หากจะพูดถึงความยอดเยี่ยม ความงดงามของของที่สะสม อยากจะเอาชนะคนร่วมอาชีพ ทิ้งไปไม่ ไกลไม่เห็นฝุ่ น ท าให้คนได้แต่มองแผ่นหลัง ก็ต้องทดสอบสายตาใน การแยกแยะสิ่งของของคนที่เป็ นนักสะสมอย่างมากแล้ว”

เฉินผิงอันยิ้มพลางเก็บม้วนภาพกลับไปไว้ในวัตถุฟางขุ่นอีกครั้ง คาพูดดีๆ ประเภทนี้ของพ่อครัวเฒ่า เป็ นความจริงอย่างมาก

ต้องรู ้ว่าตอนที่เผยเฉียนยังเด็กก็เคยไปร ้องทุกข์กับเหล่าเว่ยเป็ น การส่วนตัว ใบหน้าของแม่นางน้อยเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้ม ทอด ถอนใจอย่างปลงอนิจจัง บอกว่าการท าตัวเป็ นลูกสมุนของพ่อครัว เฒ่า เรียนรู้อย่างไรก็เรียนได้ไม่เหมือน

เหล่าเว่ยพยักหน้า บอกว่าความสามารถประจ าตัวของคนบาง คนก็มีติดตัวมาแต่ก าเนิด ไม่ได้เกิดจากความพยายาม

สุดท้ายเว่ยเซี่ยนยังไม่ลืมเอ่ยเสริมมาอีกประโยคว่า ยกตัวอย่าง เช่นการสังเกตสีหน้าท่าทางของคนอื่นของเจ้า กับความสามารถใน การดื่มเหล้าของข้า

แต่ละคนต่างก็นั่งกลับลงไปอีกครั้ง เฉินผิงอันคิดว่าดื่มชาหมด ถ้วยนี้ก็จะจากไปแล้วจึงถามว่า “เฉาอิน ฝึ กตนเจอปัญหายาก อะไรบ้างหรือไม่?”

“ตอนนี้ยังไม่เจอ” เฉาอินส่ายหน้า มีตาราลับสามเล่มของชุย เซียนซือช่วยเปิดเส้นทางให้ ต่อให้เป็ นผู้ฝึกลมปราณที่ไม่ฉลาดมาก แค่ไหนก็ยังสามารถฝึกไปตามลาดับขั้นตอนได้

เฉินผิงอันยิ้มเอ่ย “หากว่าวันหน้ามีปัญหาอะไร เป็ นปัญหาที่ไม่ ว่าคิดอย่างไรก็ยังไม่เข้าใจ ก็ไปขอความรู ้จากชุยตงซาน แม้ว่าข้าจะ เป็ นผู้ฝึกกระบี่เหมือนกัน แต่ในด้านการถ่ายทอดความรู ้ไขข้อข้องใจ กลับอยู่ไกลเกินกว่าจะเทียบชุยตงซานได้ติด ถึงเวลานั้นเจ้าก็ไปที่ ห้องกระบี่ของยอดเขาจี้เซ่อ ส่งกระบี่บินไปยังภูเขาเซียนตูใบถงทวีป โดยตรง ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็ นการรบกวนชุยตงซาน ข้าจะบอกกับ เขาไว้ก่อน ดังนั้นหากเจ้าไม่ถามก็เท่ากับว่า ปล่อยโอกาสให้เสีย เปล่า”

เฉาอินลุกขึ้นประสานมือคารวะขอบคุณ เฉายางก็ลุกขึ้นกุมหมัด ตามไปด้วย

เฉินผิงอันยิ้มพลางผงกศีรษะรับ แล้วก็ลุกขึ้นเตรียมจะจากไป เฉาอินกลับเป็ นฝ่ายเปิดปากถามก่อนว่า “เจ้าขุนเขาเฉิน ข้าสามารถ พูดคุยถึงความรู ้ความเข้าใจจากการฝึกตนของตัวเอง แล้วจะขอฟัง ความเห็นจากเจ้าขุนเขาเฉินได้หรือไม่?”

เฉินผิงอันยิ้มตอบ “ต้องได้แน่อยู่แล้ว”

จูเหลี่ยนช่วยเติมชาให้ทุกคนอีกครั้ง

เฉาอินกล่าวว่า “เจ้าขุนเขาเฉิน ข้ารู ้สึกว่าการฝึกตนของผู้ฝึก ลมปราณ หรือแม้กระทั่งการฝึกหมัดของผู้ฝึกยุทธล้วนเป็ นศาสตร ์ ของการแก้ปัญหาที่ร ้อยเรียงติดกัน”

เฉินผิงอันยิ้มถาม “หมายความว่าอย่างไร เหตุผลเหมือนเรือนที่ ว่างเปล่า หลักการเหมือนเสาคาน ไม่สู้เจ้ายกตัวอย่างให้ฟังหน่อย”

เฉาอินจึงยกตัวอย่างอย่างเป็ นรูปธรรมโดยการน าการหลอม เรือนกายของผู้ฝึกยุทธมาแยกออกเป็ นการหลอมหนัง เนื้อ เส้นเอ็น และกระดูก นี่แสดงให้เห็นว่าเฉาอินที่มีฐานะเป็ นตัวอ่อนเซียนกระบี่ ไม่ได้กังวลเรื่องการฝึกตนของตัวเอง แต่เด็กหนุ่มกลับใส่ใจเส้นทาง การเรียนวรยุทธของเฉายางอย่างมาก

