นครเซิ่นจิ่งเมืองหลวงของราชวงศ์ต้าเฉวียน ยามเช ้าตรู่หมอ กลอยอวลหลังฝนตก ต้นหลิวต้นหยางเคียงคู่ ทิวทัศน์งดงามในช่วง ต้นฤดูใบไม้ผลิ สีเขียวและสีเหลืองแบ่งกันคนละครึ่ง นักกวีสามารถ บรรยายทัศนียภาพนี้ได้ แต่ชาวบ้านธรรมดากลับไม่รู ้ว่าจะพรรณนา ด้วยค าพูดอย่างไร กระนั้นก็ยังเห็นทุกอย่างกระจ่างชัดอยู่ในสายตา รถม้าสามคันชะลอจอดช ้าๆบนถนนเส้นหนึ่งทางทิศตะวันตกของ เมือง ชายหญิงกลุ่มหนึ่งทยอยกันลงมาจากรถม้า ด้านข้างคือสระ ดอกบัวที่น้านิ่งสงบ สตรีสวมชุดผ้าฝ้ ายเรือนกายสูงเพรียวคนหนึ่ง ไม่ได้รีบร ้อนไปยังจุดหมายปลายทาง แต่เดินไปทางริมน้า นางยื่นฝ่ า มือที่ขาวนวลราวกับหยกออกมาจับประคองราวรั้วหินเขียวที่เย็น เฉียบ เมื่อฝนชะผ่านท้องฟ้ าก็เป็ นสีมรกตดุจหยก ใบบัวกลมมนลอย กระเพื่อมบนผิวน้า
ทว่าสตรีผู้นี้ชวนให้คนหวั่นไหวได้ยิ่งกว่าทัศนียภาพอันงดงาม เสียอีก
นางใช ้นิ้วปาดเช็ดฝ่ ามือ ดึงมือกลับมา หันหน้าไปมอง พวกเขา ไม่ได้รบกวนการชมทัศนียภาพของตน เพียงแต่ยืนรออยู่ที่หน้าตรอก อย่างใจเย็น คนหนึ่งในนั้นคือบุรุษที่ชายแขนเสื้อข้างหนึ่งว่างเปล่า ข้างกายมีสตรีพกดาบที่มองดูคล้ายนิสัยอ่อนโยนยืนอยู่ด้วย นางยิ้ม
อย่างชอบใจ ลาบากตนแล้วที่ต้องเป็ นผู้เฒ่าจันทราผูกด้ายแดงให้กับ พวกเขา ชายหญิงรุ่นอักษรจือของตระกูลเหยา ทุกวันนี้ต่างก็อายุไม่ น้อยแล้ว คนผู้เดียวที่ยังไม่ได้สร ้างครอบครัวก็คือใต้เท้าเจ้าเมืองแห่ง เมืองหลวงท่านนี้ เพียงแค่เพราะเก็บชีวิตกลับมาจากสนามรบได้ มี จุดจบเป็ นคนขาเป๋ แขนขาดไปข้างหนึ่ง หลายปีมานี้จึงตกเป็ นที่ต้อง สงสัยว่าเมื่อพลาดแล้วก็ปล่อยชีวิตไปตามยถากรรม แน่นอนว่า สายตาของน้องชายตนก็สูงมากด้วย สตรีสูงศักดิ์บางคนที่มุ่งหวัง แอบอิงต าแหน่งสถานะของเขา เขาย่อมไม่เห็นอยู่ในสายตา
คนกลุ่มนี้ก็คือกลุ่มของฮ่องเต้หญิงเหยาจิ้นจือ เหยาเซียนจือเจ้า เมืองเมืองหลวง ผู้ฝึกตนหญิงที่ยืนอยู่ข้างกายเขาคือหลิวอี้ ชื่อเล่น ยวนยาง ฉายาว่า “อี๋ฝู” ทุกวันนี้หลิวอี้คือผู้ถวายงานอันดับสามของ ราชวงศ์ต้าเฉวียน ก่อนหน้านี้ไม่นานทางราชสานักได้ออกคาสั่ง โยกย้ายด้วยกระดาษแผ่นเดียว โยกนางให้มารับหน้าที่อยู่ในที่ว่าการ จวนเจ้าเมืองนครเซิ่นจิ่ง รับหน้าที่เป็ นองค์รักษ์ประจาตัวของเหยา เซียนจือ แน่นอนว่านี่เป็ นการใช ้ผลประโยชน์ส่วนตัวเบียดบัง ผลประโยชน์ส่วนรวมของฮ่องเต้ เพียงแต่หลิวอี้เองก็ไม่ได้ปฏิเสธ
