สกุลเหยาต้าเฉวียนคิดว่าในเวลาสิบถึงยี่สิบปีในอนาคตจะสร ้าง เรือข้ามทวีปขึ้นมาอีกสองลา แบ่งออกเป็ นชื่อ “เอ๋อเหมยเยว่” (ดวง จันทร ์เอ๋อเหมย) และ ‘เหลยเชอ (รถฟ้ าร ้อง รถของเทพเจ้าฟ้ าร ้อง) ต้าเฉวียนจะเก็บเอาไว้เองหนึ่งลา นาออกขายหนึ่งลา เพื่อเติมเต็ม ช่องว่างในท้องพระคลังที่นาไปใช ้ซื้อภาพแบบสร ้างและการสร ้างเรือ ข้ามทวีปทั้งสามลานี้ “เหลยเชอ” ลานี้ ตระกูลเซียนสองแห่งที่ประสงค์ จะซื้อ นอกจากสานักว่านเหยาแล้วก็มีอารามจินติ่งทางทิศเหนือ อื่น เมี่ยวเพิ่งนักพรตเป่าเจินและเส้ายวนหราน อาจารย์และศิษย์แห่งลัทธิ เต๋าคู่นี้ต่างก็เป็ นผู้ถวายงานอันดับหนึ่งของราชวงศ์ต้าเฉวียน หลูอิง ผู้ถวายงานอันดับหนึ่งของอารามจินติ่งก็เคยติดต่อมายังต้าเฉวียน เพียงแต่ว่าราคาที่อารามจินติ่งเปิดไว้ต่ากว่าสานักว่านเหยาถึงสาม ส่วน
เหยาเซียนจือใช ้ไหล่กระทบไหล่ของหลิวจงเบาๆ หนึ่งที หันมา ยักคิ้วหลิ่วตาให้ผู้เฒ่า
หลิวจงหัวเราะหึหึ แสร ้งท าเป็ นไม่เข้าใจ
เห็นเหยาเซียนจือยังไม่หยุดสักที หลิวจงจึงหันหน้าไปมองผู้ฝึก ตนหญิงที่เดินเคียงบ่ากับลูกศิษย์ของตนอยู่ข้างหลัง
ขิงยิ่งแก่ก็ยิ่งเผ็ด คราวนี้ใต้เท้าเจ้าเมืองยอมลดธงรับความพ่าย แพ้ทันที
เพราะจากการเสนอแนะของหลิวจงก่อนหน้านี้ ต้าเฉวียนเก็บเรือ ข้ามทวีปสองล าอย่าง “ลู่เสียนจือ” และ “เอ๋อเหมยเยว่” ไว้ ล าแรก เดินทางในเส้นทางเหนือใต้ ผ่านสามทวีปจากใต้ขึ้นไปยังเหนือได้แก่ ใบถงทวีป แจกันสมบัติทวีปและอุตรกุรุทวีป ลาที่สองเมื่อเอ๋อเหมยเยว่ สร ้างเสร็จก็จะร่วมมือกับสกุลหลิวธวัลทวีปไปบุกเบิกพื้นที่ราบน้าแข็ง ที่ขั้วโลกเหนือ จะต้องผ่านทักษินาตยทวีป ทวีปแดนเทพแผ่นดิน กลางและธวัลทวีป เป็ นพันธมิตรกับท่าเรือตระกูลเซียนขนาดใหญ่ ทั้งสิ้นสิบหกแห่งที่มาจากสานักทั้งหลายซึ่งมีสานักกระบี่หลงเซี่ยง เป็ นหนึ่งในนั้น รวมถึงจวนเซียนและราชวงศ์ล่างภูเขา ทาสัญญา รายละเอียดปลีกย่อยต่างๆในการให้เรือไปจอดเทียบท่า
เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ผ่านมติการประชุมในห้องทรงพระอักษรของ ฮ่องเต้แล้ว
เพียงแต่ว่าคนที่มีคุณสมบัติเข้าร่วมการประชุมล้วนรู ้กันดีอยู่แก่ ใจว่า คนที่สามารถเสนอวิธีการเช่นนี้ออกมาได้ต้องไม่ใช่ผู้ถวายงาน อันดับหนึ่งอย่างหลิวจงแน่นอน
อีกทั้งรอกระทั่งหันกวงหู่มารับหน้าที่เป็ นราชครู แผนการก็มีการ เปลี่ยนแปลงไปอีกหลักๆ แล้วก็คือเส้นทางที่เปลี่ยนไป สามารถล่อง ผ่านเส้นทางการค้าอย่างเกาะหลูฮวา ส านักอวี่หลง ฝูเหยาทวีปและ เกราะทองทวีปได้