จูเหลี่ยนยิ้มไม่เอ่ยอะไร

เด็กสองคนที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก อันที่จริงกลับง่ายมากที่ ในอนาคตความสัมพันธ ์จะห่างเหินกันไป

เพียงแค่เพราะเด็กหนุ่มพลิกเปิดหนังสือเร็วเกินไป

ส่วนเด็กสาวที่อ่านหนังสือก็ชอบพับมุมกระดาษ

เฉินผิงอันตั้งใจฟัง พยักหน้าเอ่ยชื่นชม “ตัวอย่างนี้ยกมาได้ดี มาก”

เฉาอินกล่าวอย่างเขินอาย “บางทีคงมีแค่คนที่คุณสมบัติไม่ดี เท่านั้นที่ถึงจะอธิบายเช่นนี้”

เฉินผิงอันกาลังจะชมเด็กหนุ่มอีกประโยคว่า ความคิดนี้ของเจ้า สอดคล้องตรงกับข้าโดยไม่ได้นัดหมาย

ผลคือพอได้ยินเฉาอินพูดเช่นนี้ เจ้าขุนเขาเฉินก็รีบกลืนคาพูด ที่มารออยู่ตรงปากกลับลงท้องไปทันที

อันที่จริงความเห็นนี้ของเฉาอินไม่ได้มีปัญหาใดๆ ถึงขั้นพูดได้ ด้วยว่าคือความเข้าใจจากการฝึกตนที่มีดุลพินิจอย่างมาก

ในความเป็ นจริงแล้วเฉาอินย่อมต้องเป็ นคนมีพรสวรรค์ อายุน้อย แค่นี้ก็เป็ นผู้ฝึกลมปราณคอขวดขอบเขตชมมหาสมุทรแล้ว อีกทั้งยัง เป็ นผู้ฝึกกระบี่อีกด้วย

แต่ปัญหานั้นอยู่ที่ว่า บนโลกใบนี้มีผู้มีพรสวรรค์ในกลุ่มของผู้มี พรสวรรค์อีกกลุ่มหนึ่งอยู่จริงๆ ก็เหมือนอย่างหนิงเหยา เฉาสือ เผย เฉียน ไฉอู๋ ที่ต่างก็ถือว่าเป็ นคนประเภทนี้

เฉินผิงอันยิ้มถาม “เข้าใจตาราของลัทธิพุทธไหม?”

เฉาอินตอบ “เคยอ่านมาบ้าง แต่ไม่มาก”

เฉินผิงอันถามคาถามข้อหนึ่ง “มองความต่างระหว่างการตรัสรู ้ อย่างฉับพลันและค่อยๆ ตรัสรู้ของนิกายฉานเหนือกับนิกายฉานใต้ ของลัทธิพุทธอย่างไร?”

เฉาอินรู ้สึกกระวนกระวายไม่เป็ นสุข ปัญหาใหญ่ที่สาคัญซึ่ง เกี่ยวพันไปถึงการแบ่งแยกสายครั้งใหญ่ของลัทธิพุทธเช่นนี้ เขาหรือ

จะกล้าวิจารณ์ส่งเดช แล้วนับประสาอะไรกับที่เด็กหนุ่มเองก็ไม่เคย คิดอย่างลึกซึ้งมาก่อน

เฉินผิงอันถามอีกว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าถามเจ้า สามารถตั้งตัวเป็ น พระพุทธเจ้าได้จริงๆหรือ? หลังจากการรู ้แจ้งอย่างฉับพลันจะหยัดยืน อยู่ในภาวะของการตรัสรู ้อย่างฉับพลันนั้นอย่างไร?”

เฉาอินคล้ายจะเข้าใจ เพียงแต่ว่าดูเหมือนตัวอักษรในใจกลับ กลายมาเป็ นศัตรูตัวฉกาจของการบอกกล่าวความคิดดั้งเดิมของ ตัวเองออกมา

เฉินผิงอันยิ้มเอ่ย “ค่อยๆ คิดไป” เฉินผิงอันดื่มชาหนึ่งอีก “เมื่อครู่นี้เจ้าอยากถามคาถามอะไร หรือ?”

เฉาอินพลันคืนสติ จึงปลุกความกล้าเอ่ยว่า “แต่ละวันเจ้าขุนเขา เฉินจัดการกับเวลาอย่างไร ช่วยบอกอย่างละเอียดได้หรือไม่ ข้า อยากจะท าตามท่าน เรียนรู้ได้กี่ส่วนก็เรียนรู ้ไปเท่านั้น”

มองชีวิตของคนอื่นก็เหมือนมองแผนที่แผ่นหนึ่ง เทือกเขา สายน้าที่ระบุพิกัดเอาไว้มีชื่อเสียงมาก แต่ดูเหมือนว่ามักจะไม่มีอะไร เกี่ยวข้องกับตนเสมอ

แต่หากว่ามีโอกาสได้เข้าใกล้ ‘ภูเขามีชื่อเสียงสายน้าใหญ่ พวก นั้นแล้ว ก็จะเป็ นทัศนียภาพที่แตกต่างกันออกไป เหมือนยามที่ฟ้ า โปร่งสดใส ยืนอยู่ในจุดที่ห่างไปไกลมองภูเขาลั่วพั่วก็ไม่รู้สึกว่ามันสูง

บทที่ 980.4 สอนหมัดและเติมสุรา 1

บทที่ 980.4 สอนหมัดและเติมสุรา 2

บทที่ 980.4 สอนหมัดและเติมสุรา 3

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!