หันกวงหู่ราชครูคนใหม่เป็ นคนของเกราะทองทวีป หลิวจงผู้ ถวายงานเชื้อพระวงศ์อันดับหนึ่ง มาจากพื้นที่มงคลดอกบัว เด็กหนุ่ม เงี่ยนหมิง ฉายาว่าเยว่เหรินเกอ มาจากแจกันสมบัติทวีป ใต้รักแร ้ เหน็บดาบอาคม ‘หมิงเฉวียน” และยังมีสตรีคนหนึ่งที่ตรงหางตามิอาจ ปิ ดริ้วรอยตีนกาไว้ได้แล้ว เหยาหลิ่งจือ น้องสาวของฮ่องเต้หญิง
แห่งต้าเฉวียน พี่สาวของเจ้าเมืองแห่งเมืองหลวง นับตั้งแต่ที่ทา ‘หมิง เฉวียน หายไป นางก็ถอดใจอย่างสิ้นเชิงแล้ว ไม่คิดจะคบค้าสมาคม กับคนในยุทธภพและเหล่าผู้กล้าทั้งหลายอีกแล้ว
เหยาจิ้นจือต้องการไปเยือนอารามเต๋าขนาดเล็กแห่งหนึ่งเพื่อพบ กับหลิวเม่า องค์ชายของราชวงศ์ก่อนที่เดิมที่ควรเรียกนางว่าพี่สะใภ้ ทุกวันนี้คือนักพรตหลงโจวในทาเนียบหยกทองของกรมพิธีการ
อารามเล็กมีชื่อว่าอารามหวงฮวา ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกสุดของ นครเซิ่นจิ่ง
เหยาจิ้นจือเดินไปทางหน้าตรอก ยกสองมือขึ้นเป่ าไอร ้อน ออกมาจากมือ เหยาหลิ่งจือหันไปส่งสายตาให้น้องชาย บอกเป็ นนัย แก่เขาว่าอย่ามัวอึ้งอยู่ รีบเดินนาหน้าไปนาทางให้ฝ่าบาทเร็วเข้า
แต่ไหนแต่ไรมาราชวงศ์ต้าเฉวียนก็นับถือลัทธิเต๋าอยู่แล้ว อาราม เต๋าในเมืองหลวงมีจ านวนมาก อารามหวงฮวาคืออารามเต๋าแห่งหนึ่ง ที่ประวัติศาสตร ์ยาวนานยิ่ง
หลังจากต้าเฉวียนก่อตั้งแคว้นได้ไม่นาน ฮ่องเต้ไท่จงก็เคยมาขอ พรที่อารามเต๋าแห่งนี้ด้านในจึงตั้งบูชาซานกวนต้าตี้ (ซ ากัวไต่เต่เป็ น เทวดาตามความเชื่อของจีนและศาสนาเต๋าโดยเป็ นตรีเทพบุรุษสาม องค์ซึ่งเป็ นผู้บริหารจัดการในสถานพิภพจักรวาลอันกว้างใหญ่)
รถม้าที่คันค่อนข้างใหญ่ยากจะผ่านตรอกแคบที่คดเคี้ยวเส้นนี้ ไปได้
เหยาหลิ่งจือเดินอยู่ในตรอกที่มืดสลัวเป็ นเพื่อนฮ่องเต้ เอ่ยเสียง เบาว่า “ฝ่ าบาท ทางฝั่งของซือหลี่เจียนและที่ว่าการกรมพิธีการต่างก็ มีคนแจ้งให้หลิวเม่าแห่งอารามหวงฮวาเตรียมตัวรับเสด็จฝ่ าบาทไว้ ก่อนแล้ว แต่เดิมทีให้เขารออยู่ในยามเฉิน พวกเรามาถึงก่อนหนึ่งชั่ว ยามเช่นนี้ ไม่รู ้ว่าทางฝั่งของหลิวเม่าจะ…”