ถึงอย่างไรหันกวงหู่ก็มีชื่อเสียงและบารมีอย่างมากอยู่ในเกราะ ทองทวีป ทั้งบนและล่างภูเขาล้วนมีเครือข่ายผู้คนและความสัมพันธ ์ ควันธูปที่ล้าลึกน่าดูชม
สาหรับแบบแผนเส้นทางที่หลิวจงเสนอมา หันกวงหู่ไม่ได้รู ้สึกว่า สูงส่งอะไร เพียงแต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่เขาเอ่ยชมไม่ขาดปาก บอกว่าหลิว จงมองการณ์ไกล มีความคิดเห็นที่ยอดเยี่ยม
เพราะอิงตามข้อเสนอแนะของหลิวจง ท่าเรือใหญ่แต่ละแห่งของ จวนเซียนและราชวงศ์ทั้งหลายที่เรือข้ามฟากล่องผ่าน ทางฝั่งของ ราชส านักต้าเฉวียนต้องยืนกรานหนักแน่นในราคาที่กาหนดไว้ ล่วงหน้านานแล้ว และข้อกาหนดที่ทาสัญญากับฝ่ ายต่างๆ ซึ่งกิน ระยะเวลายาวนานอย่างมาก ใต้หล้าไพศาลในทุกวันนี้เรือข้ามทวีป ส่วนใหญ่ล้วนถูกศาลบุ๋นเกณฑ์ไปใช ้งานหมดแล้ว
หากท่าเรือแต่ละแห่งต้องการรักษาการด าเนินงานและรับประกัน ผลก าไรเอาไว้ให้ได้ก็ต้องการเรือข้ามทวีปที่ไม่ได้ถูกศาลบุ๋นเกณฑ์ ไปอย่าง ‘ลู่เสียนจือ” และ “เอ๋อเหมยเยว่” ให้มาจอดเทียบท่าและท า การค้า นาพากลิ่นอายผู้คนและต้นกาเนิดทรัพย์สินเงินทองที่มั่นคง มาให้เป็ นอย่างมาก ดังนั้นในช่วงเวลาเช่นนี้ ข้อกาหนดในการลง นามกับท่าเรือต่างๆ ของราชวงศ์ต้าเฉวียนจึงสามารถใช ้ราคาที่ต่า กว่าในอดีตอย่างมากได้
ดังนั้นยิ่งระยะเวลาที่จากัดไว้ขยายไปยาวนานเท่าไร ก็ยิ่งเท่ากับ ว่าค่าผ่านทางและค่าซื้อเส้นทางที่ราชวงศ์ต้าเฉวียนจะมอบให้กับ ท่าเรือทุกแห่งในแต่ละปี จะยิ่งประหยัดเงินในขั้นตอนนี้ได้มากเท่านั้น
ประหยัดเงินก็คือการทากาไร หลักการเหตุผลที่ตื้นเขินเช่นนี้ ไม่ ว่าใครก็ล้วนเข้าใจดี
เหยาจิ้นจือชั่งน้าหนักผลได้ผลเสียดูแล้ว แต่ก็ยังมิอาจตัดสินใจ ได้ คิดไปคิดมาก็ไม่สู้สร ้างเรือข้ามทวีปขึ้นมาอีกลา?
แม้แต่ชื่อนางก็ตั้งไว้เรียบร ้อยแล้ว ฮว่อจูหลิน (วิธีที่ใช ้ในการ ทานายซึ่งสาคัญมากวิธีหนึ่ง)
เหยาหลิ่งจือแต่งงานออกเรือนมานานแล้ว สตรีที่มุ่งมั่นเดินเข้าสู่ ยุทธภพมากที่สุดกลับแต่งงานให้กับบัณฑิตจากตระกูลปัญญาชน คนหนึ่ง ทุกวันนี้มีครบทั้งบุตรชายและบุตรสาว นางคือคนที่สร ้าง ครอบครัวเร็วที่สุดในบรรดาคนรุ่นอักษร “จือ
ก่อนหน้านี้เฉินผิงอันไหว้วานให้เหยาเซียนจือนาของแดงสอง ของมามอบต่อให้กับบุตรชายหญิงสองคนของนาง ก่อนหน้านี้ไม่ นานตอนช่วงปี ใหม่ที่ต้องมาอวยพรวันปี ใหม่กันวิธีการนี้ของ น้องชายก็สยบเด็กทั้งสองคนไว้ได้อย่างสิ้นเชิง
ในอดีตเด็กทั้งสองมักจะกึ่งเชื่อกึ่งกังขาในคาพูดมากมายของ ท่านน้าอย่างเหยาเซียนจือ ท่านน้า ท่านสนิทกับเฉินอิ่นกวานมาก
จริงๆ หรือ? คุยโวไม่ต้องร่างค าพูดมากกว่ากระมังอันที่จริงคงแค่เคย พยักหน้าทักทายพูดคุยกันไม่กี่คา ใช่หรือไม่?
ทว่านับตั้งแต่ได้ของแดงไปจากมือของเหยาเซียนจือ ทุกวันนี้ เด็กทั้งสองคนพบเหยาเซียนจือกลับให้ความเคารพมีมารยาทอย่าง สุดจิตสุดใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรู ้ว่าท่านน้าถึงกับได้เป็ นเค่อชิงที่ ได้รับการบันทึกชื่อในศาลบรรพจารย์ของสานักกระบี่ชิงผิง ดวงตา ของเด็กทั้งสองก็ส่องประกายเจิดจ้า ยิ่งยอมศิโรราบให้กับท่านน้าเข้า ไปอีก เจอหน้าก็ต้องประจบเอาใจ ท่านน้า ต้องการให้นวดไหล่ทุบขา ให้หรือไม่? ท่านน้า เพิ่งไม่ได้เจอกันแค่ไม่กี่วัน มองดูแล้วท่านหนุ่ม ลงไปอีก ยิ่งหล่อเหลามากกว่าเดิมแล้วนะ ท่านแน่ ข้าช่วยพูดให้กับพี่ หญิงยวนยางเองดีไหม ขอแค่ท่านไม่คัดค้าน ข้าก็สามารถเรียกนาง ว่าน้าสะใภ้ได้เลยนะ…..
ถึงอย่างไรสาหรับเด็กคู่หนึ่งแล้ว ในบรรดาเทพเซียนมากมายบน ภูเขาก็เป็ นเซียนกระบี่ที่ทาให้คนเลื่อมใสศรัทธาได้มากที่สุด ไม่มี หนึ่งใน
และอิ่นกวานหนุ่มที่มาจากกาแพงเมืองปราณกระบี่ผู้นั้นก็ยังเป็ น เซียนกระบี่ในกลุ่มของเซียนกระบี่อีกด้วย
อันที่จริงฮ่องเต้ก็ดี เหยาจิ้นจือก็ช่าง หรือแม้กระทั่งท่านปู่ เอง สาหรับเรื่องนี้พวกเขาต่างก็ยินดีที่จะได้เห็น เพียงแต่ใต้เท้าเจ้าเมือง กลับหัวทึบมาโดยตลอด จึงถ่วงรั้งเรื่องสาคัญนี้ออกไป
หลิวอี้ ชื่อเล่นยวนยาง ฉายา “อี้ฟู” เป็ นคนในท้องถิ่นของต้า เฉวียน ตระกูลคือปัญญาชนที่มีชื่อเสียงในพื้นที่ อายุหกสิบสามปี ขอบเขตประตูมังกร
รูปโฉมอ่อนเยาว์ นี่หมายความว่าคุณสมบัติในการฝึกตนของ นางดีเยี่ยม
ก่อนหน้านี้อยู่บนสนามรบสองแห่งอย่างชานเมืองหลวงและนคร เซิ่นจิ่ง หลิวอี้ไม่รักตัวกลัวตาย ใจกล้าอย่างยิ่ง แต่กลับมีกลอุบาย ยอดเยี่ยม ผู้ฝึกตนหญิงใช ้ตบะของประตูมังกรสะสมคุณความชอบ ด้านการสู้รบมา ถึงกับไม่พ่ายแพ้ให้แก่โอสถทองคนใด
แต่สุดท้ายแล้วหลิวอี้ก็ขอแค่ตาแหน่งผู้ถวายงานอันดับสามมา จากราชวงศ์ต้าเฉวียนอันที่จริงหากอิงตามคุณูปการด้านการสู้รบ ของนาง เป็ นผู้ถวายงานอันดับสองก็ยังมากพอเหลือแหล่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!