เหยาจิ้นจือยิ้มกล่าว “ในอารามหวงฮวา เจ้าอารามกับนักพรตที่ ประจ าอยู่ในอารามมีรวมกันแล้วก็แค่สามคน จะให้เขาหลิวเม่ามารอ รับเสด็จอย่างไรได้อีก? ปล่อยตามสบายเถอะ”
อันที่จริงหลิวเม่าเจ้าอารามที่มีฉายาว่า “หลงโจว” ได้มารออยู่ที่ หน้าประตูตั้งแต่เช ้าตรู่แล้ว เปลี่ยนมาสวมชุดเต๋าที่สะอาดสะอ้าน ถือ แส้ปัดฝุ่น สองมือวางทับซ ้อนกันไว้ตรงหน้าท้อง หลับตาท าสมาธิรอ
และยังมีเด็กอีกสองคนที่ติดตามอาจารย์ผู้เป็ นเจ้าอารามมาด้วย ความไม่ยินยอมพร ้อมใจ ต้องตื่นตั้งแต่ไก่โห่ ขยี้ตาอ้าปากหาว งัวเงีย ไม่หาย อาจารย์ก็ไม่ได้บอกด้วยว่าจะต้องมารอรับใคร นี่รอมาเกือบ ครึ่งชั่วยามแล้ว เหนื่อยจริงๆ
ก่อนหน้านี้ไม่นานหลิวเม่าบอกว่าตัวเองเตรียมจะสร ้างโอสถแล้ว หวังว่าทางราชส านักจะจัดหาพื้นที่ประกอบพิธีกรรมสักแห่งหนึ่ง ให้กับเขา
บนประตูบานใหญ่ของอารามเต๋าแปะภาพเหมือนของหลิงกวน ลงสีที่น่าเกรงขาม สูงเท่าตัวคนเอาไว้สองภาพ
ภายใต้การ “แนะนา” ของอาจารย์เจิงคนเชื่อดาบผู้นั้น หันกวงหู่ จึงมารับหน้าที่เป็ นราชครูต้าเฉวียนตอนต้นฤดูใบไม้ผลิของปีนี้ เวลา นี้ยิ้มเอ่ยว่า “ฝ่ าบาท คุณสมบัติในการฝึกตนของหลิวเม่าผู้นี้ไม่เลว เลยนะ อายุสี่สิบกว่าก็มีโอกาสสร ้างโอสถแล้ว”
ขอแค่ไม่เปรียบเทียบกับผู้ฝึ กตนอายุน้อยที่ไร ้เหตุผลบางส่วน องค์ชายสามของราชวงศ์ก่อนท่านนี้ หากสามารถสร ้างโอสถทองใน วัยไม่สับสนได้จริงก็คู่ควรกับค าเรียกขานว่า “ผู้มีพรสวรรค์” แล้ว
ตอนนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับความคิดของฝ่ าบาทแล้วว่าจะให้นักพรต หลงโจวเป็ นปลาที่กระโดดข้ามประตูมังกรไปนับแต่นี้ หรือจะให้ชีวิตนี้ องค์ชายสามหลิวเม่าหยุดอยู่แค่ที่ตบะขอบเขตประตูมังกรเท่านั้น
บางทีค าตอบนี้อาจต้องรอให้ฝ่ าบาทได้พบหน้า “น้องสามี” ใน อดีตผู้นั้นเสียก่อน หรือบางทีที่ฝ่ าบาทอาจมีคาตอบอยู่ในใจมานาน แล้ว วันนี้เสด็จ “ประพาส” อารามหวงฮวาก็แค่มาแสดงตัวให้พอเป็ น พิธีเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!